45.เฟรนซ์ฟราย…
ไม่มีเจตนาร้ายเจือในน้ำเสียงเลยแม้แต่น้อย เด็ก ๆ ก็ยิ่งรู้สึก ว่าหลิ่วเจินเป็นคนดี เป็นบิดามารดาที่กำลังโกหกพวกเขาอยู่
หลิ่วเจินยืนขึ้น แล้วยื่นจานไปตรงหน้ากู้หรูเฟิง “ลองซิมดู
พอกล่าวจบตัวเองก็หยิบชิ้นหนึ่งในจานขึ้นมากิน
กู้หรูเฟิงรู้ว่าของกินอันนี้ปรุงสุกแล้ว ชายหนุ่มย่อมไม่มี ความกลัวใด ๆ และรู้ว่าเหตุใดหลิ่วเจินจึงมีท่าทางแบบที่เพิ่ง เห็นไปเมื่อก่อนหน้านี้ ที่แท้นางก็ค้นคิดอาหารชนิดใหม่ได้นี่เอง
พอเขาหยิบชิ้นหนึ่งขึ้นมา แล้วหย่อนใส่ปาก ภายในปาก อบอวลด้วยกลิ่นหอม และรับรู้ความอร่อยที่ปลายลิ้น
“อร่อยมาก” กู้หรูเฟิงให้ประเมินอย่างตรงไปตรงมา
หลิ่วเจินเลิกคิ้ว “แน่นอนอยู่แล้ว ฝีมือระดับข้า จะไม่อร่อย ได้อย่างไรล่า!”
กู้หรูฟิงยังเอื้อมมือหยิบมาใส่ปากกินต่อ เพราะว่ามัน อร่อยจริง ๆ เขาพลันเกิดความรู้สึกเห็นแก่ตัว จากนี้ไปหลิ่วเจิน ต้องทำให้เขากินคนเดียว และเขาไม่อยากเอาอาหารชนิดใหม่ นี้ให้พวกเด็ก ๆ กินด้วย ต่อให้เดิมทีหลิ่วเจินต้องการทำให้พวก เด็ก ๆ กินก็ตาม
“พวกเจ้าจะไม่ลองชิมดูจริง ๆ รี? หากโดนคุณชายกู้กิน
สิ”หมด กไมรู้แล้วนะ” หลวเจนมองหนาเดก ๆ
พวกเด็ก ๆ ต่างกลืนน้ำลายไม่หยุด เอาแต่จับจ้องจาน ของกินในมือหลิ่วเจินตาเป็นมัน
“หากไม่มีใครเอา เช่นนั้นก็ให้ข้าทั้งหมดเถิด กู้หรูเฟิง
เอ่ยขึ้น
หลิวเจินตวัดสายตาใส่กู้หรูเฟิง “ของนี่ข้าไม่ได้ทำให้ท่าน กินนะ ซ้ำกินมากเกินไป อาจเป็นเหตุให้แผลบนหน้าท่านแย่ลง
ได้”
คำพูดนี้ทำให้กู้หรูฟังรู้สึกคับข้องใจนัก ถึงเขาจะเข้าใจ ทว่าก็ยังคงรู้สึกปวดใจอยู่ดี
เด็ก ๆ มองดูทั้งคู่อยู่เป็นนานมากแล้ว ก็ไม่พบว่ามีสิ่งผิด ปกติใด ๆ เกิดขึ้นกับหลิ่วเจินและกู้หรูเฟิง ดังนั้นพวกเขาจึงพา กันก้าวเท้าเข้าไปลองชิมอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
ในที่สุดเมื่อเห็นเพื่อนคนแรกกินเข้าไป แล้วขยับปาก ละเลียดชิมทีละนิด ดังนั้นที่เหลือก็อดใจไม่ไหว ตาหน้ากัน เข้าไปคว้ามากินคนละหมุบคนละหมับ
หลิวเจินเลยยกจานของกินทั้งหมดให้พวกเด็ก ๆไป
ส่วนกู้หรูเฟิงคับแค้นใจนักที่เห็นจานของกินถูกเด็ก ๆรุม ล้อม เขาเองอยากกินเหมือนกันนะ
“มีอะไรรี? ท่านอยากกินเหมือนกันหรือ?” หลิ่วเจินสังเกต เห็นสายตาของกู้หรูเฟิง ซึ่งเต็มไปด้วยความกระหายหิว
กู้หรูเฟิงจ้องหน้าหลิ่วเจิน พลางพยักหน้าน้อย ๆ
“รอเย็นนี้แล้วกัน
* หลิ่วเจินเอ่ยขึ้น
เย็นนี้ข้าจะทำให้ท่านกินเป็นมื้อเย็น
กู้หรูเฟิงพยักหน้า “ตกลง”
พอได้ยินข่าวดีนี้ ใจของชายหนุ่มเปี่ยมล้นด้วยความเบิก บานยินดี รู้สึกดีใจเมื่อคิดว่าตนเองมีอภิสิทธิ์ดีกว่าเด็กกลุ่มนี้ เพราะหลิ่วเจินตั้งใจทำให้เขากินโดยเฉพาะ
ในที่สุดก็ถึงเวลามื้อกลางวัน เด็ก ๆ จึงแยกย้ายกันกลับไป ขณะกำลังกินมื้อกลางวัน หลิ่วเจินกับกู้หรูเฟิงก็หยิบยก เรื่องนี้ขึ้นมาคุยกัน
“ข้าจะขึ้นเขาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ หลิ่วเจินเอ่ยอย่างที่ใจ คิด เพราะมันฝรั่งมีไม่พอกิน แต่ถึงสามารถนำมันฝรั่งกลับมา ได้เพียงพอ ก็คงไม่อาจผลิตสินค้าออกมามากมายได้ สำหรับ น้ำมัน และเกลือ ล้วนไม่ใช่ปัญหาใหญ่ น้ำมัน โดยทั่วไป สามารถนำมาใช้ซ้ำได้ ราวสองถึงสามวันค่อยเปลี่ยนน้ำมัน ทอดทีหนึ่ง แล้วเอาน้ำมันนั้นไปใช้ผัดอาหารต่อได้
กู้หรูเฟิงชะงักมือที่คีบอาหาร “ทำไม?”
คราวก่อนที่พวกเขาขึ้นเขา กู้หรูเฟิงเกิดอุบัติเหตุที่ขา ยาม นี้หากขึ้นเขาอีกครั้ง ไม่แน่ประเหมาะเคราะห์ร้ายอาจไปเจอ อะไร ซึ่งเป็นอันตรายเข้าจริงๆ
“ู่ได้ว(มันฝรั่ง) ที่บ้านหมดแล้วนะสิ” หลิ่วเจินอธิบาย
กู้หรูเฟิงนิ่วหน้าเล็กน้อย “แล้วไม่ใช่ว่า เรามีเงินตำลึงอยู่ รีว” เจ้าเอาไปซื้อของที่ตลาดนัดตอนเช้าเถิด ไม่จำเป็นต้องขึ้น
เขาหรอก
หลิ่วเจินวางตะเกียบลง พลางจ้องหน้าชายหนุ่มเขม็ง “ช้า พบวิธีหาเงินนะสิ ถู่โต้วคือสิ่งที่พวกท่านคิดว่ากินไม่ได้ไง ดัง นั้นมันจึงไม่มีขายที่ตลาด คงได้แต่ขึ้นเขาไปเก็บมาเท่านั้น ไม่ เช่นนั้น หากท่านสามารถปลูกเองได้ ก็นับเป็นเรื่องประเสริฐ…
คำพูดนี้กู้หรูเฟิงไม่รู้ว่าจะตอบกลับอย่างไร เขาไม่รู้วิธี ทำการเกษตร ดังนั้นจึงช่วยอะไรไม่ได้มาก ทว่าตามที่หลิวเจิ นพูดมา นี่คือวิธีหารายได้ เช่นนั้น…มันต้องเป็นสิ่งจำเป็นแน่ ๆ หากปลูกเองไม่เป็น เช่นนั้น..ก็จำต้องขึ้นเขาไปเก็บมา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ