Beautiful leader 18+

บทที่19 โซนี่ อีริคสัน ขอความรัก



บทที่19 โซนี่ อีริคสัน ขอความรัก

ข้อมูลการอบรมถูกส่งมาแล้วนั้น วิทยากรที่จะอบรมให้ก็เริ่มสอน ผมไม่กล้าแอบอู้เลย หลังจากที่เรียนสองบทไปแล้วนั้น ผมถึงได้ พบว่า ก่อนหน้านี้ที่หัวหน้างานและหัวหน้ากะสอนพวกเรานั้น ล้วนแต่เป็นเพียงความรู้อันผิวเผินเพียงเท่านั้น การแสดงความ คิดเห็นการปรับปรุงการทำงานที่เกี่ยวกับบริษัทที่ผมเขียนไปนั้น ตอนนี้กลับมาคิดดูแล้ว ก็ดูเป็นเรื่องไร้สาระวกวนมีข้อบกพร่อง มากอยู่เช่นนั้นจริงๆ….

เนื่องจากว่าสิ่งที่หัวหน้าสอนผมมานั้นเป็นเพียงแค่ความรู้ผิว เผิน ดังนั้น เมื่อเรียนรู้เบื้องหลังของโรงงาน ระบบกฎระเบียบ ของฝ่ายบุคคล นโยบายคุณภาพ ระบบการบริหารคุณภาพของ มาตรฐาน โครงสร้างองค์กรระดับนานาชาติ ความรู้ด้านต่างๆ ของการผลิต จึงค่อนข้างยากพอสมควร

ในจํานวนคนเข้าฝึกอบรมสี่ร้อยกว่าคน คนส่วนใหญ่ล้วนแต่ ตั้งใจเรียนกันทั้งสิ้น ตอนเช้าเข้าไปทำงาน ตอนบ่ายก็จะถือสมุด บันทึกมาอบรมกันอย่างตรงเวลา แทบไม่แตกต่างจากนักเรียนที่ กำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเลย

วันอบรมวันที่สาม ผมมองดูวิทยากรที่กำลังสอนอย่างได้ อรรถรส ในใจนั้นรู้สึกแอบชื่นชม ไม่ใช่เป็นเพียงแค่อบรม ระบบISO9001หรอกหรือ ดูว่าจะตื่นเต้นซะขนาดไหนกันเชียว ผลิตภัณฑ์ของประเทศจะได้รับการยกเว้นการตรวจสอบได้อย่างไร เช่น นมผงบางประเภท ก็ยังไม่ใช่ว่าเป็นภัยกับ ประชาชนอย่างนั้นหรือ?

“ตรงนี้มีคนนั่งไหมคะ?” น้ำเสียงที่นุ่มนวลและลากยาวของผู้ หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ทำให้นึกไปถึงเรื่องบนเตียงระหว่างชายหญิง ขึ้นมา

ผมที่กำลังรู้สึกง่วงอยู่นั้นราวกับถูกปลุกด้วยสายฟ้าที่ผ่าลงมา จึงหันไปมองอย่างกะทันหัน หญิงสาวที่ใส่ชุดดูเปล่งประกาย ดวงตาเรียวเล็ก ฟันขาวเรียงกันเป็นแถว ผิวขาวสะอาด เหมือน กับลิ้นจี่ขาวๆที่ปอกเปลือกแล้ว เนื้อหอมน่ากินเหลือเกิน

ผมมองซ้ายมองขวา คิดว่าเธอไม่ได้พูดกับผม เธอจึงพยักหน้า ให้ผมเล็กน้อย เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าเธอกำลังพูดกับผม ผมถึง ได้พยักหน้าให้เธอแล้วตอบกลับไป : “ตรงนี้…ไม่มีคนนั่งครับ

เธอนั่งลง นิ้วเรียวขาวนั้นหยิบสมุดและปากกาออกมาจาก กระเป๋า เป็นการกระทำที่ดูสง่างาม ผมหันไปมองพนักงานที่อยู่ รอบๆ คนส่วนใหญ่จะใส่ชุดทำงานมาอบรม แต่ผู้หญิงคนนี้ใส่ ชุดที่ไม่เข้ากันกับพวกเรา เธอคงจะไม่ได้เป็นพนักงานทั่วไปของ โรงงานเราใช่ไหม?

ผมรู้สึกสงสัยมาก แล้วก็อยากจะรู้จักเธอด้วยเช่นกัน คิดอยาก จะเอ่ยพูดคุยกับเธอ แต่ใครจะรู้กันว่าหลังจากที่เธอนั่งลงแล้วก็ ไม่เอ่ยพูดอะไรออกมาเลยตั้งใจเรียนมากขนาดนั้น ผมยาวสลวย ปังปิดแก้มของเอ ตอนที่เธอเงยหน้าขึ้นมามองตรงเวทีนั้นจะ สามารถมองเห็นปลายจมูกของเธอได้เล็กน้อย เธอมักจะใช้นิ้วขาวๆขึ้นมาลูบผมยาวๆของเธอเป็นครั้งคราว กลิ่นหอมที่ลอยมา ทำให้คนรู้สึกใจเต้นแรง

เหมือนกับดาวมหาวิทยาลัยคนนั้นที่เล่นกู่เจิ้งภาควิชาดนตรีที่ อยู่ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ของเราเลย เธอหัน หน้ามา แล้วเห็นว่าผมกำลังมองเธออยู่ เธอดูประหลาดใจ มอง สบตาผมก่อน ใบหน้าเริ่มแดงขึ้น แล้วจึงหันกลับไป

ผมรู้สึกว่าผมเสียมารยาทจึงหันกลับมา แล้วใบหน้าก็เริ่มร้อน ขึ้นมา

“ทำไมคุณมองฉันแบบนี้ล่ะคะ?” เธอเอ่ยถามผมเบาๆ

นั่นสิ ทำไมผมต้องมองคุณแบบนี้กัน? แววตาทั้งสองและรอย ยิ้มบนใบหน้าที่ปรากฏความลามกออกมา……. น้ำเสียงที่นุ่มนวลของเธอทำให้ผมรู้สึกสบาย ผมจึงเอ่ยพูด

ขึ้น : “รู้สึกว่าคุณจะเหมือนกับดาวมหาวิทยาลัยที่อยู่ตรงข้ามกับ

มหาวิทยาลัยของผมเลยครับ.……..

เธอยังคงไม่มองผมเช่นเคย ก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่ออ่านที่ตัว เองจดบันทึกเอาไว้ แล้วยิ้มพลางเอ่ยขึ้น : “คนที่คุณแอบรักหรือ เปล่าคะ?”

ผมเอ่ยขึ้น : “ใช่ว่า….จะรู้สึกว่าผมใช้คำพูดแบบนี้มาทำความ รู้จักกับสาวสวย แล้วรู้สึกว่าผมล้าสมัยไปแบบนี้หรอกใช่ไหม ครับ?”

“ถ้าหากประโยคนั้นของคุณที่ว่าฉันเหมือนกับดาวมหาวิทยาลัยที่อยู่มหาวิทยาลัยตรงข้ามกับคุณไม่ใช่เรื่องจริงล่ะ ก็นั่นไม่ใช่ว่าคุณล้าสมัยหรอกค่ะ แบบนั้นคือเชยต่างหาก…… เธอเงยหน้าขึ้นมา แล้วเอียงมองผม ใบหน้าแดงและเปื้อนรอย ยิ้ม

ใบหน้าของเธอ โค้งมนเล็กน้อย ดวงตากลมโตบริสุทธิ์ ขนตา ยาวๆของเธอดึงดูดคนได้อย่างชัดเจน เซ็กซี่เป็นอย่างมาก ผู้ หญิงคนนี้คงจะอายุไม่น่าเกินยี่สิบเสียด้วยซ้ำ ผมคิดในใจ

ผมหันตัวไปหาเธอเล็กน้อย พลางเอ่ยถาม : “คุณอยู่โรงงาน ไหน?”

เธอมองผม ไม่ได้ยิ้มออกมาแล้ว ตอบคำถามผม : “ฉันอยู่ใน ออฟฟิศค่ะ”

“หืม? ออฟฟิศก็ต้องมาอบรมด้วยหรือ?” ผมเอ่ยขึ้นมาอย่าง

แปลกใจ

“ใช่ค่ะ ฉันเพิ่งสมัครเข้ามา แล้วคุณล่ะคะ?” เธอย้อนถามผม ผมตอบกลับไป : “ผมน่ะหรือ….ขันน็อตในโรงงานนี่แหล่ะ ครับ”

เธอหัวเราะออกมาอย่างสดใส และหลังจากที่หยุดหัวเราะแล้ว นั้น เธอมองนาฬิกาสีเงินแล้วเอ่ยถาม : “หกโมงเลิกเรียนใช่ไหม คะ?”

“ครับ…คุณ เหมือนจะไม่ใช่คนในเมืองนี้?” ผมเอ่ยถาม เธอว่า : “ไม่ใช่ค่ะ…ฉันเป็นคนต่างจังหวัด
ผมเอ่ยถาม : “คุณ ออะไรครับ?”

เธอยื่นสมุดมาให้ผมดู หน้าปกสมุดนั้นมีชื่อของเธอเขียนไว้ อย่างสวยงาม : เซินเหม่ย

“เซินเหม่ย? เป็นชื่อที่แปลกมาเลยนะครับ…. ผมว่า เธอไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่กลับยิ้มให้ผมแทน สดใสราวกับ

ดอกไม้ในช่วงฤดูร้อนอย่างไรอย่างนั้น

ผมจึงมีความใจกล้าเอ่ยถามขึ้นอีก : “เบอร์โทรศัพท์มือถือ ของคุณเบอร์อะไรครับ?”

ผู้หญิงคนนี้สวยมาก ไม่คิดว่าโชคเรื่องความรักของผมจะยัง พอมีอยู่บ้าง ได้พบกับเถาเจ๊ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปคนสวยนั่นก่อน (ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีความสุขซักเท่าไรก็ตาม) และอีกสองสามมา จึงได้พบกับเซินเหมียสาวสวยราวดอกไม้เช่นนี้

หลังจากที่ผมถามเบอร์โทรศัพท์มือถือของเธอแล้ว เธอก็ไม่ได้ พูดอะไรออกมา แล้วก้มหน้าลงเหมือนกับกำลังหาอะไรใน กระเป๋า ในใจของผมนั้นรู้สึกผิดหวัง การสอบถามแบบนี้ คาดว่า คงจะทำให้เธออดที่จะรำคาญไม่ได้

แต่กลับไม่คาดคิดว่าเธอจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วยื่น ส่งให้ผม พลางเอ่ยขึ้น “ฉันเพิ่งจะมาอยู่ที่นี่ เพิ่งจะได้เบอร์มา : ไม่รู้ว่าเบอร์ของฉันเองคือเบอร์อะไร

ผมรู้สึกดีใจ แล้วหยิบมากดโทรออกเบอร์ของตัวเอง โทรศัพท์ มือถือของเธอนั้นเป็นแบบหน้าจอสัมผัสของโซนี่ อีริคสันสวยงามและดูดีอย่างมีระดับเหมือนกับเธอ

โซนี่ อีริคสัน ฃอความรัก….ตอนนี้ผมก็กำลังขอความรักอยู่ ไง(ในภาษาจีน การออกเสียงของขอเหมือนกับโซ)


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ