High Human

HH1



HH1

“เฮโจ ฉันมีข่าวดีมาบอกนายนะ” มนุษย์ตัวเขียวเดินเข้ามา ด้วยท่าทางลึกลับ

ชายหนุ่มที่ชื่อโจซึ่งกำลังสืบหลับเงยหน้าขึ้นมองด้วย ความเบื่อหน่าย “เพื่อนตัวเขียว อย่าบอกฉันนะว่าโคฟีลูกรัก ของนายกำลังตั้งท้อง?”

“ขอร้องล่ะ ฉันบอกแล้วว่าชื่อคายเฟอร์ เลิกเรียกฉันว่า ตัวเขียวได้แล้วและอีกอย่างโคที่มันเป็นตัวผู้โว้ย” มนุษย์ตัว เขียวจ้องมองเพื่อนมนุษย์แล้วรู้สึกอยากกระโดดเข้าไปซัดปาก นั่นสักทีแต่รู้ดีว่าตัวเองไม่ได้ จะโดนซัดกลับมาแทนมากกว่า

“แล้วมีเรื่องอะไรล่ะ?” เห็นท่าทางแปลกๆของเพื่อนต่าง เผ่าพันธุ์ก็อดรู้สึกสงสัยไม่ได้

“ทีที อย่าตกใจกับสิ่งที่ฉันจะบอกแล้วกัน…ตอนนี้เผ่าพันธุ์ มนุษย์เดินทางข้ามดวงดาวได้แล้วและได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ของสหพันธ์กาแลคซี่เรียบร้อย” คายเฟอร์คาดหวังที่จะเห็น ท่าทางดีใจของเพื่อนมนุษย์แต่น่าเศร้าไม่มีอาการใดๆ แสดงออกมา

“อ้อเหรอ งั้นฉันขอสืบต่อล่ะนะ” ใจทำท่าจะหลับอีกครั้ง

“เฮ้ยๆ ไม่ดีใจหรือตื่นเต้นอะไรเลยเหรอ? นั่นเผ่าพันธุ์ของ นายนะและมันหมายความว่านายสามารถกลับตาวบ้านเกิดได้แล้ว” คายเฟอร์รู้สึกตกใจที่เห็นเพื่อนซี้ไม่แยแสต่อเผ่าพันธุ์ตัว

เอง

แล้วไง? ฉันอยู่ที่นี่มายี่สิบปีและที่นั่นก็ไม่มีคนรู้จักแม้แต่ พ่อแม่เองก็ไม่รู้ว่ายังอยู่หรือไม่และไม่รู้ว่าพวกเขาจะจดจำฉัน ได้รึเปล่าก็ไม่รู้และฉันเองก็ไม่มีความทรงจำเรื่องพวกนี้ ฉันอยู่ ที่นี่ดีกว่าเยอะ” สำหรับโจแล้วดาวโลกไม่มีอะไรให้จดจำ เขา อยู่ที่นี่มาตั้งแต่ยังจำความได้และใช้ชีวิตจนไต่เต้าขึ้นมาเป็น หัวหน้าหน่วยรบพิเศษ ถ้าเขากลับไปแล้วจะทำอะไรได้ล่ะ?

“คุณต้องกลับ” ก่อนที่ทั้งคู่จะโต้เถียงกันต่อก็มีเสียงดังขึ้น มาพร้อมกับร่างใหญ่เดินเข้ามาร่างกายของเขาเต็มไปด้วยมัด กล้ามและมีสีผิวฟ้าอ่อน

โจและคายเฟอร์เห็นคนนั้นต่างก็ยืนขึ้นและทำความ เคารพแบบทหารพร้อมตะโกน “พลเอกไซน๊อต!!!

“หมายความว่ายังไงที่ว่าผมต้องกลับ?” โจงุนงงและรู้สึก ไม่ดีกับข่าวที่เขาจะได้รับจากปากของพลเอกไชน็อต

“ตามปกติแล้วถ้าเผ่าพันธุ์ของคุณยังไม่สามารถเดินทาง ข้ามดวงดาวได้คุณก็สามารถอยู่ที่นี่ได้ต่อไปเรื่อยๆ แต่ตอนนี้ เปลี่ยนไปแล้ว ในอนาคตเผ่าพันธุ์ของคุณจะเข้าร่วมสงคราม กับพวกเรา” ไซ อเอ่ยเสียงราบเรียบ

“แล้วมันเกี่ยวยังไงกับผม?” โจสับสนกับคำพูดของ

“เกี่ยวมากเลยล่ะ ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งและได้รู้ความลับมากมายรวมถึงการทำสงครามกับศัตรูนับครั้งไม่ถ้วนนี้จะเป็น ประโยชน์ต่อเผ่าพันธุ์ของนายมากยิ่งขึ้น ไซน๊อตกล่าว

“ถึงไม่มีผมพวกเขาก็คงเรียนรู้ได้และสามารถต่อกรกับ ศัตรูได้เอง ไม่เห็นจําเป็นต้องมีผมเลยนี่” ใจไม่เข้าใจจริงๆ

“ถ้าหากในอนาคตพวกเขาได้รับรู้ว่ามีมนุษย์คนหนึ่งมา อยู่กับพวกเราเป็นเวลายี่สิบปีจะเกิดอะไรขึ้น? พวกเขาต้องคิด ว่าพวกเราแอบไปดาวของพวกเขาและจับมนุษย์มา นี่จะเป็น ปัญหาใหญ่เลยทีเดียวถ้าพวกเขาคิดว่าสหพันธุ์กาแลคซี่ไม่มี ความจริงใจและทำให้เกิดข้อบาดหมางกัน การร่วมมือกันคง เป็นได้แค่ฝันดีไม่ดีอาจทำสงครามกันเอง” ไชน็อตอธิบาย อย่างอดทน

“นี่…” โจพูดไม่ออกหลังจากได้ฟัง มันมีเหตุผลมากทีเดียว และมีความเป็นไปได้สูงที่ทั้งสองจะทำสงครามกันเอง

เมื่อยี่สิบปีก่อน ในตอนที่โจเป็นแค่เด็กทารกวัย 6 เดือน ตอนนั้นพ่อแม่พาเขาไปเดินเล่นในห้างและบังเอิญพลัดหลงกัน โจที่คลานไปตามประสาเด็กดันไปเห็นมนุษย์ต่างดาวคนหนึ่ง กำลังเปลี่ยนร่าง ตามกฎของสหพันธ์แล้วถ้าไม่กำจัดทิ้งก็ต้อง นำตัวมา สุดท้ายใจก็อยู่ที่นี่มานานถึงยี่สิบปี

สุดท้ายเมื่อคิดถึงผลดีผลเสียแล้วเขาก็ถอนหายใจยาว แล้วพูดอย่างเซ็งๆ “เข้าใจแล้วครับพลเอกไชน็อต ผมจะกลับ ไป”

ไขน็อตยิ้มแล้วพยักหน้า “ดีแล้ว คุณอยู่ที่นี่มานานก็คงรู้ดีศัตรูน่ากลัวแค่ไหนคุณก็รู้ ถ้าต้องมาทำสงครามกับเผ่าพันธุ์ที่ ควรจะเป็นมิตรกันมันมีแต่เสียหายทั้งสองฝ่าย

“ครับ…แล้วผมต้องกลับตอนไหน?”

พรุ่งนี้ และจงจำไว้ว่าอย่าให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด ไซน์อ

ตกล่าวอย่างจริงจัง

“ผมกำลังสงสัยว่าทำไมถึงปล่อยให้ผมกลับไป?” โจถาม คำถามที่เขาสงสัยมากที่สุด การกำจัดเขาทิ้งเป็นทางเลือกที่ ง่ายกว่าการปล่อยกลับไป

“อันที่จริงมันก็มีคนเสนอวิธีกำจัดคุณอยู่นะ แต่เพราะผล งานของคุณต่างหากที่ช่วยคุณไว้ ไซน๊อตยิ้ม

“หึ ไอ้หัวปลาหมึกนั่น” โจมีคนที่ไม่เป็นมิตรด้วยใน สหพันธ์อยู่ไม่กี่คนและคนที่อยากกำจัดเขามากที่สุดก็เป็นคนที่ เขาพูดออกมา

“ฉันจะทำเป็นไม่ได้ยินแล้วกัน เตรียมตัวให้พร้อมพรุ่งนี้จะ ส่งคุณกลับไปแบบลับๆ” จากนั้นไซน๊อตก็จากไป

เพื่อนตัวเขียวที่อยู่ข้างๆไม่พูดไม่จาเป็นเวลานานก็หันมา หาโจ “เอ้เพื่อนอย่าคิดมากน่า แค่กลับไปและทำเป็นไม่รู้เรื่อง ซะก็สิ้นเรื่อง ใครจะไปรู้ได้ว่านายอยู่ที่นี่?” คายเฟอร์ปลอบ เพื่อนซี้

“เออ นายออกไปก่อนฉันจะเก็บของ โจโบกมือไล่เพื่อน ให้ออกจากห้องของเขา จากนั้นเขาก็คิดอยู่เป็นเวลานานว่าหลังจากกลับไปเขาจะทำยังไงต่อไปดี

ไม่สามารถเผยความลับของตนให้ใครรู้ได้และที่นั่นก็ไม่มี คนรู้จัก เขาควรจะเริ่มต้นยังไง

“ช่างมันแล้วกัน พอไปถึงแล้วค่อยว่ากันอีกที” โจล้มตัวลง

นอนแล้วหลับไปอีกครั้ง

วันต่อมาโจแบกกระเป๋าเสื้อผ้าสะพายหลังแล้วเดินเข้าไป

ในยานขนส่ง

“เฮโจ หวังว่าจะได้เจอนายอีกนะ” คายเฟอร์กล่าวด้วย ความคาดหวังบนไหล่มีสัตว์เลี้ยงคล้ายหนูซึ่งก็คือ โค

พวกเขาทั้งคู่เคยเป็นแค่ทหารฝึกหัดและได้ผ่านความเป็น ความตายมาด้วยกันจึงกลายมาเป็นเพื่อนซี้อย่างทุกวันนี้

“อืม แล้วเจอกัน” โจกล่าวอำลาเพื่อนตัวเขียวจากนั้นยาน ขนส่งก็พุ่งตัวออกจากยานแม่แล้วพุ่งหายไปในความมืดมิด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ