บทที่ 16 สั่งสอนผู้ชายระย
หลินหยู่เยียนก้มหน้ามองไปยังคนขับรถสปอร์ต เป็นหนุ่มหล่อที่ ได้พบกันที่ไนท์คลับคงกงคราวก่อนนั่นเอง เห็นเธอมีท่าทางตกตะลึงและลังเล ถังแหวนซวนก็ได้เอ่ยพูด อีกครั้ง : “คุณผู้หญิง ขึ้นรถเถอะครับ เห็นท่าทางรีบร้อนของคุณ
เวลานี้คุณหารถแท็กซี่ไม่ได้หรอกนะ
ท่าทีที่เป็นมิตรของเขา ทำให้เธอรู้สึกสับสน
เห็นเธออิดออดไม่ยอมขึ้นรถ ถังแหวนชวนจึงจำใจต้องลงจาก รถ เดินไปตรงหน้าเธอ
เขาหยิบกล่องนามบัตรออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท หยิบ นามบัตรออกมาหนึ่งใบจากในนั้นแล้วยื่นให้เธอ : “นี่คือ นามบัตรของผม ถ้าผมทำมิดีมิร้ายกับคุณ คุณโทรแจ้งตำรวจได้ เลย”
เขาพูดพลางถือวิสาสะดึงเธอเดินไปที่หน้ารถเพื่อดูทะเบียนรถ ถังแหวนชวนหัวเราะร่า : “ทะเบียนรถจำง่ายใช่ไหมล่ะ? ขึ้นรถ แล้วก็โทรหาเพื่อนสนิทของเธอ ถ้าหากนานเกินไปแล้วเธอยังไม่ รายงานเพื่อนว่าปลอดภัยดี ก็ให้เพื่อนเธอแจ้งตำรวจได้เลย แค่ นี้ก็สามารถหยุดยั้งไม่ให้ฉันข่มขืนแล้วฆ่าเธอทิ้งได้แล้ว”
หลินหยู่เขียนถูกเขาหยอกล้อจนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ขึ้นรถ เขาไปอย่างไม่รู้ตัว
ลัมโบร์กีนีออกตัวไปอย่างรวดเร็ว ทักษะการขับขี่รถของถัง แหวนชวนนั้นดีมาก ตลอดทางที่แซงรถคันอื่นไป ทำให้คน เกลียดได้เลย
บนรถ หลินหยู่เขียนมองเขา แล้วเอ่ยพูดอย่างจริงใจ : “ขอบคุณคุณนะคะ”
ถังแหวนชวนดวงตาลูกท้อของเขาเพ่งมองเธอตั้งแต่หัว : “พูด
ตามตรงนะ ผมไม่รู้ว่าคุณมาจากไหน
ผู้หญิงอย่างนี้ เขาเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก
เห็นรถหรูไม่ตาลุกวาว เห็นหนุ่มหล่อไม่บ้าคลั่ง ตกลงเธอชอบ อะไรกันแน่?
หลินหยู่เยียนที่ถูกเขาพูดอะไรแปลก ๆ แบบนี้ใส่ก็รู้สึกอึ้งไป เลย เธอเอ่ยถามว่า : “ขอโทษนะคะ ไม่ค่อยเข้าใจที่คุณพูดสัก เท่าไหร่”
ถังแหวนชวนขี้เกียจพูดอ้อมค้อมแล้ว ครั้งนี้สามารถพบเจอ เธออีกครั้ง อีกทั้งเขาเองก็รู้สึกสนใจในตัวเธอ เลยเอ่ยพูดอย่าง ตรงไปตรงมา : “ผมค่อนข้างชอบคุณนะ เธอยื่นข้อเสนอมา หรือว่าเธอชอบแบรนด์เนมแบบไหน ฉันจะซื้อให้เธอ
“หมายความว่ายังไง?” หลินหยู่เยียนคิดว่าตัวเองฟังผิดไป
สีหน้าเธอดูช็อกไปเลย ทำให้เขารู้สึกตลก
ถังแหวนชวนมองไปยังรองเท้าส้นสูงที่เธอสวมอยู่ แล้วพูด ด้วยความมั่นใจว่า : “รองเท้าส้นสูงแบรนด์วาเลนติโนที่เธอสวม
อยู่ตอนนี้ เป็นคอลเลกชันใหม่ของเดือนนี้ ราคาทางการก็ไม่ต่า กว่าสองหมื่นหยวน รองเท้าเหมือนซื้อไซส์ใหญ่ไปหน่อยนะ ฉะนั้นเธอไม่น่าจะซื้อด้วยตัวเอง คงมีคนซื้อให้ แต่เสื้อผ้าที่เธอ สวมใส่อยู่ตอนนี้รวมกันแล้วราคากลับไม่เกินหนึ่งพันหยวน เห็น ได้ชัดว่ารองเท้าส้นสูงคู่นี้ไม่ได้อยู่ในกำลังซื้อที่เธอสามารถจ่าย ได้”
คำพูดที่สังเกตแทบทุกอย่างของเขา เมื่อหลินหยู่เขียนได้ยิน รู้สึกว่าเหมือนกำลังโดนเหน็บแนมและดูถูก ในใจเธอรู้สึกไม่สบ อารมณ์ขึ้นมาทันที : “คุณคิดจะพูดอะไรกันแน่? อยากพูดว่าฉัน ไม่มีปัญญาซื้อรองเท้าส้นสูงคู่นี้เหรอ?”
ถังแหวนชวนหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย : “ผิดแล้ว คุณเข้าใจ ผมผิดไปแล้ว ผมหมายถึง ถ้าหากคุณต้องการซื้อ ผมสามารถ มอบให้คุณได้ ถือโอกาสที่ตอนนี้ผมยังชอบคุณมาก
หลินหยู่เยียนโกรธจนตะโกนบอกให้หยุดรถ
เธอควบคุมอารมณ์ไว้ไม่ได้ ทำให้ถังแหวนชวนรู้สึกแสบแก้วหู ขึ้นมา แล้วขมวดคิ้วมองเธอ : “ทำไมเธอต้องวามอย่างนี้ด้วย?”
หลินหยู่เยียนพูดด้วยความโมโห : “อะไรคือบอกว่าฉันวาม อย่างนี้? ดูความไม่มารยาทของนายหน่อยเถอะ พูดจาไร้สำนึก คุณมีเงินแล้วยิ่งใหญ่นักเหรอ? จะดูถูกเหยียดหยามคนอื่นยังไง ก็ได้งั้นเหรอ? ฉันต้องการลงจากรถ ฉันกลัวว่าถ้าฉันยังอยู่ต่อไป คงได้ตบตีคนจนต้องแจ้งตำรวจแล้วล่ะ!”
ดวงตาสวยงามคู่นั้นเต็มไปด้วยความโกรธ รูปร่างหน้าตาของเธอไม่ใช่ผู้หญิงสวยที่สุดที่เขาเคยพบเห็น แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้ ดึงดูดเขานัก
ถ้าได้มาครองแล้ว อาจจะไม่ได้น่าดึงดูดขนาดนั้นแล้ว…
ถังแหวนชวนไม่ได้คิดว่าเธอพูดจริงจัง กลับคิดว่าเธอกำลัง เรียกราคาให้สูง เขาเลยพูดต่อไปว่า : “ก็ได้ ถือว่าเมื่อกี้ฉันพูด ผิดไปแล้วกัน ถ้าหากเธอไม่ชอบซื้อของ ฉันให้เงินสดก็ได้ เธอ บอกราคามาเถอะ”
เขาก็อยากรู้ว่าเธอจะตั้งราคาให้ตัวเองสูงแค่ไหน
หลินหยู่เยียนตะลึงไปเลย เธอจ้องใบหน้าหล่อเหลาของเขา ความรู้สึกที่คิดว่าอยู่เหนือคนอื่นของเขาที่กำลังบอกว่า “สิ่งที่ฉัน มีคือเงิน” คือการดูถูกเหยียดหยาม คนอย่างนี้ทำไมถึงไม่รู้จักคำ ว่า “ให้เกียรติ” สองค่านี้?
ลูกคนรวยที่มีทัศนคติย่ำแย่อย่างนี้ เธอก็ขี้เกียจจะใช้เหตุผล และอธิบายอะไรแล้ว หลินหยู่เยียนได้แต่พูดอย่างใจเย็นว่า : “รบกวนนายจอดข้างทางด้วย
สีหน้าเขาดูไม่พอใจ : “ที่นี่จอดข้างทางไม่ได้ ฉันจะไปส่งเธอที่ บริษัท บริษัทเธออยู่ที่ไหน?”
ตอนที่หลินหยู่เขียนขึ้นรถบอกเพียงชื่อถนน
“นายไม่ต้องไปส่งแล้ว นายหาที่ที่สามารถจอดข้างทางได้ ฉัน จะลงจากรถ” หลินหยู่เยียนไม่อยากมองหน้าเขาอีก เลยเบือน หน้ามองไปยังนอกหน้าต่าง
ถังแหวนชวนคราวนี้เริ่มไม่เข้าใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่กัน
แน่
ตามหลักทั่วไปแล้ว จากประสบการณ์ที่เขาเคยคุยกับผู้หญิง มา ตอนนี้ควรจะบอกราคามาแล้ว ถ้าหากเขารู้สึกว่าคุ้มค่าก็จะ ให้ ถ้าหากรู้สึกว่าไม่คุ้มค่าก็ปล่อยให้เธอไป
แต่เธอกลับไม่บอกราคาเลย แล้วเขาจะเจรจายังไงล่ะ?
ถึงแหวนชวนกวาดสายตามองเธออีกครั้ง รูปร่างอย่างนี้ไม่ เลวจริง ๆ ผิวขาวผ่องใส ดูค่อนข้างมีความสามารถ ส่วนสูง เหมาะสมกับเขา……..
เขาที่คิดจินตนาการไปไกล รู้สึกร้อนในคออย่างมาก เลยพูด ขึ้นมาว่า : “หรือว่าไม่ต้องไปบริษัทก่อน พวกเราหาโรงแรมสัก แห่ง เธอเรียกราคามาได้เลย ฉันจะพยายามให้อย่างที่เธอ ต้องการ”
หลินหยู่เยียนได้ยินหมาติดสัดที่ตื่นขึ้นสมองตัวนี้พูด ก็โมโห จนหัวเราะออกมา เธอเห็นโรงแรมห้าดาวที่อยู่ไม่ไกลนัก จึงชี้นิ้ว ไปทางนั้น : “งั้นก็ไปที่นั่นเถอะ”
ถังแหวนชวนมองไปตามทางที่เธอ นัยน์ตาสีดำนิ่งไป ในใจ รู้สึกดูถูก สุดท้ายเธอก็ยอมอยู่ดี
ร่างกายของเขาตื่นเต้นอย่างเต็มเปี่ยม เขาเอ่ยพูด : “ได้สิ เอา ตามที่เธอว่าเลย”
ไม่นานลัมโบร์กีนีก็ขับไปทางโรงแรม
เมื่อขับมาถึงทางเข้าโรงแรม ถึงแหวนชวนก็ลงจากรถด้วย ท่าทางหล่อเหลา เตรียมเดินไปที่ฝั่งข้างคนขับ อยากประคองเธอ ลงจากรถอย่างสุภาพบุรุษ
หลินหยู่เยียนเตรียมสเปรย์ป้องกันตัวที่อยู่ในกระเป๋ามาถือไว้ ในมือ รอให้ถึงแหวนชวนค่อย ๆ โน้มตัวลงมา แล้วเธอก็ฉีดพ่นส เปรย์ใส่ดวงตารูปดอกท้อของเขาเข้าอย่างจัง
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้น ถังแหวนซวนที่ไม่ได้เตรียมรับมือใช้ สองมือปิดตาตัวเองไว้แล้วก่นด่า : “แม่งเอ้ย! แม่มรึงบ้ารึไง! เธอ เอาอะไรมาพ่นใส่ฉันเนี่ย………แสบฉิบหาย!”
หลินหยู่เยียนฉวยโอกาสตอนที่เขาเซถอยหลังไป รีบลงจาก รถ แล้วเดินไปข้างหน้าเขา จากนั้นเตะเข้าที่หัวเข่าเขาอย่างแรง หนึ่งที!
“แกมันไอคนระยำที่พ่อแม่ไม่สั่งสอน ไม่รู้จักการให้เกียรติคน อื่น! วันนี้ฉันจะสั่งสอนแกแทนพ่อแม่ของแกเอง! ให้คนที่ไม่ให้ เกียรติผู้หญิงอย่างแก! ให้คนที่ไม่มีเหตุผลอย่างแก…” ขณะที่ พูด หลินหยู่เยียนก็ทั้งเตะทั้งถีบไปอีกหลายครั้ง
ทันใดนั้น พนักงานโรงแรมที่ยืนอยู่ด้านนอกก็เข้ามา หลินหย เยียนเลยฉวยโอกาสวิ่งหนีไป
ถังแหวนซวน โกรธแค้นมาก เอาแต่สบถ าคําหยาบออกมา ตลอด เขาโตมาขนาดนี้เพิ่งจะเป็นครั้งแรกที่โดนผู้หญิงลอบ ทําร้าย
พนักงานโรงแรมที่อยู่ด้านหลังเขาพยุงเขาไว้ ทันใดนั้นก็รู้ทันทีว่าเขาคือใคร : “ประธานถัง คุณเป็นยังไงบ้างครับ? จะให้พวก เราเรียกตำรวจจับเธอไว้ไหมครับ?”
“ไม่ต้องแจ้งตำรวจ! พวกนายรีบไปเรียกรถพยาบาลมาให้ ฉัน! เรื่องน่าอายที่ถูกผู้หญิงจัดการอย่างนี้ ถ้าหากแจ้งความ ยิ่ง เสียหน้าไปกันใหญ่………
ตอนนี้รู้สึกว่าดวงตาของเขาใกล้จะบอกแล้ว………
หลินหยู่เยียนที่หนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ก็รีบเรียกรถแท็กซี่ แถวโรงแรม ให้ไปส่งที่บริษัท
เมื่อขึ้นรถ เธอยังคงรู้สึกหวาดผวาอยู่ ตอนนี้รู้สึกกลัวขึ้นมา เมื่อกี้ใจร้อนลงไม้ลงมือไป
คิดไปคิดมาเขาก็แค่คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงขายบริการ ไม่ได้ลง ไม้ลงมือทําร้ายเธอ เธอทำเหมือนเขาเป็นไอบ้ากาม รู้สึกจะเกิน ไปหน่อย……
แต่เขาก็ถูกเธอทุบตีไปแล้ว ตอนนี้มารู้สึกผิดก็สายไปแล้วล่ะ!
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง หลินหยู่เยียนก็มาถึงบริษัท เก้าอี้ยังไม่ทัน นั่งจนร้อน ผู้ช่วยเซียวก็เดินหน้าเคร่งขรึมเข้ามา : “หลินหยู่เขียน ผู้อำนวยการให้เธอไปพบเขาที่ห้องทำงาน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ