คุณพ่อเจ้าสัว

บทที่1 ไม่มีเงินอะไรก็ทำไม่ได้



บทที่1 ไม่มีเงินอะไรก็ทำไม่ได้

บทที่1 ไม่มีเงินอะไรก็ทำไม่ได้

“คุณชาย นี่ก็ผ่านไปสิบปีแล้ว ไม่ว่าความแค้นจะฝังลึกแค่ไหน ก็ ควรจะลดลงบ้างแล้วนะครับ”

“เดือนหน้าจะเป็นวันเกิดครบรอบ 50 ปีของคุณพ่อคุณ พวกคุณ ไม่ได้เจอกันมานานกว่าสิบปีแล้ว พ่อของคุณอยากเจอคุณมาก นอกจากนี้พ่อของคุณยังบอกอีกด้วยว่า เรื่องที่คุณกลับไปรับ มรดกจะถูกประกาศขึ้นที่งานเลี้ยงในวันนั้น”

ที่ถนนหงหวู่ ในมือลู่เฉินถือเค้กกล่องหนึ่งที่ซื้อไปให้ฉีฉีลูกสาว ของเขา ลู่เฉินเหลือบมองไปยังชายชราในชุดผ้าไหมของ ราชวงศ์ถังที่ยืนยิ้มอยู่

“กลับไปงั้นเหรอ? ” เฉินหัวเราะเยาะ สายตาของเขาช่าง เฉยเมย

“ตั้งแต่วินาทีที่เขายอมให้เซียวเป๋ฉิงผู้หญิงเลวๆ นั่นฆ่าคุณแม่ ของผม ผมก็ตัดขาดความสัมพันธ์พ่อลูกกับเขาแล้ว

“แต่หากจะให้ผมกลับไปนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เงื่อนไขแรกคือให้เขาตัดหัวของเซียวเป๋ฉิงมาวางไว้ตรงหน้าผม
ชายชรากับผู้คุ้มกันข้างๆ มองหน้ากัน

” ถ้าทำไม่ได้ก็หลีกทางไปซะ” ลู่เฉินตะโกน

ชายชราหลีกทางให้เขาโดยไม่รู้ตัว ลู่เฉินก้าวไปข้างหน้าด้วย ความยืนหยัด

ลู่เฉินโกรธมากและเกลียดแค้นมากด้วย

เมื่อสิบกว่าปีก่อน แม่ของเขาถูกรถชนและเสียชีวิต

แม้ว่าผลการสอบสวนจะบอกว่าคนขับรถเมาสุราขณะขับขี่ แต่ ความจริงแม้แต่คนโง่ๆ ก็สามารถรู้ได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนของผู้ หญิงที่ชื่อว่าเซียวเป๋ฉิงคนนั้น

ลู่เฉินไปหาพ่อของเขาเพื่อสอบถามความจริงและขอคำอธิบาย จากพ่อ แต่พ่อกลับตบหน้าเขาและด่าว่าเขาอกตัญญูไม่ซื่อสัตย์

เขาท้อแท้หมดหวังมาก หลังจากงานศพของแม่ เขาก็ได้เดิน ทางออกจากเมืองหลวงตามลำพังและไปเรียนต่อที่ยวโจว เขาได้ พบรักที่นี่และแต่งงานมีลูก เขาได้ใช้ชีวิตเหมือนกับคนธรรมดา ทั่วไป
หลังจากการแต่งงานเขาไม่ได้รับการต้อนรับจากครอบครัวของ แม่ภรรยาเท่าไรนัก กระทั่งสุดท้ายเขาและภรรยาหลินอี้จนถูก ไล่ออกจากบ้าน ทั้งสองคนใช้ชีวิตด้วยเงินเดือนที่ไม่มากนัก แต่ เขาก็ไม่เคยปริปากบ่น เพราะเขามีภรรยาที่เก่งและสวยงามอีกทั้ง ลูกสาวที่น่ารัก ใช้ชีวิตแบบนี้เขาก็พอใจแล้ว

ส่วนการกลับไปที่บ้านนั้นอีกครั้ง

หีหี ฝันไปเถอะ!

ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของลู่เฉินก็ดังขึ้น

ทันทีที่เขารับสายก็ได้ยินเสียงจากหลินจนภรรยาของเขา ซึ่ง ฟังดูน้ำเสียงคล้ายกำลังโมโห “ลู่เฉิน คุณอยู่ไหน? อาการของ ฉีฉีรุนแรงมากขึ้นแล้วคุณรู้มั้ย! ฉันให้คุณดูแลฉีฉีที่โรงพยาบาล ทำไมคุณยังทิ้งเธอไว้แล้วออกไปข้างนอกคะ? ”

คล้ายกับมีสายฟ้าฟาดลงมากลางใจอย่างไรอย่างนั้น !

ลู่เฉินตั้งสติได้ เขาจับโทรศัพท์ไว้แน่นแล้วพูดว่า “ผมจะรีบไป เดี๋ยวนี้ ”

ลู่เฉินกังวลมาก เขาไม่ได้แก้ตัวหรืออธิบายอะไรเพิ่มเติมเขารีบวิ่งไปที่ถนนเพื่อโบกรถแท็กซี่

ลู่เฉินทําอะไรไม่ถูก เขาจับกล่องเค้กอย่างแน่นไว้ในมือ เพราะ มันเป็นสิ่งที่ฉีฉีชอบกินที่สุด ลูกสาวตัวน้อยร้องไห้เขาไปซื้อมา หลายวันแล้ว เขาจะทำให้ฉีฉีผิดหวังไม่ได้

เมื่อถึงหน้าประตูห้องผู้ป่วย ลู่เฉินยังไม่ทันได้หยุดเพื่อหายใจก็ มีหญิงสาวสวยๆ คนหนึ่งวิ่งออกมาและตบหน้าเขาเข้าอย่างจัง !

เธอคือหลินอี้จุน ภรรยาของเขา เธอสูงประมาณ1.68เมตร รูป ร่างสง่างามและหน้าตางดงาม เธอจัดว่าเป็นผู้หญิงสวยที่หายาก เลยทีเดียว

แม้ว่าลูกสาวของพวกเขาอายุสามขวบแล้ว แต่เธอก็ยังดูสวย ราวกับหญิงสาวอายุยี่สิบปี ไม่เพียงแต่รูปร่างที่ไม่เปลี่ยนไป ยัง เพิ่มเสน่ห์น่าดึงดูดกว่าเดิม

แต่ตอนนี้ใบหน้างดงามของเธอเต็มไปด้วยความโมโห

“ลู่เฉิน คุณทำให้ฉันผิดหวังมาก! ”

ลู่เฉินก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด ” ฉีฉีอยู่ที่ไหน เธอเป็นยังไงบ้าง ? ”
“คุณยังมีหน้ามาถามเรื่องฉีฉีอีกเหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉีฉีคง ไม่เป็นแบบนี้ โชคดีที่มีแพทย์มาเห็นเข้าจึงรีบส่งตัวเธอไปรักษา ทันเวลา ถ้าช้ากว่านี้อีกหนึ่งนาทีฉันคงต้องเสียฉีฉีไปแล้ว! ” หลิน อี้จุนชี้ไปที่ลู่เฉินแล้วพูดอย่างจริงจัง “โชคดีที่อาการของฉีฉี ทรงตัวแล้ว ไม่เช่นนั้นชีวิตนี้ฉันจะไม่มีวันจะยกโทษให้คุณ! ”

เมื่อได้รู้ว่าอาการของลูกสาวดีขึ้น หัวใจของลู่เฉินจึงคลายความ กังวลลงบ้างเล็กน้อย

ฉีฉีเป็นลูกสาวและเป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของเขา และเขาหวัง ว่าลูกสาวตัวน้อยนี้จะก้าวผ่านโรคภัยนี้ไปได้และจะมีความสุข มากกว่าคนอื่นๆ!

ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะเอาชีวิตของตัวเองเข้าแลก เพื่อให้สุข ภาพของฉีฉีแข็งแรงขึ้น!

ในขณะนี้ มีผู้หญิงอีกสองคนปรากฏตัวขึ้นที่ข้างหลังหลินจุน

ลู่เฉินรู้จักพวกเขาได้อย่างดี หนึ่งในนั้นคือหวังเสวี่ย คุณแม่ของ ภรรยา ส่วนอีกคนคือหลินอี้เจีย น้องสาวของภรรยาเขานั่นเอง

หวังเสวี่ยเมื่อเห็นลู่เฉินก็ด่าออกมาว่า “คนไร้ประโยชน์ ผ่านไปเป็นเวลาหลายปีแล้วแกยังกินและใช้เงินลูกสาวของฉันอยู่ อีกเหรอ ? เลี้ยงหมาก็ยังสามารถเฝ้าบ้านได้ แล้วแกล่ะ แกดูแล ลูกสาวของตัวเองก็ยังไม่ได้ ทุเรศ ! ”

“คนที่ตามจีบลูกสาวของฉันต่อแถวยาวจากต้นซอยถึงท้ายซอย คนไหนบ้างที่ไม่ได้ที่ทำงานอยู่บริษัทที่มีชื่อเสียง คนไหนบ้างที่ ไม่มีความสามารถ ฉันอยากจะรู้จริงๆ ว่าแกใช้อะไรมาหลอกลวง ลูกสาวของฉันให้เขาแต่งงานกับแก! ”

หลังจากพูดจบหวังเสวี่ยก็หันหน้าไปพูดกับหลินจนว่า “ฟังแม่ นะ รีบหย่ากับเขาเถอะ อย่าเสียเวลาอยู่กับไอ้คนอ่อนแอไร้ความ สามารถแบบนี้เลย”

“นั่นสิคะพี่” หลินอี้เจียมองทางลู่เฉินแล้วพูดตามแม่ว่า “ค่ารักษา พยาบาลของฉีฉีหลายวันนี้ พี่ได้เอาเงินเก็บทั้งหมดออกมาใช้ แล้ว แต่ขอถามหน่อยว่าเขาเคยจ่ายเงินสักก้อนมั้ย คนแบบนี้ไม่ สมควรเรียกตัวเองว่าหัวหน้าครอบครัวด้วยซ้ำ! ฉันได้ยินมาว่า หัวหน้าของพี่ชื่นชมพี่มากนี่คะ พี่แต่งงานกับเขาคงดีกว่า! ”

หากตามปกติแล้ว เมื่อหลินอี้จนได้ยินคำพูดเช่นนี้จากแม่กับน้อง สาว เธอต้องโต้เถียงกับพวกหล่อนแน่นอน

แต่ตอนนี้ เธอไม่แม้แต่จะพูดอะไรออกมา
เธอรู้สึกผิดหวังกับลู่เฉินมากจริงๆ!

ผู้ชายคนหนึ่งที่มีมือมีเท้า ปล่อยให้ตัวเองตกต่ำยอมไปเป็นผู้ รักษาความปลอดภัยก็ช่างเถอะ

แต่เมื่อตอนที่ลูกสาวป่วยหนัก เขากลับออกไปเที่ยวข้างนอก !

นี่เขายังมีความรับผิดชอบและจิตใต้สำนึกอยู่หรือเปล่า?!

ขณะนี้ พยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามา

พยาบาลคนนั้นเหลือบมองไปที่ลู่เฉินและกล่าวว่า “ญาติผู้ป่วย คะ คุณเป็นหนี้ค่ารักษาพยาบาลมาหนึ่งแสนหยวนแล้ว ถ้าคุณไม่ จ่ายเงินค่ารักษาอีกทั้งค่ามัดจำล่วงหน้าอีกสองแสนหยวน โรง พยาบาลคงจะต้องหยุดยาให้กับผู้ป่วย

ก่อนที่หลินอี้จุนจะพูดอะไรออกมา ลู่เฉินก็พยักหน้าและพูดขึ้น ว่า “เราจะจ่ายเงินทั้งหมดภายในวันนี้”

เมื่อเขาพูดจบก็มองไปที่เตียงและได้เห็นลูกสาวที่นอนหน้า ซีดเซียว นอกจากความเจ็บปวด ตอนนี้ในใจเขาไม่เหลือความรู้สึก อะไรอีกเลย
“รบกวนรีบหน่อยนะคะ ถ้าหากไม่ชำระเงินก่อนบ่ายนี้ โรง พยาบาลจะหยุดยาของผู้ป่วย” นางพยาบาลเยาะเย้ยและมองไป ที่ลู่เฉินด้วยสายตาดูถูก

เมื่อพยาบาลเดินออกไป หวังเสวี่ยก็ตะโกนมาว่า “ไอ้คนอ่อนแอ แกยังกล้าสัญญาว่าจะจ่ายเงินให้หมดภายในวันนี้หรือ? อยากให้ ลูกสาวฉันไปขอเงินใครมาใช่ไหม? หน้าด้านจริงๆ! ”

หลินอี้เจียกลอกตามองลู่เฉินและพูดกับหลินอี้จนว่า “พี่คะ ระหว่างทางมาที่นี่ ฉันโทรเรียกหัวหน้าของพี่ฟานหมิงมานี่แล้ว ค่ะ ตอนนี้เขาคงจะใกล้ถึงแล้ว ถ้ามีเขาอยู่ค่ารักษาพยาบาลของ ฉีก็ไม่ต้องกังวลแน่นอน”

ตอนที่หลินอี้จนกำลังจะด่าว่าหลินเจียว่าทำอะไรโดยไม่คิด ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง

ชายคนนี้ก็คือฟานหมิง อายุสามสิบกว่าปี แต่งตัวดูดีมองแล้วมี ภูมิฐาน เขาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายของบริษัทกลุ่มตงเจีย และ ก็เป็นหัวหน้าของหลินจนด้วย

ลู่เฉินเองก็รู้จักเขาดี ทำไมงั้นหรือ ? เพราะเขาก็เป็นพนักงาน ของบริษัทกลุ่มตงเจียด้วยเช่นกัน

ทั้งสองคนทํางานที่เดียวกัน ก็แค่ฟานหมิงเป็นผู้อำนวยการระดับสูง และเขาเป็นยามรักษาการณ์ที่เฝ้าประตู

เมื่อได้เห็นฟานหมิงมาที่นี่ เฉินก็ขมวดคิ้วขึ้น

แต่ฟานหมิงหาอย่างมองไม่เห็นลู่เฉิน เขาทักทายกับหวังเสงี่ย และหลินอี้เจีย แล้วจ้องมองไปทางหลิน จนอย่างอ่อนโยนกล่าว ว่า “อี้จนครับ อี้เจียได้บอกกับผมเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ฉีฉีเป็นเด็กผู้ หญิงที่น่ารัก แต่ตอนนี้เธอถูกความเจ็บป่วยรุมเร้า ทำให้ผมเองก็รู้ เป็นห่วงมาก ทําไมไม่บอกผมก่อนหน้านี้”

หลินอี้จนกระซิบบอกว่า “ฉันขอโทษนะคะผู้อำนวยการ แต่นี่เป็น เรื่องส่วนตัวของฉัน ดังนั้นฉันคงไม่รบกวนผู้อำนวยการแล้วค่ะ”

“อย่าพูดแบบนี้นะครับ คุณเป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาที่น่าภาค ภูมิใจที่สุดของผมคนหนึ่งและเป็นเพื่อนของผมด้วย เรื่องของ คุณก็เหมือนกับเรื่องของผม! ” ฟานหมิงพูดด้วยน้ำเสียงเน้นย้ำว่า “อี้เงียบอกกับผมว่ายังต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล เท่าไหร่ครับ?

สามแสนค่ะ “หลินอี้เจียรีบพูดขึ้นก่อน

ฟานหมิงยิ้มอย่างภูมิใจและพูดกับหลิน จนว่า “คุณ จนครับ ผม จะจ่ายสามแสนนี้ให้ก่อน ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร”
ฟ่านหมิงมองไปที่ลู่เฉินด้วยสายตาเหยียดหยาม ในความคิด ของเขาลู่เฉินแค่เป็นยามรักษาการณ์ของบริษัท เขาไม่สมควรที่มี ภรรยาสวยงามอย่างหลินจนด้วยซ้ำ

ใช่ เขาอยากได้หลินอี้จนมานานแล้ว

หลินอี้จนเป็นหนึ่งในผู้หญิงสวยที่สุดในบริษัท ผู้ชายทั่วไปที่ได้ เห็นเธอก็ล้วนชื่นชอบเป็นธรรมดา ผู้ชายคนไหนไม่อยากจะนอน กับเธอบ้าง?

หลินอี้จุนก็รู้ว่าฟานหมิงกำลังคิดอะไรกับเธออยู่ เธอก็คิดจะ ปฏิเสธ แต่พอเห็นลูกสาวของเธอที่นอนป่วยอยู่บนเตียง เธอคง ไม่มีความกล้าที่จะปฏิเสธแล้ว

ลู่เฉินรู้สึกถึงสายตาอันร้อนแรงของฟานหมิงที่มองไปยังภรรยา ของเขา เขากำมือแน่นและพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ไม่ต้อง สาม แสนนี้ผมจ่ายเองได้

หลินอี้จนตะโกนออกมาด้วยดวงตาแดงก่ำว่า “ลู่เฉิน นี่คือชีวิต ของลูกสาวเรานะคะ คุณไม่เป็นห่วงเธอแต่ฉันเป็นห่วง! เงินเก็บ ของฉันเอาออกมาใช้จนหมดแล้ว ตอนนี้ผู้อำนวยการยอมให้ยืม ก่อนสามแสนหยวน ทำไมคุณถึงไม่รับความช่วยเหลือจากเขา บอกฉันทีว่าทำไม?”

ลู่เฉินกำหมัดแน่นขึ้น เล็บของเขาจิกลงในเนื้อแต่เขาก็ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดแม้แต่น้อย!

ในขณะนี้ เขารู้สึกว่าตัวเองอ่อนแรงไร้ค่าเหลือเกิน

ฟานหมิงมองไปที่หลิน จนและลู่เฉินอย่างเยาะเย้ย ทันใดนั้น เขาก็คิดแผนขึ้นมาในใจแล้วพูดว่า “อี้จนครับ ดูเหมือนว่าพวกคุณ ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผมแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไป ก่อนนะครับ”

“ผู้อ่านวยการฟาน…..” หลิน จนเปล่งเสียงออกมาเบาๆ

ฟานหมิงยิ้มกับหลิน จนแล้วจากไป เขามั่นใจว่า เฉินกับหลิน จนไม่สามารถหาเงินสามแสนมาเป็นค่ารักษาพยาบาลได้ เพราะดู เหมือนว่าลู่เฉินไม่มีทางออกแล้วจริงๆ

ฟานหมิงเดินจากไปแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย เขาตรงไปหา พยาบาลที่รับผิดชอบดูแล

เขาแอบยื่นเงินหนึ่งพันหยวนให้พยาบาลและพูดว่า “พ่อแม่ของ นี้ไม่สามารถหาเงินได้ถึงสามแสนหยวนหรอก ถ้าถึงเวลาแล้ว พวกเขายังไม่จ่ายค่ารักษาพยาบาล คุณก็ไปให้พวกเขากลับบ้าน ไปเถอะ ” นางพยาบาลยิ้มเมื่อได้เห็นเงินที่เขายัดใส่มือให้แล้ว พยักหน้าอย่างรวดเร็ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ