The Possible Man

ตอนที่9 ภาษาฝรั่งเศส



ตอนที่9 ภาษาฝรั่งเศส

ปกติการสอบใหญ่แต่ละครั้งจากส่วนกลาง จะจัดสอบพร้อม กันทั่วประเทศ ครั้งนี้ก็เช่นกัน การที่เด็ก ม.ปลาย จํานวน มหาศาลสอบเสร็จพร้อมกันทั้งจังหวัด เมื่อถึงเวลาที่สอบเสร็จ ช่วงเย็นๆ จะทำให้เกิดจราจรติดขัด เมื่อหินสอบเสร็จจึงออกมา โบกแท็กซี่ตรงไปยังสนามบินทันที

ในที่สุดหินก็มาถึงสนามบิน สนามบินนี้เป็นสนามบินเล็กๆ ใน เมืองเท่านั้น การมองหาเคาน์เตอร์เช็คอินของแต่ละสายการบิน ไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่นัก

เมื่อเห็นสายการบินที่ตัวเองได้จองแล้วหินไม่รอช้า เข้าไปเช็ค อินทันที มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่สายการบินนี้เป็นสายการ บินเล็กๆ เท่านั้น จึงไม่มีชั้นเฟิร์สคลาสและชั้นธุรกิจ มีแต่ที่นั่ง แบบปกติเท่านั้น การนั่งเครื่องเกือบสองชั่วโมงไม่ใช่เรื่องใหญ่ อะไรสำหรับหิน แต่ว่ามันค่อนข้างจะน่าเบื่อสําหรับการนั่งเฉยๆ เป็นชั่วโมง

หินเช็คอินเสร็จด้วยความรวดเร็วเนื่องจากเขาไม่ได้มีสัมภาระ มากนักนอกจากกระเป๋าสะพายหลังแค่ใบเดียวเท่านั้น เมื่อเช็ค อินเสร็จหินจึงเดินเข้าไปที่ห้องรอขึ้นเครื่อง

ห้องโถงรอขึ้นเครื่องของสนามบินนี้มีขนาดค่อนข้างกว้าง มองเข้ามาข้างในเต็มไปด้วยไปด้วยผู้โดยสารที่นั่งรอเครื่อง ทั้ง สองด้านของห้องโถงไปเต็มด้วยร้านค้าต่างๆ
หินเลือกเดินเข้าไปที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง มองหาอยู่สักครู่ หินก็ได้เจอสิ่งที่น่าสนใจ เป็นนิตยสารต่างประเทศเล่มหนึ่ง ที่ เขียนเกี่ยวกับเทคโนโลยี เมื่อเลือกได้แล้วหินจึงจ่ายเงินซื้อมัน ทันที จากนั้นหินจึงมองหาที่สงบๆ เพื่อนอ่านนิตยสารที่หินซื้อมา ก่อนจะเหลือบไปเห็นร้านกาแฟร้านหนึ่ง จากความทรงจําเก่า ของหินร้านนี้ถือเป็นแบรนด์ดังของโลกนี้เลยทีเดียว

ในร้านมีโต๊ะอยู่เยอะแต่เวลานี้กลับมีเพียง สอง สาม โต๊ะ เท่านั้นที่มีคนนั่งอยู่ หินจึงเดินไปสั่งเครื่องดื่มหนึ่งแก้วก่อนที่จะ เลือกมุมสงบๆ มุมหนึ่งเพื่อนั่ง จากนั้นหินจึงหยิบนิตยสารเล่มที่ พึ่งซื้อมาขึ้นมาอ่านทันที

นิตยสารเล่มนี้เป็นนิตยสารที่ดังมากๆ เล่มหนึ่ง มีวางจำหน่าย อยู่ทั่วโลก ซึ่งนิตยสารเล่นนี้จะพูดเกี่ยวกับเทคโนโลยีทั่วทุกมุม โลก ความทันสมัยและสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ หลังจากหินได้อ่านไป สักพักหนึ่งก็ได้ยินเสียงพูดขึ้นจากโต๊ะข้างๆ

– สําหรับอักษรตัว เอียง หมายถึง ใช้ภาษาต่างประเทศ นะครับ]

ดูคนนั้นสิเธอ ที่อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ กระแดะซะจริงๆ ขนาดพวกเราเรียนจบจากฝรั่งเศสยังไม่เห็นจำเป็นต้องอวด ขนาดนี้เลย เหอะ ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นเป็นภาษาฝรั่งเศส ด้วยความหมั่นไส้

“นั่นสิ คงอยากประกาศให้โลกรู้มากมั้งว่าเก่งภาษา ” เสียง เพื่อนผู้หญิงอีกคนพูดขึ้นสนับสนุน
เมื่อหินได้ยินแบบนั้นจึงละหน้าจากหนังสือเพื่อหันไปมองที่มา ของเสียงเมื่อสักครู่ พบว่าเป็นหญิงสาวสองคนที่แต่งตัวค่อนข้าง ดูดีมีสกุล พร้อมกันนั้น หญิงสาวทั้งสองคนก็ยิ้มมาให้หิน

” นั่นเขารู้รึเปล่าว่าเรานินทาเขา ” หนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้น

” ไม่รู้หรอก ดูการแต่งตัวสิ ธรรมดาขนาดนี้ได้เรียนแค่ภาษา อังกฤษ ก็บุญขนาดไหนแล้ว ” เพื่อนอีกคนเอ่ยตอบ

ถ้าหากหินไม่รู้มาก่อนว่า ผู้หญิงทั้งสองคนนี้พูดอะไรออกมา เขาคงจะคิดว่า เป็นสองสาวที่อัธยาศัยดีคนหนึ่ง เพราะทั้งสอง คนนั้นขณะที่มองมาที่เขาก็ส่งยิ้มมาด้วยความเป็นมิตรสุดๆ

มันเป็นเรื่องที่ปกตินักไม่ว่าจะโลกก่อนหรือโลกนี้ นิสัยของ มนุษย์ก็ไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่ คนเราคนย่อมมีความคิด อิจฉาอยู่ภายในใจและเช่นกันต้องการเป็นสิ่งที่พิเศษสำหรับคน อื่น หมายถึงทุกคนอยากจะดูเด่น ดูพิเศษท่ามกลางผู้คน มากมาย ถ้าหากว่าจะมีคนทางให้เราโดดเด่นกว่าคนอื่น ก็คงมี เพียงแค่สองทางเท่านั้น นั่นคือ ถีบตัวเองให้สูงขึ้นกว่าคนอื่น หรือ ถีบคนอื่นให้ต่ำลงกว่าตนเอง แน่นอนการถีบตัวเองให้สูง ขึ้นเป็นทางเลือกที่ยาก ดังนั้นผู้คนจึงเลือกทางเลือกที่ง่ายกว่านั้น นั่นคือการถีบคนอื่นให้ต่ำลงกว่าตัวเอง การพูดดูถูก หรือ การ สาดโคลนให้คนอื่นก็เป็นลักษณะการกระทำของการถีบคนอื่น ให้ต่ำลงกว่าตัวเองทั้งนั้น

ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนต่อให้เราทำดีกับคนอื่นแค่ไหนไม่ได้ หมายความว่าคนอื่นจะดีกับเรา สุดท้ายเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโดนนินทาได้อยู่ดี ยิ่ง ในบางประเทศแล้วการดูถูกหรือ การคอยจับผิดคนอื่นแทบจะเป็นเรื่องปกติไปซะแล้ว

” เที่ยวบิน xxx ที่จะเดินทางไปยัง…” เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น

เมื่อหินดูเวลาพบว่านี่ก็ใกล้เวลาขึ้นเครื่องแล้วจึงเก็บสัมภาระ เพื่อจะเตรียมไปขึ้นเครื่อง

แต่ในขณะที่หินกำลังเดินผ่านโต๊ะสองสาวนั้นหินก็หยุดเท้าลง ก่อนจะหันไปพูดว่า

“ขอโทษนะครับ ที่การอ่านนิตยสารเล่มนี้จะทำให้พวกคุณไม่ พอใจ แต่นิตยสารเล่มนี้มันมีแค่แบบภาษาอังกฤษ ถ้าหากมันมี เป็นภาษาไทยผมก็คงซื้อแบบภาษาไทยไปแล้ว” หินพูดออกมา เป็นภาษาอังกฤษ

ก่อนที่จะเปลี่ยนไปพูดเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า

“หรือต่อให้นิตยสารเล่มนี้เป็นภาษาฝรั่งเศสผมก็คงซื้อมัน อยู่ดี ดังนั้นผมเสียใจอย่างมากที่ทำให้คนที่จบจากฝรั่งเศสอย่าง พวกคุณรู้สึกรําคาญ ขอตัวนะครับ” พูดจบหินก็เดินออกจากร้าน ทันที

ตอนนี้ใบหน้าของหญิงสาวทั้งคู่ไม่สามารถมีคำใดมาอธิบาย ได้นอกจากคำว่า ยิ้มค้าง…

หินสามารถพูดได้ทุกภาษาที่ถูกบันทึกหรือใช้งานบน อินเทอร์เน็ต ตั้งแต่ครั้งแรกที่โหลดข้อมูลพื้นฐานของโลกใบนี้ ข้อมูลด้านภาษาก็ถูกอัปโหลดให้กับหินเช่นกัน
หลังจากที่หินเดินออกจากร้านมาเขาก็ไปต่อแถวเพื่อรอขึ้น เครื่อง สําหรับหินแล้วการขึ้นเครื่องบินครั้งนี้ไม่ได้ทำให้เขารู้สึก ตื่นเต้นแม้แต่น้อย เมื่อก่อนขึ้นยานอากาศเดินทางข้ามกาแล็กซี ก็ทํามาแล้ว

หลังจากเข้ามาในเครื่องบินแล้วหินก็มองหาที่นั่งของตัวเองซึ่ง เขาได้จองไว้แถวตรงกลางติดหน้าต่าง ไม่ใช่เพราะว่ามัน ปลอดภัยหรืออะไรทำนองนั้น เพียงแต่ว่าแถวตรงนั้นมันกว้าง กว่าแถวอื่นก็แค่เท่านั้นเองที่สำคัญเขาอยากพึงกระจก

เหมือนจะมีบุญมีกรรมร่วมกันมาแต่ปางก่อน ไม่นานนักหลัง จากที่หินนั่ง สองสาวผู้จบนอกก็ได้เดินเข้ามาในเครื่องและ ความเร็วในการเดินของทั้งสองสาวดูเหมือนจะช้าลงเมื่อเดินใกล้ เข้ามาที่แถวตรงกลางที่หินนั่งอยู่

คงไม่ใช่ว่านั่งติดกันหรอกนะ… หินแอบคิดในใจเงียบๆ ถ้า ได้นั่งข้างกันนี่ เขาไม่อยากจะคิดเลยว่ามันจะน่าอึดอัดแค่ไหน

ตึก ตึก ตึก

ในที่สุดเสียงย่ำเท้าก็หยุดลงแถวเดียวกับหิน เหมือนสองสาว พึ่งจะสังเกตเห็นหิน

” สองสาว

” หิน

เกิดความเงียบขนขณะหนึ่ง ก่อนที่สองสาวจะมองตั๋วนั่ วนงตัวเอง อีกครั้งพร้อมกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก
จากนั้นสองสาวก็เดินไปนั่งอีกด้านหนึ่งซึ่งตรงข้ามกับหิน

คราวนี้ถึงตาหิน โล่งใจบ้าง นี่ก็คิดไม่ออกเหมือนกัน ถ้าหาก

ได้นั่งด้วยกันจริงบรรยากาศคงอึดอัดน่าดู ขณะเดียวกันผู้โดยคนอื่นๆ ก็เก็บสัมภาระพร้อมกับนั่งลงไปยัง

ที่นั่งของตัวเอง

เที่ยวบินนี้ถึงแม้จะบินไปแค่ต่างจังหวัดแต่กลับเต็มไปด้วยผู้ โดยสารมากมาย ถึงแม้ปลายทางของหินจะเป็นจังหวัดที่ไม่ค่อย เจริญเท่าไหร่นัก ในด้านการคมนาคมหรือความทันสมัยต่างๆ แต่กลับเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากมาย เนื่องจากยังเป็น จังหวัดที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มาก ภายในประเทศถ้าหากจะ พูดถึงการท่องเที่ยวเกี่ยวกับธรรมชาติ ภูเขา หรือการเที่ยวดอย จังหวัดนี้จะต้องถูกเอ่ยถึงอย่างแน่นอน

ผู้โดยสารที่เดินเข้ามาในเครื่องเริ่มบางตาลง ในขณะที่ลูกเรือ กำลังจะปิดประตูเครื่องนั้น ก็ได้มีเสียงโวยมากดังขึ้นมาจาก ภายนอก

“#$$#@#$#%$%$”

เมื่อลูกเรือมองออกไปพบว่าเป็นสองแม่ลูกคู่หนึ่งกำลังวิ่งมาที่ เครื่องด้วยความเร่งรีบ ลูกเรือจึงหยุดรอ

เมื่อสองแม่ลูกมาถึงก็พูดขอบคุณเป็นภาษาอังกฤษโดยที่ สําเนียงไม่ค่อยชัดมากนัก

“แทงคิวๆ ”
มีผู้โดยสารหลายคนที่แอบขำสองแม่ลูกคู่นี้ แม้ว่าผู้เป็นแม่จะ สังเกตเห็นแต่ก็ทำเป็นไม่สนใจก่อนที่จะเดินไปยังที่นั่งของตัวเอง ด้วยความรวดเร็ว

“ตลกอ่ะ พูดไม่ชัดก็ยังจะพูด” มีเสียงนินทาดังขึ้นมา “มีคนจะไปแทงคิวด้วย 555

เสียงไม่ดังมากนักแต่ก็ยังพอจะให้ผู้โดยสารคนอื่นได้ยิน ทำ ให้หลายๆ คนอดมองไปยังต้นเสียงด้วยสายตาตำหนิ แต่ก็ไม่ได้ มีใครกล่าวตักเตือนแต่อย่างใด

ช่างน่าเศร้า ที่ความพยายามใช้ภาษา กลายเป็นเรื่องตลก หนคิดในใจเงียบๆ

สักครู่สองแม่ลูกก็เดินมาหยุดอยู่แถวเดียวกับหิน ดูเหมือน

ว่าที่นั่งของทั้งสองคนนั้นจะเป็นสองที่นั่งที่เหลือข้างๆ หินนั่นเอง

“แม่ผมอยากนั่งติดหน้าต่าง” ผู้เป็นลูกเอ่ยขึ้น

“ไม่ได้หรอก เรามาช้ามากแล้ว ที่สำคัญเขามาก่อนเรานะลูก” แม่เอ่ยตอบกลับไป

“แต่ผมจะรู้สึกเวียนหัวมากถ้าไม่ได้มองออกไปนอกหน้าต่าง เด็กผู้ชายคนนี้พูดขึ้นพร้อมสีหน้าเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด

ผู้เป็นแม่เข้าใจดีว่าลูกของตนเองเมาเครื่อง ถ้าหากว่าไม่ได้ นั่งติดหน้าต่างลูกชายตัวน้อยของเธอจะรู้สึกเวียนหัวมาก แต่จะ ทำยังไงได้ ตัวเองสองแม่ลูกเช็คอินช้าเลยไม่สามารถเลือกที่นั่ง ได้ แถมยังมาช้าจนประตูเครื่องเกือบปิด ที่สำคัญภาษาอังกฤษของเธออ่อนมาก พูดได้แค่งูๆ ปลาๆ เท่านั้น ขนาดพูดขอบคุณ ยังโดนคนอื่นหัวเราะขนาดนั้น ถ้าหากไปพูดอะไรมั่วๆ ไม่ชัดอีก คงจะได้กลายเป็นตัวตลกให้หลายๆ คนในเครื่องนี้ได้ดู สุดท้าย เธอจึงได้ตัดสินใจพูดขึ้นกับลูกว่า

“อดทนหน่อย เป็นลูกผู้ชายเราต้องเข้มแข็ง นั่งแค่ชั่วโมงก ว่าๆ เอง ถ้าลูกทำได้แสดงว่าลูกเป็นคนเก่งมากๆ เลย” ผู้เป็นแม่ พยายามพูดให้กำลังใจลูก

“ครับแม่” แม้ใบหน้ายังคงเศร้าแต่เด็กคนนี้ก็ไม่ได้ดื้อดึงแต่ อย่างใด

จากบทสนทนาที่พูดขึ้นมาทำให้หินยิ้มขึ้นมาบางๆ นอกจาก เก็บอารมณ์แล้วยังพยายามไม่ให้คนอื่นมีปัญหาเพราะตัวเอง เป็นครอบครัวที่มีครอบครัวหนึ่งเลยทีเดียว

“สลับที่กับผมก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมไปนั่งนอกสุดเอง” หินพูด

ขึ้นเป็นภาษาเวียดนามด้วยรอยยิ้ม

ผู้เป็นแม่คนนั้นอดประหลาดใจไม่ได้ แต่ก็ยังไม่ได้ถามอะไร ให้มากความเธอและลูกของเธอรีบกล่าวขอบคุณก่อนที่จะสลับที่ นั่งกับหิน เพราะแค่นี้เธอก็ทำให้คนอื่นเสียเวลามามากพอแล้ว

หลังจากนั้นเครื่องก็ได้บินออกจากสนามบินเพื่อไปสู่จุดหมาย

ปลายทางที่ได้กำหนดไว้

ระหว่างทางนั้นหินก็ได้พูดคุยกับสองแม่ลูกไปบ้างก็เลยทำให้ ทราบว่า สองแม่ลูกพึ่งเคยเดินทางมาที่ประเทศxxเป็นครั้งแรก โดยนั่งเครื่องจากเวียดนามมาลงที่เมืองxxx ก่อนที่จะหาทางต่อเครื่องเพื่อยังเมืองxxx สามีตนเองงานอยู่ ตอนขึ้น เครื่องครั้งแรกทำให้เธอลูกของเธอเมาเครื่องแต่ก็ไม่ได้มี ปัญหามากเพราะตอนนั้นอยู่ภายในประเทศของเธอ เธอสื่อสารกับอื่นเพื่อขอย้ายที่นั่ง

แต่ว่าเพราะภาษาอังกฤษของเธออ่อนกว่าเธอทางเพื่อมาขึ้นเครื่องบินนี้ เธอก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษที่เธอแบ ปลาๆ พร้อมกับภาษาเธอยังชมหินไม่ว่าพูดภาษาเวียดนามได้เยี่ยมมาก

ขณะกาแฟ ตอนหน้าเต็มไปด้วยความกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบ สุดในพูดได้สองก็เท่แล้ว สามภาษาคือมาก ภาษาต้องขนาดไหน คนหรือทรานเรื่องบังเอิญถ้าหากเราเจอต่างชาติเราพูดภาษานั้นได้พอดี แต่จากเห็น พวกค่อนข้างมั่นใจหลายภาษามากกว่าตนเองแน่ๆ ที่ตัวเองทั้งสองทำไปร้านกาแฟ เหมือนลูกนกไปหัดบินหน้าอินทร์ ก่อนที่ จะนินทาพญาอินทรีด้วยความดูถูก นี่มันเทียบกันได้เลยด้วย ถ้าใครมาได้ยินเข้าคงมองเป็นเรื่องตลกสุดๆ

ยิ่งคิดพวกยิ่งรู้สึกตรงให้รอด ถ้าหากว่ามันคงแบบบินจังหวัดxxx มันแค่สายการต้นทุนต่ำไม่สาย การบินเท่านั้นที่เปิดให้บริการ ไม่ต้องถึงเรื่องการนั่งชั้นธุรกิจหรือเฟิร์สคลาสเลยด้วยซ้ำ

แต่ทั้งสองอาจจะไม่รู้ไม่แน่ว่าต่อให้ได้ไปนั่งชั้นธุรกิจจะไม่เจอ หิน เพราะถ้าหากว่ามีชั้นธุรกิจหินก็คงเลือกนั่งชั้นธุรกิจเหมือน กัน แถมยังมีโอกาสที่จะเจอกันมากกว่าชั้นประหยัดซะอีก แต่ บังเอิญว่ารอบนี้มันดวงสมพงษ์กันไปหน่อย

ในที่สุดเครื่องบินก็ถึงจุดหมายปลายทางด้วยความปลอดภัย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ