The great king of Sage

ตอนที่13 เกียรติยศของนินจาจากตระกูลคาโคะ



ตอนที่13 เกียรติยศของนินจาจากตระกูลคาโคะ

ธันวายืนตัวแข็งค้างก่อนจะกล่าวซักถามหญิงสาวที่นั่ง หมอบกราบอยู่นั้น ขณะใบหน้าของเธอแนบชิดติดพื้นโดย ไม่เงยหน้าขึ้นมามอง

ชายหนุ่มเขาแทบจะไม่อยากจะเชื่อหูและสายตาของ คนเลยด้วยซ้ำ เมื่อประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนหน้าเขาเพิ่ง โดน NPC ลวนลามมา พอมาถึงตอนนี้กลับต้องมาเจอ คนแปลกๆอีก ดูเหมือนพระเจ้ากำลังจะเล่นตลก กับชีวิต ของชายหนุ่มเข้าแล้ว

“เธอพูดว่าอะไรนะ?”

ซาโยโกะตอบคำถามด้วยน้ำเสียงเบาบางเจือปนไปด้วย ความเขินอายที่แสดงออกมาผ่านน้ำเสียงจนสังเกตเห็นได้ อย่างชัดเจน

“ดิฉันจะขอติดตามรับใช้นายท่านเจ้าค่ะ นี่คือธรรมเนียม ปฏิบัติของตระกูล”

ธันวาอ้าปากค้างด้วยความสับสน ชายหนุ่มไม่เข้าใจในคำ พูดของหญิงสาวตรงหน้า ก่อนที่เขาจะหลุดปากกล่าวออก ไป ด้วยน้ำเสียงแห่งความสับสนสุดขีด
“ธรรมเนียมปฏิบัติของตระกูล”

เมื่อซาโยโกะสังเกตเห็นการตอบสนองของชายหนุ่ม เธอก็กล่าวออกมาอย่างยืดยาวเพื่ออธิบายสถานการณ์ ให้ธันวาฟัง ขณะชายหนุ่มพลางยืนรับฟังอย่างสับสน แต่ ภายในจิตใจกลับเต็มเปี่ยมล้นด้วยข้อสงสัยนานาชนิด

“ใช่เจ้าค่ะ นายท่าน ตระกูลของฉันยึดถือธรรมเนียม ปฏิบัตินี้มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยโบราณ ดิฉันคือลูก หลานของตระกูลคาโตะ พวกเรามีกฎข้อหนึ่งที่สืบทอดกัน มาอยู่ว่า หากได้รับการช่วยชีวิตจากบุคคลอื่นนอกตระกูล ที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าตัวเรา ลูกหลานของคาโตะจะ ต้องมอบคำมั่นสัญญาแห่งความภักดีและติดตามรับใช้ผู้ ช่วยชีวิตของพวกเรา เพื่อเรียนรู้ถึงความแข็งแกร่งและ เทคนิคการต่อสู้จากบุคคลคนนั้นเพื่อพัฒนาและก้าวข้าม ขีดจำกัดของตัวเอง เจ้าค่ะ นายท่าน

ธันวากล่าวถามอย่างเจ้าเล่ห์หลังจากรับฟังและทำความ เข้าใจเรื่องราวคร่าวๆจากปากของหญิงสาว

“แล้วถ้าหากว่าฉันปฏิเสธล่ะเธอจะเป็นยังไง”
ซาโยโกะ เงยหน้าขึ้นมามองอย่างหวาดกลัวก่อนจะพูด ออกมาอย่างลุกลี้ลุกลนว่า

“นั่นถือเป็นความอัปยศของตระกูล เจ้าค่ะ นายท่าน ดิฉัน ต้องทําการปลิดชีวิตตนเองทั้งโลกในเกมและโลกแห่ง ความจริง ด้วยการทำเซมโบก เพื่อคงไว้ซึ่งเกียรติของ ตระกูลคาโตะและเพื่อตอบแทนพระคุณของนายท่านที่ได้ ช่วยเหลือชีวิตของดิฉันไว้ เจ้าค่ะ นายท่าน”

ชายหนุ่มพลันถึงกับต้องกุมขมับเมื่อได้รับคำตอบที่ไม่ คาดคิด ธันวากล่าวถามออกไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เมื่อมองไปยังดวงตาของหญิงสาวหน้าตางดงามราวกับ เทพธิดาตรงหน้าของเขา แววตาแห่งความุ่งมั่นและมั่นคง ไม่สั่นคลอนถูกฉายผ่านดวงตากลมโตเส้นผมสีดำสนิทมัน ยาวจนถึงด้านหลังของเธอส่งเสริมกับรูปร่างของใบหน้า ปากที่เรียวเล็กสีแดงอมชมพูสีผิวขาวราวหิมะ ในท่านั่งพับ เข่า มันช่างเป็นภาพที่ดูงดงามและน่าชื่นชมถ้าไม่ติดว่าเขา กําลังบีบบังคับเธอให้ปลิดชีวิตตนเองล่ะนะ

“ใครเป็นคนตั้งกฎบ้าๆแบบนี้กัน

ซาโยโกะ ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงแห่งความเคารพ ยกย่อง
“ผู้ตั้งกฏคือบรรพบุรุษของดิฉันเจ้าค่ะ นายท่าน ท่านมีชื่อ ว่า คาโต้ ดันโช หรือรู้จักกันในนาม โทบิ-คาโตะ หลังจาก ผ่านยุคสงครามเซ็นโฮกุโบราณมา ท่านได้หนีมาตั้งตระกูล ใหม่ในนาม ตระกูลคาโตะเจ้าค่ะ นายท่าน ”

ธันวา พลันเผยรอยยิ้มชั่วร้ายที่มุมปากก่อนที่เขาจะ พยายามระงับความตื่นเต้นในใจแล้วถามออกไปด้วย ใบหน้าเรียบเฉยอย่างไม่แยแส ปราศจากความเคารพ ยำเกรงต่อตระกูลของเธอ

“เธอชื่อว่าอะไร? ”

ซาโยโกะ อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ เมื่อมองไปยังใบหน้า ของธันวาที่แสดงออกมาอย่างเรียบเฉยและไม่แยแส ต่อ ตระกูลมหาอำนาจ ระดับนานาชาติของเธอ ก่อนจะคิดในใจ ผู้ชายคนนี้ไปอยู่ที่มุมไหนของขอบจักรวาลมาถึงได้ไม่รู้จัก ตระกูลคาโตะของเธอ ก่อนที่จะข่มใจตอบคำถามออกไป ด้วยความเคารพ

“ดิฉันมีชื่อว่า ซาโยโกะ คาโตะ บุตรสตรีคนเดียวของ ดัน มะ คาโตะ เจ้าของบริษัทรักษาความปลอดภัยเซนกูย่า และ กลุ่มทุนดันมะ เจ้าค่ะ นายท่าน ”
เมื่อได้รับคําตอบของ ซาโยโกะ ภายในใจของธันวา พลัน เต็มไปด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย ทั้งความกลัว ความ ตื่นเต้น ความสับสน ความขื่นขม ผสมปนเปกันไป ก่อนที่ เขาจะยอมรับเธอ

“เอาแหละฉันยอมรับเธอ ซาโยโกะ อ่านเจ้านี่แล้วก็เซ็น ลงชื่อในสัญญา ไปซะ”

ธันวา ส่งหนังสือสัญญาอิเล็กทรอนิกสให้กับซาโยโกะ ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ มันคือหนังสือสัญญา เวอร์ชอป สุดเส้น ขอบฟ้า ซึ่งข้อกําหนดต่างๆและผลประโยชน์ที่ได้รับในข้อ สัญญาเหมือนกับลอเอลทุกประการ ซาโยโกะ รับมันมา ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก

“เจ้าค่ะ นายท่าน ”

ซาโยโกะ เมื่อได้อ่านมันจบลงเธอถึงกับเบิกตากว้าง ด้วยความประหลาดใจ ในข้อกำหนดต่างๆที่ได้รับและผล ประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วม เวอร์ชอป สุดเส้นขอบฟ้า มันไม่มีจุดใดๆเลยที่ แสดงถึงการเอารัดเอาเปรียบเธอเลย แม้แต่น้อย ซึ่งมันตรงข้ามกับสิ่งที่เธอคิด สัญญาฉบับนี้ได้ มอบผลประโยชน์มากมายให้กับเธอด้วยซ้ำ ซาโยโกะ ยิ้ม ออกมาด้วยความปิติยินดี ก่อนจะลงนามลงไปด้วยความ คาดหวัง เธอไม่คิดเลยว่า ตัวเธอจะเจอกับ เจ้านายที่แสนดีขนาดนี้ เมื่อซาโยโกะ ลงนาม ในสัญญาเสร็จสิ้น ธันวาก็ส่งมอบไอเทม จำนวนมากให้กับ เธอ อาวุธอุปกรณ์ระดับแรร์และในระดับทั่วไป ถึง 9 ชิ้น ประกอบไปด้วย ดาบ หมวก ชุดเกราะถุงมือ ปลอกแขน กางเกง รองเท้า และ เครื่องประดับ พร้อมกับโพชั่นนานา ชนิดและเงินอีก 1 เหรียญทอง ก่อนที่ธันวาจะให้เธอสวม ใส่มันทั้งหมดแล้วกล่าวว่า

“เธอกลายเป็นครอบครัวเดียวกันกับฉันแล้วนะซาโยโกะ ต่อไปนี้ให้เรียกฉันว่า ผู้บัญชาการหรือหัวหน้าก็ตามสะดวก เลยแล้วแต่เธอ ต้องการ”

ซาโยโกะ ตอบกลับอย่างสดใสเผยรอยยิ้มขี้เล่น รอยยิ้ม ของเธอได้เปลี่ยนสุสานที่น่าหวาดกลัวให้กลายเป็นแดน สวรรค์ราวกับมีหมู่นกร้องขับขานประสานเสียงสายลมพัด พา นํากลิ่นเกสรดอกไม้ล่องลอยไปในอากาศบรรยากาศ รื่นรมย์น่าหลงไหล

โลกทั้งใบเปลี่ยนไปเพราะรอยยิ้มไร้เดียงสาของสาวน้อย

“เจ้าค่ะ ผู้บัญชาการ
ธันวาตื่นขึ้นจากภวังค์ก่อนที่จะดึงซาโยโกะเข้าปา

ซาโยโกะตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นเลเวลของธันวา ที่มี มากถึง 8 เลเวล ขณะเธอมีเลเวลอยู่ที่ 3 เพียงแค่เท่านั้น

“เอาล่ะเรามีงานต้องไปจัดการอีกนิดหน่อยเธอพร้อม ไหม?”

“พร้อมเจ้าค่ะ ผู้บัญชาการ แต่เราจะไปที่ไหนกันเหรอ? เจ้าคะ?”

ธันวาพลันยกดาบขึ้นมาขณะชี้ปลายดาบของตน ไป ยังหนทางข้างหน้าซึ่งเป็นป่าหนาทึบ มีหมอกสีเทาลอย ปกคลุมไปทั่วผืนป่าซึ่งชวนให้บรรยากาศน่าขนลุก ก่อนที่ เขาจะตอบคําถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“ป่าต้องสาปล่าคูเกอร์ ”

ซาโยโกะ พลันแสดงออกถึงอาการ สับสนและหวาดกลัว ขึ้นมาในทันทีเมื่อได้รับคำตอบที่เป็นปริศนาก่อนที่ธันวาจะ หัวเราะเบาๆ ออกมา แล้ววิ่งกระโจนเข้าหา ฝูงมอนสเตอร์ ข้างหน้าอย่างไม่แยแส ต่อตัวตนของพวกมัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ