HH 4
“อะไรนะคะ?” หญิงสาวนงงเสียงพึมพำของชายหนุ่ม
“โอ้ไม่มีอะไร ว่าแต่มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ?” โจ เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
เห็นชายหนุ่มเอ่ยถามเลยพูดเชิงขอโทษ ขอโทษที่ รบกวนนะคะ พอดีว่าเห็นคุณนั่งอยู่คนเดียวเลยอยากทราบว่า ได้เข้าหน่วยไหนหรือยังคะ?”
“หน่วย?” โจงง เขาไม่รู้มาก่อนเลยว่ายังมีหน่วยอะไรอีก
ด้วยเหรอ นอกจากการเป็นทหารฝึกหัด? “คืออย่างงี้ พอได้เป็นทหารฝึกหัดแล้วจะมีหน่วยย่อยแบ่ง ออกไปอีกค่ะ อย่างเช่น นักซ่อมบำรุงยาน หน่วยนักสำรวจ
อะไรประมาณนี้น่ะค่ะ” หญิงสาวพยายามอธิบาย
“มีเรื่องแบบนี้ด้วย ไม่เห็นเมื่อวานเขาจะบอกอะไรผมเลย
ใจรู้สึกสงสัย
“พอดีคุณพ่อบอกมานะค่ะ” หญิงสาวเขินอายเมื่อเธอพูด เช่นนั้น กังวลว่าชายหนุ่มจะดูถูกหรือเปล่าที่เธอใช้อำนาจของ พ่อเพื่อรู้เรื่องภายในก่อนใคร
แต่เธอกลับคิดมากไปเพราะใจไม่สนใจเรื่องนี้แม้แต่น้อย “คุณจะมาชวนผมเข้าหน่วยของคุณเหรอ?”
“ใช่แล้วค่ะ อยากให้คุณเข้าร่วมหน่วยนักสำรวจ” หญิง
สาวยิ้ม
โจคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบตกลง “ได้ แล้วต้องทำอะไร
บ้างล่ะ”
“ตอนนี้ยังไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวหลังจากจบการรับสมัครแล้ว คุณจะได้บัตรประจำตัวจากนั้นฉันจะมาหาคุณเองค่ะ” หญิงสาว ยิ้ม เธอดีใจที่ได้คนมาเข้าร่วมหน่วยของเธอ เพราะส่วนใหญ่ แล้วลูกหลานคนอื่นๆมักจะมีญาติพี่น้องที่เป็นคนในและบอกถึง เรื่องภายในให้ฟัง ทำให้คนที่เข้ามาใหม่ถูกชักชวนให้เข้าร่วม หน่วยจนเกือบหมด
“เข้าใจแล้วครับ” โจยิ้ม
“ฉันชื่อรินนะคะ” หญิงสาวแนะนำตัว
“ผมโจครับ”
หลังจากนั้นในก็เอ่ยขอตัวลา โจมองหลังของเธอเขาไม่ คาดคิดมาก่อนเลยว่าพลังหายากอย่างพลังว่างเปล่ากลับมา อยู่ที่นี่ ด้วยพลังนี้สามารถลบตัวตนออกไปได้ทำให้แม้แต่จิต สัมผัสหรืออุปกรณ์ตรวจจับก็ไม่สามารถหาเจอ จากการพิมพ์ โดยไม่ได้ตั้งใจของเขาก็ทำให้เขารู้ว่าเธอนั้นยังไม่รู้ตัวว่า ตนเองมีพลังว่างเปล่า ตอนที่ทดสอบกับหินพลังงานคงจะมีแค่ ควันบางๆลอยออกมาบวกกับมนุษย์เพิ่งรู้เรื่องพลังเลยยังไม่ สามารถจําแนกและบอกลักษณะพลังเฉพาะอย่างพลังความว่าง เปล่าได้ สุดท้ายเขาเลยตัดสินใจเข้าร่วมหน่วยของเธอเพื่อปกป้องและให้คำแนะนำแก่เธอในภายหลัง และอีกเรื่องคือ ห้ามให้ศัตรูรู้เรื่องนี้เด็ดขาดเพราะหากรู้พวกมันจะต้องใช้ทุก อย่างเพื่อฆ่าเธอ
การรับสมัครสอบดำเนินอย่างต่อเนื่องไปอีกหนึ่งอาทิตย์ที่ จบลง ในหนึ่งอาทิตย์ใจได้เรียนรู้เกี่ยวกับผู้คนและการใช้ชีวิต บนโลก นอกจากนี้เขายังศึกษาภาษาของมนุษย์เป็นหลัก ใน ภายหน้าจะได้ไม่ต้องลำบากเอาเครื่องแปลมาติด
วันต่อมาพวกเขาก็เรียกทหารฝึกหัดทุกคนมารวมตัว อาคารประชุมพื้นที่กว้าง 150 ตารางเมตรเต็มไปด้วยเหล่า ทหารฝึกหัด บนเวทีมีคนขององค์กรโลกสมัยใหม่ยืนอยู่ คอย มองดูเหล่าทหารฝึกหัดที่กำลังมารวมตัว
ด้วยความที่ว่าเป็นสถานที่ของทหารทำให้บรรยากาศ ค่อนข้างสงบ เหมือนกับทุกคนรู้ว่าควรจะเงียบเอาไว้หากส่ง เสียงดังอาจถูกเพ่งเล็งได้
“ผมโคลเป็นหัวหน้าหน่วยทหารฝึกหัดและมีอำนาจสูงสุด ในหน่วยนี้ หากใครมีปัญหาอะไรก็มาบอกกับผมได้ และถ้า ใครก่อปัญหาก็จงเตรียมตัวรับผลที่จะตามมาให้ดี ใส่หัวไว้ ซะ!!” เสียงกังวาล ดันดังไปทั่วอาคาร โคลมองเหล่าทหาร ฝึกหัดกว่าห้าร้อยชีวิตด้วยท่าทางเคร่งขรึม
ทหารฝึกหัดไม่กล้าส่งเสียงใดๆเล็ดรอดออกมาได้แต่ยืน นิ่งเงียบคอยฟังหัวหน้าหน่วยพูด
“และนี่คือรองหัวหน้าหน่วยทั้งสองคน พวกเขาจะดูแลและสอนในเรื่องความสามารถแบบรุกและรับ” หัวหน้าหน่วยโคล กล่าวและส่งสัญญาณให้พวกเขาแนะนำตัว
“สวัสดี ผมโจเซฟรับผิดชอบสอนความสามารถสายรับ ชายอายุสามสิบปีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ผมโอสอนความสามารถสายรุก” ชายอายุสามสิบปีกล่า วอย่างเรียบง่าย
พอทั้งสองแนะนำตัวเสร็จหัวหน้าหน่วยโคลก็พูดต่อ “จาก นี้ผมจะอธิบายเรื่องความสามารถสายรุกและรับ เริ่มจากสาย รับก่อน ความสามารถสายรับคือการสนับสนุนทุกอย่างเท่าที่ เป็นไปได้อย่างเช่น การซ่อมยาน การพยาบาล การป้องกัน ยานและฐาน การขนส่งเสบียง และอื่นๆอีกมากมายที่เรียกได้ ว่าเป็นการสนับสนุนและที่สำคัญไม่จำเป็นต้องมีพลังเชิงรุกก็ สามารถเข้าร่วมได้ ใครอยากเรียนรู้การเป็นหน่วยสนับสนุน สามารถลงชื่อกับโจเซฟได้… ส่วนความสามารถสายรุกก็ตาม ชื่อของมัน ทุกอย่างที่เกี่ยวกับแนวหน้าไม่ว่าจะเป็นหน่วย ประจัญบาน หน่วยนักสำรวจ หน่วยสอดแนมและอื่นๆ สามารถ ไปขอดูรายละเอียดกับโอได้ ข้อจำกัดในเข้าร่วมสายรุกจำเป็น ต้องมีพลังเชิงรุกเท่านั้น หากใครมีพลังเชิงรุกและอยากเข้าร่วม ก็มาติดต่อกับโอได้ มีคำถามอะไรไหม?”
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครพูดอะไรโคลก็กล่าวต่อ “จากนี้จะให้ บัตรประจำตัวแก่ทุกคน จงรักษามันเอาไว้เพราะมันเป็นสิ่ง ยืนยันตัวตนและมีสิทธิพิเศษสำหรับทหารฝึกหัดอยู่” โคลส่ง สัญญาณให้คนเจ้าหน้าที่ที่เหลือจัดการจากนั้นทั้งโคลและรองหัวหน้าหน่วยทั้งสองก็จากไป
โจรอสักพักก็มีเสียงตะโกนชื่อของตนเขาจึงเดินเข้าไปรับ บัตรประจำตัว มันเป็นบัตรสีขาวในบัตรมีรูปของเขาที่ถ่ายเมื่อ ตอนทดสอบพลังเสร็จและยังมีชื่อของเขาพร้อมกับลำดับยศที่ เขียนเอาไว้ว่า “ทหารฝึกหัด
โจรู้สึกไม่ค่อยชอบใจเท่าไร ในฐานะที่เคยเป็นถึงพันเอก และมากความสามารถดันมียศทหารฝึกหัด เหมือนเป็นการ ดูถูกเขา
ทำไมฉันต้องมาอยู่ในกลุ่มของพวกกระจอกพวกนี้กัน นะ” โจทําหน้าเซ็ง
ในขณะนั้นหญิงสาวคนหนึ่งหน้าตาสวยงามกำลังมองหา ใครสักคน พอเห็นใจที่กำลังยืนบ่นพึมพำอยู่คนเดียวก็ยิ้มขึ้น มาและรีบเดินเข้าไปหา “คุณโจคะ”
โจได้ยินเสียงไพเราะคุ้นหูก็หันไปมอง “อ้าวริน
ในหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อได้ยินใจพูดเหมือนสนิทสนมแต่ สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเศร้า “ขอโทษนะคะ ฉันเพิ่งมารู้ทีหลังว่า หน่วยสำรวจต้องมีพลังเชิงรุกเท่านั้น ฉันไม่รู้ว่าคุณโจมีพลัง แบบไหน…
เห็นท่าทางเหมือนเด็กถูกจับได้ของเธอก็อดขำไม่ได้ “ตอนที่ผมและหินมันมีไฟออกมา นี่คือพลังสายไหน?
สายรุกแน่นอนค่ะ” ท่าทางเศร้าของเธอกลายเป็นมีความสุข ทำให้โจนึกถึงคำในหนังสือเล่มหนึ่งที่เขียนเอาไว้ว่า ผู้หญิงคือสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วที่สุด
เมื่อรู้ว่าตนเองดีใจออกเกินหน้าเกินตากอายขึ้นมา “คุณ โจคะ แล้วคุณจะเข้าร่วมหน่วยสำรวจไหมคะ?” เธอถามด้วย ความคาดหวัง แม้ว่าครั้งที่แล้วเขาจะบอกว่าเข้าร่วมแต่เธอก็ ถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“เข้าร่วมสีผมเคยพูดไปแล้วไม่กลับค่หรอก และอีกอย่าง เรียกผมโจเฉยๆก็พอแล้ว” โจกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ค่ะ….โจ” นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกชื่อผู้ชายห้วนๆ โดย ไม่มีคำว่าคุณ ทำให้เธอรู้สึกเป็น
เห็นท่าทางหลากหลายของริน โจไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือ ร้องไห้ดี “ นี่เธอไม่สมประกอบไง เดี๋ยวก็เศร้าเดี๋ยวก็อายเดี่ยว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ