คุณพ่อเจ้าสัว

บทที่ 9 เหมาทั้งร้าน



บทที่ 9 เหมาทั้งร้าน

บทที่ 9 เหมาทั้งร้าน

ในตอนแรกพนักงานขายรู้สึกสับสน แต่เมื่อเธอเห็นสีหน้าคุณ ผู้หญิงคนนั้น สุดท้ายแล้วได้แต่หันหลังชี้ไปทางผู้หญิงรวยแล้ว พูดอย่างอึดอัดใจว่า “คุณหนูคนนี้เลือกชุดก่อน พวกคุณลองดูชุด อื่นนะคะ”

“ฉีฉีของเราเลือกก่อนชัดๆ นี่เธอตาบอดหรือไง? ใครมีเงินก็คือ ลูกค้างั้นเหรอ พวกเราไม่ใช่ลูกค้าหรือไง ? ” หลินอี้เจียพูดด้วย อารมณ์ร้อน

พนักงานยิ้มที่มุมปากพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า “ลูกค้าก็แบ่งเป็น หลายระดับค่ะ พวกเขาซื้อทีเดียวหกชุด ถ้าพวกคุณซื้อทีเดียวหก ชุด ฉันก็คงอยู่ข้างคุณเช่นกัน

เมื่อเหตุการณ์ดำเนินมาอย่างนี้แล้ว เธอก็ได้แต่ไปตามน้ำ

มองดูก็รู้ว่าพวกหลินอี้เจียไม่มีกำลังซื้อมากพอเท่ากับคุณผู้หญิง คนนั้น จะให้เธอทำอย่างไรเล่า

หากอยู่ข้างผู้หญิงคนนี้ เธอมีโอกาสได้ค่าคอมเพิ่มขึ้นไม่น้อย
“ได้ยินไหม ฉันซื้อทีเดียวหกชุด คุณทำได้หรือเปล่า ? ถ้าไม่มี ปัญญาก็อย่าทำตัวเรื่องมากวุ่นวาย อยากได้รับบริการดีๆ ก็ลอง ถามกระเป๋าเงินตัวเองดูก่อนนะ

“นี่คุณเสียเวลากับพวกนี้ทำไมกัน มองดูก็รู้ว่าไม่มีเงินซื้อ ตั้งใจ มาลองชุดเฉยๆ” ชายกลางคนที่ยืนเงียบมาตลอดมองไปที่ลู่เฉิน แล้วพูดขึ้น

“ได้ยินไหม พวกเขาไม่มีเงินซื้อหรอก ก็แค่พวกชอบมาลองใส่ ของแบรนด์เนม พนักงานไม่ควรให้เข้ามาในร้านด้วยซ้ำไป เกะกะ ลูกค้าอย่างพวกเราจริงๆ” เธอพูดขึ้น

หลินอี้เจียโกรธจนแทบกระอักเลือด

แม้ฐานะทางบ้านเธอไม่ได้รวยมากนัก แต่เสื้อผ้าชุดละไม่กี่พัน หยวนเธอก็มีปัญญาซื้อ

ผู้หญิงคนนี้มองคนต่ำเหมือนสุนัขข้างถนน จะให้เธออดทนได้ อย่างไร

แต่ถ้าจะแข่งกันคงเป็นไปไม่ได้ เธอต้องซื้อเสื้อผ้ามากกว่าหก ชิ้นให้ฉีฉี สักชุดสองชุดยังพอไหว แต่ถ้าหกชุดมันอาจจะ..….

เธอซื้อมันไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ

ด้านหูหงนั้นเขาซื้อได้ไม่มีปัญหา แต่แค่ต้องการเห็นลู่เฉินตกที่ นั่งลําบาก จึงได้แต่ยืนเงียบอยู่ข้างๆ

ส่วนเพื่อนๆ ที่เหลือก็เช่นกัน สักชุดสองชุดคงไม่มีปัญหา ถ้า มากกว่านั้นก็ไม่สามารถซื้อได้

ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นเรื่องของลู่เฉิน ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเธอเลย สักนิด

“ถ้าไม่มีปัญญาก็ไม่น่าพาฉีฉีมาที่แบบนี้ เป็นยังไงล่ะ ขายหน้า เขาไหม” เมื่อเห็นพนักงานพับเสื้อผ้าที่ฉีฉีเลือกใส่ถุง หลินอี้เจี ยก็หันมาระบายอารมณ์ใส่ เฉิน

ในความรู้สึกของเธอ พี่เขยคนนี้ก็แค่คนไร้ความสามารถคนหนึ่ง ที่เธอมักระบายอารมณ์ใส่เสมอๆ

“ผมให้คุณพับชุดแล้วเหรอ ลูกสาวผมยังไม่ได้ลองใส่เลย คุณ พับทำไม ? ” ลู่เฉินไม่ได้ใส่ใจหลินอี้เจีย แต่มองมาทางพนักงาน

ขาย
การกระทําของผู้หญิงคนนั้นเขาไม่อยากไปสนใจ แต่บริการของ พนักงานขายทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ

อีกอย่าง ฉี ชอบชุดนี้ทันทีที่เห็น ฐานะคนเป็นพ่อและมีกำลัง ซื้อชุดนี้ให้ลูกสาวได้ เขาจะทำให้ลูกสาวเสียใจไม่ได้เด็ดขาด

“ยังจะลองใส่อีกเหรอคะ คุณคงไม่ได้เป็นอย่างที่คุณผู้หญิงคน นี้พูดใช่ไหม กำลังซื้อไม่พอแต่เพียงอยากลองชุดแบรนด์เนม จึงตั้งใจมาลองชุดเฉยๆ คุณผู้ชายคะ อย่าหาว่าดิฉันพูดมาก แต่ การกระทําของคุณแบบนี้อาจส่งผลต่อเด็กในอนาคตได้นะคะ ? ” พนักงานขายพูดกับลู่เฉินด้วยสายตาดูถูก

“ไม่ทราบใช้ตาข้างไหนมองว่าผมไม่มีปัญญาซื้อกัน ? พวกเขา ก็แค่ซื้อทีเดียวหกชุดไม่ใช่เหรอ คุณอวดดีอะไร?” ลู่เฉินเริ่มมี อารมณ์โกรธ

“ว่าไงพ่อหนุ่ม ลองดูสักตั้งไหม ? ” ชายวัยกลางคนมองมาที่ เฉินด้วยสายตาตลก

มองเห็นลู่เฉินเป็นเดือดเป็นร้อนเช่นนั้น ทำให้เขารู้สึกถึงความ เป็นผู้ชนะ

ลู่เฉินมองมาที่ชายวัยกลางคนนั้น หรี่ตาลงแล้วถามว่า “อ้อ คุณ จะเล่นยังไงล่ะ ? ”
หลินอี้เจียได้ยินดังนั้นก็จูงมือฉีฉีแล้วพูดว่า “เราไปกันเถอะนะคะ ฉีฉี น้าจะพาไปซื้อร้านอื่น เลือกชุดที่ฉีฉีชอบได้เลย เราซื้อสอง ชุดค่ะ”

ถ้าลู่เฉินอยากหาเรื่องใส่ตัว ก็ปล่อยให้เขาโดนไปคนเดียวเถอะ

ตัวเองมีความสามารถขนาดไหนไม่รู้ตัวหรือไง ?

สองสามีภรรยาคู่นี้มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นคนมีเงิน ยังจะไปกล้า เล่นกับพวกเขาอีก ?

จะเอาอะไรไปเทียบกับเขา ?

พาตัวเองจนมุมชัดๆ

“จริงเหรอคะคุณน้า ? ” ฉีฉีพูดด้วยความดีใจ

หลินอี้เจียพยักหน้า ฉีฉีจับมือเธอแล้วหันไปพูดว่า “คุณพ่อคะ พวกเราไปซื้อที่ร้านอื่นเถอะค่ะ”

แม้เธอยังเด็กไม่เข้าใจคําพูดของผู้ใหญ่ แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าฝ่าย ตรงข้ามกำลังหาเรื่องคุณพ่ออยู่
“พี่เขย คุณก็รู้ ว่ากำลังโดนเล่นงาน ถ้าคุณไม่อายก็นึกถึงฉีฉี บ้าง อย่ามาทําเรื่องขายหน้าที่นี่เลยโอเคไหม ? ” หลินอี้เจียเป็น เฉินไม่ยอมถอยจึงได้อารมณ์เสีย

“ฉีฉีก็แค่ชอบชุดนี้เท่านั้น ถ้าแค่ชุดๆ เดียวผมยังไม่มีปัญญาซื้อ ให้ลูก จะยังเป็นพ่อคนได้อีกเหรอ ? ” ลู่เฉินหันมาจูงมือ แล้ว พูดกับหลินอี้เจีย

“งั้นคุณก็เลียนแบบเขาซื้อทีละห้าหกชุดสิ พนักงานขายพูดกับ คุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอ ? ” หลินอี้เจียพูดด้วยหน้าตารำคาญ

ถ้าลู่เฉินไม่ใช่สามีของพี่สาวเธอ เธอคงไม่เข้ามาวุ่นวายเรื่องนี้ แน่

แม้เธอจะไม่เคยชอบพี่เขยคนนี้ และรู้สึกว่าเขามันช่างไร้ ประโยชน์ แต่ถึงอย่างไรพี่สาวเธอก็ชอบเขา ฉีฉีเองก็สามขวบ แล้ว เธอไม่อยากเห็นสภาพที่เขาโดนตอกหน้าอย่างไม่มีชิ้นดี

“พ่อหนุ่ม ฟังน้องสาวคนนั้นเถอะนะ คนเรามันต้องรู้จักเตรียม ตัว เกรงว่าถ้ายืนยันคำเดิม เราลงมือแค่นิดเดียวคุณคงหน้าแตก เป็นเสี่ยงๆ” มองเห็นหลินอี้เจียเกิดอาการกลัวเช่นนั้นยิ่งทำให้เขา ได้ใจ
“ใช่ๆ หัดเจียมตัวเสียบ้าง ไม่ใช่เที่ยวทำตัวอวดดี เอ้…เคยได้ยิน ไหมที่เค้าว่าคนมีความสามารถเรียกว่าเก่งดี พวกไร้ความสามารถ เรียกว่าอวดดี” ภรรยาชายวัยกลางคนนั้นพูดเสริม

เธอหันไปพูดกับพนักงานว่า “ลูกค้าแบบนี้นะทางที่ดีไม่ต้องให้ เข้ามาในร้านจะดีกว่า ทำลูกค้าอย่างเราอารมณ์เสียหมด

พนักงานขายพยักหน้าตอบรับ “เชิญพวกคุณเถอะนะคะ อย่า ทำให้ลูกค้าท่านอื่นลำบากใจเลย

“ฉีฉี ชอบเสื้อผ้าที่นี่ไหม ? ” ลู่เฉินถามฉีฉีโดยไม่สนใจคำพูด ของพนักงานขาย

ฉีฉีพยักหน้า ลู่เฉินยิ้มและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณพ่อซื้อให้หมด ร้านนี้เลย ลูกพ่อเปลี่ยนใส่วันละชุดเป็นยังไงคะ”

“ดีค่ะๆ คุณพ่อ” ฉีฉีดีใจมาก

หลินอี้เจียตกใจมาก พี่เขยคนนี้ของเธอบ้าไปแล้วหรือไงกัน ?

ซื้อทั้งหมดนี
เขาคิดว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีหรืออย่างไร ?

“นี่คุณ ถ้ายังไม่ฟังที่ฉันพูดฉันจะโทรหาพี่แล้วนะ ! ” หลินอี้เจีย พูดด้วยความโมโหสุดๆ กำลังจะหยิบมือถือโทรหาพี่สาว

“ไม่เลวนี่พ่อหนุ่ม เก่งดี ผมให้คะแนนอวดดีคุณเต็มร้อยเลย อ้อ ถ้าคุณมีปัญญาเหมาเสื้อผ้าร้านนี้ทั้งร้านจริงๆ ผมจะก้มลงกราบ คุณให้ดู” ชายวัยกลางคนพูดขึ้น

“ฉันจะยอมเลียรองเท้าให้คุณเลยก็ได้นะ” ภรรยาเขาเสริมต่อ

การแต่งกายของลู่เฉิน มองดูก็รู้ว่าตัวละไม่กี่ร้อย ก็แค่พนักงาน บริษัทธรรมดาๆ คนหนึ่ง สองสามีภรรยาคู่นี้ไม่แม้แต่เห็นเขาใน สายตา

“ผมแค่เกรงว่าอีกเดี๋ยวพวกคุณจะต้องเสียใจ” ลู่เฉินยิ้มแล้วหัน ไปพูดกับพนักงานผมสั้นอีกคนหนึ่ง

“คิดเงินให้ผมด้วย ผมเหมาทั้งร้าน

“คะ จริง จริงเหรอ ? ” พนักงานผมสั้นคนนั้นยืนงง

“ฉันคิดไว้แล้วค่ะ ของในร้านรวมทั้งที่คุณผู้หญิงเลือกไว้รวมทั้งหมดห้าแสนสอง ไม่ทราบว่าจ่ายเงินสดหรือว่าชำระด้วย บัตรคะ ? ” พนักงานก่อนหน้าพูดด้วยสายตาเยาะเย้ย

เฉินมองมาที่พนักงานผมสั้น “ห้าแสนสองใช่ไหม ? ”

เธอพยักหน้า

“ตามนี้ ชำระด้วยบัตร ลงชื่อพนักงานขายเป็นเธอนะ” ลู่เฉินเดิน

ไปที่เคาน์เตอร์

พนักงานผมสั้นคนนั้นยังยืนงง แต่สุดท้ายก็เดินตามไป “ให้ตายสิ มันคงไม่ได้มีปัญญาซื้อจริงๆ ใช่ไหม ? ” สองสามี

ภรรยารู้สึกตกใจ คนคนนี้ดูยังไงก็ไม่มีเงินพอซื้อหรอกน่า

หลินอี้เจียและเพื่อนก็ได้แต่ยืนงง ความมุ่งมั่นของลู่เฉินทำให้ พวกเธอเกิดความไม่แน่ใจ

“คุณผู้ชายคะ ซื้อเยอะขนาดนี้ดิฉันสามารถทำเปอร์เซ็นต์ลดให้ ได้ เหลือห้าแสนนะคะ” พนักงานขายพูดด้วยความดีใจ

สู่เฉินพยักหน้า แต่เมื่อเขาหยิบกระเป๋าเงินออกมาถึงได้พบว่า บัตรหลักของเขาลืมทิ้งเอาไว้ที่บ้าน
ให้ตายสิ ทำไมซวยอย่างนี้นะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ