5.ขึ้นเขาเสี่..
นอกจากนี้ การติดขวานเล่มหนึ่งไปด้วย หากเจอสัตว์ป่า หรืออะไรก็ตาม ก็อาจนำมาใช้ป้องกันตัวได้ชั่วคราว
กู้หรูเฟิงไม่เคยเห็นด้วยที่นางจะขึ้นเขามาตั้งแต่ต้ น หลิ่วเจินตอบโต้เขาด้วยการทำตามแผนที่คิดไว้ นั่นคือไม่ว่าท่านจะเห็นด้วยหรือไม่ ข้าก็จะไป ถึงอย่างไรท่านก็ขัดขวางข้าไม่ได้
ชายหนุ่มมองตามหลังผู้ที่เดินจากไป
ด้วยสีหน้าซับซ้อน
หลิ่วเจิน ไม่รู้สึกอะไรที่อีกฝ่ายนิ่งเงียบไป สำหรับตัวนางคำพูดถือเป็นการทำร้ายกันแบบหนึ่ ง หากให้กล่าวคำพูดของตนเองออกไป นางจะไม่ทำแน่ รวมไปถึงการแก้แค้นด้วย
เจ้าของร่างเดิมนี้ทำร้ายผู้อื่นมามากจริงๆ แต่ในเมื่อนางรับสืบทอดร่างนี้มาแล้ว ก็ย่อมต้องแบกรับผลกรรมที่ร่างนี้ทำไว้ด้วย
“นั่นไม่ใช่อาหลิ่วหรอกรี แล้วนี่จะไปไหนล่ะ?”
ทันทีที่หญิงสาวก้าวเท้าออกจากบ้าน ก็เจอกับภรรยาของเพื่อนบ้าน จากความทรงจำที่หลงเหลืออยู่ ดูเหมือนเจ้าของร่างเดิมจะเรียกอีกฝ่ายว่าพี่ไช่ ซึ่งสตรีผู้นี้หาใช่คนเลว แต่ก็มิใช่คนดีอะไร เจ้าของร่างเดิมมักชอบมาบ่นกับคนผู้นี้ แฉสามีตนว่าแย่แค่ไหน นางก็จะเอาเรื่องที่เพิ่งฟัง
พี่ไช่มักเออออตามอีกฝ่าย แต่พอคล้อยหลังไปเท่านั้น
มาซุบซิบกับผู้อื่นอย่างสนุกสนาน
หลิวเจินค้อมศรีษะอย่างสุภาพ “ข้าว่าจะขึ้นเขาไปลองเสี่ยงโชคดู” แม้นางไม่ชอบคนปากไม่มีหูรูดเป็นที่สุด ทว่าก็ไม่อยากก่อศัตรู เรื่องของเรื่องก็คือ นางเป็นคนเพิ่งมาใหม่ของสถานที่แห่งนี้
ริมฝีปากพี่ใช่เหยียดขึ้น “เข้าไปแค่ด้านหน้าภูเขาล่ะ อย่าได้ไปหลังเขาเป็นอันขาด ชายคนหนึ่งของบ้านสกุลหลิว ก็เข้าไปด้านหลังภูเขาเลยโดนกัดจนเสียแขนไปข้างหนึ่งเลย ชายไร้ค่าที่บ้านเจ้าน่ะ เอาแต่ออกคำสั่งให้ผู้หญิงทำงานหนักปานนี้ คนขี้โรคคนนั้น เป็นได้แค่ดอกไม้ประดับแจกันโดยแท้ หาได้มีประโยชน์อันใดไม่ คนแบบนี้ไม่ใช่ลูกผู้ชาย
ทำให้เจ้าต้องมาลำบากลำบน”
หลิ่วเจินไม่ชอบคำพูดของอีกฝ่ายเอาเสียเลย โดยเฉพาะมาพูดตอนกำลังอยู่หน้าประตูบ้าน ใครจะรู้ว่ากู้หรูเฟิงซึ่งอยู่ในบ้าน จะได้ยินชัดถ้อยชัดคำหรือไม่
หญิงสาวจึงกล่าวอธิบาย “เขาหาได้สั่งข้าให้ไป มีผู้หญิงบ้านไหนบ้าง ที่เอาแต่นั่ง ๆนอน ๆ อย่างเดียว แทนที่จะมัวมานั่งเจ่าจุกอยู่ที่บ้าน แล้วเอาแต่นินทาชาวบ้าน
มิสู้ออกไปเดินเล่นเปิดหูเปิดตาเล่า”
บางทีอาจเป็นเพราะความรู้สึกที่ยังหลงเหลืออยู่ชี่ งเจ้าของร่างเดิมมีต่อพี่ไช่
นั่นคือโง่เขลาเบาปัญญาขนานแท้
ดังนั้นแม้หลิ่วเจินจะด่ากระทบนาง
มาได้สักพักหนึ่งแล้ว
พี่ไช่ก็หาได้มีปฏิกิริยาตอบโต้อันใดไม่
กู้หรูเฟิงผู้ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเตียงในบ้าน ครานี้มีสีหน้าซับซ้อน
ผู้หญิงคนนั้นเอาแต่ตำหนิตนกับผู้อื่นอยู่เสมอ นี่เป็นครั้งแรกที่นางช่วยพูดแก้ต่างให้เขา ขณะมองดูขาตนเองที่ไม่ยอมดีขึ้นเสียที ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจ และตั้งความหวังลมๆแล้งๆต่อไป
เพราะไม่อาจเสียเวลาได้อีก
เจินจึงเก็บข้าวของ แล้วตรงขึ้นเขาต้าซานในวันนั้นเลย
นี่ไม่ใช่ยุคสมัยปัจจุบัน
ที่มีการก่อสร้างทางสัญจรบนภูเขา ดังนั้นจึงไม่ปรากฏทางเดินใด
ๆที่เป็นฝีมือมนุษย์ให้เห็น จะมีก็แต่เพียงเส้นทางขรุขระซึ่งไม่เป็นรูปเป็นร่าง
มีวัชพืชขึ้นคลุมหนาแน่น มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมไปทั่ว
ท่ามกลางบรรยากาศที่มีแต่กลิ่นสะอาดสดชื่นของ ต้นไม้ใบหญ้า กลับได้กลิ่นซากศพเน่าโชยมาจางๆในเวลาเดียว
กั
น
ซึ่งเตือนให้สำเนียกว่าพื้นที่แห่งนี้มีอันตรายนานับ ประการซ่อนตัวอยู่
ตอนหญิงสาวเข้าเขตพื้นที่ในทีแรกนางก็พอเดินฝ่าได้อยู่
เพียงแต่ทางเดินออกจะขรุขระไปสักหน่อย ยามนางไต่ขึ้นไปบนเส้นทางอันลาดชัน
บางคราก็ล้มลุกคลุกคลาน
ซ้ำบางครายังโดนหนามเกี่ยวตัวเอาบ่อยๆ
ทว่ายิ่งนางเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ
ก็ได้ยินเสียงเห่าหอนของหมาป่าดังแว่วขึ้นมาทีละ
น้อย ๆ
หลิ่วเจินรู้สึกกลัวขึ้นมานิดๆ
แต่ก็ยังบังคับขาตนเองให้ก้าวเดินไปต่อ ด้วยเพราะนางอับจนหนทางแล้ว
หุบเขาต้าซานนับเป็นพื้นที่ที่ไม่ถึงกับมีอันตรายมา กนัก ด้วยว่ามีผู้คนเข้ามาเยือนอยู่เนืองๆ หญิงสาวเดินเข้ามาเรื่อยๆ
จนถึงบัดนี้ยังไม่ปรากฏร่องรอยของกระต่ายป่าให้ เห็นเลย แต่นางก็มินึกเสียดายอันใด เพราะนางมิใช่คนที่ล่าสัตว์อะไรเป็น และต่อให้นางเจอกระต่ายเข้าจริง ก็คงวิ่งไล่ตามจับพวกมันไม่ไหวอยู่ดี
เหตุผลที่นางต้องขึ้นเขาครานี้
ก็เพราะในกาลก่อน
นางเคยเห็นเห็ดป่าจำนวนมากขึ้นอยู่บริเวณด้านห
น้าเขา
กล่าวได้ว่าเป็นความบังเอิญอันน่ายินดีโดยแท้ แต่ทว่า อาจเพราะมีผู้คนเข้ามาที่นี่มากเกินไป
ครานี้นางจึงพบเห็นเห็ดน้อยมาก
ซึ่งพวกมันขึ้นหรอมแหรมอยู่ใต้ต้นไม้ไม่กี่ต้น
ในขณะที่ด้านหลังเขานั้น ดังนั้นที่นั่นก็น่าจะมีเห็ดขึ้นเยอะกว่า หลิวเจินจึงมิได้พุ่งเป้าที่สัตว์ป่ามาตั้งแต่ทีแรก นางจะคอยมองหาแต่ผักป่า หรือไม่ก็พืชผลที่กินได้เป็นหลัก
มีต้นไม้ขึ้นหนาแน่นมากกว่า
และเพราะความชำนาญอันมีจำกัด
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ