การประกาศความรัก

ตอนที่3



ตอนที่3

กว่าที่เจ้าของบ้านจะขี่รถกลับมาที่บ้านอีกครั้งกลีบบัวก็นั่ง ตบยุงซะจนมือชา ทั้งแขนและขามีแต่รอยยุงกัดเต็มไปหมด

“โทษที ลืม”

พูดเสียงเรียบแล้วเดินนำไปที่รถ กลีบบัวทำหน้ามุ่ยแล้ว รีบคว้ากระเป๋าเดินตามไปทันทีก่อนที่เลือดเธอจะหมดตัว

ถ้าปล่อยให้เธออยู่ที่นี่อีกซักพักมีหวังฝูงยังคงร่วมแรง ร่วมใจกันบินมายกตัวเธอเข้าไปกินในดงกล้วยแน่ๆ

“มาแล้วหรือลูก”

“สวัสดีค่ะคุณย่า สวัสดีค่ะคุณป้า

คุณย่าอรุณรุ่งยิ้มให้หลานสาวของเพื่อนพร้อมกับเข้าไป กอดด้วยความดีใจ

“ไม่เจอกันไม่กี่ปี นั่งหนูน้อยของย่าโตเป็นสาวแล้วสวยซะ

ด้วย..”

ลูบหัวเด็กสาวอย่างรักใคร่จากนั้นสำรวจตามเนื้อตัวของ ว่าที่หลานสะใภ้อย่างพินิจพิจารณา
” ตายแล้วตุ่มแดงๆนี่คืออะไร หนูแพ้อะไรรึเปล่าลูก! ”

“เอ่อ ยุงกัดน่ะค่ะ”

คุณย่าอรุณรุ่งตวัดสายตาไปมองหลานชายที่รีบเดินขึ้น

บันไดไป

สายหมอก จะไปไหนลงมานี่ซิ

ขายาวๆที่กำลังก้าวขึ้นบันไดชะงัก แล้วหันมาเลิกคิ้วขึ้น พลางมองหน้าผู้เป็นย่า จากนั้นจึงเดินลงมาแต่โดยดี

” แม่ราตรีพาหลานขึ้นไปบนเรือนก่อนไป ไปรอย่าอยู่ข้าง บนนะลูกนะเดี๋ยวย่าตามขึ้นไป

“ค่ะ”

เมื่อลูกสาวพาว่าที่หลานสะใภ้ขึ้นไปบนเรือนแล้ว คุณย่า อรุณรุ่งก็หันกลับมามองหน้าหลานชาย เชิงตำหนิก่อนจะเดิน นำไปที่หลังบ้าน

“ทำไมน้องโดนยุงกัดขนาดนั้น”

เปิดประเด็นถามเสียงเรียบ

เลือดสาวชาวกรุงมันคงหวานมั้งย่า ยุงบ้านนอกเลย

ชอบ”

” แล้วข้า ให้เอ็งไปรับน้องตั้งแต่กี่โมง

” บ่ายโมง”
“แล้วพาน้องไปอยู่ไหนมา

“บ้าน”

“แล้วเอ็งล่ะ”

“สวน”

เท่านั้นแหละมือที่เหี่ยวย่นตามกาลเวลาก็ยื่นไปถึงหูหลาน ชายแล้วบิดเต็มแรงที่มี

เหมันต์ทำหน้าเหยเกเอียงหูลงตามมือของผู้เป็นย่าแต่ก็ ไม่ได้ส่งเสียงออกมาเพราะรู้ว่าย่ากำลังโมโห

พาน้องไปตากยุงบ้านตัวเองได้ยังไง ทำไมไม่พามาส่ง บ้านช้าก่อนห้ะ! ”

หูขาด ย่าหูๆอูยยยย…..

ในจังหวะสุดท้ายที่ผู้เป็นย่าปล่อยเหมันต์ถึงกับยกมือจับหู ตัวเองด้วยความปวดหนึบ

ดีที่ยังติดหัวอยู่ นึกว่าหลุดติดมือเหี่ยวไปแล้ว!

“ข้าถาม!”

“ก็ขี้เกียจขับรถวนไปวนมาก็เลยให้เขาไปรอที่บ้านก่อน กะว่าจะเข้าสวนแป๊บเดียวแต่รถที่มารับกล้วยเขามารับช้าก็

เลย..

” ไม่ต้องมาแก้ตัว! แล้วไอ้ผมเผ้ากับไอ้หนวดเคราเนี่ยข้าบอกว่ายังไง หน้าตาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ทำไมชอบทำตัวเหมือน คนบ้าหลุดออกมาจากป่ากล้วย แล้วดูเสื้อผ้า ตัวที่มันไม่ขาด ไม่สกปรกนะใส่เป็นมั้ย!

ถามพลางยื่นมือไปถึงหนวดเคราแรงๆด้วยความโมโห

“ก็คนทำงานน่ะย่า ใส่เสื้อผ้าดีๆ มันก็เลอะยางกล้วย สกปรกเหมือนเดิมนั่นแหละ เสียดาย

แล้วสภาพอย่างนี้ใครเขาจะรักจะชอบลงล่ะวะ เฮอะ! ข้าก็อุตส่าห์เปิดทางให้

” ย่าก็คลุมถุงชนเลยสิ ย่าเขายกเขาให้เราแล้วไม่ใช่รึไง”

ไม่ได้ยกให้โอ๊ย แค่ฝากดูแล สภาพเอ็งเป็นซะอย่างนี้ ข้าจะไปกล้าคลุมถุงชนได้ยังไงกันวะ อย่างกับนางฟ้ากับหมา เรือน”

” อ้าว.. ”

– ไม่ต้องมาองมาอ้าวข้าพูดความจริง และถ้าน้องเป็นไข้ เลือดออกข้าจะคิดบัญชีกับเองให้หัวแบะ! ตามข้ามา

เหมันต์ทำปากขมุบขมิบบ่นตามหลังผู้เป็นย่า ก่อนจะรีบ เดินตามไปก่อนที่คุณหญิงย่าจะโมโหความดันขึ้น

เมื่อเดินขึ้นไปบนเรือนเจ้าของบ้านก็เดินเข้าไปนั่งใกล้ว่าที่ หลานสะใภ้ จากนั้นลูบไล้ตามผิวเรียบเนียนที่มีแต่จุดแดงๆ เต็มไปหมด
โถแม่คุณของย่า ผิวสวยๆเสียหมดเลย ไปอาบน้ำมา

ให้ยาทายาให้ก่อนดีมั้ยลูก หรือจะกินข้าวก่อน หวรึยัง เหมันต์เบะปากเมื่อได้ยินเสียงสองเสียงสามของผู้เป็นย่า

กับหลานตัวเองแทบจะกินหัวกันอยู่แล้ว!

“ยังไม่หิวเท่าไหร่ค่ะ”

“งั้นอาบน้ำทายาก่อนเนาะลูกเนาะ แม่ราตรีพาหลานเอา ของไปเก็บในห้องไป แล้วค่อยลงไปอาบน้ำ ”

เหมันต์ปรายตามองผู้เป็นป้าที่พาว่าที่เมียเขาเดินถือ กระเป๋าเข้าไปในห้องซึ่งห้องนั้นเป็นห้องของเขา

“ข้าให้น้องนอนห้องนั้นเอง เอ็งมีปัญหาอะไร ถามอย่างเอาเรื่องเมื่อเห็นหลานชายมองตาม

“เปล่า”

” ดี ข้าวของเอ็งขาขนลงไปไว้ข้างล่างหมดแล้ว อยาก ได้อะไรก็เอาไปไว้บ้านเอง ถ้าไม่เอาข้าจะให้ให้ป้าเอ็งเผาทิ้ง ให้หมด”

” นี่ย่าไล่ผมออกจากบ้านเหรอ”

“เออ มีปัญหาอะไรอีก

“ไม่มี ใครจะกล้ามี… ”

ตอบเสียงสูงแล้วเดินหนีไปนอนดูทีวีอีกฝั่งนึงของตัวบ้าน
และเมื่อท้องเริ่มจะร้องประท้วงเพราะเลยเวลากินข้าวมา นานแล้ว คนใช้แรงงานอย่างเหมันต์จึงลุกขึ้นและมองจ้องคน สามคนที่ทายาให้กันอยู่ แต่ดูเหมือนว่าผู้เป็นย่ากับป้าคงไม่ เห็นเพราะนั่งหันหลังให้เขา มีเพียงเด็กสาวคนนั้นที่เงยหน้า มองมาที่เขาพอดี

ตาสบตากันโดยบังเอิญและก็เป็นเธอที่หลบสายตาเขา ก่อน ดวงตาคู่คมได้โอกาสจึงมองสำรวจใบหน้าหวาน คิ้วเข้ม โก่งโค้งรับกับดวงตาเป็นทรงสวย ดวงตากลมโตขนตางอน ยาวเป็นแพ ปากนิดจมูกหน่อย ใบหน้าเนียนรูปไข่บวกกับผม ยาวดำขลับที่ห้อมล้อมใบหน้าเนียนไว้อย่างลงตัว

คุณย่าอรุณรุ่งหันมามองด้านหลังเมื่อรู้สึกว่าหลานสาวจะ ขยับตัวยุกยิกแล้วก็ก้มหน้าก้มตาผิดปกติ

เหมันต์ที่กำลังมองเพลินๆถึงกับสะดุ้งเมื่อเห็นว่าผู้เป็นย่าม

องเขาอยู่ จากนั้นจึงทำทีล้มตัวลงนอนดูทีวีเหมือนเดิม

“เสร็จแล้ว ยังเจ็บหรือคันอยู่มั้ยลูก ราตรีถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ไม่ค่ะคุณป้า เย็นๆไปทั้งตัวเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ

ยกมือไหว้ทั้งยาและก็ป้า จากนั้นจึงไปล้างมือและลงไป ช่วยป้าราตรียกสำรับขึ้นมาบนเรือน

ระหว่างที่นั่งล้อมวงกินข้าวกลีบบัวก็รู้สึกเกร็งๆคนข้างๆ เพราะเธอได้นั่งใกล้เขา และก็เหมือนคุณย่าและป้าราตรีจะรู้จึงตักนั่นตกให้เธอไม่หยุดจนหลานชายมองหน้า * ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เห็นย่ากับป้าตักให้ผมบ้าง

คนเป็นย่าค้อนขวับ แล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อโดยที่ไม่ ได้สนใจหลานชายเลยซักนิดรวมถึงผู้เป็นป้าด้วย

“อ้อ หนูบัว นี่พี่หมอกนะ หลานชายย่า ย่าลืมแนะนำ

“ค่ะ”

“นี่หนูบัวนะ.. ”

ม่ได้อยากรู้จัก”

ถ้าอยู่กันแค่คนในครอบครัวก็อยากจะเอาฝาหม้อตีหัวมัน

คุณย่าอรุณรุ่งได้แต่คิดในใจแล้วก็ยิ้มเจือนให้ว่าที่หลาน

นัก!

สะใภ้

“อย่าไปถือสาพี่เขาเลยนะลูก ปกติเขาก็ไม่ค่อยพูดหรอก กลัวหมาในปากออกมาเพ่นพ่านอย่างตอนนี้น่ะ”

กลีบบัวถึงกับหลุดขำ แต่ก็ต้องรีบเก็บอาการเพราะคน ข้างๆหันมามองเธอตาขวาง

“ผมหลานย่ามั้ยถามจริง หรือย่าเก็บผมมาเลี้ยง

“ใช่ เก็บมาจากกองขยะท้ายตลาดนัดนั่นน่ะ เห็นนอนดูด นมหมาอยู่สงสารก็เลยหิ้วมาเลี้ยง ไม่เชื่อถามป้าเอ็งดูสิ”
เหมันต์ท่าปากขมุบขมิบตอบโต้ผู้เป็นย่า ก่อนจะรีบกิน ข้าวแล้วกลับไปนอนที่บ้านของตัวเอง

“เดินทางเหนื่อยมั้ยลูก ถ้าย่าแข็งแรงเดินทางไกลได้ว่าจะ ไปรับหนูด้วยตัวเองเลยนะเนี่ย”

“ไม่เป็นไรค่ะคุณย่า นั่งรถทัวร์สบายมากค่ะไม่ได้ลำบาก ย่าอรุณรุ่งยิ้มและลูบผมหลานสาวของเพื่อนรักด้วยความ

อะไร”

เอ็นดู

“เห็นหน้าหนูแล้วก็คิดถึงยายจำปานะ ตอนสาวๆนะ เขา

สวยเหมือนหนูเลยล่ะ”

บัวก็คิดถึงคุณย่าค่ะ ขอโทษนะคะที่ไม่ได้ส่งข่าวตอนที่

คุณย่าเสีย ฉุกละหุกบัวทำอะไรไม่ถูกน่ะค่ะ”

” ไม่เป็นไรๆลูก ย่าเข้าใจ ย่าก็ระลึกถึงเขาทุกวันนั่นแหละ แล้วจดหมายที่ส่งมาหาย่าน่ะ หนูเป็นคนส่งใช่มั้ย

ใช่ค่ะ คุณย่าท่านให้บัวไว้ก่อนที่ท่านจะเสีย ท่านบอก ว่าถ้าท่านไม่อยู่แล้วให้ส่งให้ท่านหน่อยนะค่ะ ”

ย่าอรุณรุ่งยิ้มอ่อน

” แล้วหนูรู้รึเปล่าว่า ในจดหมายข่าของหนูเขียนมาว่ายังไง”
” ไม่รู้ค่ะ”

ยาของหนูเขาฝากฝั่งหนูไว้กับย่า ยายจำปาน่ะเขาเป็น ห่วงหนูมากเลยนะ ย่าดีใจที่เขายังคิดถึงว่าเป็นคนแรก ถ้าทาง นั้นหนูไม่มีใคร ย้ายมาอยู่กับย่านะลูกนะ มาเป็นหลานสาวของ ย่า”

“หนู.. เกรงใจน่ะค่ะ”

ย่าขอถามตรงๆนะลูก หนูมีคนรักแล้วหรือยัง

“ยังค่ะ”

ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องเกรงใจเลย หลานยายจําปาเพื่อน รักของย่าก็เหมือนหลานย่า ยารักหนู ถึงแม้ว่าเราจะไม่ค่อยได้ เจอกันย่าก็รักหนูเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ หนูอย่าเกรงใจย่าเลยนะ ลูก อยู่ที่นี่สบายใจได้ ย่าก็อยู่กับแม่ราตรีเขาแค่สองคนก็เหงา ตามประสาคนแก่ มีหลานชายคนเดียวเขาก็ไม่ค่อยมาหา หรอก อาทิตย์นึงมาหนสองหน อย่าหาว่าย่าพูดอย่างนั้นอย่าง นี้เลยนะ ถ้าหนูอยู่ทางนั้นคนเดียวย่าก็เป็นห่วง และย่าก็เชื่อว่า ยายจำปาคงห่วงหนูเหมือนกันไม่อย่างนั้นคงไม่เขียนจดหมาย มาหาย่า ตอนนั้นเขาคงรู้ว่าเขาอยู่กับหนูได้ไม่นาน

คนแก่พูดโน้มน้าวจิตใจพลางลอบสังเกตุปฏิกิริยาของ เด็กสาวอย่างลุ้นระทึก ในคำตอบ

แล้ว… หนูจะทำงานอะไรล่ะคะ ”

” ไม่ต้องห่วงๆ ย่ามีงานให้หนูทำแน่นอนสบายใจได้ ไม่ได้เลิกดึกด้วย ย่าให้เวลาหนูคิดก่อนก็ได้ลูก ถ้าหนูไม่อยากอยู่ ที่นี่ย่าก็ไม่บังคับ ย่าเคารพการตัดสินใจของหนูนะ มีอะไรก็ บอกก็คุยกับย่าได้ทุกเรื่องห้ามเกรงใจอะไรทั้งนั้น ”

ขอบคุณนะคะ”

สองสาวต่างวัยสวมกอดกันจากนั้นก็พูดคุยถามไถ่สาร ทุกข์สุกดิบกันพอประมาณผู้เป็นเจ้าของบ้านจึงเดินกลับไปนอน ที่ห้องของตัวเอง

หลานชายฉันจะมีวาสนาได้เคียงคู่กับหนูบัวไหมหนอ…

#แม่นมากบอกเลออออ…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ