บทที่ 18 ยังไม่เชื่อลู่เฉิน
บทที่ 18 ยังไม่เชื่อลู่เฉิน
หลิน จนอารมณ์เสียมาจากที่ทำงาน จากที่ตั้งใจว่าจะระบาย อารมณ์กับเขาเมื่อเห็นลู่เฉินเดินจูงมือลูกสาวยิ้มมาแต่ไกล เธอก็ ระงับอารมณ์ตัวเองไว้ได้
แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้เธอประทับใจคือความไร้เดียงสาของ ลูกสาวตัวน้อย และความอึดอัดใจที่เธออยากระบายออกมาก็หาย ไป
“คุณแม่ขา เมื่อวานคุณพ่อซื้อชุดนี้ให้ฉีฉีด้วย สวยมั้ยคะ ? ” เดินมาที่หลินอี้จนด้วยท่าทางของเด็กๆ
เมื่อวานลู่เฉินพาเธอไปเล่นทั้งวันถึงแม้จะเหนื่อยแต่เธอก็มีความ สุขมาก เธอหลับทันทีที่กลับถึงบ้าน
“สวยมากค่ะ เจ้าหญิงน้อยของเราใส่อะไรก็สวยอยู่แล้ว” หลิน จนอุ้มเธอขึ้นมากอดไว้ในอ้อมอกและยิ้มด้วยความอ่อนโยน
“คุณพ่อซื้อเสื้อผ้าให้ฉีฉีเยอะมากเลยค่ะ คุณพ่อบอกว่าให้ฉีฉี เปลี่ยนใส่ได้วันละตัวเลย” ฉีฉีพูด
หลินอี้จนพยักหน้ารับรู้และเหลือบไปเห็นยี่ห้อเสื้อผ้าบนตัวของ ลูกสาว เธอหันไปมองเขา
“ต่อไปจะซื้อเสื้อผ้าให้ลูกก็ไม่ต้องซื้อของปลอมแบบนี้นะคุณ เสื้อผ้าแบรนด์เนมดูดีก็จริงแต่ถ้าคนที่มองออกดูทีเดียวก็รู้แล้ว ว่าของปลอม เขาจะหัวเราะเยาะเอา” หลิน จนรู้จักแบรนด์นี้ดี เพราะเป็นยี่ห้อดังสำหรับเสื้อผ้าเด็กในประเทศจีน
และเธอก็รู้ดีว่าลู่เฉินคงไม่สามารถซื้อให้ลูกได้ ดังนั้นจึงเข้าใจ ว่าชุดนี้เป็นของปลอม
“ของปลอม ? “ลู่เฉินหัวเราะ เขาไม่อยากอธิบายอะไรให้มาก ความเพราะรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ หลิน จนคงไม่เชื่อเขาแน่
“รับทราบครับ” เฉินเลิกคิ้วขึ้น
“คุณจะซื้อของขวัญอะไรให้คุณพ่อคะ ? “หลินอี้จนถามขึ้น
“พ่อคุณชอบดื่มไวน์ใช่ไหม ซื้อถ้วยเรืองแสงให้ท่านสักคู่ดีไหม ปีที่แล้วเราก็ไม่ได้ซื้ออะไรให้ท่านเลย” ลู่เฉินพูดขึ้น
“ถ้วยเรืองแสง ? คุณเสียสติไปแล้วหรือไง”หลินอี้จุนเริ่มโมโห
ของที่ว่านั้นต่อให้ลู่เฉินมีเงินซื้อ ก็ใช่ว่าหาซื้อได้ง่าย
สิ่งที่ทําให้เธอโมโหก็คือพักนี้ลู่เฉินเปลี่ยนไปจากเดิม
เขาชอบทำตัวเกินฐานะและมักพูดอะไรที่เป็นไปไม่ได้
“ผมพูดจริงๆนะ ผมรู้ว่าที่ไหนในยโจวนี้มีถ้วยเรืองแสงของแท้ ขาย” เฉินพูด
“หยุดเลยนะ ฉันรู้ว่าคุณรู้จักคนเยอะ ข้อมูลอะไรคุณก็รู้หมด แหละ พอใจหรือยัง” เนื่องจากลูกสาวอยู่ด้วยเธอจึงไม่อยาก ทะเลาะกับเขาต่อหน้าลูก คำพูดที่จะพูดต่อจบลงเพียงเท่านั้น
“คุณพ่อชอบสะสมของโบราณ เราลองไปดูที่ร้านขายของ สะสมเลือกอะไรสักชิ้นให้ท่านก็พอแล้ว” หลินอี้จนพูดพร้อมกับจู งมือฉีฉีมายืนโบกรถ
แม้พวกของสะสมจะราคาค่อนข้างสูง แต่วันนี้เธอเพิ่งได้รับ การเลื่อนขั้นอีกทั้งเซ็นสัญญากับGreentown อสังหาริมทรัพย์ เรียบร้อย ของขวัญราคาพันสองพันเธอซื้อให้พ่อได้อยู่แล้ว
ลู่เฉินหัวเราะขึ้น เขารู้อยู่แล้วว่าหลินอี้จนไม่เชื่อเรื่องที่เขามีเงิน
แต่ช่างมันเถอะ ครั้งที่แล้วที่เขาบอกเธอเรื่องทายาทเศรษฐีเธอ ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จนถึงตอนนี้ก็ยังแยกห้องนอนอยู่เลย
หากวันนี้เขาพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก เขาเกรงว่าหลิน จนจะขอหย่า กับเขาก็ได้
“เมื่อวานนี้ฉันเซ็นสัญญาโปรเจค ของ Greentownอสังหาริมทรัพย์ได้แล้วนะ จะได้ค่าคอมตั้งหก หมิ่นเชียว” เมื่อขึ้นรถ หลิน จนเอ่ยกับลู่เฉินด้วยอาการดีใจ
“ยินดีด้วยครับ” ลู่เฉินยิ้ม
“จริงเหรอ ? ฉันไม่รู้สึกว่าคุณยินดีกับฉันจากใจจริงเลยนะ เฉิน คุณตอบฉันมาตามตรงเดี๋ยวนี้ว่าคุณเองก็สงสัยเรื่องข่าวลือที่ฉัน ตกลงรับข้อเสนอของหลิวไห่ซานหรือเปล่า ? ” หลิน จนมอง ไปทางลู่เฉิน เธอไม่สนใจว่าคนอื่นจะพูดหรือคิดอย่างไร แต่ถ้า แม้แต่สามีเธอก็คิดแบบนั้นเธอคงรับมันไม่ได้แน่
“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง คุณเป็นภรรยาผมนะ ผมจะไปสงสัยคุณ ทําไมกัน ผมแค่กําลังคิดว่าคุณทําโปรเจคที่แม้แต่ฟานหมิงก็ทำ ไม่ได้สำเร็จ ผู้บริหารเลี้ยก็น่าจะเลื่อนขั้นให้คุณอยู่แล้ว” ลู่เฉินอธิ บาย เรื่องนี้เขาเป็นคนจัดการให้เธอเองแน่นอนว่าเขารู้เรื่องนี้อยู่แล้วจึงไม่ได้มีอาการดีใจนักเมื่อรู้จาก หลินอี้จน
“คุณรู้ได้ยังไงว่าหลังจากฉันทำโปรเจคสําเร็จแล้วผู้บริหารเลี้ย จะเลื่อนตำแหน่งให้ฉันคะ ? ” คำพูดของลู่เฉินทําให้หลิน จน น มาสนใจเขา เมื่อพูดถึงการเลื่อนตำแหน่งมันทำให้เธอตื่นเต้นไม่ น้อย
“ผมก็แค่ลองคำนวณดูเท่านั้น ต่อไปถ้าคุณพยายามมากขึ้นก็จะ ได้เลื่อยตำแหน่งที่สูงขึ้น ยังไงก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ” ลู่เฉินฉลาดที่จะตอบคำถามในครั้งนี้และแสดงออกมาถึงอาการ ดีใจ
เรื่องที่หลินอี้จุนได้เลื่อนขั้นนั้นเสี้ยจนได้พูดกับเขาเมื่อวาน เขา รู้อยู่แล้วว่าเสี้ยจนต้องใช้โอกาสนี้เลื่อนขั้นให้เธอ
“คุณคิดว่าบริษัทเป็นของคุณหรือไง อยากให้ฉันเลื่อนขั้นก็เลื่อน กันง่ายๆได้เหรอคะ ? ” หลิน จนมองเขาด้วยหางตา แม้ก่อนหน้า นี้เธอเพิ่งจะโดนฟานหมิงเล่นงานมาแต่ก็ดูออกว่าเธออารมณ์ดี เดียว
ลู่เฉินเกือบจะหลุดปากไปแล้วว่า ก็เขาเป็นเจ้าของบริษัท อิเล็กทรอนิกส์ตองเจียจริงๆ นา
แต่เมื่อคิดดูแล้วอย่าพูดจะดีกว่า เขาได้แต่ยิ้ม
“เรื่องเลื่อนขั้นขึ้นไปอีกฉันคงไม่กล้าคิดละค่ะ คงไม่ได้มีโอกาส ดีๆแบบนี้อีกหรอก” นึกถึงเรื่องเมื่อวานที่ถูกฟานหมิงกดขี่แล้ว เธอก็มีน่าทีที่เปลี่ยนไป
“มีอะไรหรือเปล่า ? ” ลู่เฉินรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของ
เธอ
“ก็เพราะคุณนั่นแหละค่ะ” หลินจนพูดด้วความเหนื่อยใจ
“เพราะผม ? ” ลู่เฉินถามด้วยความไม่เข้าใจ
“ถ้าวันนั้นคุณไม่ได้ไปมีเรื่องกับฟานหมิง เขาจะมาหาเรื่องฉัน แบบนี้ทำไมกัน เมื่อวานนี้ที่ฉันได้เลื่อนขั้นก็ถูกเขาแกล้งเข้าให้ ต่อหน้าคนอื่น” นึกถึงเรื่องโครงการวิลล่าทะเลสาบจิงหลงที่เธอ จะต้องเผชิญหน้าด้วยนี้แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ
“เขาทำอะไรคุณ ? ” ลู่เฉินแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง ที่จริงเขารู้ เรื่องที่หลินอี้จนถูกกดดันก็คือการที่ฟานหมิงให้เธอรับผิดชอบ โครงการวิลล่าทะเลสาบจึงหลง
ช่วงเช้าในที่ประชุมเขาตั้งใจสนับสนุนหลิน จนทำโครงการ วิลล่าทะเลสาบจึงหลง ก็เพื่อใช้โอกาสนี้ทำให้ทุกคนยอมรับใน ความสามารถของเธอ
“เรื่องที่วิลล่าทะเลสาบจึงหลงกำลังใหม่คุณได้ยินมาแล้วใช่ ไหม ? ” หลิน จนถาม
ลู่เนินพยักหน้ารับรู้ นี่เป็นหนึ่งในพื้นที่ระดับสูงที่กลุ่มแกรนด์ไฮ แอทเวินเยวี่ยดูแลอยู่ เขารู้ยิ่งกว่า
“ฟานหมิงให้ฉันรับผิดชอบโครงการนี้ กระทั่งผู้ถือหุ้นรายใหม่ ก็ด้วย แต่โครงการนี้มันเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ ฟานหมิงก็แค่อยาก ใช้โอกาสนี้ทำให้ทุกคนหันมาหัวเราะเยาะฉัน” หลินจนพูดด้วย ความโมโห
“นี่เป็นโอกาสที่ดีนะ ผมช่วยคุณได้” เฉินพูดอย่างลืมตัว
ลู่เฉินได้ยินมาจากลู่จงว่าแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยแบ่งออกเป็น หลายระดับ กลุ่มที่คุณภาพน้อยกว่าสามารถใช้วัสดุที่ผลิตภายใน ประเทศได้ เขาจึงคิดว่าจะใช้ชิ้นส่วนของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ ตองเจีย จึงสนับสนุนโครงการนี้แก่หลินจน
เมื่อถึงเวลาที่หลินอี้จุนทำโครงการนี้สำเร็จแล้ว ทุกคนในบริษัท ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องยอมรับความสามารถในการทำงานของเธอ
“คุณช่วยฉับได้ ? ”
หลินอี้จุนส่ายหัว ถ้าลูกสาวไม่ได้อยู่ข้างๆเธอในตอนนี้ คาดว่า คงจะระเบิดอารมณ์ไปแล้ว
แม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไรต่อกับลู่เฉิน แต่เธอใช้สายตาอันผิด
หวังมองไปทางเขาแทน
เมื่อเห็นหลินอี้จนไม่เชื่อในตัวเขา ลู่เฉินก็ได้แต่แสดงท่าทีหมด อารมณ์
เขายักไหล่ขึ้น และไม่เอ่ยอะไรออกมาเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก
ตลอดเส้นทางพวกเขานิ่งเงียบจนกระทั่งมาถึงร้านขายของ
สะสม
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ