ตอนที่ 3 ออกตัวแรง
นั่งอยู่ในห้องทำงานจิ้นเสี่ยวลิ่งกัดหัวปากกาและจ้องมือ ถือที่วางอยู่บนโต๊ะเธอคิดแล้วคิดอีกสุดท้ายเธอหยิบมือ ถือขึ้นมาดูเบอร์โทรที่บันทึกไว้ในมือถือเธอลังเลอยู่พัก ใหญ่สุดท้ายเธอก็โทรเบอร์นั้นออกไป
แต่ว่าพอเธอโทรไปปุ๊บคนฝั่งตรงข้ามอย่างยิ่นจี๋นเหยืน ก็รับสายทันทีเลยเธอตกใจและตื่นเต้นมากที่คนตรงข้าม รับสายเร็วกว่าที่คิดไว้เยอะ
“พี่ใหญ่ฉันรู้แล้วเวลาหนึ่งทุ่มตรงของคืนนี้โต๊ะที่นั่ง เบอร์สิบสองคุณหนูบ้านตระกูลเฉินฉันจะไปตามเวลาที่ กำหนดแน่นอนพี่วางใจเถอะ” ยิ่นจี๋นเหยืนพูดแบบรำคาญ และไม่เต็มใจ
“ฮะ? “จิ้นเสี่ยวลิ่งงงๆพอเธอได้สติเธอถึงรู้ว่าเขาคิดว่า คนที่โทรมาคือพี่สาวเขา
พอคุยไปสักพักเขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติเขาดูเบอร์ โทรดีๆอีกครั้งเขาถึงได้รู้ว่าคนที่โทรมาไม่ใช่พี่สาวเขา จากนั้นเขาถามกลับไปว่า:”นั่นใคร? ”
เขาพูดแบบสั้นๆเหมือนกับว่าเขากำลังรำคาญมาก
จิ้นเสี่ยวลิ่งก็ได้สติกลับมาเช่นกันเธอพูดกลับไปว่า:”ฉัน อยากชวนคุณชายยิ่นไปทานข้าวแต่ดูท่าทางคุณชาย ยิ่นคงไม่ว่างซะแล้ว”
“กู้เซิงโยหรือ?” ยิ่นจี๋นเหยีนขมวดคิ้วและไม่ค่อยแน่ใจว่าใช่เธอรึเปล่า
” คุณชายยิ่นไม่กลัวเรียกชื่อผิดหรือ?” จิ้นเสี่ยวลิ่งตั้งใจ แซวเขาเพราะเขาเปลี่ยนเป้าหมายเร็วเหลือเกินเมื่อวาน เพิ่งนัดเจอกับเธอแต่ผ่านไปแค่วันเดียวเขาก็เปลี่ยนเป้า หมายใหม่ซะแล้ว
“ความจํฉันดีมาตลอด”ยิ่นจี๋นเหยืนตอบเธออย่าง จริงจัง
จิ้นเสี่ยวลิ่งขี้เกียจอ้อมค้อมกับเขาความจริงเธอไม่สน สักนิดว่าเขาจะจำเธอได้รึเปล่าต่อให้เขาลืมไปแล้วยังไง เธอก็ต้องพยายามทำให้เขาจำเธอให้ได้ขณะนี้จิ้นเสี่ยว ลิ่งตั้งใจทำเสียงอ่อนโยนเธอพูดกับเขาว่า:” ความจริงฉัน โทรมาเพื่ออยากชวนเธอไปทานข้าวไม่ทราบว่าคุณชาย ยิ่นจะให้เกียรติไปกับฉันมั้ย”
“ขอโทษจริงๆฉันไม่ว่าง” ยิ่นจี๋นเหยืนปฎิเสธเธออย่าง เด็ดขาดเขาไม่ไว้หน้าเธอเลยสักนิด”
จิ้นเสี่ยวลิ่งรู้สึกเจ็บใจมากเขากัดฟันและอยากจะกิน เขาเข้าไปในท้องทันทีเลยแต่ก็คงได้แต่คิดทำอะไรเขา ไม่ได้สักอย่าง
ถึงเธอจะโกรธแค่ไหนก็ตามแต่เธอก็รู้สถานะตัวเอง ดีเพื่อให้ได้เขามาครอบครองไม่ว่าจะอ่อยหรือจะให้ เอาใจเขาแค่ไหนมันไม่ใช่ประเด็นสำคัญเป้าหมายที่เธอ ต้องการคือสุดท้ายแล้วเขากับเธอได้ลงเอยด้วยการ แต่งงาน
พอคิดถึงตรงนี้จิ้นเสี่ยวลิ่งก็พูดขึ้นมาอีกว่างั้นวันหลัง เราค่อยนัดเจอกันก็ได้”
ยิ่นจี๋นเหยืนยังคงนิ่งเฉยและเย็นชาเขาพูดกับเธอ ว่า:”อีกสองสามวันฉันก็กลับไปที่ค่ายทหารแล้วเราคง ไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้ว” จิ้นเสี่ยวลิ่งกัดฟันเธอเอา โทรศัพท์ห่างจากปากเธอไกลๆและแอบด่ายิ่นจีนเห ยีนสักพักจากนั้นเธอค่อยพูดขึ้นมาอีกว่า:”งั้นหรือ? น่า เสียดายจริง”
เขาไม่อยากทำให้จิ้นเสี่ยวลิ่งเข้าใจผิดและไม่อยากให้ โอกาสเธอด้วยเขาพูดกับเธอว่า:” หากคุณหนูกู้ไม่มีธุระ อะไรแล้วงั้นฉันขอวางสายไปก่อนนะ”
ในเมื่อเขาก็พูดมาขนาดนี้แล้วจะให้จิ้นเสี่ยวลิ่งพูดอะไร ต่ออีกเธอตอบไปเพียงคำเดียวสั้นๆว่า”อืม”จากนั้นเธอ โยนโทรศัพท์ไปที่โต๊ะและพูดอย่างโมโหว่า:”ฉันไม่เชื่อ หรอกว่าฉันจะปราบเธอไม่ได้?”
ในระหว่างที่เธอกำลังโมโหอยู่ห้องทำงานของเธอก็มี คนผลักประตูจากข้างนอกเข้ามาผู้ช่วยของเธอถือผ้าเข้า มาและพูดกับเธอว่า:”พี่เสี่ยวลิ่งผ้าที่พี่ต้องการฉันได้หา มาเรียบร้อยแล้วเธอดูสิถูกต้องรึเปล่า” พอพูดอยู่ก็วางผ้า เหล่านั้นไว้บนโต๊ะ
จิ้นเสี่ยวลิ่งหยิบผ้าขึ้นมาดูและเงยหน้าขึ้นมาถามเสี่ยว เถาว่า:”เสี่ยวเถาเธอมีแฟนรึยัง?”
“ฮะ?” เสี่ยวเถาอึ้งไปสักพักเธอเงยหน้าขึ้นมาตอบจิ้น เสี่ยวลิ่งว่า”:”แฟนหรือ?”
“ใช่แล้วมีมั้ย?” จิ้นเสี่ยวลิ่งจ้องหน้าเธอด้วยสีหน้าสงสัย “ทำไมถึงถามอย่างกระทันหันเช่นนี้หล่ะ?” เสี่ยวเถาเขิน
อายเล็กน้อย
“นึกถึงก็ถามเลยไง”จิ้นเสี่ยวลิ่งยังไม่ยอมเลิกลา:”รีบ ตอบมาตกลงมีหรือไม่มี? ”
“คือว่า….มีอยู่แต่เพิ่งจะเป็นแฟนกันได้ไม่นานนี้เอง” เสี่ยวเถาก้มหน้าและตอบแบบเขินๆ
“จิ้นเสี่ยวลิ่งถามขึ้นมาอย่างสงสัยอีกว่า:”เขาจีบเธอหรือ เธอจีบเขา? ”
” ฉันเป็นคนจีบเขาเองเพราะฉันไปสารภาพรักกับเขา 11 ก่อน” พอพูดถึงแฟนคนนี้สีหน้าเสี่ยวเถาก็เต็มไปด้วยรอย ยิ้มแห่งความสุข
“จีบยังไงเหรอ?” มอบของขวัญหรือชวนทานข้าว? “พอ พูดถึงเรื่องชวนทานข้าวยิ่นจี่เหยืนปฎิเสธเธอได้เด็ดขาด มาก
“คือเราต้องหน้าด้านหน่อยเราเป็นผู้หญิงจีบผู้ชายก่อน ผู้ชายต้องใจอ่อนอยู่แล้ว” เสี่ยวเถารีบเปลี่ยนคำพูดอื่น:” พี่เสี่ยวลิ่งผ้าพวกนี้ใช้ได้รึเปล่าห้างสรรพสินค้าทางโน้น เขาเร่งเราอีกแล้วนะ”
พอพูดถึงเรื่องงานจิ้นเสี่ยงลิ่งก็ดึงสติกลับมาเธอมองผ้า เหล่านั้นและพูดว่า:” เร่งเร่งเร่ง…. เร่งอยู่นั่นแหละหากเขา เร่งขนาดนี้งั้นให้เขามาเป็นดีไซเนอร์เองแล้วกันอย่ามาหาฉันอีก”
เสี่ยวเถาแลบลิ้นเธอเป็นแค่ผู้ช่วยเล็กๆเธอไม่อยาก ออกความเห็นใดๆเธอพูดแค่ว่า:” พี่เสี่ยวลิ่งหากไม่มีธุระ อะไรแล้วฉันขอตัวออกไปก่อนนะ”
จิ้นเสี่ยวลิ่งโบกมือลาเสี่ยวเกา
พอเสี่ยวเถาออกไปจิ้นเสี่ยวลิ่งก็นั่งคิดอยู่ตั้งนานจาก นั้นเธอคิดอะไรออกมาอย่างการะทันหันเธอดูนาฬิกา เวลานี้ก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว
เธอวางมือถือลงและตัดสินใจอะไรบางอย่างในใจสัก พักเธอยิ้มออกมาอย่างดีใจว่า:” ต้องใจกล้าต้องหน้าด้าน ใช่ไหม?”
อากาศเดือนเมษากลางคืนมืดเร็วกว่าปกติยังไม่ถึงหนึ่ง ทุ่มอากาศข้างนอกก็มืดมิดไปหมดจิ้นเสี่ยวลิ่งจอดรถบน สนามหญ้าเธอนั่งอยู่ในรถเพื่อดูโต๊ะข้างหน้าต่างเบอร์สิบ สอง
เป็นไปตามอย่างที่เธอคิดไว้จริงๆเพราะทหารเป็นคนที่ ตรงต่อเวลามากยิ่นจี๋นเหยีนมาถึงก่อนเวลานัดสิบนาที เวลานี้ท่านั่งของเขาเหมือนกับเมื่อวานที่นัดเจอกับเธอ อย่างนั้นเลย
จิ้นเสี่ยวลิ่งไม่รีบร้อนเข้าไปเธอดับเครื่องยนต์และนั่ง สังเกตุเหตุการณ์ในรถอย่างเงียบๆ
คุณหนูบ้านตระกูลเฉินคนนั้นมาถึงร้านเวลาหนึ่งทุ่มตรงขณะนี้เธอสวมชุดกระโปรงสีชมพูและทำผมลอนซ์ ปรากฏตัวขึ้นมา
ช่างเถอะเธอจะใส่ชุดอะไรก็เรื่องของเธอในเมื่อคนมา ถึงครบแล้วจิ้นเสี่ยวลิ่งก็จับผมและเดินลงมาจากรถเธอ เดินตรงเข้าไปที่ร้านทันที
เสี่ยวเถาพูดถูกผู้หญิงต้องใจกล้าต้องหน้าด้านเพราะ ฉะนั้นเธอต้องเอาผู้ชายคนนี้มาให้ได้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ