Beautiful leader 18+

บทที่15 คุณหยาบคาย



บทที่15 คุณหยาบคาย

วันรุ่งขึ้นพักผ่อน วันถัดไปก็จะอยู่กระเช้า เมื่อคืนนี้ผมก็ฝันถึงผู้ หญิงที่ผมถึงเสื้อหลุดเห็นหน้าอกอวบอิ่ม สะโพกผายคนนั้น เล่น เอาผมนอนไม่หลับทั้งคืน ทำให้ตลอดทางที่ไปทำงานผมหาว ติดต่อกันหลายครั้ง

ออกจากเขตบริเวณหอพักที่มีวิวทิวทัศน์สวย เงาของต้นไม้ที่ หลากหลายแล้วนั้น ก็เลี้ยวซ้ายเข้าเขตของโรงงาน และตึกที่อยู่ สุดท้ายนั่นก็คือสนามรบของผม โรงงานไม้หงเตรียมการมา เป็นเวลาสองปี โดยบริษัทเทิงเฟย ปีนี้ถึงได้เริ่มการก่อสร้างขึ้น มา อาคารแต่ละตึก หรือแม้กระทั่งต้นไม้ทุกต้นจึงดูใหม่เอี่ยม ทั้งหมด พนักงานที่มาอยู่ที่นี้ทั้งสองพันกว่าคน โดยแต่ละคนก็ ราวกับได้รับชีวิตใหม่อย่างไรอย่างนั้น ที่ผมพูดถึงนั้นไม่ได้หมาย ถึงคนที่เพิ่งออกมาจากคุกแล้วได้ชีวิตใหม่ แต่เป็นการที่ได้เขา มาใช้ชีวิตใหม่ในสภาพแวดล้อมใหม่ๆแบบนี้ บรรดาพนักงานก็ ออกแรงกันอย่างกระฉับกระเฉงเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา

ส่วนผมนั้นกลับเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่ ส่งตัวเข้ามาเมื่อห้าเดือนก่อน ตอนที่เพิ่งจะเข้ามานั้นโรงงานอยู่ ในช่วงที่กำลังสร้างมาใหม่ๆ ตอนนั้นความคืบหน้านั้นเสร็จไป แล้วประมาณ70% พวกเราที่เป็นพนักงานใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเหล่า นี้ต่างก็พากันทำงานที่คลาสสิกกันทุกวัน ทั้งแบกไม้ ขนถ่าย สินค้า ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ยกเครื่องจักร……..ทางมหาวิทยาลัย เก็บเงินค่าแนะนำงานนี้จากพวกเราไปคนละสี่ร้อย จะว่าไปแล้วพวกผมเข้ามาก็เป็นช่างเทคนิคนี่เอง แต่จะใครจะรู้ว่าเข้ามาแล้ว จะต้องมาทำงานหนักๆแบบนี้ วันทั้งวันเนื้อตัวเลอะเทอะเหมือน กับตัวมากอย่างไรอย่างนั้น พวกเพื่อนคนอื่นๆก็พากันหัวเราะ เห็นฟันขาวโดยไม่ต้องสงสัย : “วันนี้พวกนายแบกเสาไฟกัน หรือ?”

“ใช่ แล้วพวกนายทำอะไรล่ะ?”

“ดึงเหล็ก….”

“สาบากแย่”

“ที่ไหนกัน? พวกนั้นกำลังขุดฐานที่จะสร้างสโมสรให้พนักงาน หนักกว่าอีก!”

“ใช่ไหม? ฮ่าๆๆๆ…พวกนั้นน่าสงสารจริงๆ

“อืม พรุ่งนี้พวกนั้นก็ต้องมาแบกเสาไฟฟ้า แล้วพวกเราก็ต้อง ไปขุดฐานพวกนั้นแทน……

ในขณะที่เพื่อนๆกว่าครึ่งทนรับกับความยากลำบากนี้ไม่ไหว ไม่ต้องการแม้กระทั่งเงินค่าแรงก็เผ่นหนีไปก่อนเสียแล้ว หลัง จากนั้นก็โทรมาหาผม ก็เอ่ยปากว่าเขตฐานกวานตานาโมของ โรงงานที่สร้างเสร็จแล้วหรือยัง? โชคดีที่หนีออกมาได้เร็ว

เพื่อนที่มหาลัยที่มาทั้งหมดหนึ่งร้อยสามสิบกว่าคน แต่ออกไป แล้วหนึ่งร้อยสิบกว่าคน เหลือเพียงแค่สิบกว่าคน ไม่ใช่ว่าไม่ อยากจะไป แต่ไปไม่ได้ต่างหาก! ผมเองก็อยากจะไป แต่ผมไปไหนไม่ได้ ไม่มีที่จะไป กลับไปในเมือง อย่างแรกก็คือไม่มีที่อยู่

แล้วอีกอย่างหนึ่งก็คือจะต้องหางานใหม่ เช่นนั้นแล้วผมจึงต้อง

อยู่ที่เขตฐานกวานตานาโมแบกไม้ ขุดดิน เนื้อตัวสกปรก

มอมแมมเป็นตัวนากแบบนี้ จำได้ว่าวันนั้นแบกไม้อยู่แล้วถูกตะปู

เสียบเท้า ไปทําแผลที่ห้องพยาบาลแล้วก็ยังถูกหัวหน้างานลาก

กลับไปแบกไม้ต่ออีก ครั้งนั้น ช่างเป็นความยากลำบากเสีย

จริงๆ….

เดือนทีสี่หลังจากที่คนพวกนั้นออกไปกันแล้ว ความคืบหน้า ของโรงงานนี้นับว่าเสร็จสิ้นไปกว่า90%แล้ว หลังจากที่ทำความ สะอาดโรงงานกันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ วิวทิวทัศน์สวยงามและ เปล่งประกาย ผมเองก็ไม่ต้องทนหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินอีกแล้ว จาก ค่าแรงจากงานชั่วคราวนี้ที่ได้เดือนละแปดร้อย ก็โดดเพิ่มขึ้นมา เป็นเดือนละพันแปด ในตำแหน่งพนักงานทั่วไป และอีกไม่ถึง เดือนนั้น จากพนักงานทั่วไปที่มีเงินเดือนเพียงแค่พันแปดนั้นก็ โดดขึ้นไปเป็นพนักงานที่ปฏิบัติการกับอุปกรณ์เครื่องจักรที่มีเงิน เดือนถึงสามพัน คืนก่อนเผชิญหน้าเจอกับหญิงสาวที่ผมดันใจ กล้าไปเปิดหน้าอกขาวๆนั่นของเธอ วันนั้นนับว่าเป็นครั้งแรกที่ ผมได้เข้าไปทำงานในออฟฟิศ…..อ่อ ครั้งแรกตอนที่ผมทำงาน นั้น ได้กอดร่างสวยของคุณลมหายใจที่ยากลำบากนั้นก็สั่นไหว ไม่หยุด อ่อ ครั้งแรกที่ผมดึงเสื้อของคุณ ก็ไม่อยากจะแยกจากกัน เลยตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง…….

ไมเคิล หว่องมีเพลงๆหนึ่ง ชื่อเพลงว่านิทาน ผมฮัมเพลงนี้เดิน เข้าไปนั้นลิฟต์ : “คุณจะต้องเชื่อ เชื่อว่าระหว่างเราจะเป็นเหมือนเรื่องราวในนิทาน เป็นไดโนเสาร์และกบเหมือนในตอนจบ…..

ตอนที่เข้าไปด้านในลิฟต์นั้นผมไม่ทันระวังปลายเท้าดันไป เหยียบตรงร่องระหว่างรอยปิด ทำให้ผมเซเข้ามายังด้านในลิฟต์ แล้วศีรษะก็พุ่งไปโดนตรงหน้าอกนุ่มๆของผู้หญิงคนหนึ่ง

“อำ!” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งร้องขึ้น

อะไรกัน? ผมเกือบจะล้มหัวทิ่มอยู่แล้วยังไม่ร้องเลย คุณจะ ร้องทำไมกัน! และเมื่อเงยหน้าขึ้นมา ผมกลับต้องอึ้งไปซักพัก หนึ่ง ร่างอวบในชุดฟอร์มสีเทา ไม่ใช่นางฟ้าคนงาม….ที่บุก เข้าไปในออฟฟิศของเราเมื่อคืนก่อนหรอกหรือ?

ตาสวยๆของเธอเบิก โตขึ้น มองพิจารณาผมอย่างละเอียด แล้วกัดฟันเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราวกับว่าถูกผมบีบบังคับ ขืนใจเสียอย่างนั้น : “คุณเองหรือ!”

เดิมทีที่ผมอยากจะพูดขอโทษขึ้นมานั้น ได้ยินคำพูดที่ดูกัดฟัน พูดออกมาเช่นนี้แล้ว ทำให้ผมอดที่จะส่งเสียงออกมาไม่ได้ : “ใช่ ผมเอง”

ผมเหลือบมองด้านในคอเสื้อของเธออย่างมีเจตนาที่มุ่งร้าย เด็กคนนี้โตแล้วสามารถสอนได้และเรียนรู้ได้ ด้านในของชุด ฟอร์มนั้นใส่เสื้อเชิ้ตเอาไว้อยู่ตัวหนึ่ง

เธอที่ได้ยินเสียงที่ไม่ได้สนใจอะไรของผม และเห็นว่าผม กำลังจ้องมองไปที่คอเสื้อของเธอนั้นแล้วทำให้นึกไปถึงฉากที่ไม่ สามารถทนดูได้คืนก่อนแล้วใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นด้วยความ โมโห : “ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“ทำไม?” ผมปัดผมที่ตกลงมาตรงหน้าผาก พลางเอ่ยถาม : “คุณมาใหม่ใช่ไหม? สวยขนาดนี้ จะต้องเป็นดาวโรงงานเรา แน่ๆเลยสินะ!”

“ถ้าคุณพูดจาไร้มารยาทอีก อย่ามาโทษหาว่าฉันไม่ไว้หน้า คุณก็แล้วกันนะ!” เธอเอียงศีรษะและมองกลับไปด้วยความเย็น ชา น้ำเสียงนั้นแสดงออกถึงความไม่เป็นมิตรและไม่อ่อนโยน เท่าไรนัก

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ดึงชุดฟอร์มผมให้หลุดบ้างสิ จะได้เท่าเทียม กัน คุณเห็นกล้ามเนื้อของผม ต่อไปจะได้ไม่ต้องมีใครติดหนี้ใคร อีก เป็นไง?” ผมหัวเราะไปพลางแล้วทำท่าดึงชุดฟอร์มของตัว เองขึ้น

“หน้าไม่อาย! หยาบคาย!” คราวนี้เธอรู้สึกหงุดหงิดมาก เธอ ก้าวออกมาจากลิฟต์ แล้วจึงหันกลับมายิ้มอย่างมีเลศนัย : “ฉัน ไม่ได้อยากเห็นกล้ามเนื้อของคุณเลย แล้วก็ยังไม่อยากเห็นหน้า คุณด้วย คุณเสร็จแน่

“อ่อ” ผมตอบกลับไปอย่างหลีกเลี่ยงปัญหา แล้วยิ้มออกมา อย่างผู้ชนะ

ประตูลิฟต์ค่อยๆปิดลง เธอขยิบตาให้ผมอย่างร้ายๆอยู่ทาง ด้านนอกลิฟต์ ขยิบตาอย่างนั้นหรือ? ผมเองก็ทำได้ แต่เสียดาย ที่ประตูลิฟต์ปิดลงไปก่อน มิเช่นนั้นผมยังอยากที่จะทำมือเป็นจะ ไปดึงเสื้อของเธอพร้อมกับส่งสายตาหวานให้เธออีกด้วย ทำให้ เธอโมโหอีก!
ภายในลิฟต์นั้นหลงเหลือเพียงแค่กลิ่นน้ำหอมบางๆของเธอ ผมคิดอยู่พักหนึ่ง และทันใดนั้นเอง

ความคิดนี้แวบขึ้นมา

นี่ไม่ใช่สาวBMWคนนั้นหรอกหรือ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ