ตอนที่ 5 เซอร์ไพรส์
“จากนั้นหล่ะ?” ยิ่นจี๋นเหยืนจ้องหน้าเธอด้วยสายตาอัน แหลมคมเขาจ้องเธอจนเหมือนจะทะลุปรุโปร่ง
“ฉันคิดว่าเราสามารถร่วมมือกันได้เธอแต่งงานกับฉันงั้น คนที่บ้านเธอก็จะไม่มาวุ่นวายกับเธออีกเธอจะได้ไม่ต้อง ออกเดทกับใครอีกที่สำคัญเธอจะได้มุ่งมั่นกับการงาน ของเธอไง”จิ้นเสี่ยวลิ่งพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“แล้วเธอได้ประโยชน์อะไรจากการแต่งงานครั้งนี้ หล่ะ? “ยิ่นจี๋นเหยีนก็ขี้เกียจอ้อมค้อมกับเธอเขาขอถาม เธอตรงๆเลยแล้วกัน”ฉันไม่รักเธอและไม่ได้มีความรู้สึก ดีๆกับเธอด้วยหากเราร่วมมือมาแต่งงานกันเธอจะได้ผล ประโยชน์อะไรในการแต่งงานครั้งนี้กันแน่? ”
จิ้นเสี่ยวลิ่งพูดว่าฉันมีความรู้สึกดีๆกับเธอถึงได้ พยายามใกล้ชิดกับเธอแต่ยิ่นจี๋นเหยืนไม่เชื่อว่าการ แต่งงานครั้งนี้เพียงแค่เธอมีความรู้สึกดีๆเธอก็ยอม แต่งงานกับเขาแล้วในเมื่อเธอเอาความสุขทั้งชีวิตของ เธอมาเดิมพันงั้นมันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่นอน
ฉันได้เธอมาครอบครองไง” จิ้นเสี่ยวลิ่งจ้องตาเขา:”ถึง แม้เธอยังไม่ได้ชอบฉันในตอนนี้ก็ตามแต่ให้ฉันได้ แต่งงานกับเธอก่อนเถอะฉันก็มีโอกาสมากกว่าคนอื่น สุภาษิตที่ว่าน้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อนยังใช้ได้ จริงในชีวิตจริงไม่แน่นะเวลาผ่านไปนานเธออาจจะรัก ฉันจริงๆก็ได้
สีหน้าของจิ้นเสี่ยวลิ่งพูดอย่างกะมันได้เกิดขึ้นจริงๆ
ยิ่นจี๋นเหยืนจ้องเธออยู่นานถึงพูดกับเธอไปว่า:” มันไม่ ยุติธรรมกับเธอที่สำคัญทำแบบนี้กับเธอมันเหมือนไม่ให้ เกียรติเธอเลย”
บ้าบอคอแตกจิ้นเสี่ยวลิ่งด่าในใจทำไมเขาถึงเหมือน พ่อที่บ้านได้ขนาดนี้เมื่อก่อนพ่อที่บ้านก็เคยบังคับให้เธอ ไปเป็นทหารสุดท้ายพอเธอพูดเหตุผลกับพ่อพ่อถึงล้ม เลิกความคิดนี้ไปเขาสองคนช่างเหมือนกันเหลือเกินพวก เขาชอบพูดคำว่าไม่ยุติธรรมและชอบพูดคำว่าไม่มีความ รับผิดชอบอยู่ตลอดเวลาเขาสองคนเหมือนกันจริงๆเป็น ทหารเหมือนกันความคิดก็ต้องเหมือนกันด้วยเหรอ? ”
คิดในใจและด่าในใจจิ้นเสี่ยวลิ่งไม่สามารถพูดมันออก มาโดยเฉพาะอย่างยิ่งฤทธิ์เดชของพ่อเธอเธอรู้ดีกว่าใคร คนแบบเดียวกันกับพ่อของเธอจะให้เอาชนะง่ายๆคงเป็น ไปไม่ได้
” หากเธอไม่รับปากและไม่เห็นด้วยถึงจะไม่ยุติธรรมกับ ฉัน”
“หากฉันรับปากและหากฉันเห็นด้วยถึงจะถือว่าฉันเป็น คนไร้ความรับผิดชอบต่อเธอและต่อการแต่งงานครั้งนี้ ด้วย” ยิ่นจีนเหยีนยังคงหนักแน่น
“ยังไม่ได้ลองเลยเธอจะรู้ได้ไง” จิ้นเสี่ยวลิ่งสวนกลับไป ทันควัน:”ไม่แน่หากเธอสัมผัสฉันบ่อยๆเธออาจรักฉันก็ได้ ฉันมั่นใจในตัวเองฉันอยากขอโอกาสจากเธอสักครั้งถ้า เธอยอมให้โอกาสฉันถึงว่าเธอยุติธรรมกับฉัน”
พอยิ่นจี๋นเหยืนอยากเอ่ยปากพูดอีกครั้งจิ้นเสี่ยวลิ่งก็รีบพูดขึ้นมาอีกว่า
” ครึ่งปี ” ครึ่งปีเท่านั้น”จิ้นเสี่ยวลิ่งจับมือของเขาและ 11 จ้องหน้าของเขาอย่างจริงจัง” หากภายในครึ่งปีฉันไม่ สามารถทำให้เธอรักฉันได้งั้นเราค่อยหย่ากันก็ได้ถึงเวลา นั้นฉันจะไม่ยื้อเธออีกต่อไป”
ยิ่นจี๋นเหยืนจ้องเธอนานมากเขาไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี บรรยากาศเริ่มเครียดมากขึ้น
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ยิ่นจี๋นเหยืนก็ดึงมือตัวเอง ออกมาจากนั้นเขาพูดแค่ว่า:” ทานข้าวเถอะ
“อืม” เขายังไม่ได้ปฎิเสธซะทีเดียวยังน้อยเธอยังก็ยังมี โอกาสจิ้นเสี่ยงลิ่งไม่พูดต่อเธอพยักหน้าและตั้งใจทาน ข้าวอย่างเงียบๆ
พอทานข้าวเสร็จยิ่นจีนเหยีนก็เดินออกไปจากร้านก่อน เขาเดินไปที่รถยนต์ของตัวเองจากนั้นถึงหันไปมองจิ้น เสี่ยวลิ่ง
จิ้นเสี่ยวลิ่งเดินมาถามเขา:”ขับรถพาฉันไปกินลมมั้ย?”
ยิ่นจี๋นเหยีนไม่ตอบอะไรกับเธอเขามองหน้าจิ้นเสี่ยว ลิ่งและพูดว่า:”ฉันเป็นทหารเธออาจจะไม่เข้าใจการที่ฉัน เป็นทหารมาทั้งชีวิตในชีวิตของฉันไม่มีคำว่าทดลองสอง คำนี้ร่างกายของเราแบกภาระที่สำคัญไว้อย่างหนักแน่น เราไม่เคยปฎิบัติงานด้วยความทดลองหรือสะเพร่าไม่ว่า จะงานเล็กหรืองานใหญ่ก็ตามหากฉันไม่ใช่ผู้ชายที่เธอ มั่นใจคนนั้นฉันจะไม่มีวันแต่งงานกับเธอเด็ดขาดเพราะหากเธอแต่งงานกับฉันฉันก็ต้องรับผิดชอบเธอให้ถึงที่ สุด”
พอได้ยินคำพูดของเขาจิ้นเสี่ยวลิ่งก็ทำหน้าเศร้าเธอ พูดว่า:” ทหารนี้เป็นแบบนี้ทุกคนเลยหรือต้องมีระเบียบ ต้องตรงต่อเวลาต้องมีความรับผิดชอบ? “ชีวิตคนเราบาง ครั้งก็ไม่จําเป็นต้องเจ้าระเบียบขนาดนี้ก็ได้บางครั้งเราก็ ต้องการการเซอร์ไพรส์ที่ทำให้ชีวิตเรากระชุ่มกระชวย บ้างชีวิตถึงจะมีรสชาติ”
” ฉันไม่ชอบการเซอร์ไพร์สเพราะมันนอกเหนือจากการ 11 ควบคุมของฉันฉันชอบการเตรียมพร้อม
ขณะที่จิ้นเสี่ยวลิ่งอยากสวนกลับไปเสียงมือถือของถิ่น จิ่นเหยีนก็ดังขึ้นมาพอดี
ยิ่นจี๋นเหยืนหยิบมือถือขึ้นมาดูเขาเห็นว่าสายโทรมา จากพี่สาวเขาเขาตัดสินใจไม่รับสายเพราะเขารู้ดีว่าพี่ สาวเขาโทรมามีเรื่องอะไรกันแน่
สายโทรเข้ามาเรื่อยๆสุดท้ายเขาก็ต้องรับสายขึ้นมายิ่ นจี๋นเหยีนยังไม่ทันเอ่ยปากพูดพี่สาวของเขาก็จัดมาชุด ใหญ่เลย:”จี๋นเหยีนคุณหนูเฉินโทรมาบอกว่าเธอเป็นคน หลอกลวงเธอมีแฟนอยู่แล้วยังนัดเธอไปออกเดทที่สำคัญ เธอยังพาผู้หญิงไปด้วยมันยังไงกันแน่เธอมีแฟนตั้งแต่ เมื่อไหร่ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครมาจากไหนชื่ออะไรบ้านเธอ ทำธุรกิจอะไรยังมีอีก……
“พี่…. พี่ถามคำถามฉันเยอะขนาดนี้ฉันจะตอบข้อไหน ก่อนดี? “น้ำเสียงยิ่นจี๋นเหยืนเหมือนรำคาญเล็กน้อย
“ตอบมาทีละข้อ” ยิ่นจีนฮุ่ยพูดแบบขึ้นเสียง
ยิ่นจี๋นเหยืนมองหน้าจิ้นเสี่ยวลิ่งและพูดกับพี่สาวเขาใน โทรศัพท์ไปว่า:ตอนนี้ฉันติดธุระอยู่รอให้กลับถึงบ้านเรา ค่อยคุยกัน” พูดอยู่ก็วางสายไปทันที
เห็นเขาวางสายไปจิ้นเสี่ยวลิ่งก็ถามเขาว่า:โทรศัพท์ จากบ้านใช่มั้ย? ”
ยิ่นจี๋นเหยืนไม่ตอบเธอเขาพูดกับเธอว่า “หากคุณหนูกู้
หมดธุระแล้วงั้นฉันขอตัวกลับก่อน”
“รอก่อนฉันยังพูดไม่จบ” จิ้นเสี่ยวลิ่งดึงมือเขาและ จ้องหน้าเขา:” เธอบอกว่าเธอไม่ชอบการเซอร์ไพรส์แต่ เรื่องบางเรื่องก็ใช่ว่าจะเป็นไปตามแผนที่เราวางไว้เสมอ ไปอย่างเวลาเผชิญกับภารกิจที่อันตรายเราก็อาจต้อง เปลี่ยนแผนการกระทันหันก็ได้”
“ใช่ภารกิจที่อันตรายอาจมีการเปลี่ยนแปลงแผนการ อย่างกระทันหันได้แต่ปกติไม่ว่าจะเจอกับอันตรายอะไร เราก็เตรียมตัวมาพร้อมอย่างดีแต่การแต่งงานมันไม่ เหมือนกัน”
คำพูดของเขาทำให้จิ้นเสี่ยวลิ่งจนคำพูดเพราะเธอก็มี พ่อเป็นทหารเช่นกันเธอเข้าใจดีกับคำว่าฝึกฝนและเธอ ก็ไม่เถียงว่าการฝึกฝนนั้นก็คือการเตรียมพร้อมกับทุก เหตุการณ์
เห็นเธอไม่พูดจายิ่นจี๋นเหยีนก็ไม่พูดอะไรต่อให้มาก ความเขาขึ้นรถและหันมามองเธอแล้วพูดกับเธอว่า” ต้องขอโทษด้วยฉันไม่ใช่คนที่เธอใฝ่ฝันขอให้เธอเจอกับคนที่ ใช่และขอให้เธอกับเขาอยู่กันอย่างมีความสุข”
คำปฎิเสธของเขาทำให้จิ้นเสี่ยวลิ่งเสียใจเธอพูดกับเขา ว่า:”ในเมื่อเธอก็ปฎิเสธฉันถึงขนาดนี้แล้วเธอจะมาสนใจ ทำไมว่าฉันจะมีความสุขหรือไม่
ยิ่นจิ๋นเหยืนไม่โกรธที่เธอพูดแบบนี้แต่เขากลับยิ้มให้ เธอจากนั้นถึงสตาร์ทเครื่องยนต์และขับรถออกไป
จิ้นเสี่ยวลิ่งยังคงจ้องทางที่เขาขับรถไปเธอโมโหและ กระดกเท้าอย่างกับเด็กจากนั้นเธอก็ขึ้นไปที่รถของเธอ เช่นกัน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ