blind date เจอกับสามีเพอร์เฟคของฉัน

ตอนที่ 7 ค่ายทหาร



ตอนที่ 7 ค่ายทหาร

มองดูทหารที่ยืนตัวตรงอยู่หน้าประตูจิ้นเสี่ยวลิ่งได้แต่ ถอนหายใจเธอคิดว่าชาตินี้เธอคงหนีคำว่าทหารสองคำนี้ ไม่พ้นแน่ๆ

หลังจากเธอเอาบัตรประชาชนให้กับทหารที่เฝ้าประตูดู จนเรียบร้อยไม้กั้นประตูถึงค่อยๆเลื่อนขึ้นไปจิ้นเสี่ยวลิ่ง เหยีบคันเร่งและขับตรงเข้าไป

ความจริงจิ้นเสี่ยวลิ่งถือว่าเป็นทหารรุ่นที่สามของบ้าน ตระกูลจิ้นก็ว่าได้เพราะปู่ของเธอพ่อของเธอและพี่ชาย ของเธอต่างเป็นทหารเช่นเดียวกันความจริงงก่อนหน้านี้ ที่บ้านได้วางแผนอนาคตให้เธอเป็นหมอหรือไม่ก็ทหาร แต่ตอนนั้นเธอกำลังเข้าสู่วัยรุ่นจึงเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ เธอไม่ชอบให้ใครมาบังคับหรือวางแผนให้กับเธอเพราะ ฉะนั้นตอนนั้นเธอยังปิดบังคนในบ้านเพื่อไปสมัครงาน ดีไซน์เนอร์ด้วยตัวเองเพราะเหตุนี้ตอนนั้นเธอได้ทะเลาะ กับพ่ออย่างรุนแรงแต่เพราะเธอมีปู่และย่าคอยหนุนหลัง พ่อของเธอจึงยอมตามใจเธอแต่หลังจากทะเลาะกันครั้ง นั้นความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกก็มีช่องว่างเกิดขึ้น

รถของเธอจอดไว้ตรงหน้าบ้านบ้านแต่ละหลังเป็นบ้าน เดี่ยวสำหรับให้คนที่บ้านมาพักหลังนี้สร้างขึ้นมาเมื่อ หลายปีก่อนข้างในเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่โตหากไม่ใช่ ทหารที่เฝ้าอยู่หน้าประตูมันก็ไม่ต่างอะไรกับบ้านเดี่ยว ข้างนอกทั่วไป

แต่ว่าจิ้นเสี่ยวลิ่งไม่ได้กลับมาบ่อยๆตอนที่ย้ายเข้ามา อยู่ที่นี่เธอยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่เลยพอเรียนจบเธอก็ออกไปเช่าห้องอยู่ข้างนอกบ้านหลังนี้เธอกลับมาแค่ เดือนละครั้งสองครั้งเท่านั้นเอง

พอจอดรถเรียบร้อยเธอก็หายใจเข้าลึกๆถึงลงจากรถ ไม่ต้องพบกุญแจแค่กดกริ่งคนข้างในก็มาเปิดประตูให้กับ เธอจิ้นเวียดงสีหน้าที่เข้มขรึมและสวมใส่ชุดทหารอย่าง เต็มยศมายืนต่อหน้าเธอ

จิ้นเสี่ยวลิ่งอึ้งไปสักพักเธอคิดไม่ถึงว่าคนที่มาเปิดประตู ให้กับเธอจะเป็นพ่อของเธอเองพอเธอได้สติเธอก็ยืนตัว ตรงและพูดขึ้นมาว่า “ขอเคารพท่านอธิบดี”

“เรียกซะเสียงดังเลยฉันไม่ได้หูหนวกซะหน่อย” จิ้นเว่ย ตงพูดจบก็หันหลังกลับเข้าไปในบ้านทันที

จิ้นเสี่ยวลิ่งแลบลิ้นใส่หลังเขาจากนั้นถึงเดินเข้าไปใน บ้านพอเข้าไปในบ้านเธอก็เห็นคุณย่าของเธอกำลังดูทีวี อยู่ในห้องรับแขกพอคุณย่าเห็นจิ้นเสี่ยวลิ่งเข้ามาคุณย่า ก็ดีใจอย่างมากคุณย่ากวักมือเรียกเธอ:” เสี่ยวลิ่งกลับมา แล้วเข้ามาหาย่าเร็วให้ย่าดูสิผอมไปรึเปล่า”

“คุณย่า” จิ้นเสียวลิ่งทำหน้าทะเล้นและดีใจเธอเข้าไป หาคุณย่าใกล้ๆและพูดคุยกับคุณย่าอย่างออดอ้อน”คุณ ย่าฉันคิดถึงคุณย่าที่สุดในโลกเลย”

“ยายเด็กคนนี้คิดถึงฉันแต่ไม่กลับมาหาฉันเลย”คุณย่า ใช้นิ้วไปจิ้มจมูกของเธออย่างไม่พอใจ”

“จิ้นเสี่ยวิ่งแลบลิ้นและพูดอย่างทะเล้นว่า “ก็งานมันยุ่งๆ
งั้นงานสำคัญหรือคุณย่าสำคัญ” คุณย่ากำลังน้อยใจ หลานตัวเอง

“คุณย่าต้องสำคัญกว่างานอยู่แล้ว” จิ้นเสี่ยวลิ่งเธอ ฉลาดตอบมากๆเธอเอามือไปกอดคุณย่าและเอาแก้ม ของเธอไปแตะแก้มคุณย่าด้วยจากนั้นเธอพูดกับคุณ ย่าว่า:” งานหาเมื่อไหร่ก็ได้แต่ฉันมีคุณย่าเพียงคนเดียว เท่านั้นจะให้ไปหาที่ไหนหล่ะคุณย่าเป็นคนที่ฉันรักมาก ที่สุดเลย ”

คำพูดของจิ้นเสี่ยวลิ่งทำให้คุณย่าดีใจจนยิ้มไม่หยุด คุณย่าจับจมูกของเธอและพูดกับเธอว่า:”เด็กคนนี้ฉลาด พูดจริงๆพูดซะจนคุณย่ายิ้มไม่หยุด

” ฉันพูดจริงๆนะสิ่งที่พูดมาทั้งหมดล้วนออกมาจากใจ จริง” จิ้นเสี่ยวลิ่งทำหน้าทำตาได้น่ารักน่าแอนดูมาก

“ทั้งย่าทั้งหลานคุยกันนานมากจากนั้นจิ้นเว่ยตงที่อยู่ ข้างๆจึงมีโอกาสถามจิ้นเสี่ยวลิ่งว่า:” ช่วงนี้งานเป็นยังไง บ้าง?”

จิ้นเสี่ยวลิ่งเงยหน้าขึ้นมาตอบพ่อ:”ท่านอธิบดีฉันเพิ่ง กลับมาถึงท่านก็จะให้ฉันรายงานเรื่องงานของฉันซะแล้ว

จิ้นเว่ยตงวางหนังสือพิมพ์ในมือลงและหันไปพูดกับเธอ ว่า:” รายงานเรื่องงานของเธอมันยากขนาดนั้นเลยหรือ ไง? ”

” คุณย่า”จิ้นเสี่ยวลิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือจากคุณย่า
ย่าก็ต้องปกป้องหลานเป็นธรรมดาคุณย่ารีบพูดขึ้นมา ว่า:”เว่ยตงเสี่ยวลิ่งเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆเธอก็อย่าถามเรื่อง งานเธอเลย” สีหน้าของจิ้นเว่ยตงเข้มงวดและไม่พอใจ

” แม่.. แม่อย่าปกป้องเธอมากเกินไปฉันเป็นพ่อเป็นห่วง เรื่องงานลูกเป็นเรื่องธรรธดามันคือหน้าที่ของฉัน” จิ้นเวีย ตงพูดสั่งสอนจิ้นเสี่ยวลิ่ง

“หัวโบราณดื้อรั้น?” คุณย่าพูดแบบไม่เกรงใจ”เธอเป็น ทหารมาทั้งชีวิตจะไปเข้าใจอะไรกับงานของเสี่ยวลิ่งถึง แม้เธอรายงานปัญหาของงานให้เธอรับรู้แล้วเธอช่วย อะไรเธอได้

คำสั่งสอนของแม่จิ้นเว่ยตงทำให้จิ้นเว่ยตงจนคำพูดเลย ทีเดียว

จิ้นเสี่ยวลิ่งแอบหัวเราะอยู่ข้างๆเธอเข้าใจดีมาตลอด ว่าวัฎจักรในการดำรงชีวิตของครอบครัวของเธอมันเป็น อย่างไรจิ้นเว่ยตงปราบเธอเธอปราบคุณย่าคุณย่าก็ปราบ พ่อของเธออีกทีนี่แหละวัฎจักรในการดำรงชีวิตของบ้าน เธอมันเป็นแบบนี้นี่เอง

คุณปู่กลับมาจากเล่นหมากรุกเวลานี้เวลาก็ค่ำแล้วพอ คุณปู่เห็นจิ้นเสี่ยวลิ่งกลับมาคุณปู่ก็ดีใจมากปกติคุณปู่จะ มีสีหน้าที่เข้มงวดมากแต่พอเห็นหลานคนนี้สีหน้าของเขา ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข

จิ้นเสี่ยวลิ่งนั่งคุยเรื่องสนุกๆกับคุณปู่และคุณย่าขณะที่ เธอกำลังพูดคุยกับคุณย่าและคุณปู่อยู่ในใจเธอก็นึกขึ้น ได้ว่าเธอไม่ได้กลับมาที่นี่นานแล้วจริงๆ
หยางเหมู่หลิงกลับมาถึงบ้านพอดีพอเธอเปิดประตูเข้า มาก็เจอกับจิ้นเว่ยตงเธอมองหน้าจิ้นเวียตงและถามเขา ไปว่า:”ทำไมวันนี้กลับมาเร็วจัง?”

จิ้นเว่ยตงหันไปมองหน้าภรรยาตนเองเขาไม่ตอบอะไร แต่เขาไอเบาๆสองครั้ง

จิ้นเสี่ยวลิ่งไม่ได้สังเกตุสีหน้าพ่อของเธอแต่เธอพยุง คุณย่าและคุณปู่ไปที่โต๊ะทานข้าว

แต่หยางเหม่หลิงดูออกสีหน้าของสามีตนเองดูแบบไม่ ธรรมชาติเท่าไหร่หยางเหมู่หลิงยิ้มแย้มใส่สามีเธอ

พอพยุงคุณปู่และคุณย่าไปที่โต๊ะทานอาหารจิ้นเสี่ยว ลิ่งก็ช่วยแม่บ้านจัดวางถ้วยชามเพื่อเตรียมพร้อมกับการ ทานข้าว

พอวางถ้วยชามเรียบร้อยจิ้นเสี่ยวลิ่งถึงรู้ว่าพี่ชายเธอ จิ้นเจียงหยวนยังไม่กลับมาเธอหันไปถามแม่เธอว่า:”พี่ ใหญ่หล่ะออกไปฝึกซ้อมต่างจังหวัดหรือ?”

หยางเหม่หลิงส่ายหัวพอเธอวางตะเกียบให้กับคุณย่า คุณปู่เรียบร้อยเธอก็บอกกับจิ้นเสี่ยวลิ่งว่า:”ทีมลูกน้อง ของพี่ชายเธอฝึกซ้อมไม่ผ่านช่วงนี้พี่ชายเธอจึงต้องแช่ อยู่ในค่ายทหารทุกวัน”

“พี่ใหญ่ฝึกซ้อมไม่ผ่าน?” จิ้นเสี่ยวลิ่งรู้สึกแปลกใจทีม ของพี่ใหญ่เก่งมาตลอดที่สำคัญทีมของพี่ใหญ่เป็นทีม อันดับหนึ่งมาโดยตลอดไม่ใช่หรือ? ”
พี่ชายเธอต่างจากเธอตั้งแต่เด็กพี่ชายของเธอก็ใฝ่ฝัน ว่าจะเป็นทหารที่เก่งให้ได้ไม่ว่าจะฝึกวิชาป้องกันตัวหรือ วิชาอะไรก็ตามพี่ชายเธอก็ทำอย่างตั้งใจที่ผ่านมาพี่ชาย ของเธอเป็นความภาคภูมิใจของเธอมาโดยตลอด

” ให้เจียงหยวนลดไปเป็นลูกน้องก็ดีเหมือนกันตลอด เวลาที่ผ่านมาเจียงหยวนราบรื่นมาโดยตลอด” จิ้นเว่ยตง ดื่มเหล้าไปคำนึงเขาเห็นว่าการแพ้ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเสีย หายอะไรแต่กลับเป็นเรื่องที่ดีจะได้ทำให้จิ้นเจียงหยวนมี ความพยายมมากขึ้น

จิ้นเว่ยตงพูดต่ออีกว่า:”แต่ว่าคนที่เก่งกาจสามารถทีม สีฟ้าคนนั้นฝีมือยอดเยี่ยมจริงๆฉันจำได้ว่าเขาเป็นรุ่น เดียวกันกับเจียงหยวนเขาชื่อว่ายิ่นจี๋นเหยืน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ