HH 6
ได้ยินค่าตอบแบบกวนๆ ในหัวเราะคิกคักท่าทางของเธอเวลา หัวเราะดูน่ารักและสดใสในวัยแรกแย้ม พัฒอยากได้เธอ มาครอบครองมากยิ่งขึ้น
ปากแบบนี้ระวังตัวหน่อยก็ดีนะ อาจจะโดนกระทืบเอา ได้พัฒกล่าวด้วยน้ำเสียงดุร้ายและข่มขู่อย่างเปิดเผย
รินได้ยินแบบนั้นคิ้วขมวดเป็นปมและพูดอย่างไม่พอใจ “หากคุณคิดจะทำร้ายลูกทีมของฉัน ฉันขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า เขาอยู่ในการคุ้มครองของฉัน”
ผมไม่กล้าทำอะไรเขาต่อหน้าคุณหรอกครับ แต่ลับหลัง ล่ะก็ไม่แน่…” พัฒไม่สนใจภาพพจน์และยังข่มขู่ต่อไป เขาเกิด มาในครอบครัวใหญ่เหมือนกัน เขาไม่เคยกลัวใครหน้าไหน และเคยทำเรื่องเลวร้ายมามาก เขาเชื่อว่าต่อให้ว่าเขาอยู่ เบื้องหลังการทำให้ใจพิการเธอก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ เขา ไม่เชื่อว่าครอบครัวของเธอจะยอมเสียเลือดเสียเนื้อเพื่อคนที่ ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า
“นาย!!” ในเริ่มทนไม่ไหวกับการซึ่งๆ หน้าเหมือนว่าตัว ตนของเธอไม่มีความหมาย หากแม้แต่ลูกทีมคนเดียวของเธอ ยังช่วยไม่ได้ ต่อไปก็คงไม่มีใครอยากมาเข้าร่วมหน่วยของเธอ แน่
“ใจเย็นๆ สิริน ยิ่งพูดกับคนแบบนี้ต่อไปก็ยิ่งทำให้ ประสาทเสีย วันนี้ผมมาขอให้คุณพาผมเดินเที่ยวในเมือง หน่อย ผมเพิ่งมาถึงเลยยังไม่ได้เดินเที่ยวสักเท่าไร” โจกล่าว ยิ้มๆและยักคิ้วให้พัฒ
ในเข้าใจว่า โจกำลังช่วยตัวเองให้ออกจาสถานการณ์นี้จึง ตอบตกลงโดยไม่ลังเล “เข้าใจแล้วค่ะ เดี๋ยววันนี้ฉันจะเป็นคน พาทัวร์เองนะคะ”
ทั้งคู่จึงเดินไปด้วยกันโดยไม่สนใจพัฒอีก เขามองทั้งคู่ ด้วยแววตาต้องการฆ่า แน่นอนว่าเขาไม่กล้าทำอะไรในแต่ถ้า เป็นโจเขากล้าทําแน่นอน จากนั้นเขาโทรไปหาใครบางคน
” ฉันมีงานให้แก่ท่า ฉันให้ห้าแสนแต่ต้องทำให้มันหาย ไปจากโลก” จากนั้นพัฒก็บอกรายละเอียดให้คนในสายฟัง
หลังจากที่ดินและโจเดินออกมานอกองค์กรโจก็กล่าวถาม “เขาเป็นใครนั้นเหรอ?”
ในได้ยินคำถามก็รู้สึกรังเกียจที่ต้องนึกถึงใบหน้าของพัฒ “เขาชื่อพัฒเป็นลูกชายของพลโทสิน
“ส่วนใหญ่แล้วบุคคลที่มีคนใหญ่คนโตหนุนหลังมักจะ เป็นแบบนี้ทุกคนรึเปล่า?”
รินรู้สึกละอายใจในฐานะที่เป็นลูกหลานของคนใหญ่คน โตเหมือนกันเมื่อได้ยินคำถามตรงไปตรงมาของโจ “คือฉันก็ ไม่รู้เหมือนกัน”
เห็นท่าทางกระอักกระอ่วนของรินโจก็ยิ้มขึ้นมา “แต่ผมคิด ว่าไม่หรอก เพราะผมไม่เห็นว่าในจะเหมือนคนเหล่านั้นสักนิด
ได้ยินคำพูดของโจ ในหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศ ในใจ คิดว่านี่เขากำลังจีบเธอหรือเปล่า
“วันนี้ก็รบกวนด้วยนะครับ” โจกล่าวดึงสติที่กำลังฟุ้งซ่าน
ของริน
“คะ…ค่ะ”
รินพาโจเดินเที่ยวไปรอบเมือง บริเวณที่พวกเขาไปอยู่ รอบๆองค์กรไม่ได้ไปไหนไกล ในแนะนำสถานที่ต่างๆ ให้ใจฟัง บางครั้งก็เล่าถึงประวัติของสถานที่เก่าแก่ว่ามีความเป็นมา อย่างไร โจเองก็ตั้งใจฟังอย่างดี ไม่ว่าเผ่าพันธุ์ไหนก็มีสถานที่ เก่าแก่กันทั้งนั้นและพวกเขาก็จะปกป้องมันด้วยชีวิต
“ไปทานข้าวกันเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง” เมื่อเห็นว่า เที่ยงแล้วเธอก็กล่าวชวนใจที่กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
“โอ้ดีเลยครับ ในเมื่อมีคนเลี้ยงเขาก็ไม่ปฏิเสธ รินพาโจไปทานข้าวที่ภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง เขาสั่งหลาย
อย่างมากินโดยไม่เกรงใจรินแม้แต่น้อย
“โจมาจากไหนเหรอคะ?” ในเอ่ยถามเพื่อทำลายความ
เงียบและเธอเองก็อยากรู้จักโจมากกว่านี้ ในเมื่อจากนี้ไปเขาจะ ต้องอยู่กับเธอไปอีกนานก็ควรจะสนิทกันเข้าไว้
“ผมเป็นเด็กกำพร้าน่ะ ผมก็ไปๆมาๆหลายที่เพื่อหาที่ซุกหัวนอนและหาของกิน คุณเชื่อไหมล่ะว่าตอนที่ผมยังเด็กผมมัก จะขโมยของเพื่อประทังชีวิต แต่พอเริ่มโตขึ้นมาอีกผมก็ทิ้งนิสัย นั้นไปและหันมาทำงาน” โจแต่งเรื่องจากหนังสือบางเล่มที่เขา เคยอ่าน
ในน้ำตาซึมเล็กน้อย ตอนที่โจเล่าเธอก็เปรียบเทียบกับตัว เองตอนเด็ก เธอนั้นอยู่สุขสบายไม่ต้องกังวลเรื่องปากท้องและ ที่ซุกหัวนอนเหมือนโจ เธอใช้ชีวิตเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยอยาก ได้อะไรก็มีคนเอามาให้และคอยเอาใจ เธอกำลังคิดว่าถ้าเป็น เธอที่มีชีวิตเหมือนโจจะเป็นยังไง? เธอรู้สึกนับถือที่โจสามารถ มีชีวิตรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้
“อะไรกันถึงกับน้ำตาซึมเลยเหรอ” โจไม่คาดคิดว่าเรื่องที่ ตนเองแต่งขึ้นมาจะทำให้หญิงสาวร้องไห้ได้
“โจคงมีชีวิตที่ลำบากมากเลยนะคะ”
โจนึกย้อนกลับไปในตอนที่เขาต้องดิ้นรนต่อสู้และฝึกฝน ทุกครั้งที่ออกไปในอวกาศเขาไม่เคยได้หลับสนิทสักครั้ง
“ใช่แล้วล่ะ” โจพยักหน้า
“โจไม่ต้องกังวลนะคะ ฉันจะใช้ทุกอย่างเพื่อปกป้องคุณ เอง”ริมกล่าวด้วยความจริงจัง
“จากคนซื่อพัฒน่ะเหรอ?” โจกล่าวยิ้มๆ
ในเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองพูดอะไรกำกวมก็หน้าแดงแล้วพยัก
หน้าเหมือนไก่จิก “ใช่แล้วค่ะ”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอกครับ ผมว่าน่าจะห่วงเรื่องหาคน เข้าหน่วยดีกว่านะ” โจพูดไปหัวเราะไป
“อย่าแกล้งกันสิคะ ใจก็น่าจะรู้นะคะว่าตอนนี้คนแทบ ทั้งหมดมีหน่วยย่อยของตัวเองแล้ว แล้วฉันจะไปหาใครเข้า ร่วมได้อีก” ในถอนหายใจออกมา สองสามวันนี้เธอพยายาม อย่างหนักเพื่อชวนคนเข้าหน่วยย่อย แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมถึงไม่มีคนเข้าร่วมหน่วยของเธอ แม้ว่าเธอจะมั่นใจว่า คนๆนั้นยังไม่มีหน่วยแต่ก็ไม่ยอมเข้าร่วมกับเธอและบอกปัดว่า ตนเองมีหน่วยแล้ว
“ไม่ต้องกังวลไปถึงจะมีแค่เราสองคนตอนนี้ ไม่แน่ว่าใน ภายหน้าอาจมีคนมาเข้าร่วมหน่วยของเราอีก” โจกล่าวแต่เขา ไม่ได้พูดถึงว่าภายหน้าจะเป็นเผ่าพันธุ์อื่นที่เข้าร่วมหน่วย
เห็นสีหน้ากังวลของรินโจก็เปลี่ยนไปถามอย่างอื่น “ตอนนี้ รินรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องอวกาศ?”
ในครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า “ฉันเองก็รู้อะไรไม่มาก หรอกค่ะ แต่ฉันมีบางอย่างอยากจะบอกแต่ต้องขอให้คุณเก็บ เป็นความลับนะคะ
“แน่นอนครับ”
“ตอนนี้มนุษย์เราได้เข้าร่วมกับสหพันธ์กาแลคซี่ที่รวม หลายเผ่าพันธุ์เข้าไว้ด้วยกันและนอกจากนี้ฉันยังรู้เล็กน้อยอีก ว่ามีศัตรูที่น่ากลัวอยู่ด้านนอกนั่น” ประโยคแรกเธอกล่าวด้วย ความตื่นเต้นส่วนประโยคหลังเธอกล่าวอย่างกังวล
แล้วรู้ไหมครับว่าศัตรูที่ว่าเป็นใคร?
“ไม่รู้เลยค่ะ คุณพ่อเองก็ไม่ยอมบอกอะไรเลย” เธอส่าย หน้าและหน้าทิ้งตึงที่พ่อเธอไม่ยอมบอกอะไร
โจถอนหายใจออกมา ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามีไม่กี่คนที่รู้เรื่อง สหพันธ์แต่ก็คงจะอีกไม่นานก่อนที่พวกเขาจะประกาศให้ทุกคน รู้และเรื่องศัตรูคงเห็นว่ายังไม่รู้อะไรมากนักจึงยังไม่ได้บอกแก่ ลูกหลาน และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะมนุษย์เพิ่งก้าวสู่ยุค ใหม่ พวกเขาเลยยังไม่เคยเจอศัตรูว่าน่ากลัวแค่ไหน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ