Agent Couple คู่รักสายลับ

ตอนที่ 14 ซอร้องปล่อยพวกเขาไป



ตอนที่ 14 ซอร้องปล่อยพวกเขาไป

“ทําอะไรอยู่หนะ”

สองวันมานี้เธอไม่ได้ยินเสียงนี้เลย จึงเหยียนเกือบจะลืมไป แล้วว่ายังมีคนคนนี้อยู่ เธอพูดออกไปอย่างเยือกเย็น “โรง พยาบาล”

ได้ยินคำว่า โรงพยาบาล เสียงนั้นไม่ค่อยจะนิ่ง จึงถามอย่าง

เร่งรีบด้วยความกังวลอยู่ลึกๆ

“เธอเป็นอะไรรึเปล่า ไม่สบายตรงไหน อยู่โรงพยาบาลไหน เดี๋ยวฉันไปหาเธอนะ!”

น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวลและร้อนรน อย่างไม่ได้เสแสร้ง

แกล้งทํา

มู่วิ่งเหยียน ไม่สามารถที่จะแยกออกว่าผู้ชายคนนี้ มีความ จริงใจหรือแค่เสแสร้ง มีเพียงแต่ความเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จน ทำให้เธอไม่กล้าที่จะเปิดรับผู้ชายคนไหนอีก

“ไม่ต้อง ฉันกำลังกลับ!” มู่วิ่งเหยียนปฏิเสธเขาอย่างเย็นชา เธอไม่อยากจะไปพัวพันอะไรกับผู้ชายคนนั้นมากไป

“อยู่ไหน” หรงโม่พูดขึ้นอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงเสียงทุ้มต่ำที่แฝง ด้วยความเอาแต่ใจอยู่ลึกๆ เมื่อวิ่งเหยียนไม่ตอบอะไร เขาก็ยัง

ไม่ยอมหยุด
มู่วิ่งเหยียน ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ตอบอะไร มองไปที่โทรศัพท์ แวบหนึ่งแล้วตัดสายทิ้ง หรง ไม่มองไปยังโทรศัพท์ที่เพิ่งจะถูกตัดสายทิ้งไป ดวงตาสี เข้มของเขาก็เริ่มจะเย็นชา ใบหน้าอันประณีตของเขาเริ่มแสดง

ความไม่พอใจ

ผู้หญิงนี้สมควรตาย กล้าจะตัดสายเขาอย่างกระทันหัน ยิ่งทำ ก็ยิ่งได้ใจ!

เขาหยิบเสื้อโค้ตมาใส่อย่างรวดเร็ว แล้วรีบลงไปชั้นล่าง ขับ รถมุ่งไปโรงพยาบาล

เขาไม่เชื่อว่า ถ้าเขาไปค้นหาทีละโรงพยาบาล จะหาผู้หญิงคน นี้ไม่เจอ

มู่วิ่งเหยียนกลับถึงมหาวิทยาลัย ทันทีที่เดินถึงชั้นล่างของ

อาคาร ก็ได้พบกับสองร่างที่คุ้นเคย

นายท่านและคุณนายซู ทั้งสองยืนอยู่ใต้หอพักหญิง ด้วย สีหน้ากระวนกระวาย

ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน ทั้งสองคนล้วนดูแก่และซีดเซียวขึ้นมาก เส้นผมบนศีรษะของคุณนายซู เต็มไปด้วยผมขาวจํานวนมาก ไม่ ต้องพูดถึงนายท่านซูเลย

ทั้งสองเห็นจิ้งเหยียนเดินเข้ามา ก็รีบวิ่งไปหาที เสียง” โครม” ดังขึ้น เขาคุกเข่าลงกับพื้น ขอร้องอ้อนวอนจิ้งเห ยียนอย่างขมขื่น
“เสี่ยวเหยียน ก่อนหน้านี้แม่ผิดเอง เธอช่วยทำให้คุณหรง เขา เห็นใจยอมปล่อยบริษัทตระกูลซู ของพวกเราสักครั้งเถอะนะ!”

“ใช่ เสี่ยวเหยียน พ่อสำนึกผิดแล้ว สำนึกผิดแล้วจริงๆ บริษัท ตระกูลซูกำลังจะจบเห่แล้ว เธอช่วยทำให้คุณทรงเขาวางมือเถอะ

ขอแค่เธอทําให้คุณทรงยอมวางมือ และปล่อยบริษัทตระกูลซู ได้ เธอต้องการอะไรยังไง พวกเรายินดีทั้งนั้น เธอต้องการส่ง เสี้ยน ตระกูลซูของเราจะรีบไปคุยเรื่องการแต่งงานให้เธอทันที ดี มั้ย!”

วิ่งเหยียนมองไปยังทั้งสองที่กำลังคุกเข่าอยู่ สายตาของเธอ งุนงงเล็กน้อย เริ่มจะไม่พอใจ “พวกคุณทำอะไรกัน ยังไม่รีบลุก ขึ้นอีก!”

“ไม่ เธอยังไม่ตอบพวกเรา พวกเราก็จะไม่ลุกขึ้น !”

คุณนายซูพูดพลางร้องไห้ ใบหน้าแสดงออกถึงความเศร้าที่มี มากมาย มันทำให้นักเรียนที่เดินอยู่รอบๆ หันมามองด้วยสีหน้า ที่ดูถูกเหยียดหยาม

“ฉันไม่ตกลงเรื่องอะไรกับพวกคุณทั้งนั้น

แม้ว่ามู่วิ่งเหยียนเองก็คิดอยากจะทำลายบริษัทตระกูลซูเช่น กัน แต่เมื่อคิดถึงซูโป๊หลุน จะยังไงก็คือคนที่ช่วยชีวิตตนไว้

ถึงแม้ว่าจะเป็นเจตนาที่ร้าย แต่เขาก็เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิต เอาไว้ ต่อมาเธอก็ได้ทิ้งความคิดนี้ไป

“คุณหรง เขาซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทตระกูลซู แล้วกดราคาแบบกะจะให้ตาย

ปีที่ผ่านมา ลูกค้าที่ติดต่อสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบริษัทตระกูลเรา ได้ยกเลิกสัญญาที่ให้ความร่วมมือกับพวกเรา หุ้นก็ตกลง พนักงานจํานวนมาก ต่างตะโกนที่จะฆ่าฉันและแม่ของเธอ

พวกเรารู้ดี ว่าสิ่งที่คุณทรงทำ ก็เพื่อแก้แค้นให้กับเธอ เพียง แต่ถ้าบริษัทตระกูลซูยังคงเป็นแบบนี้ ต่อไปก็คงจบเห่ เธอช่วย พ่อกับแม่เถอะนะ อีกอย่างพวกเราก็เป็นผู้มีพระคุณของเธอ ด้วย!”

“ใช่ๆ เธอโทรไปหาคุณหรงเถอะ พวกเราสัญญาว่าหลังจากนี้ จะทําดีกับเธอ เสี่ยวเหยียน พวกเราขอร้องเธอหละ!

หลังจากได้ฟังคำพูดของนายท่านและคุณนายซู จึงเหยีย

นก็เพิ่งจะรู้ ที่ทรงโม่ทำร้ายพวกเขาก็เพื่อที่จะแก้เผ็ดแทนเธอ

ไม่เพียงแต่ทำให้ลูกค้าทั้งหมดหายไป ยังทำให้หุ้นของบริษัท ตระกูลซูตกลง บริษัทตระกูลซูกำลังเผชิญกับการล้มละลาย

ได้ฟังเรื่องนี้ ลึกๆ ในใจของมู่จึงเหยียนก็ยังประหลาดใจอยู่ เล็กน้อย

ผู้ชายคนนั้นจริงๆทำเรื่องเหล่านี้ไปก็เพื่อที่จะระบายอารมณ์

ของตัวเองหรือเปล่า

ถ้านายท่านซูและคุณนายซูไม่มา เธอก็คงไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้น ทำเรื่องแบบนี้ไปเพื่อเธอ ดวงตาที่เย็นชา เริ่มเปล่งประกายออก มาให้เห็นถึงความสับสน
เพราะอะไรกัน ผู้ชายคนนั้นทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร เขาทำเพื่อ

เธอจริงๆหรือ “ฉันรู้แล้ว เรื่องนี้ฉันจะลองถามเขาให้พวกคุณกลับไปก่อน

เถอะ!”

จึงเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปดูทั้งสองคนที่คุกเข่าอยู่ แบบนี้ รู้สึกไม่คุ้นชินเอาซะเลย

โดยเฉพาะสายตาที่มองมาจากรอบด้าน ราวกับเธอกำลัง รังแกพ่อแม่บุญธรรมของตนเองอยู่ แล้วชี้นิ้วต่อว่า ว่าได้ มโนธรรมสิ้นดี

” ได้ๆ งั้นพวกเรากลับก่อนนะ ไปรอฟังข่าว เรื่องนี้ต้องรบกวน เธอแล้ว!”

นายท่านซูและคุณนายซู ตอบกลับ แล้วลุกขึ้นจากพื้น ออก

จากมหาวิทยาลัยไป

มองไปเบื้องหลังของนายท่านและคุณนายที่กำลังจากไป จิ่งเหยียนหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกดปุ่ม โทรออก

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอโทรหาผู้ชายคนนั้น อีกฝั่งรับโทรศัพท์หลัง สิ้นเสียงเรียกครั้งที่สอง เสียงโทนที่เหมือนพลังงานแม่เหล็ก ดังขึ้นอีกครั้ง

“อยู่ที่ไหน” หลังจากหาอยู่หลายโรงพยาบาล ก็ยังไม่พบแม้ เงาของมู่จิ้งเหยียน ทรงโม่ก็เริ่มจะหงุดหงิดและร้อนใจเล็กน้อย

ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะโทรกลับมาหาเขา เธอยังรู้ผิดชอบชั่วดี นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้หญิงคนนี้โทรมา ใบหน้าของเขาอดไม่ ได้ที่จะแสดงออกถึงความตื่นเต้น

“อยู่มหาลัย!” จึงเหยียนพูดอย่างเย็นชาออกไปแค่สั้นๆ

“รอที่นั้นแหละ!” หรงโม่ตอบไปอย่างเย็นชา รีบวางสาย แล้ว เหยียบคันเร่งอย่างลมกรดมุ่งไปยังมหาวิทยาลัย A

หลังจากนายท่านและคุณนายซูออกไป จึงเหยียนก็ได้เดิน มาถึงประตูใหญ่ ทางเข้ามหาวิทยาลัย A เพื่อรอหรงโม่ที่กำลัง มา

ในไม่ช้ารถสีดำสุดหรูยี่ห้อไมบัค ได้มาจอดนิ่งอยู่ตรงหน้า ประตูมหาวิทยาลัย

แว้บแรกที่เห็น มู่วิ่งเหยียนก็สังเกตได้ว่าทรงโม่มาถึงแล้ว แล้ว

จึงเดินไปยังรถไม่บัค อย่างเย็นชา เปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง

ด้านใน

“เรื่องตระกูลซู เป็นฝีมือนายใช่มั้ย” คำถามที่แสนจะเย็นชา จึงเหยียนมองลึกไปยังชายรูปหล่อหมดจดที่อยู่ตรงหน้า

วันนี้ทรงโม่ยังคงอยู่ในชุดสูทสีดำที่เรียบมาก ใบหน้าที่ดู เยือกเย็นและประณีตมันทำให้เขายิ่งน่าหลงใหล

มองแล้วมีบุคลิกที่ดูสูงศักดิ์ สง่างาม ดวงตาที่ลุ่มลึกดุจดั่งเสือ ชีต้า กำลังจ้องมองมายังตนเองอย่างจดจ่อ

ทรงโม่ไม่ตอบอะไร รีบคว้าตัวมวิ่งเหยียน มองไปทั่วร่าง แล้ว ลูบหน้าผากเธอ
พบว่าไม่มีอาการบาดเจ็บใดๆ และก็ไม่มีไข้ไม่มีปัญหาอะไร ให้กังวลใจ เธอไม่สบายตรงไหน ตอนนี้ยังไม่สบายอยู่รึเปล่า

ได้ยินคำพูดของทรงโม่ วิ่งเหยียนค่อยๆขมวดคิ้ว ส่ายหน้า น้ำเสียงเย็นชาวันนี้ดูอ่อนโยนกว่าวันก่อนๆ

“เปล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไร ฉันไปเยี่ยมเพื่อน

“เพื่อนเหรอ” เมื่อได้ยินว่าวิ่งเหยียนไปเยี่ยมเพื่อนที่โรง พยาบาล หน้าตาอันหล่อเหลาของเขาก็ทิ้งตึงทันที

สีหน้าเคร่งขรึมปรากฏมากขึ้นเล็กน้อย สายตาที่เยือกเย็นกับ ลมหายใจที่รุนแรง เหมือนคนที่กำลังถูกกดดันแล้วปลดปล่อย มันออก “เพื่อนที่ไหน ผู้หญิงหรือผู้ชาย”

“ผู้หญิง เป็นรูมเมท!” จึงเหยียนค่อยๆขมวดคิ้ว แต่ก็ยังตอบ ตามความจริง

เมื่อได้ยินว่าเป็นผู้หญิง และเป็นรูมเมทด้วย สีหน้าอัน เคร่งขรึมเย็นชานั้น ก็ค่อยๆผ่อนคลายทันที ดวงตาอันมีความ แน่วแน่คู่นั้น ยังคงจดจ่ออยู่กับใบหน้าอันเรียบนิ่งแต่ดูงด งดงามขอ งมู่จิ้งเหยียน

ทันใดนั้นแขนอันยาวของเขา ก็พาร่างของมู่จิ่งเหยียนมาไว้ใน อ้อมแขน ก้มลงจูบบนริมฝีปากอันแสนหวานที่ทำให้เขาคิดถึง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ