ตอนที่ 9 ยัยเด็กบ้า
โทรศัพท์สายนี้เมื่อกู้เซิงโยได้รับก็หัวค่ำแล้วคนที่โทร มาคือพี่สาวยิ่นจิ๋นเหยีนชื่อยิ่นจี๋นหมู่นั่นเองยิ่นจีนหยูโทร มาบอกว่าอยากนัดทานข้าวกับเธอเพื่อคุยเรื่องน้องชาย ของเธอยิ่นจี๋นเหยืน
ตอนนั้นเธอเกือบจะบอกกับเธอไปว่าให้ไปหาจิ้นเสี่ยว ลิ่งเองแต่พอดีแม่ของเธอนั่งอยู่ข้างๆและพอแม่เธอรู้ว่า โทรมาจากยิ่นจั่นหมู่แม่ของเธอก็ดึงแขนของเธอและ บอกให้เธอรีบรับปากยิ่นจิ้นหยู่เรื่องทั้งหมดจึงยังไม่ถูก เปิดโปง
จิ้นเสี่ยวลิ่งฟังอย่างตั้งใจพอผ่านไปสักพักเธอก็ถาม กลับไปว่า:”เพราะฉะนั้นพี่สาวของเขาน่าจะมาช่วยเขา?” แต่ก็ไม่น่าใช่เพราะท่าทางของยิ่นจี๋นเหยืนเขาไม่อยาก ข้องเกี่ยวกับเธอเลยแม้แต่นิดแล้วเขาจะให้พี่สาวเขามา ช่วยได้อย่างไร
“งั้นฉันไม่รู้แหละเพราะฉันไม่รู้ว่าเธอสองคนพัฒนาไป ถึงไหนแล้วหากฉันพูดมากก็จะยิ่งมีพิรุจฉันรับปากแทน เธอไปเรียบร้อยแล้ว”กู้เซิงโยตอบตามตรง
“เธอนัดทานข้าววันไหนเวลาไหน? “จิ้นเสี่ยวลิ่งถามทาง โทรศัพท์
“คืนพรุ่งนี้ที่โรงแรมไขเย่” กู้เซิงโยนึกขึ้นได้อะไรบาง อย่างเธอถามจิ้นเสี่ยวลิ่งไปว่า” เสี่ยวลิ่งตอนที่เธอคบกับ จี้จึ่นฉุนเขาได้พาเธอไปพบพ่อแม่เขารึเปล่าพรุ่งนี้พวก เธอนัดเจอกันเรื่องจะถูกเปิดโปงมั้ย?”
“ไม่เคย” จิ้นเสี่ยวลิ่งตอบเธอไปทางโทรศัพท์จิ้นเสี่ยวลิ่ งกับจี้จีนฉันคบกันมาสามปีตอนนั้นเขาบอกว่าจะพาจิ้น เสี่ยวลิ่งไปเจอพ่อแม่เขาแต่พอถึงเวลาจริงๆเขาก็หาข้อ อ้างตลอดเขาจึงไม่เคยพาเธอไปเจอพ่อแม่เขาเลยสัก ครั้ง
“พวกเธอคบกันมานานขนาดนี้เธอยังไม่เคยเจอพ่อแม่ เขาสักครั้งเลยหรือ? “กู้เซิงโยไม่ใช่ไม่เชื่อคำพูดของจิ้น เสี่ยวลิ่งเพียงแต่เธอคิดว่ามันไม่น่าเชื่อคบกันมาตั้งสามปี ไม่ใช่คบกันแค่เดือนสองเดือนพ่อแม่ของจี้จีนฉืนเธอไม่ เคยเห็นสักครั้งเลยจริงๆหรือ?”
จิ้นเสี่ยวลิ่งยิ้มแย้มเธอกำลังยิ้มประชดตัวเองเมื่อก่อน เธอก็ไม่ได้อะไรมากหรอกแต่พอมีคนมาพูดถึงจึงนึกขึ้น ได้ในเมื่อตอนนี้พวกเขาก็เลิกกันไปแล้วแต่คิดย้อนกลับ ไปมันก็เหลือเชื่อจริงๆแหละคบกันมาตั้งนานแม้แต่พ่อแม่ เขาก็ยังไม่เคยพาไปเจอเลย
พอจิ้นเสี่ยวลิ่งเงียบไปกู้เซิงโยจึงรู้ตัวว่าเธอพูดแทงใจ คําของจิ้นเสี่ยวลิ่งแล้วเธอรีบถามเธอไปว่า:”เสี่ยวลิ่งอย่า คิดมากนะฉันไม่ได้ตั้งใจ”
เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งนานมีหรือจิ้นเสี่ยวลิ่งจะไม่รู้ว่า เธอเป็นคนซื่อๆจิ้นเสี่ยวลิ่งตอบกลับไปว่า:”เธอรู้จักนิสัย ฉันดีวางใจเถอะฉันไม่เป็นไร”
พอเธอบอกว่าไม่เป็นไรกู้เซิงโยจึงโล่งใจ:งั้นคืนพรุ่งนี้ เธอจะไปมั้ย?”
จิ้นเสี่ยวลิ่งตอบว่า:” ไม่ไปเธอไปแทนฉันแล้วกัน
” ฉันไป? “กู้เชิงโยสงสัยว่าเธอฟังผิดไปรึเปล่า
ใช่เธอไป” จิ้นเสี่ยวลิ่งพูดกับเธอ:”ฉันทำงานที่บริษัท ของจี้จั่นฉุนถึงแม้เธอจะไม่เคยมาทักทายฉันแต่ฉันไม่ แน่ใจว่าเธอเคยเจอฉันรึเปล่า”
“แต่ว่าถ้าฉันไปเรื่องถูกเปิดโปงทำไงดี”กู้เซิงโยกังวลจน
อยากร้องไห้ “เธอจะกลัวอะไรในเมื่อเธอคือกู้เซิงโยตัวจริง” ส่วนเธอ
ก็ยังคือเธอจะถูกเปิดโปงได้ไง
ในเมื่อเธอยืนยันเสียงแข็งกู้เซิงโยจึงพูดกับเธอไป ว่า:”เสี่ยวลิ่งฉันว่าช่างมันเถอะฉันกลัวฉันพูดอะไรผิดไป
“ไม่เป็นไรเธอก็ทำตัวตามปกติเธอเป็นตัวของตัวเองให้ มากที่สุด”คนที่ยิ่นจีนหยู่อยากเจอคือกู้เซิงโยงั้นก็ให้เธอ เจอกับกู้เซิงโยตัวจริงเสียงจริงไปเลย
“มันจะดีหรือ?” กู้เซิงโยสงสัย
“แน่นอนเธออยากเจอกู้เซิงโยเธอก็คือกู้เซิงโยมันจะไม่ ดีตรงไหน?”
“จิ้นเสี่ยวลิ่งพูดจนกู้เซิงโยยอมไปทานข้าวเธอรับปาก กับจิ้นเสี่ยวลิ่งว่า:” งั้นก็ได้แต่ฉันว่านะเสี่ยวลิ่งเธอไม่ จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ก็แค่จี้จั่นฉุนเขาไม่รักเธอ แล้วเธอไม่ต้องไปแต่งกับคนที่เธอไม่รักก็ได้มันไม่คุ้ม
“ฉันไม่ได้ทำเพื่อเขาฉันทำเพื่อตัวเองต่างหาก”จิ้นเสี่ยวลิ่งไม่อยากพูดเรื่องนี้กับเธอเธอบอกกับเธอไปตรงๆว่า:” เธอบอกสถานที่และเวลามาฉันจะแอบตามไปอย่างลับๆ”
กู้เซิงโยก็ไม่พูดอะไรต่อให้มากความเธอถอนหายใจ และตอบตกลงจากนั้นก็วางสายไป
หลังวางสายไปจิ้นเสี่ยวลิ่งก็นั่งบนเตียงตั้งนานเธอ กำลังจะส่งข้อความไปหาถิ่นจี๋นเหยืนแต่คิดไปคิดมาเธอ ก็วางมือลงเธอพูดคนเดียว:”เรื่องนี้ยิ่นจี๋นเหยืนคงไม่ใช่ ไม่รับรู้หรอกนะ…..” แต่รอดูพรุ่งนี้ดีกว่าว่ายิ่นจีนหมู่มาหา เธอเพื่อคุยเรื่องอะไรไม่แน่เรื่องนี้อาจเป็นการตัดสินใจ ของยิ่นจี๋นหมู่คนเดียวก็ได้
พอคิดถึงตรงนี้จิ้นเสี่ยวลิ่งก็ไม่สงสัยอะไรอีกแล้วเธอ ลุกขึ้นจากเตียงและลงไปข้างล่าง
ย่าง่วงและเตรียมตัวเข้าไปนอนเธอถึงเข้าไปที่ห้องอ่าน หนังสือ
เข้าไปในห้องหนังสือจิ้นเสี่ยวลิ่งก็เจอจิ้นเว่ยตงกำลัง ใส่แว่นแล้วอ่านหนังสืออยู่บนโต๊ะโต๊ะข้างๆยังวางน้ำชาที่ เย็นแล้วแก้วนึง
จิ้นเสี่ยวลิ่งเดินเข้าไปหาพ่อและกำลังจะชงน้ำชาให้กับ พ่อใหม่
ขณะที่เธอกำลังจะยื่นมือไปหยิบแก้วสายตาจิ้นเว่ยตงก็ จ้องมาที่เธอ
จิ้นเสี่ยวลิ่งรีบยืนตัวตรงเธอนึกขึ้นได้ที่แม่เธอบอกกับเธอเรื่องเมื่อเช้าว่าอย่าเถียงพ่อเพราะพ่อรักเธอมากเพื่อ เธอแล้วพ่อกลับบ้านมาเร็วกว่าปกติแต่พ่อเป็นคนปาก แข็งเขาจะไม่แสดงออกว่าเขารักลูกมากแค่ไหน
ยิ้มทะเล้นและมองหน้าพ่อ:”ท่านอธิบดีท่านอย่าทําหน้า เข้มงวดตลอดเวลาได้มั้ยฉันไม่ได้กลับมาที่นี่นานมาก แล้วท่านยิ้มให้กับฉันบ้างก็ได้”
“ใครไม่ให้เธอกลับมา?” จิ้นเว่ยตงสีหน้าเข้มขรึมน้ำ เสียงก็แข็งทื่อแต่น้ำเสียงของเขาซ่อนทั้งความน้อยใจ และไม่พอใจอยู่เขาน้อยใจที่เธอไม่ค่อยกลับมาที่บ้าน เลย
“ก็งานฉันยุ่งๆอ่ะ” จิ้นเสี่ยวลิ่งกำลังพูดโกหกช่วงนี้เธอ ไม่ได้ทุ่มเทใจให้กับงานเลยสักนิดเพราะทางห้างสรรพ สินค้าเขาเร่งเธอตั้งครึ่งเดือนกว่าแล้วให้เธอรีบดีไซน์แบบ ใหม่ออกมาแต่เธอยังไม่ได้ออกแบบให้เขาเลยด้วยซ้ำ
“งานยุ่งแค่ไหนก็ต้องกลับบ้าน” จิ้นเว่ยตงเป็นทหาร นิสัยจึงตรงไปตรงมาคำหวานคำอ่อนโยนเขาไม่เข้าใจ หรอกไม่ว่าจะกับใครหรือแม้แต่กับลูกๆของเขารวมทั้ง ภรรยาของเขาด้วยชาตินี้ทั้งชาติเขาไม่เคยพูดคำหวาน ใส่ภรรยาตนเองเลย
จิ้นเสี่ยวลิ่งจับจมูกตัวเองเธอรู้อยู่แก่ใจดีว่าหลายปีมานี้ เธอกลับมาที่บ้านน้อยครั้งมากๆไม่ว่าในถานะลูกหรือถา นะหลานเธอก็ทำไม่ถูกจริงๆ
เธอก้มหน้าและยอมรับผิดเธอพูดด้วยเสียงเบาๆว่า “ฉัน รู้ตัวว่าฉันทำผิดไปแล้ววันหลังฉันจะกลับมาเยี่ยมคุณปู่คุณย่าและท่านพ่อท่านแม่ๆที่บ้านบ่อยๆ”
ความจริงจิ้นเว่ยตงก็ไม่ได้อยากตำหนิเธอหรอกแต่ ว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมาเขาเป็นถึงอธิบดีเขามีลูกน้องตั้ง มากมายที่ต้องคอยอบรมฝึกฝนเขาจึงมีนิสัยที่เข้มงวดมา โดยตลอดเพราะฉะนั้นกับจิ้นเสี่ยวลิ่งเขาก็เข้มงวดจนเป็น ความเคยชินไปแล้ว
เห็นสีหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยความเสียใจจิ้นเว่ยตงก็ หายโมโหแล้วเขาเสียใจกับน้ำเสียงและท่าทางของเขาที่ เข้มงวดต่อเธอมากไปจากนั้นขณะที่เขากำลังอยากยก น้ำชาขึ้นมาดื่มจิ้นเสี่ยวลิ่งก็รีบยกน้ำชาแก้วเก่าออกไป เธอพูดกับพ่อว่า:น้ำชาถ้วยนี้เย็นแล้วเดี๋ยวฉันจะไปชง ถ้วยใหม่มาให้
จิ้นเว่ยตงอยากหัวเราะเธอเดี๋ยวเธอก็ทำสีหน้าเสียใจ เดี๋ยวเธอก็ทำหน้าทะเล้นจิ้นเว่ยตงยิ้มแล้วพูดว่า:” ยัยเด็ก บ้า”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ