21.เงินสองตำล
ลายมือนั้นดีเลิศระดับปรมาจารย์ มันพริ้วไหวเป็นธรรมชาติ ประหนึ่งเมฆซึ่งล่องลอยเป็นอิสระ ท่ามกลางท้องนภา
หลิวเจินเฝ้ามองกู้หรูเฟิงเงียบ ๆ อีกฝ่ายแทบไม่หายใจ เพราะใจจดจ่ออยู่ ข้อมืออันนทรงพลัง สะบัดปลายพู่กันป้ายน้ำ หมึก ดวงตาฉายแววจริงจังเต็มเปี่ยม ทันใดนั้น มีแสงจาก ภายนอกส่องลงบนร่างเขา ทำให้เขามองดูคล้ายเทพเซียนซึ่ง เปล่งรัศมีเรืองรอง แยกตัวออกจากมนุษย์ทั้งหลายโดยสิ้นเชิง
หลิวเจินนั้นภูมิใจในตัวเองไม่น้อย ถึงนางมาจากโลกสมัย ใหม่ ทว่ากลับปรับตัวให้เข้ากับชีวิตที่นี่ได้อย่างรวดเร็วนัก หญิงสาวดูแลจัดการทุกสิ่งได้หมดจดเป็นระเบียบเรียบร้อย เรียกได้ว่าคือผู้แข็งแกร่งปานเหล็กกล้า และเวลาคนในยุค โบราณเผชิญหน้ากับบันฑิต พวกเขาต่างรู้สึกถึงความต่ำต้อย ต้อยค่า ทว่านางหาเป็นเช่นนั้นไม่ เหนืออื่นใด หากไม่ใช่เพราะ ไม่รู้ตัวอักษรของคนในยุคนี้ ก็นับได้ว่านางเป็นหนอนหนังสือ ตัวยงคนหนึ่ง ผ่านการอ่านหนังสือยาก ๆ มานักต่อนักแล้ว
ทว่ายามที่อีกฝ่ายสะบัดพู่กันเขียนตัวอักษร คล้ายว่านางดู จะถูกทิ้งไว้เบื้องหลังไม่เห็นฝุ่น
คงเพราะมาจากโลกที่แตกต่างกันสินะ แม้แต่แสงอาทิตย์ ที่สาดลงบนร่างก็ยังมีสีสันต่างกัน “หลิ่วเจิน? ไยถึงเหม่อลอยเช่นนี้?” กู้หรูเฟิงยื่นมือมาโบก
ตรงหน้าอีกฝ่าย เมื่อชายหนุ่มรู้สึกว่าอีกฝ่ายใจลอย จึงเรียกนางให้คืนสติ
หญิงสาวรู้สึกตัวฉับพลัน ครั้นแล้วจึงเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “เมื่อคืนข้าฝันร้ายนะ ก็เลยนอนไม่พอ จึงค่อนข้างเหม่อน่ะ”
“เช่นนั้น เจ้าก็รีบไปนอนพักเถอะ” เขากลัวหญิงสาวไม่ ยินยอม จึงเอ่ยเสริม พวกข้าวของนะ ประเดี๋ยวข้าจะเช็ดให้ สะอาดเอง บ้านมิใช่หลังใหญ่เสียหน่อย ทำไม่นานก็เสร็จแล้ว”
นางเพียงหาข้อแก้ตัวไปเท่านั้นเอง มิได้ง่วงจริง ๆเสีย หน่อย หญิงสาวสั่นหัวอย่างแรง กลางวันแสก ๆ ไม่มีโทรศัพท์ มือถือให้เล่น มีแต่ผีเท่านั้นแหละที่สมควรนอน
ขณะที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน
“อาหลิ่ว…เจ้าอยู่บ้านหรือเปล่า?”
หลิวเจินเมื่อได้ยินเสียง ก็รีบสาวเท้าออกไปอย่างไว พอ เห็นพี่ชายกำลังตะโกนเสียงดังในลานนอกบ้าน หญิงสาวจึงเดิน ไปเปิดประตู “”พี่ใช่..ไฉนถึงมาได้เล่า?
พี่ใช่เอ่ยพร้อมรอยยิ้ม ดวงตากวาดมองไปรอบ ๆ ครั้น แล้วก็หยุดลงบนสิ่งที่แปะอยู่บนประตูนั้น หญิงสาวจึงเข้าใจและเอ่ยขึ้น “อันนี้หรูเฟิงเป็นผู้เขียนนะ
มีอันไตรี?”
“ไอ้หยา มีเชี่ยงกง (สามี)เป็นบัณฑิตมันดีอย่างนี้นี่เอง” พี่ ใช่พูดขึ้นด้วยความอิจฉา และเอ่ยต่อ “ในเมืองน่ะ ซุน
ก็ได้ยินเสียงดังจากด้าน
นอกใช่พูดขึ้นด้วยความอิจฉา และเอ่ยต่อ “ในเมืองนะ ชุน เหรียญ[1) และฝูจื้อ(2] ราคาแพงนัก ชุดหนึ่งมีราคา 100 อีแปะ ข้าจึงคิดมาขอร้องเจ้าช่วยเขียนให้บ้านข้าสักหนึ่งชุดหนึ่งสิ”
หนึ่งพันอีแปะมีค่าเท่ากับหนึ่งตำลึง ชุนเหลียนหนึ่งชุด มี ค่าเท่ากับฟื้นหนึ่งมัด แล้วฟื้นหนึ่งมัด ก็สามารถเอาไปใช้ได้ตั้ง ครึ่งเดือน
หลิ่วเจินแลบลิ้นเลียในใจ บัณฑิตเขียนอักษรช่างมีค่าตัว แพงนัก ครั้นแล้วจึงเอ่ย “ได้สิ ทว่าผ้าแตงที่ซื้อมาจากในเมือง ข้าใช้ไปหมดแล้ว หากท่านอยากได้ ก็ต้องซื้อผ้าแดงกลับมาสัก หน่อย”
พี่ใช่ย่อมรับปาก แล้วจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้าจะ จ่าย 50 อีแปะ ให้ผู้ชายบ้านเจ้าเป็นค่าเหนื่อยนะ”
หลิ่วเจินขบคิดชั่วครู่ แล้วเอ่ยขึ้น “ไม่ต้องหรอก หากพี่ใช่ ช่วยนำผ้าแดงกลับมาให้ข้าสักหน่อย ก็จะดีมาก”
พี่ไข่ชอบเอาเปรียบเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซ้ำ ยังหัวไวในเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง พอได้ยินก็เข้าใจทันที “เจ้า คิดจะขายคนในหมู่บ้านรี?”
นางไม่ใช่คนที่นี่โดยกำเนิด จึงไม่แน่ใจในบางเรื่อง ครั้น แล้วจึงถามขึ้น “ท่านคิดว่าเป็นไปได้หรือไม่?”
“ขายได้แน่อยู่แล้ว!” พี่ใช่แทบอยากกระโดดจนตัวลอย ครั้นแล้วจึงเล่าแผนการ “ยังมีเวลาอีกสี่ถึงห้ากว่าจะถึงวันฉลอง ปีใหม่ เมื่อปีก่อน มีตลาดนัดในเมือง แล้วทุกคนก็รอไปซื้อเอาตอนนั้น ตอนนี้ทุกคนล้วนยังไม่ได้ตระเตรียมเรื่องนี้เลย นั่นเป็น จังหวะดีของเจ้า ตราบใดที่ให้ราคาถูกกว่า ใครมันยังจะละทิ้ง ของใกล้มือ ไปเที่ยวหาซื้อใกลๆเล่า?”
พูดมาเสียขนาดนี้ หลิ่วเจินจึงเริ่มมีความหวังในใจ
พี่ใช่พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด “อันที่จริง ผู้ชายบ้านเจ้าเขียนตัว อักษรงามมากนะ มีคนมากมายอยากได้ตัวอักษรเขียนสักตัว พวกเขาล้วนต้องเข้าไปในเมือง แค่ตัวอักษรบนไม้ไผ่แท่งหนึ่ง ก็แพงหฤโหดแล้ว! น่าเสียดายที่ผู้ชายบ้านจ้าเป็นคุณชายที่ ชอบทำหน้าบึงหน่อย ๆ ทุก ๆ คนก็ลยไม่กล้าเข้าไปวอแว เมื่อ ตอนเขาเข้ามาในหมู่บ้านเป็นครั้งแรก เขาสวมชุดผ้าไหมเนื้อดี ที่เอวห้อยหยกพกหรูหรามากเลย โชคร้ายนักที่เจ้าไม่รู้ว่าอะไร เป็นอะไร ไม่นึกเลยว่าจะขายพวกมันไปในราคาเพียง 10 ตำลึง ข้าเดาว่าอย่างน้อยราคาก็น่าจะสัก 20 ตำลึงน่ะ
..
[1] % [chunlian /// ซุนเหลียน] – คือ การเขียนโคลง กลอนคู่ลงบนกระดาษสีแดง ผ้าแดง หรือแกะสลักบนไม้ไผ่ บน ไม้ หรือบนเสา ตามปกติแล้วนั้น ชุนเหลียนจะเขียนเป็นโคลง กลอนคู่กัน บ้างก็เขียนเป็นคำโดดเช่น “”, “ี” ก็ได้
[2] i fน ฮก ( แต้จิ๋ว ) การติดตัวฮกกลับหัว เป็น วัฒนธรรมของชาวฮั่น ในวันตรุษจีนของทุกปี ทุกบ้านจะต้อง เอากระดาษแดงเขียนอักษร fi ฮก ขนาดเล็กบ้างใหญ่บ้าง มาติดไว้บนประตู หน้าต่าง หรือข้างบนของประตูใหญ่
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ