เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน

36.เปลี่ยนบทบ..



36.เปลี่ยนบทบ..

หลิ่วเจินไม่ส่งเสียงเลยสักแอะ การพูดนั้นต้องใช้พลังงาน มหาศาล มิสู้เอาพละกำลังทั้งหมดมาใช้แย่งผ้าปูที่นอนตึกว่า อีกทั้งนางไม่มีกำลังและเวลาพอจะไปทะเลาะกับหญิงน่าเบื่อ หน่ายเช่นนี้อีกแล้ว นางอยากรีบจบปัญหาแล้วรีบกลับบ้านไป นอนพักโดยเร็ว

ใบหน้าของภรรยาผู้ใหญ่บ้านฉายแววมุ่งร้าย หน้าตานาง บิดเบี้ยวเหยเกจนคล้ายนางมารร้ายเข้าไปทุกขณะ

ตรงกันข้ามกับหลิ่วเจินที่ยามนี้ใบหน้าดูผ่อนคลายสบาย ๆ คล้ายว่านางใช้แรงไม่เต็มสิบส่วน หากเป็นแต่ก่อน ใบหน้านี้ ควรสลับกัน หลิ่วเจินควรมีใบหน้าดั่งนางมารร้าย และภรรยา ผู้ใหญ่บ้านควรมีใบหน้าสุขุมเยือกเย็น

เพียงเพราะโชคชะตาพลิกผัน หลิ่วเจินจึงไม่เป็นหลิ่วเจิน คนเดิมอีกแล้ว ร่างกายคือหลิ่วเจิน แต่เนื้อในแท้จริงได้เปลี่ยน มาเป็นตนเองแล้ว

ภรรยาผู้ใหญ่บ้านเริ่มตระหนักขึ้นเรื่อยๆว่าหลิ่วเจินคล้าย

กำลังหยอกตนเองเล่นอยู่ แต่ในสายตาของผู้อื่นคงคิดว่าพวก

นางกำลังเล่นชักกะเย่อกัน แต่ภรรยาผู้ใหญ่บ้านซึ่งอยู่ตรงนั้น

รู้ดีว่าไม่ใช่การเล่นซักกะเย่อ แต่เป็นหลิ่วเจินที่จงใจทำให้ภาพ ที่ออกมาดูคล้ายแบบนั้น พละกำลังของภรรยาผู้ใหญ่บ้านสู้หลิ่วเจินไม่ได้ ดังนั้น นางเลยใช้กลโกง นางพยายามยกขาหมายเตะหลิ่วเจิน แต่หลิ่วเจินจะยอมให้นางสมหวังได้หรือ

หญิงสาวรู้สึกว่าภรรยาผู้ใหญ่บ้านหมดแรงข้าวต้มแล้ว เพราะอีกฝ่ายทุ่มเทกำลังตั้งผ้ามาตั้งแต่เริ่มต้น หญิงสาวจึง ปล่อยมือทันใด ด้วยฤทธิ์ของแรงเฉื่อย เลยทำให้ภรรยาผู้ใหญ่ บ้านล้มหงายหลัง

พอภรรยาผู้ใหญ่บ้านลื่นล้มไปแล้ว หลิ่วเจินก็รีบคว้า ผ้าปูที่นอนอีกครา แล้วกระชากผ้าปูที่นอนอย่างแรงจนหลุด จากมือภรรยาผู้ใหญ่บ้านได้สำเร็จ

ยามที่หลิ่วเจินนึกว่าผ้าปูที่นอนมาอยู่ในมือตนเรียบร้อย แล้ว ทันใดนั้นพลันรู้สึกว่ายังมีแรงดึงผ้าปูที่นอนอยู่อีก ทีแรก หลิวเจินนึกว่าผีมาดึง พอมองไปจึงเห็นเชียงเช่ายืนยิ้มเยาะอยู่ ตรงหน้าตน

เชียงเช่ากลัดกลุ่มจริง ๆยามเห็นมารดานางกรีดร้องด้วย ความโกรธเกรี้ยว เด็กสาวจึงตระหนักได้ว่า หากนางไม่ลงมือ ทำอะไรเลย เกรงว่าจะต้องรับผลที่ตามมาเต็ม ๆ

“เฮ้อ หากจะเล่นบทอันธพาลเช่นนี้ เช่นนั้นก็มาแย่งพร้อม ๆ กันไปเลยสิ ไยต้องลำบากมาทีละคนเล่า ประเมินความ สามารถกันต่ำไปแล้ว ”

สีหน้าของเซียงเช่าย่ำแย่ขึ้นไปอีก! ผู้หญิงไร้ยางอาย! ไม่ คิดว่าจะพูดว่าตัวนางแบบนี้!

กู้หรูเฟิงสาวเท้าเดินตรงเข้ามา

เชียงเช่าแอบดีใจ เชื่อว่าพี่หรูเฟิงคงเห็นนางน่าสงสารเลยรีบเข้ามาช่วยตน

ทว่าในชั่วกระพริบตาถัดไป ใบหน้าของเด็กสาวพลันแข็ง

ค้าง

กู้ทรูเฟิงหยุดยืนอยู่ข้างกายหลิ่วเจิน ครั้นแล้วก็คว้า ผ้าปูที่นอนแย่งมาในคราวเดียว

เขารู้ว่าหลิ่วเจินมีกำลังมากกว่าเซียงเช่า แต่เขายัง ต้องการพิสูจน์ว่าเขาสามารถช่วยหลิ่วเจินได้ และอยากปกป้อง นางจากการที่นางเอาตัวเข้ามาเกลือกกลั้วในเรื่องเหล่านี้

เชียงเช่าหมดแรงยอมปล่อยผ้าไปง่าย ๆ คล้ายนางไม่ จำเป็นต้องยื้อยุดอีก นางเพียงคนเดียวต้องต่อกรกับคนทั้ง สอง และหนึ่งในคนทั้งสองก็คือชายที่นางหลงรักยิ่ง ถึง อย่างไรนางย่อมไม่สู้แน่

หลิ่วเจินคลี่ผ้าปูที่นอนซึ่งชายหนุ่มแย่งมาให้ ชาวบ้านก็ พากันมามุงล้อมชะโงกดู โดยอาศัยแสงจากโคมไฟ และไม่พบ อะไรเลยจริง ๆ ยกเว้นรอยเปื้อนโคลน

เพราะเหตุดังนั้นบรรดาชาวบ้านจึงมองภรรยาผู้ใหญ่บ้าน และเซียงเช่าด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

เชียงเช่านั่งแปะบนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง ภรรยาผู้ใหญ่ บ้านซึ่งลุกขึ้นยืนแล้ว ได้เข้ามาช่วยประคองเชียงเช่าลุกขึ้น

ตอนนี้จะคิดหาคำอธิบายดี ๆ ได้อย่างไร การเอาลูกสาว

ไปชายย่อมไม่ดีแน่ ทว่านางก็ไม่มีวิธีอื่นใดที่สามารถใช้ อธิบายได้
ยามที่ภรรยาผู้ใหญ่บ้านและเขียงเช่ากำลังได้รับสายตา ดูแคลนจากเหล่าชาวบ้านเป็นครั้งแรก ผู้ใหญ่บ้านก็มาถึง

“เกิดอันใดขึ้นที่นี่? ไทยพวกเจ้าไม่หลับไม่นอนกัน มารวม

ตัวกันที่นี่ทำไม?” ผู้ใหญ่บ้านเดินเข้ามา พลางขยี้ตาไปด้วย เมื่อเห็นผ้าปูเตียงผืนหนึ่งบนพื้น ภายในวงล้อมของผู้คน ใบหน้าเขาพลันฉายแววงุนงงสับสน

ภรรยาผู้ใหญ่บ้านพลันลากตัวเชียงเช่าไปหาผู้ใหญ่บ้าน พลางร่ำไห้ปานจะขาดใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ