คุณพ่อเจ้าสัว

บทที่ 14 หลินอี้จุนเลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าแผนก



บทที่ 14 หลินอี้จุนเลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าแผนก

บทที่ 14 หลิน จนเลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าแผนก

ตอนนี้หลิวไห่านกังวลใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ฟังจากน้ำเสียงของผู้บริหารหวัง เขารู้ดีว่าหัวหน้าเขาโกรธมาก หากเรื่องนี้เขาจัดการได้ไม่ดีเขาคงไม่ได้กลับไปทํางานอีกก็เป็น ได้

ด้วยอานาจและความสามารถของผู้บริหารหวัง จะจัดการตัวประ กอบเล็กๆอย่างเขาเป็นเรื่องที่ทําได้ทุกวินาที

เพียงแค่เขาคิดไม่ตกว่าผู้หญิงที่ชื่อหลิน จนคนนี้มีความ สัมพันธ์อะไรกับลู่จงทําไมเขาถึงออกหน้ามาปกป้องพนักงานธร รมดาๆคนหนี่ ?

แม้ในใจเขาเต็มไปด้วยคำถาม แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยถามออกไป

“คุณหลินครับ รอผมก่อน ! ” หลิวไห่ซานรีบวิ่งจนตามเธอทัน

“คุณคิดจะทำอะไรอีกหลินจนมองดูหลิวไห่ซานด้วยความ ระมัดระวังหลังเดินออกจากห้องวีไอพีเธอก็ไม่ได้กลัวว่าเขาจะ กล้าทําเรื่องอะไรแบบนั้นอีก
“คุณหลินครับ ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆที่เมื่อสักครู่ทําให้คุณ หลินไม่พอใจ ผมมันโง่มีตาหามีแววไม่ มองไม่ออกว่าคุณเป็นใคร ขอคุณให้โอกาสผมอีกสักครั้งได้ไหมครับ ผมจะรีบเซ็นสัญญาให้ คุณตอนนี้เลย” หลิวไห่ซานพูดด้วยสีหน้านําบากใจและโค้งตัว ขอโทษ ตัวเขาในเวลานี้ไม่ต่างไปจากเด็กน้อยคนหนึ่ง

“อะไรนะคะ ? ” หลินจุนยังไม่เข้าใจเหตุการณ์ตรงหน้านี้ และ มองไม่ออกว่าหลิวไห่ซานจะมาไม้ไหน

“คุณหลินว่าอย่างนี้ดีไหม เราจะซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณในราคา ก่อนปรับลด หากคุณไม่เชื่อพวกเราสามารถไปหาที่นั่งดีๆเซ็น สัญญาก่อนได้เลย” เมื่อเห็นท่าทีหลิน จนไม่เชื่อคำพูดของเขา ทําให้เขายิ่งร้อนรน

ผู้บริหารหวังยื่นคำขาดกับเขาแล้วว่าให้จัดการเรื่องนี้ให้ดี ไม่ อย่างนั้นเขาคงแย่แน่นอน

“ผู้จัดการหลิวพูดจริงใช่ไหมคะ ? ” หลิน จนตกตะลึงเล็กน้อย เธอไม่เข้าใจการกระทําของหลิวไห่ซานในตอนนี้ หรือการที่เธอ ตบหน้าเขาไปเมื่อครู่จะทำให้เขาตาสว่าง ?

“คุณหลินครับ ท่าทางผมดูเหมือนคนที่ชอบล้อเล่นเหรอ ผมขอ พูดตามตรงว่าเมื่อสักครู่ผมได้รับโทรศัพท์จากผู้บริหารหวัง ท่าน กําชับผมว่าจัดการเซ็นสัญญากับคุณให้เรียบร้อยแหมคุณหลินละก็ไม่บอกผมแต่ทีแรกว่ารู้จักกับบรรดาผู้บริหาร ผมคงไม่กล้าทำเรื่องขายหน้ากับคุณ” หลิวไห่ซานฝืนยิ้ม

“ฉันเนี่ยนะคะรู้จักคนระดับผู้บริหาร ? ผู้บริหารหวังของพวกคุณ ฉันไม่รู้จักหรอกนะคะ” หลิน จนพูดด้วยความสงสัย หากเธอรู้จัก คนระดับนี้จริง ก็คงไม่ได้มีชีวิตแย่ๆแบบนี้หรอก

“ไม่ใช่ผู้บริหารหวังครับ แต่เป็นผู้ที่ขนาดผู้บริหารหวังยังต้อง ให้ความเคารพยำเกรง” หลิวไห่ซานยกนิ้วโป้งขึ้นมาชี้ขึ้นด้านบน เขาหมายความถึงเศรษฐีอันดับหนึ่งของโจว แต่ดูเหมือนหลิน อี้จุนจะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด

แต่ถึงแม้เธอไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร ที่สำคัญคือทำให้เธอยินยอม ให้เขาเซ็นสัญญาด้วยก็พอ

หลังเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว หลินอี้จุนยังอยู่ในอาการงวยงง

โปรเจคนี้จัดว่าใหญ่มากทีเดียว ฟานหมิงติดตามอยู่เป็นเดือนยัง ไม่สามารถทำได้สำเร็จ !

แต่เธอกลับทํามันได้ง่ายๆแบบนี้ ?
นี่เธอกำลังฝันไปหรือเปล่า

หลังจากเซ็นสัญญา ฟานหมิงก็ไม่มีเหตุผลหักเงินโบนัสหนึ่ง หมื่นของเธอ อีกทั้งยังจะได้รับเงินโบนัสเพิ่มอีกหกเจ็ดหมื่นด้วย

เพียงแต่เธอไม่เข้าใจว่าใครกันที่ช่วยเธออยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

คงไม่ใช่ฟานหมิงอย่างแน่นอน เขาเองยังเอาตัวไม่รอดจะมา ช่วยเธอได้อย่างไร ? หากเขามีความสามารถพอ คงทำโปรเจคนี้ สําเร็จไปนานแล้ว

แล้วยังมีใครอีกนะ ?

หลินอี้จนคิดอยู่นานมาก แต่เธอก็คิดไม่ออกจริงๆ และสิ่งที่เธอไม่เคยมีอยู่ในสมองเลยก็คือ ลู่เฉินจะเป็นคนที่คอย ช่วยเธอ

“ช่างมันเถอะ ไว้มีโอกาสคงได้รู้เองว่าคือใคร ถึงตอนนั้นค่อย ขอบคุณอย่างเป็นทางการ

หลินอี้จนเดาไม่ออกว่าเป็นใคร แต่เธอก็กลับไปที่บริษัทด้วยความดีใจ

หลังจากหลิน จนเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว หลิวไห่ซานก็ถอน หายใจด้วยความโล่งอก เขารีบโทรรายงานไปยังผู้บริหารหวัง ทันที

แม้ว่าจะถูกผู้บริหารหวังตำหนิผ่านโทรศัพท์มาไม่น้อย แต่ฟัง จากน้ำเสียงแล้วเขาไม่ได้โกรธเท่าไหร่ จึงทำให้สบายใจขึ้นไม่ น้อย

หลิวไห่ซานคิดแล้วคิดอีก จึงได้ต่อสายไปยังฟ้านหมิง

“ฟ่านหมิง ไอ้บ้าเอ้ย แกตั้งใจแก้แค้นฉันหรือไง ? ” เมื่อนึกถึง

เรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้น หลิวไห่ซานก็ระเบิดอารมณ์กับฟานหมิง

ก่อนหน้านี้เขาได้เอ่ยกับฟานหมิงว่าหากอยากให้เขาร่วมมือด้วย ก็จัดหาพนักงานหญิงมาเสนอ แต่ต้องเป็นผู้หญิงที่สวยงามไร้ที่ติ และคนที่เดินทางมาในครั้งนี้ตรงตามสเปคทีเขาอยากได้ แต่เป็นผู้หญิงที่แม้แต่เจ้านายเขายังต้องเกรงกลัว ถ้าไม่เรียกว่า ตั้งใจแก้แค้นเขาจะเรียกว่าอย่างไร
“อะไรนะครับ ผู้จัดการหลิวพูดเรื่องอะไรอยู่ผมไม่เข้าใจ ? ” ฟานหมิงงุนงงกับสิ่งที่หลิวไห่ซานพูดกับเขา

“ฟานหมิง พวกเราคนตรงอย่าอ้อมค้อมเลยนะ ผู้หญิงคนที่ชื่อ หลินอี้จนเป็นใครกันแน่ ทำไมเศรษฐี ถึงต้องออกตัวช่วยเธอ ? ” หลิวไห่ซานเอ่ยถาม

“ก็เป็นแค่พนักงานของบริษัทธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มี ตำแหน่งใหญ่โตอะไร ส่วนเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐีลู่นั้นผมว่าเธอคง ไม่เคยเจอด้วยซ้ำไป” ฟ่านหมิงอธิบาย

“ฟ่านหมิงไอ้บ้าเอ้ย ถึงตอนนี้แกยังแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจอีกเห รอ ถ้าเธอไม่ได้เป็นอะไรกับเศรษฐีลู่ เขาจะโทรหาผู้บริหารหวัง ด้วยตัวเองเพื่อะไร ฟานหมิงฉันขอเตือนแกนะ ถ้าฉันโดนไล่ออก ละก็แกอย่าหวังจะได้ร่วมมือกับบริษัทเราอีก ! ” หลิวไห่ซาน โมโหและวางสายไป

ด้านฟ่านหมิงนั้นได้แต่ยืนงง

หลิน จนรู้จักกับเศรษฐี งั้นเหรอ ?

เศรษฐีจ่โทรหาผู้บริหารหวังด้วยตัวเองงั้นเหรอ ? เขาไม่เชื่อเท่าไหร่นักว่านี่คือเรื่องจริง
ไม่ว่าเขาจะคิดยังไงก็คิดไม่ตก

เพราะเขารู้จักหลิน จนดีกว่าใครๆ ทันใดที่เขานึกถึงคําพูดของลู่เฉินได้ ฟานหมิงสีหน้าซีดลงทันที หรือว่าลู่เฉินจะมีส่วนในการช่วยหลิน จนครั้งนี้ ? โธ่เอ้ย เศรษฐีลู่ที่ไหนกันเล่า ต้องเป็นไอ้ลู่เฉินสวมรอยไปแน่ๆ หลิวไห่ซานหนอหลิวไห่ซาน ทำไมช่างโง่แบบนี้ โดนเล่น งานเข้าแล้วยังไม่รู้ตัว สงสัยเสียจริงว่าแกนั่งอยู่ในตำแหน่งผู้ จัดการ Greentownอสังหาริมทรัพย์ได้ยังไง

ฟานหมิงส่ายหัวไปมาด้วยแววตาดูถูก

ข่าวที่หลินอี้จุนเซ็นสัญญากับ Greentownอสังหาริมทรัพย์นั้น กระจายไปอย่างรวดเร็ว

โดยเฉพาะฝ่ายขายหลายๆคนแทบไม่เชื่อว่านี่คือเรื่องจริง
นี่เป็นโปรเจคที่ผู้จัดการฝ่ายขายฟานหมิงติดตามอยู่เป็นเดือนๆก็ ยังไม่สามารถทำสำเร็จได้

โปรเจคนี้จะได้รับโบนัสเพิ่มหกเจ็ดหมื่นทีเดียว ไม่ว่าใครทําได้ สําเร็จก็เพียงพอต่อสําหรับหลายเดือนทีเดียว

อั้น เธอเก่งมากๆเลยนะ ผู้จัดการฟานตามอยู่ทั้งสองเดือนยัง จบโปรเจคนี้ไม่ได้เลย แต่นี่เธอทําได้ในเวลาสองวัน นอกจากสวย แล้วยังฉลาดอีกนะเนี่ย พนักงานชายคนหนึ่งพูดชม

“นั่นสิ ก็ว่ากันว่าสาวสวยทํางานด้านนี้มักได้เปรียบกว่าชายหนุ่ม นะ” พนักงานชายอีกคนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแอบแฝง

“พวกคุณหมายความว่ายังไงคะ ? โปรเจคนี้ฉันทำมันด้วยความ สามารถของฉันเอง ถ้าพวกคุณมีความสามารถเพียงพอก็ลองไป ทำเองซิ ? “หลินอี้จุนเข้าใจในความหมายของพวกเขา เธอรู้สึก เลือดขึ้นหน้า

“ใช่สิ ขอเพียงแค่เซ็นสัญญาได้ ต่อให้ขึ้นเตียงด้วยก็คงถือเป็น ความสามารถเฉพาะตัวของผู้หญิงสินะ ถ้าพวกเธออยากได้ผล งานก็ลองใช้วิธีนี้ดูสิ” พนักงานหญิงอีกคนหนึ่งพูดขึ้นแล้วหัวเราะ

หลินอี้จุนโกรธจนแทบกระอักเลือด และกำลังจะตอบสนองคำกล่าวหานี้

เป็นจังหวะพอดีที่เลขาของผู้บริหารเสี้ยเดินเข้ามาในฝ่ายขาย ในมือถือเอกสารมาให้ฟานหมิงหนึ่งฉบับและหลียอีจุนหนึ่งฉบับ

“คุณหลินยินดีด้วยนะจากการพิจารณาของบริษัทแล้วคุณเป็นคน ที่มีความสามารถมองการณ์ไกลทางเราเห็นชอบเลื่อนตำแหน่ง ให้คุณเป็นหัวหน้าฝ่าย อ้อคุณหลินคะ ผู้บริหารเสี้ยหวังว่าคุณจะ เต็มที่กับงานแบบนี้ต่อไปและสร้างผลงานให้ทางบริษัทเรื่อยๆนะ คะ” เลขายิ้ม

“คะ ? ” หลินอี้จนตกใจ เธอรีบก้มลงดูเอกสารที่อยู่ในมือด้วย ความงุนงง

และคนที่เหลือก็งงไปตามเธอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ