คุณภรรบยา อย่าดื้อรั้นสิ

บทที่ 13 แตกหักไร้เยื่อใย



บทที่ 13 แตกหักไร้เยื่อใย

เหลิ่งเจวเซียวนัยน์ตาสีดำเปล่งประกาย : “เขาไปทานข้าวแล้ว

ช่วงเวลานี้เหมาะกับให้พวกเราแอบพลอดรักกันพอดี……. “นายนี่มันตื่นจริง ๆ เลย!” หลินหยู่เขียนยังคงรู้สึกกลัวอยู่ เอาแต่มองไปที่ประตูอย่างหวาดระแวง

ท่าทางไม่มีสมาธิของเธอ ทำให้เขาไม่พอใจ เลยใช้มือบีบเข้า ที่คางของเธอ : “กล้าดีนักนะ ที่ไม่มีสมาธิจดจ่ออยู่ที่ฉัน!

หลินหยู่เยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลลง : “ฉันกลัวจริง ๆ นะ ถ้าหากมีคนเข้ามาจะทำยังไงล่ะ? พวกเราอาจจะถูกไล่ออกเลย ก็ได้นะ…..….”

เหลิ่งเจาเซียวลุกขึ้น แล้วคว้าตัวเธอขึ้นมา เมื่อดึงเธอลุกขึ้น แล้วก็เดินตรงไปยังห้องรับรองพิเศษ

เมื่อเข้าไปในห้องรับรอง ก็รู้สึกคุ้นเคยกับที่นี่ขึ้นมา

หลินหยู่เยียนนึกถึงฉากในเช้าวันนั้นที่เธอตื่นขึ้นมาในห้อง รับรองนี้ สีหน้าเธอซีดขาวแล้วพูดขึ้นมาว่า : “นายอย่าบอกฉัน นะว่า ที่นี่คือห้องรับรองของท่านประธาน…….

“รู้แล้วยังจะถามอีก”

แก้มเธอแดงระเรื่อ สายตาดูสับสน เธอค่อย ๆ ก้าวถอยหลัง แล้วเอ่ยพูดอย่างตื่นตระหนก : “นายอย่าเข้ามานะ!”
เหลิ่งเจาเซียวเดินไปตรงหน้าเธอ เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงแหบ พร่า : “ปรนนิบัติฉันให้ดี ๆ หน่อย

เธออยากจะไปจากที่นี่ แต่เขาก็ใช้รูปถ่ายในตอนนั้นพวกนั้น

มาข่มขู่เธอ ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เธอเดินออกจากห้องทำงานของประธานไป

อย่างหน้าแดง ๆ

เมื่อเดินออกไป หลินหยู่เยียนโมโหจนเตะกำแพง แต่ก็เจ็บจน เดินกะเผลกกลับไป

เหลิงเจาเซียวที่อยู่ในห้องทำงานของประธาน ได้มองดูหลินห เยียนจากกล้องวงจรปิด แล้วหัวเราะออกมา : “ยัยซื่อบือนี่”

หลังจากลงลิฟต์กลับมายังแผนกออกแบบ หลินหยู่เยียนไม่มี แม้แต่อารมณ์ทานข้าวแล้ว เมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์นั้นขึ้นมา ก็ โกรธจนตัวสั่น

“ไอผู้ชายเลวไร้ยางอาย!” หลินหยู่เขียนได้ขีดเขียนมั่ว ๆ ลง บนกระดาษเพื่อระบายความโกรธแค้นในใจ

ยังเหลืออีกแปดครั้ง!

อดทนอีกแปดครั้งเท่านั้น!

ทันใดนั้น ข้อความจากเหลิ่งเจาเซียวก็ส่งมาอีกแล้ว

เป็นข้อความที่น่าโมโหนัก : ครั้งนี้ไม่นับ
หลินหยู่เยียนโกรธจนทุบมัดลงไปบนโต๊ะทำงาน

ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง : “หลินหยู่เขียน อย่า เอาอารมณ์ส่วนตัวของเธอมาใช้ในพื้นที่ทำงานส่วนรวม แล้วก็ ถ้าหากเธอทำลายทรัพย์สินของบริษัทจนเสียหาย ต้องชดใช้ ตามราคาจริงนะ

เมื่อหันไปมอง ก็เห็นฝันผู้อำนวยการเดินไปแล้ว

หลินหยู่เยียนรู้สึกห่อเหี่ยว เธอมีความรู้ว่าทนอยู่ต่อไปใน บริษัทบริษัทเหลิ่งชื่อนี้ไม่ได้แล้ว

อยากลาออกเสียเหลือเกิน แต่เมื่อคิดถึงจำนวนเงินที่ต้อง ชดใช้หากผิดสัญญา เธอก็หวาดกลัวขึ้นมา

ไม่รู้ว่าสัญญาจ้างงานของบริษัทบริษัทเหลิ่งชื่อนั้นพิเศษที่สุด หรือเปล่า ถ้าหากลาออกกะทันหัน เงินค่าปรับผิดสัญญาต้องจ่าย ชดใช้ถึงหนึ่งล้าน!

ถ้าหากลาออกระหว่างรับผิดชอบโครงการอยู่ เงินค่าปรับผิด สัญญาต้องจ่ายเป็นสองเท่าของเงินทุนทั้งหมด ในโครงการ

เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ ช่วงเวลาอย่างนี้ เธอทำได้แค่พึ่งการ

ดื่มกาแฟเท่านั้น

ไม่ง่ายเลยกว่าจะทนจนถึงเวลาเลิกงาน งานในมือที่ต้องทำ ได้เสร็จสิ้นหมดแล้ว แต่มีนักออกแบบคนหนึ่งมอบหมายภาพสิบ แผ่นให้เธอกะทันหัน บอกว่าพรุ่งนี้เช้าต้องใช้

เพื่อไม่ให้กระทบกับการย้ายสัมภาระของเธอ เธอจึงได้ไปถามเพื่อหวังว่าจะเอาภาพกลับไปแก้ไขที่บ้านได้ นักออกแบบคนนั้น ยอมตกลง ไม่ได้ทำให้เธอลำบากใจอะไร

ตอนที่หลินหยู่เยียนเดินออกจากตึกบริษัท เลอโยวโยวยังมา

ไม่ถึง รออยู่ห้านาที เล่อ โยวโยวก็ได้โทรศัพท์มา เอ่ยขอโทษ บอก

ว่าวันนี้แม่ของเธอไม่ทันระวังเลยลื่นล้มในห้องครัว เธอจึงต้องรีบ

ไปที่โรงพยาบาล

“โยวโยว เธอรีบไปที่โรงพยาบาลเถอะ ไม่ต้องห่วงฉันหรอก เดี๋ยวฉันค่อยเรียกแท็กซี่เอง ฝากสวัสดีคุณป้าด้วยนะ ไว้ฉันค่อย ไปเยี่ยมนะ”

เล่อโยวโยวเอ๋ย : “ได้ งั้นฉันวางสายก่อนนะ ค่อยติดต่อไป หลินหยู่เยียนได้เรียกรถแท็กซี่กลับไปยังบ้านที่อาศัยอยู่เมื่อ ก่อน

ตอนนี้เวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง เธอยังมีเวลาเก็บของอีกหนึ่งชั่วโมง

เพื่อไม่ต้องพบกับเซียวหรานและลู่เสี่ยวเถา เธอต้องรีบออก ไปให้เร็วที่สุด

แต่เมื่อเปิดประตู ก็พบว่าไขกุญแจเปิดไม่ได้!

บิดไปบิดมาอยู่ครู่ใหญ่ หลินหยู่เขียนถึงคิดขึ้นมาได้ว่าเชียว หรานได้เปลี่ยนตัวล็อคประตูบ้านแล้ว!

เธอที่กำลังจะโทรหาเซียวยี่หราน แต่ทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดออก

“นาย……..ไม่อยู่บ้านล่ะ?” หลินหยู่เขียนเห็นเขียวหวาน สวมชุดอยู่บ้าน

ใบหน้าหล่อเหลาของเซียวหรานกลับยิ้มออกมาอย่างเย้ย หยัน : “นี่เป็นบ้านของฉัน ฉันอยู่บ้านมันแปลกมากเหรอ?”

หลินหยูเยียนไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเข้าไปในบ้าน ถอดรองเท้า

ส้นสูงออก แล้วเดินเท้าเปล่าขึ้นชั้นบนไป

เธอสวมชุดอย่างเป็นทางการ ด้วยเสื้อสูทขนาดเล็กและ กระโปรงสั้น รูปแบบทันสมัยมาก แต่ก็ดูเรียบร้อยเหมาะสมกับ เป็นพนักงานบริษัท

ดวงตาสีเข้มของเซียวหรานได้เพ่งมองไปยังด้านหลังของ เธอ ได้นอนกับผู้ชายแล้ว ก็เปลี่ยนไปไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว

แม้แต่การเดินก็ดูมีความเป็นสาวสะพรั่งมากขึ้น

เขาทำเสียง “เหอะ” ออกมา จากนั้นก็เดินตามเธอขึ้นไปยังชั้น

บน

หลินหยู่เยียนเดินเข้าไปในห้องเก็บของ จากนั้นก็หยิบกระเป๋า เดินทางลากไปที่ห้องนอน แล้วเธอก็เริ่มหยิบเสื้อผ้าที่ปกติสวม ใส่เป็นประจำออกมาจากตู้เสื้อผ้า

เซียวยี่หรานที่รูปร่างสูงโปร่งยืนพิงอยู่หน้าประตูห้อง เอ่ยพูด ด้วยน้ำเสียงหยอกล้อว่า : “หลินหยู่เยียน เธอจำเป็นต้องประหยัดเหรอตอนนั้นฉันให้เธอไปห้าล้าน ไม่จะสักเดียวเลยเหรอ

มือของกำลังเก็บเสื้อผ้าอยู่หยุดนิ่งไปชั่วขณะ เมื่อ ได้ยินเงินห้าล้านนึกถึงเหลิงเจาเซียวขึ้นมา ถึงเรื่องน่า ประธาน ทันใดนั้นเธอโมโห เงินของฉัน นายไม่ต้องยุ่ง!

เธอยังหน้าบริษัทเธอ ในเธอต้องการไปตัว ก็ต้องเงินห้าล้าน คืนด้วย”

ทันใดหลินเดินทาง “เซียวยี่หราน นายอย่ามันมากเกินไปตอนนายก่อตั้งบริษัทซอฟต์แวร์เทคโนโลยี ฉันเอาเงินเก็บอยู่รับมัน”

เขียวหวานเดินเข้าไปห้อง ปากแสยะยิ้มอย่างเย็นชา ออกยืนยันไหม”

เธอโกรธจนพูดไม่ออก นั้นเป็นเพราะความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันและกัน ไม่คิดถึงการไม่ต้องพูดถึงสัญญาอย่างเป็นทางการเลย

“นายมันช้ายางอายจริง ไม่แก่ใครทั้งนั้นเงินล้านนั้นฉันไม่มีทางให้นายแน่!” ที่สำคัญที่สุดก็คือ เธอใช้มันไป

เซียวยี่หรานดึงมือเธอไว้ข้างหนึ่ง แล้วพูดอย่างเย้ยหยัน “จะ บอกความจริงเธอไว้นะ บันทึกข้อตกลงการหย่าที่เธอส่งให้ ทนายความโจวฉันเอากลับมาแล้ว ถูกฉันทิ้งไปแล้วด้วย! ถ้าหาก เธอต้องการบันทึกข้อตกลงการหย่าฉบับใหม่ล่ะก็ เธอต้องเอา เงินห้าล้านนั่นมาคืนฉัน!

หลินหยู่เยียนโกรธจนเลือดเดือดพล่าน เธอรู้สึกคิดผิดจริง ๆ ทำไมเธอถึงได้เอาบันทึกข้อตกลงการหย่านั่นให้ทนายความ โจว! เขาเข้าข้างเขียวหวานอยู่แล้ว

คิดผิดไปจริง ๆ …….

เธอพยายามปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ : “เซียวหวาน นาย ต้องไร้เยื่อใยขนาดนี้เลยเหรอ? สินสมรสที่ควรต้องแบ่งกัน! ทั้ง บ้านและรถฉันก็ทิ้งไว้ให้นานแล้ว แม้แต่เงินที่นายเคยให้ห้าล้าน นั่นก็ยังต้องเอาคืนอีกเหรอ? นายยังเป็นผู้ชายอยู่ไหม?”

“ฉันเป็นผู้ชายหรือไม่ เธอลองพิสูจน์ดูก็ได้รู้เองแหละ!” เซียว หรานนัยน์ตาเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เขาเข้าไปจับมือทั้งสอง ข้างของเธอเอาไว้

เธอตกใจลนลาน : “นายไสหัวไปให้พ้นนะ! รีบปล่อยฉันเดี่ยว

“หลินหยู่เยียน เธอเลือกเอาว่าจะคืนเงินห้าล้านนั่นให้ฉัน หรือจะยอมเป็นของกูสักครั้ง! เลือกเอา “แกมันต่ำช้า!” หลินหยู่เยี่ยนถ่มน้ำลายใส่เขา

เซียวหวานสีหน้าถมึงทึงขึ้นมาทันที มือใหญ่ยื่นไปกระชาก จนทำให้กระดุมเสื้อเชิ้ตของหลินหยู่เยียนกระเด็นหลุดไปสอง เม็ดทันที สายตาเขาดูไม่เหมือนเดิมแล้ว

ทันใดนั้น ก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้น “ยี่หราน พวกคุณ…..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ