คุณชายเพอร์เฟค

บทที่ 7 สาขาภาคตะวันออก



บทที่ 7 สาขาภาคตะวันออก

“ผมเอง” หลินฝางพูด

“ได้รับสายจากคุณชาย ผมตายก็ไม่เสียดายแล้ว” ท่านหยุน เอ่ยอย่างตื่นเต้นทอดถอนใจ “ดูท่าแล้วข้อจำกัดที่ตระกูลมีต่อ คุณชายได้สิ้นสุดลงแล้ว พวกเราไม่ได้ติดต่อกันมาสิบกว่าปีแล้ว ใช่ไหม!”

“ใช่แล้ว พ่อผมสบายดีไหม ตระกูลตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

หลินฝางเอ่ยถาม

“ท่านสบายดี มักจะรำพันถึงชื่อคุณอยู่บ่อยๆ บอกว่ารู้สึกผิด กับคุณเล็กน้อยที่ให้คุณลำบากอยู่หลายปี กิจการของตระกูลมี การพัฒนาและขยายอย่างต่อเนื่อง” ท่านหยุนบอก

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว” หลินฝางเบาใจลง: “ใช่แล้ว โรคของผม ตระกูลมีวิธีรักษาได้ไหม?”

“เรื่องนี้คุณชายสบายใจได้ ยาของคุณตอนที่ข้อจำกัดของคุณ จบลงก็ได้วิจัยเสร็จแล้ว จะถูกส่งไปที่ประเทศหัวเสี้ยในสองวันนี้ หัวหน้าสาขาภาคตะวันออกจะเอาไปให้คุณด้วยตัวเอง” ท่านหยุ นรีบบอก

“สาขาภาคตะวันออกเหรอ?”

หลินฝางพยักหน้า ตระกูลของเขาได้จัดตั้งสำนักงานสาขาไว้ ทุกภูมิภาคของหัวเสี้ย และเมืองตงไม่ถือเป็นสาขาภาคตะวันออกของตระกูล

นอกจากนั้นยังมีสาขาภาคใต้ สาขาภาคเหนือ สาขาภาค ตะวันตกเฉียงเหนือ สาขาภาคตะวันตกเฉียงใต้ มีคนรับผิดชอบ แต่ละภูมิภาคจะมี พวกเขาล้วนมีอำนาจในมือ ถ้าหากเป็นสมัย โบราณก็คล้ายๆ กับนายอำเภอ

“ผมรู้แล้ว เอาตามนี้ก่อนแล้วกันท่านหยุน ผมวางสายก่อน หลินฝางพูดเสียเรียบ

“ครับคุณชาย ถ้าหากมีปัญหา ติดต่อผมได้ทุกเวลา” ท่านหยุ นที่อยู่ปลายสายรีบพูด

เมื่อวางสายแล้ว หลินฝางครุ่นคิดวางแผนอนาคตข้างหน้า

เขาตัดสินใจหางานทํา

ตามฐานะทางบ้านของเขาตอนนี้ ที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องหา งานทําก็ได้ แต่ว่างก็คือว่าง หางานสบายๆ ทำไปวันๆ

หลินฝางหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดหาหน้าเว็บหางาน แม้แต่ ข้อคุณสมบัติสมัครงานก็ยังขี้เกียจที่จะดู จึงส่งประวัติคร่าวๆ ของตนเองที่ทุกบริษัท

ต่อให้หางานไม่ได้ หลินผ่านก็ไม่รู้สึกอะไร

ตามที่หลินฝางคาดไว้ ในหนึ่งวันมีแค่ไม่กี่บริษัทที่โทรเขามา ได้ยินทราบประวัติการศึกษา ประสบการณ์ของหลินฝางแล้วก็ ปฏิเสธ
ตอนบ่าย อยู่ๆ โทรศัพท์ของหลินฝางก็ดังขึ้น

“สามี แย่แล้ว พ่อฉันเข้าโรงพยาบาล เข้าหอผู้ป่วยหนัก แล้ว!”

ทันทีที่รับสาย เสียงร้อนใจของหยางเสวก็ดังแทรกมา

“ทำไมถึงเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน คุณพ่อไม่ใช่ว่าแข็งแรงดี หรอกเหรอ?” หลินฝางถามทันที

“สาเหตุอย่างละเอียดฉันก็ไม่แน่ใจ ฉันตอนนี้อยู่ระหว่างทาง ไปโรงพยาบาลเหรินหมิง คุณก็รีบมาเถอะ!” น้ำเสียงของหยาง เสบู่เจือเสียงสะอื้น

“ครับ!”

หลังจากวางสาย หลินฝางก็เรียกรถแท็กซี่เพื่อไปที่โรง พยาบาลเหรินหมิง

เขาไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีนักกับพ่อตาหยางวิ่งเทา แต่ไม่ อย่างไร ก็เป็นคนครอบครัวเดียวกัน หยางจึงเทาเข้าโรง พยาบาล หลินฝางเองก็เป็นห่วงอยู่มาก

เพราะว่าเป็นเวลาเลิกงาน การจราจรจึงติดขัด เสียเวลาไป หนึ่งชั่วโมงเต็ม หลินฝางจึงมาถึงโรงพยาบาลเหรินหมิง

ถามพยาบาลแล้ว ได้ยินว่าหยางจึงเทาอยู่ที่ห้องผู้ป่วยหนักที่ ชั้นหก หลินฝางเดินไปถึงหน้าประตูลิฟต์อย่างรวดเร็ว แต่กลับ พบว่าคนเต็มหมดแล้ว
โรงพยาบาลเหรินหมิงเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองตง ไห่ โรงพยาบาลชั้นน่า คนป่วยจึงมากมายนับไม่ถ้วน

หลินฝางไม่อยากเสียเวลา จึงเดินขึ้นบันไดไปชั้นที่หก

“……ในที่สุดก็ขึ้นมาแล้ว”

เขาหอบหายใจ หลังชุ่มไปด้วยเหงื่อ ขึ้นมาหกชั้น รู้สึกขาสอง ข้างหนักราวกับตะกั่ว ทั้งปวดทั้งเมื่อย

“ดูแล้วต่อไปคงต้องออกกำลังมากกว่านี้แล้ว

หลินฝางผลักเปิดประตู เห็นหยางจึงเท่านอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ท่อออกซิเจนสอดอยู่ที่รูจมูก สีหน้าซีดเซียว หายใจแผ่วเบา ตา ปิดสนิท

ภรรยาหยางเสวี พี่ใหญ่หยางเยวกับพี่เขยใหญ่จ้าวไม่ล้วน

มากันหมดแล้ว

ยังมีญาติของตระกูลหยาง ลุง ป้า น้า อามากันอีกห้าหกคน กำลังยืนล้อมคุยกัน

เมื่อเห็นหลินฝาง สายตาที่ทุกคนต่างมองมา เต็มไปด้วยความ ดูถูก

“เหอะ ไอ้ลูกเขยแต่งเข้าบ้านเมียไม่มีประโยชน์มาแล้ว!”

“สามี.……..

หยางเสวตาแดง น้ำตาไหลพราก วิ่งเข้ามากอดหลินฝาง ตัว สั่นสะท้าน เอ่ยเสียงสะอื้น
“หมอบอกว่าพ่ออาการหนักมาก หัวใจวายกะทันหัน…ฮือ

ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร” หลินฝางลูบหลังหยางเสว่ไปมา เอ่ย ปลอบเสียงอ่อนโยน

“เหอะ ลูกเขยแต่งเข้าบ้านเมียอย่างนายยังรู้ว่าต้องมาด้วยเห

รอ!”

หยางเย่วมองหลินฝาง แล้วหัวเราะในลำคอ ต่อให้ไม่ใช่คน ตระกูลหยาง ได้ยินว่าคุณพ่อป่วย ใช้เวลามากขนาดนั้นกว่าจะ มาถึง นายไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่คุณพ่อฉันป่วยเลย!

“พี่ใหญ่ ชั่วโมงเร่งด่วนตอนเย็นรถติด แล้วผมยังไม่ได้ขึ้น ลิฟต์…..

หลินฝางอ้าปากคิดจะอธิบาย หยางเยวจึงขัดเขาทันที

“ฉันไม่สนข้ออ้างของนาย ฉันสนแค่ว่านายมาช้าไปสอง ชั่วโมง! เหอะ มาช้าขนาดนี้ ฉันว่านายเฝ้าคอยให้พ่อฉันตาย นายมาถึงนี่ เขาจะได้ไม่ตำหนินายอีก ใช่ไหม!!

“หลินฝาง รู้ว่าพ่อตัวเองป่วยแล้ว ยังมาช้าขนาดนี้!” ลุงป้า พวกนั้นเริ่มวิพากษ์วิจารณ์หลินฝาง

“อย่างไรก็เป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านเมีย ยังไม่ถือเอาตระกูล เป็นครอบครัวตัวเองอีก

“ไม่มีตระกูลหยาง คนไร้ประโยชน์แบบนั้นได้อดตายข้างถนน นานแล้ว”
“คนอกตัญญู!”

ทุกคนพากันวิจารณ์

“ทุกคน ทำไมถึงว่าหลินฝางขนาดนี้ ไม่เห็นเหงื่อเขาชุ่มไปทั้ง ตัวเหรอ?” หยางเสว่โต้แย้ง รู้สึกโมโหเล็กน้อย

“เอาเถอะ ทุกอย่าว่าให้น้องหลินฝางเลย” จ้าวไม่ยิ้ม

เขาสวมสูทเต็มตัว กระเป๋าหนังแท้ใส่เอกสารคาดอยู่ที่เอว แผ่นหลังใหญ่มันวาว ดูแล้วเหมือนกับเจ้านาย

“น้องหลินฝางไม่มีรถ จึงต้องเรียกรถมา รถติดแล้วซ้าเป็น ธรรมดา”

จ้าวสีไหเหลือบมองหลินฝาง ในตามประกายของเสียวความ

ถากถาง แล้วเอ่ย

“ในเมื่อน้องหลินฝางมาแล้ว คุณพ่อของพวกเราหมดสติไม่ฟื้น ก็ถือว่าฉันเป็นหัวหน้าครอบครัวให้ชั่วคราวเถอะ!”

“ฉันขอเสนอความคิดฉันหน่อย คุณพ่อพวกเราตอนนี้อยู่ ในICU วันละแปดพันหยวน แต่ห้องผู้ป่วยนี้เป็นห้องทั่วไปของ โรงพยาบาลเหรินหมิง ฉันได้ยินจากเพื่อนว่า โรงพยาบาลเหริน หมิงมีห้องผู้ป่วยที่ดีที่สุด เฉพาะคนที่มีตำแหน่งฐานะเท่านั้นถึงจะ พักได้ วันละสองหมื่นหยวน ก็ไม่ถือว่าเยอะ”

ขณะที่พูด สีหน้าจ้าวสีไห่เต็มไปด้วยอำนาจบาตรใหญ่ ราวกับ ว่าเงินสองหมื่นต่อวันสำหรับเขานั้นเป็นเงินจำนวนน้อยนิด
“ฉันคิดว่า เปลี่ยนเป็นห้องผู้ป่วยที่ดีที่สุดให้คุณพ่อเรา พ่อ ลำบากมาทั้งชีวิตแล้ว ส่งเสียลูกสาวลูกชาย ตอนนี้ป่วย พวกเรา ต้องดูแลเขาอย่างดีที่สุดอยู่แล้ว!

“หมอบอกแล้ว คาดว่าคุณพ่อเราต้องนอนโรงพยาบาล ประมาณครึ่งเดือน วันละสองหมื่นหยวน รวมแล้วก็ประมาณสาม

แสน”

เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ หยางเสจึงขมวดคิ้ว คอยสังเกตว่าจ้าว ไม่ว่าต้องการจะพูดอะไรต่อ

หลินฝางมองออกอัตโนมัติ แต่สีหน้าเขาราบเรียบ ไม่สนใจ เลยสักนิด

“ฉันคิดว่าให้พ่อเราส่งไปพักห้องผู้ป่วยที่ดีที่สุด สามแสน

สำหรับฉันไม่ได้มากมาย แต่น้องหลินฝางอย่างไรก็เป็นลูกเขย

ต้องมีน้ำใจหน่อยไหม!” จ้าวไห่พูด:

“ฉันดูคร่าวๆ น้องชายหลินฝางก็ไม่ได้มีเงินอะไร เอาอย่างนี้ ก้อนใหญ่สามแสนฉันออกสองแสน เหลืออีกแสน หลินฟางออก ไหม?”

“หนึ่งแสน!”

หยางเสวีเบิกตากว้าง เงินเก็บเธอในธนาคารมีไม่ถึงสามสี่ หมื่น จะหาเงินแสนมาจากไหน?

“ทำไม หลินฝางคนไร้ประโยชน์ เงินแค่แสนเดียวน่าจะมีไหม ต้องรู้ว่าก้อนใหญ่ พวกเราช่วยนายออกไปแล้ว!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ