ตอนที่ 6 เตรียมตัวกลับไป
ระหว่างทางกลับบ้านจิ้นเสี่ยวลิ่งยังคงโมโหไม่หายที่ยิ่น จี๋นเหยืนปฎิเสธเธอไปเมื่อสักครู่เธอขับรถไปด้วยและบ่น คนเดียวไปด้วย:”คนอย่างจิ้นเสี่ยวลิ่งมีหน้าตาที่สวยงาม และมีรูปร่างที่ผอมเพรียวแต่เขายิ่นจี๋นเหยืนยังไม่พอใจ อีกเขามีอะไรดีกันแน่เขาก็แค่ทหารหัวดื้อคนนึงที่ไม่ยอม ฟังอะไรใครเลย”
จิ้นเสี่ยวลิ่งยิ่งคิดยิ่งโมโห
ขณะที่เธอกำลังคิดจะโทรหากู้เซิงโยเสียงโทรศัพท์ ของเธอก็ดังขึ้นมาก่อนขณะที่เธอมัวแต่โมโหเธอจึงไม่ได้ ดูดีๆว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา
เธอรับสายขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่รำคาญ:” ฮัลโหลนั่น ใคร”
คนที่โทรมาคือแม่ของเธอหยางเหมู่หลิงแม่คนนี้แหละ คนที่เข้าใจลูกที่สุดก็คือแม่ของเธอนั่นเองแค่ได้ยินเสียง ของลูกตัวเองเธอก็รู้แล้วว่าเธอกำลังอารมณ์ไม่ดี:”มีเรื่อง อะไร? ถึงได้โมโหขนาดนี้?”
พอได้ยินว่าเป็นเสียงแม่ตัวเองจิ้นเสี่ยวลิ่งก็รีบเรียก ว่า”แม่
“เป็นอะไรลูกการงานไม่ราบรื่นหรือ?” หยางเหมู่หลิง ถามด้วยความเป็นห่วง
ไม่อยากให้แม่เป็นห่วงเธอจึงพูดว่า:”ใช่แล้วงานของฉันเจออุปสรรคนิดหน่อยไม่มีอะไรมากหรอก”
แม่เธอคิดว่าการงานของเธอมีปัญหาจริงเธอจึงปลอบใจ เธอไปว่า:”งานก็เป็นแบบนี้แหละบางครั้งราบรื่นบางครั้งก็ เจออุปสรรคบ้างเธอต้องทําใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น”
“ฉันรู้แล้วแม่” จิ้นเสี่ยวลิ่งไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่อแล้วเธอ
รีบเปลี่ยนเรื่องใหม่:” แม่… แม่โทรหาฉันมีอะไร?” “เด็กบ้าคนนี้ไม่มีอะไรก็โทรหาเธอไม่ได้ใช่มั้ยฉันเป็น
แม่เธอนะ” หยางเหม่หลิงพูดแบบน้อยใจ
จิ้นเสี่วลิ่งแลบลิ้นใส่โทรศัพท์เธอยกมือขึ้นมาดูนาฬิกา:” ปกติแม่ไม่เคยโทรหาฉันเวลานี้สักหน่อยแม่ไม่ต้องไปโรง บาลเหรอหรือ? ”
หยางเหม่หลิงเป็นหมอทางด้านกระดูกในโรงพยาบาล ทหารบกปกติเธอจะอยู่ในโรงพยาบาลทหารบกมากกว่า อยู่ที่บ้าน
หยางเหม่หลิงไม่พูดเรื่องไม่เป็นเรื่องกับเธอต่อไปเธอ พูดมาตรงๆว่า:”พอแล้วอย่าพูดเหลวไหลกับแม่อีกเธอรู้ ไหมนานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่กลับมาที่บ้านเลยพ่อที่บ้าน และย่าที่บ้านคิดถึงเธอจะแย่อยู่แล้วพรุ่งนี้ไม่ว่ายังไงเธอ ก็ต้องกลับมาทานข้าวที่บ้านให้ได้”
“แต่ว่าหลายวันนี้ฉันมีงานยุ่งจริงๆนะแม่” เธอมัวแต่ยุ่ง เรื่องยิ่นจี๋นเหยืนอยู่ละสีก่อนที่เขาจะกลับไปที่ค่ายทหาร เธอต้องเอาเขาให้อยู่หมัดเสียก่อนถึงแม้ดูสถานการณ์ ในตอนนี้มันจะไม่เวอร์คเท่าไหร่ก็ตามแต่เธอจะไม่มีทางท้อถอยแน่นอน
” ฉันไม่สนว่าเธอจะยุ่งแค่ไหนยังไงพรุ่งนี้เธอก็ต้องกลับ มามิเช่นนั้นฉันจะให้พ่อเธอโทรหาเธอเอง” หยางเหม่หลิง ขู่บังคับเธอ
พอได้ยินว่าจะให้พ่อที่เป็นทหารมาหาเธอเธอก็รีบ พูดขึ้นมาว่า:”ฉันกลับไปก็ได้”
ตั้งแต่เล็กจนโตพ่อของเธอก็จะค่อยสอนเรื่องว่าต้อง รู้จักรักชาติบ้านเมืองอะไรแบบนี้อยู่เรื่อยเธอไม่อยากฟัง คำสอนพวกนี้อีกแล้ว
คุยกันได้สักพักหยางเหม่หลิงถึงวางสายไป
มาถึงฝั่งยิ่นจี๋นเหยืนพอเขากลับมาถึงบ้านพี่สาวเขายิ่น จิ่นหยู่ก็มาขวางทางไว้พอดี
เพราะเขาเป็นลูกคนสุดท้องในบ้านเขามีพี่สาวสามคน ตอนนั้นพ่อเขาอายุประมาณสี่สิบกว่าถึงมียิ่นจี๋นเหยืน
แต่ตอนนั้นยิ่นจีนหยู่อายุยี่สิบแล้วพี่สาวกับน้องชายห่าง กันตั้งยี่สิบปีเต็มๆ
เพราะอายุที่ห่างกันมากเพราะฉะนั้นตอนที่ยิ่นจี๋นเหยืน ยังเด็กก็ได้พี่สาวคนนี้แหละที่ดูและเขาและเลี้ยงเขาโต มาถึงตอนนี้พี่สาวคนนี้เลี้ยงเขามาเองกับมือบวกกับแม่ ของเขาได้เสียไปตั้งแต่เขายังเป็นเด็กเพราะฉะนั้นพี่คนนี้ จึงเป็นทั้งพี่และเป็นทั้งแม่ในขณะเดียวกัน
“พูดมาเร็วเรื่องมันยังไงกันแน่เธอไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อ ไหร่?” ยิ่นจี๋นหมู่นั่งบนโซฟาและจ้องหน้ายิ่นจีนเหยีน อย่างจริงจัง
ยิ่นจี๋นเหยืนจับจมูกตัวเองด้วยความเคยชินเขาบอก ว่า:”ฉันไม่มีแฟนอะไรทั้งนั้นถ้าฉันมีจริงฉันจะถูกพี่รองพี่ สามมาบังคับให้ไปหาคู่ครองหรือ”
พูดถึงเรื่องหาคู่ครองเขาก็กลุ้มใจเหลือเกินหลายปีมา นี้หากให้คูครองเหล่านั้นมารวมตัวกันคงจะยาวเป็นแถว มังกรแล้วหากเขามีแฟนจริงๆเขามีเหตุผลอะไรต้องปิดบัง
แต่ว่าพอเขาคิดถึงกู้เซิงโยเขาก็อดหัวเราะไม่ได้ความ จริงเขาไม่ได้เกลียดกู้เซิงโยเลยสักนิดแต่เขาแค่ต้องการ เวลาศึกษาดูใจกันให้มากกว่านี้อีกหน่อยค่อยพูดถึงเรื่อง แต่งงานแต่เธอไม่ได้คิดเช่นนั้นหล่ะสิเธอใจร้อนเกินไป ปุ๊บปั๊บเธอก็บอกจะแต่งงานให้ได้ความใจร้อนของเธอทำ ให้ยิ่นจีนเหยีนสงสัยว่าเธอกำลังมีจุดประสงค์แอบแฝง แน่ๆเพราะเขาชอบผู้หญิงง่ายๆจิตใจดีที่ไม่มีพิษมีภัยมา เป็นภรรยาของเขา
“เธอหัวเราะอะไร?”
ยิ่นจี๋นหมู่ถามเขาพอยิ่นอื่นเหยีนได้สติเขาก็บอกไป ว่า:”ไม่มีอะไร”
ยิ่นจิ้นหยู่ไม่เสียเวลาต่อไป:”เวลานี้สิ่งที่เธอกังวลที่สุดก็ คือคนในบ้านตระกูลเฉินโทรมาบอกว่าน้องชายเธอนั้นมี แฟนแล้วที่สำคัญ คุณหนูเฉินยังพูดอีกว่ายิ่นจีนเหยีนกับ แฟนของเขาท่าทางสนิทสนมกันมาก
” พูดมาผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันแน่พวกเธอคบกันนาน แค่ไหนแล้ว?” หลายปีมานี้พี่ของเขาเป็นห่วงเรื่องการมี ครอบครัวของเขามากๆปกติเขาอยู่แต่ในค่ายทหารกลับ มาบ้านแต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องง่ายๆแน่นอนพอเขากลับมา ที่บ้านพี่คนนี้ก็ต้องรีบหาแฟนให้เขาอยู่แล้วพ่อของยิ่นจี่ นเหยืนอายุก็แก่ขึ้นทุกวันส่วนยิ่นจีนเหยืนก็เป็นลูกชาย คนเดียวในบ้านเพราะฉะนั้นคนที่บ้านต่างอยากให้เขารีบ แต่งงานเพื่อสืบทอดลูกหลานบ้านตระกูลมิ่นให้เจริญมาก ขึ้นไป
“พี่ใหญ่ฉันไม่มีแฟนจริงๆผู้หญิงที่ร้านอาหารคนนั้น……… ยิ่นจี๋นเหยืนอยากอธิบายต่อแต่ยิ่นจิ้นหมู่มาขัดจังหวะ พอดี
” จิ่นเหยืนบ้านเราไม่ใช่หัวโบราณที่จะเอาแต่สะใภ้ลูก ผู้ดีมีสกุลฉันกับพ่อและพี่สาวอีกสองคนของเธอเราแค่ ต้องการผู้หญิงที่รักเธอด้วยใจจริงหากเธอมีแฟนจริงๆเธอ พากลับมาให้เราดูได้เลยหากเราดูแล้วว่าผู้หญิงคนนั้น เหมาะสมกับเธอจริงๆเราจะไม่มีการปฎิเสธใดๆทั้งสิ้นเลย ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเธอทำงานอะไร? “เธอเป็นทหาร เปล่าหรือเธอเป็นพยาบาล?”
ยิ่นจี๋นเหยีนอยากหัวเราะพี่สาวตัวเองเพราะพี่สาวเขา คิดจินตนาการเก่งเหลือเกินแต่เขาก็ทำได้แต่ตอบคำถาม พี่สาวเขาอย่างตั้งใจ:”พี่ใหญ่ฉันไม่มีแฟนอะไรทั้งนั้นผู้ หญิงที่ร้านอาหารก็คือคุณหนูกู้ที่ฉันเคยออกเดทกับเธอ คนนั้นคุณหนูกู้เธอตั้งใจมาขัดขวางฉันกับคุณหนูเฉินจึง พูดออกมาแบบนั้น”
“คุณหนูกู้?” ยิ่นจีนหมู่คิดในใจและถามกลับไปว่า “ลูกสาวกู้เฉินไห่ที่ชื่อกู้เซิงโยคนนั้นหรือ?”
ยิ่นจี๋นเหยืนพยักหน้าเขาไม่รู้ว่าเธอเป็นลูกสาวใครแต่ เขามั่นใจว่าเธอชื่อกู้เซิงโยแน่นอน
ยิ่นจี๋นหมู่เหมือนคิดอะไรออกมาอย่างกระทันหันเธอ มองหน้ายิ่นจีนเหยืนแล้วพูดว่า:” พี่คิดว่าวันก่อนแม่ของ คุณหนูกู้มาขอประวัติของเธอจากพี่ไปงั้นคุณหนูกู้คง ชอบเธอหรือไม่ก็มีความรู้สึกดีๆต่อเธอหล่ะสิ”
ยิ่นจีนเหยืนไม่คิดว่าเธอจะชอบตัวเองอะไรขนาดนั้น แค่เธอพยามยามจะแต่งงานกับเขาให้ได้แค่นั้นเองเธอ ใจร้อนถึงเพียงนี้เธอต้องมีจุดประสงค์อะไรแน่ๆ
” ไม่ได้ฉันต้องหาคนไปสืบประวัตของคุณหนูกู้ให้ ได้”ยิ่นจี๋นหมู่พูดคนเดียวเธอไม่ถามยิ่นจี๋นเหยืนอะไรต่อ แต่เธอรีบหยิบมือถือขึ้นมาโทรให้คนไปสืบประวัติของ คุณหนูกู้ทันที
ในระหว่างที่พี่ใหญ่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ยิ่นจี๋นเหยืนก็ รีบลุกขึ้นมาแล้ววิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนตัวเองทันทีเขาปิด ประตูและนอนพลิกตัวไปมาบนเตียงนอนเขาถอยหายใจ ยาวๆและเขากำลังอยากหลับตาพักผ่อนแต่ขณะที่เขา หลับตาเขาก็นึกถึงสีหน้ากู้เซิงโยที่จริงจังว่าเธอนั้นอยาก แต่งงานกับเขาเขาคิดไปคิดมาและลุกขึ้นมาพูดว่าฉัน ควรจะกลับไปที่ค่ายทหารได้แล้ว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ