คุณภรรบยา อย่าดื้อรั้นสิ

บทที่8 พัวพันไม่หยุด



บทที่8 พัวพันไม่หยุด

คำพูดที่ไร้ความปราณีของเขียวหวานทำให้ดึงความจริงที่เจ็บ ปวดของหลินหยู่เยียนกลับมาในทันที

เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเร็วกว่าเธอเสียอีก

เป็นเพราะอดทนรอที่จะคบกับเสี่ยวเถาไม่ได้แล้วอย่างนั้นใช่ ไหม?

“หลินหยู่เยียน คุณมัวแต่ถึงอะไรอยู่? ตอนนั้นคุณตอบรับ อย่างสบายใจเลยนี่!” ความเจ็บปวดของหลินหยู่เยียนได้สะท้อน เข้ามาในดวงตาของเซียวหราน ถึงแม้ว่าเธอจะแสร้งทำเป็นนิ่ง แต่หางตาที่มีน้ำตาของเธอนั้นทําให้เขาจับได้

หลินหยู่เยียนละสายตาออกมาจากหนังสือข้อตกลงการหย่า ฉบับนั้น แล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา ทั้งๆ ที่ในใจนั้นรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ก็ยังคงเอ่ยถามออกมาอย่างไม่ยอม : “อะไรกันแน่? ทำไมคุณถึงหักหลังความรักของเรา? เซียวหราน ตอนแรกค สัญญาที่คุณให้กับฉันไว้เป็นสิ่งที่คุณล้อเล่นทั้งหมดเลยใช่ไหม?”

ทันใดนั้นเองน้ำตาก็หยดลงมา และเธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะ หลบเลี่ยง มองสบตาเขาไปตรงๆ เช่นนี้

เซียวยี่หรานลุกพรวดขึ้นมา แล้วหยิบบุหรี่ออกมาจากกล่อง บุหรี่หนึ่งมวน แล้วมองเธอด้วยสีหน้าท่าทางที่ซับซ้อน ใช้ไฟแช็ก จุดบุหรี่มวนที่อยู่ระหว่างนิ้วมือนั่น
เขาดูดเข้าไปแล้วปล่อยพ่นควันออกมา พลางเอ่ยพูดด้วยน้ำ เสียงนิ่งๆ : “หลินหยู่เยียน ปัญหาระหว่างพวกเรามันไม่ใช่ความ ผิดของผมแค่คนเดียว! อย่าคิดว่าตัวคุณเองไม่มีความผิด ตอน นั้นคุณทดสอบผมครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ให้ผมแตะต้องตัวคุณ! บอกผมว่าถ้าหากผมสามารถทนได้ถึงตอนที่แต่งงานกัน นั่นก็ สามารถพิสูจน์ได้ว่าผมรักคุณจริง ให้ตายเถอะ ใครเป็นคน ถ่ายทอดความคิดบ้าๆ นี้ให้คุณกัน?”

หลินหยูเยียนรู้สึกว่าอารมณ์ของตัวเองนั้นหนักหน่วงลง เธอ ไม่ได้พูดอะไรออกมา รับฟังอย่างเงียบๆ

เขาสูบบุหรี่เข้าไปอีกครั้งพลางเอ่ยพูดต่อ : “ผมจำได้ว่าตอนที่ เพิ่งจะเรียนจบมหาวิทยาลัย ตอนที่พ่อผมป่วยหนักแล้วเพิ่งจะ จากไปได้ไม่นาน หลังจากที่จัดงานศพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ความ รู้สึกของผมแย่มาก ผมปรารถนาความอบอุ่นจากคุณ หวังว่าจะ สามารถพิสูจน์ได้ว่าผมยังมีชีวิตอยู่…แต่คืนนั้น คุณก็ไม่ยอมให้ ผม และยังขู่ผมด้วยว่าถ้าหากผมฝืนใจคุณ คุณก็จะเลิกกับ ผม…..เหอะ ผมไม่เคยลืมวันนั้นเลย”

เบื้องหลังของเซียวยี่หรานเวลานี้ปรากฏถึงความเปล่าเปลี่ยว ออกมา หลินหยู่เยียนยืนอยู่ทางด้านหลัง ราวกับว่าเธอเองก็รับรู้ ได้ถึงความรู้สึกในคืนนั้น

เธอในตอนนั้น ความคิดยังคงค่อนข้างจะเป็นไปทางแนว อนุรักษนิยม ถูกแม่สอนความคิดแบบเดิมๆ มาเป็นระยะเวลา นาน
เธอกับเซียว ทรานคบกันตอนอยู่มหาวิทยาลัยมาเป็นเวลา สองปี พวกเขาปรึกษากันแล้วว่าหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย จะแต่งงานกัน

แต่เธอไม่ยินยอมกับเรื่องความสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นก่อนการ แต่งงานมาตั้งแต่ต้น

จะว่าไปแล้ว เป็นเพราะเรื่องนี้ เธอเองก็รู้สึกละอายใจต่อเขา อยู่จริงๆ ทำให้ผู้ชายที่กำลังหนุ่มกำลังแน่นคนหนึ่งต้องอดทน ครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้

“นี่คือสาเหตุที่ทำให้คุณหักหลังฉันใช่ไหม?” น้ำเสียงของเธอ

นิ่งลง แต่กลับแฝงไว้ด้วยความสงสัย

เซียวหรานหันหลังมาทันที ดวงตาดำจ้องมองเธอ เอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงไม่ดีนัก : “ใช่”

เธอเอ่ยถามออกมาด้วยความโมโห : “แล้วทำไมคุณยังจะมา

ตกลงว่าจะแต่งงานกันฉันอีก?”

เขายิ้มออกมาอย่างเย็นชา : “ผมเองก็อยากให้คุณได้ลิ้มลอง รสชาติของการอยู่เป็นหม้ายดูบ้างไง……

คำตอบเช่นนี้ ทำให้หัวใจของเธอแหลกสลายไปแล้ว ตอนที่เธอเตรียมที่จะมอบทั้งกายและใจให้เขานั้น ความจริง แล้วคือเขาไม่ได้รักเธอแล้ว

“เหอะ ฉันนี่มันโง่จริงๆ! ทำไมตอนนั้นถึงดูไม่ออกกันนะ…… หลินหยู่เยียนเดินไปทางด้านหน้า แล้วหยิบหนังสือข้อตกลงการหย่าขึ้นมา เช็ดน้ำตาแล้วตั้งใจอ่านเนื้อหาในนั้นอย่างละเอียด

ข้อตกลงนั้นเป็นเหมือนตอนแรกที่คุยกันไว้ว่าเธอจะจากไปตัว

เปล่า บ้านสองหลังและรถสามคันนั้นจะกลับไปเป็นชื่อของเซียว ทราน หลังจากที่ตรวจสอบว่าไม่มีอะไรผิดพลาดแล้ว และเตรียมจะ

เซ็นชื่อลงไปนั้น เธอเอ่ยถามโดยที่ไม่ได้มองหน้าเขา “มีปากกา

เซ็นชื่อไหม?”

เซียวหวานเดินกลับมาที่โต๊ะทำงาน แล้วหยิบเอาปากกาที่ เอาไว้ใช้สำหรับเซ็นชื่อ โดยเฉพาะในกระเป๋าชุดสูทออกมา โยน ลงบนโต๊ะ

หลินหยู่เยียนก้มตัวลงเตรียมจะเซ็นชื่อนั้น คอเสื้อของเธอ หย่อนลงเล็กน้อย สิ่งที่ปรากฏตรงหน้า ร่องรอยไม่กี่จุดที่เห็นได้ อย่างชัดเจนนั้นปรากฏสู่สายตาของเขา

“เดี๋ยวก่อน!”

เธอยึดตัวขึ้นมองเขา พลางเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่ได้ความรู้สึก

ใดๆ : “มีอะไร?”

เซียวยี่หรานเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ มือหนึ่งจับแขน เธอเอาไว้ : “เมื่อคืนคุณไปหาใครมา?”

เธอมีลักษณะท่าทางที่ชะงักไป เมื่อเผชิญกับคำถามของเขา แล้วจึงยิ้มออกมาอย่างเย็นชา : “เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย?”

เขารู้สึกโมโหขึ้นมา : “จะไม่เกี่ยวได้ยังไง? ก่อนที่เราจะหย่ากัน คุณก็ยังเป็นภรรยาของผม! บอกมา คุณหักหลังผมแอบไป คบชู้กับผู้ชายคนอื่นมาใช่ไหม?

หลินหยู่เยียน โมโหเสียจนพูดไม่ออก เขียวหวานเป็นคนหัก หลังเธอก่อน ตอนนี้จะยังมาโทษเธออย่างหน้าไม่อายแบบนี้อีก

“เซียวยี่หราน ปล่อย! เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว!

เธอปฏิบัติกับเขาอย่างห่างเหินและดูเหมือนไม่อยากอยู่ต่อ

เช่นนี้แล้ว ทำให้ในใจของเซียวหรานรู้สึกไม่ยอมยิ่งไปกว่าเดิม

หลินหยู่เขียนเป็นรักแรกของเขา และยังเป็นภรรยาของเขา ด้วย ตอนนี้ทั้งสองคนเดินมาถึงจุดสิ้นสุดของชีวิตการแต่งงาน โดยที่เขาก็ไม่เคยทําอะไรเธอมาก่อน

ร่องรอยเหล่านั้นได้กระตุ้นว่าเป็นการหยามเกียรติลูกผู้ชาย ของเขา!

และทันใดนั้นเองเซียวหรานก็กอดเธอเอาไว้ แล้วฉุกกระชาก

ลากเธอมาตรงโซฟา จากนั้นก็กดตัวเธอลงบนโซฟา

“เซียวยี่หรานคุณรีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” หลินหยู่เยียนตื่น ตระหนก นึกถึงก่อนหน้านี้ที่เขาไปมั่วกับเสี่ยวเถา ในใจก็เกิด ความรู้สึกสะอิดสะเอียนขึ้นมา

ใบหน้าที่หล่อเหลาอ่อนโยนของเขา เวลานี้ได้เปลี่ยนไปอย่าง อัปลักษณ์ มุมปากแสดงความดูถูกออกมา : “ปล่อยคุณ? ก่อนจะ หย่า ผมจะต้องได้คุณก่อน!”

“เชียวหราน! คุณมันบ้า! รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้…” เธอพยายามดิ้นรนอย่างชีวิตด้วยใบหน้าที่แดง

ความตื่นตระหนกและความรู้สึกเพิ่มแรงมากขึ้น

“หลินหยู่เยียน ตอนนี้คุณยังเป็นภรรยาของผม ผมอยากจะเป็นของผมและเป็นหน้าที่ของคุณด้วย”

ลมหายใจของเขาลดอยู่ตรงข้างเธอ และพบตรงใบของ นั้นมีรอยแดงอยู่ด้วยเช่นกัน ทุบกำปั้นบนโซฟาด้วย ความโมโห : มันเป็นใครกันแน่?

เขาตวาดออกมาอย่างโมโห ทำให้แปลกๆ

“ทำไม

คุณอยู่ข้างนอกนั้น ไปเธอสในเมื่อดิ้นไม่หลุดจาก

การกุมตัวของแล้ว เธอจึงใช้คำพูดยั่วยุเขา

เซียวยี่หรานกัดฟันด้วยความโมโหแล้วเอ่ยถามขึ้น หลินหยู่ เยียน จะถามคุณอีกครั้งไอ้บ้านั่นมันเป็นใคร จะไปต่อย มันตายเลย

กล้ามาอะไรภรรยาได้อย่างไร!

ๆๆ ….” หลินหยู่เยียนหัวเราะเสียจนน้ำตาออกมา เขาบีบคางเธอเอาไว้ด้วย

คุณหัวเราะอะไร”
และทันใดนั้นเอง รอยยิ้มของเธอก็ค่อยๆ หายไป และดวงตา นั้นก็ปรากฏความเย็นชาออกมา “เขียวหวาน คุณอย่าบ้าอีก เลย! ปล่อยฉัน! ให้ฉันเซ็นสัญญาข้อตกลงการหย่าของเรา แล้ว เราก็จากกันไปด้วยดี!”

เซียวยี่หรานมองดวงตาคู่นั้นที่เขาเคยหลงรัก เวลานี้มีความ งดงามที่แตกต่างไปจากเดิม ราวกับดอกกุหลาบสีแดงที่มีหนาม รอให้ผู้ชายมาเด็ดไป และก็เหมือนบัวหิมะเทียนซานที่มีความ ถือตัวทำให้คนไม่อยากเข้าใกล้

“รอให้ผมได้คุณก่อนแล้วค่อยว่ากัน………

คางของเธอถูกเขาจับเอาไว้ ทำให้เธอหลบไปไม่ได้ หลินหยู่ เยียนกัดฟันตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้เขาทำตามใจตัวเองได้ แล้วออกแรงทั้งหมดที่ตัวเองมีอยู่เพื่อต่อต้านเขา

และเมื่อได้โอกาสนั้น เธอจึงยกหัวเข่าขึ้นใช้แรงกระแทก เข้าไป!

เซียวยี่หรานร้องค่าออกมา เจ็บเสียจนล้มไปอีกทางด้านหนึ่ง หลินหยู่เยียนอาศัยจังหวะนี้ตะเกียกตะกายขึ้นมา แล้วรีบวิ่งไป ที่โต๊ะทำงานหยิบหนังสือข้อตกลงการหย่าขึ้นมาแล้วรีบวิ่งไป เปิดประตูโดยไม่หันกลับมามองอีก

เมื่อประตูเปิดออกนั้น ก็เห็นลู่เสี่ยวเถาที่นั่งอยู่ตรงตำแหน่ง เลขา มองอย่างเย็นชา

ย้ายเธอมาทำงานที่บริษัทของเขาเร็วขนาดนี้เลยอย่างนั้นหรือ?

หลินหยูเยียนไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมา แล้วก้าวเดินออกไป เสี่ยวเถาเห็นเสื้อผ้าของหลินหยู่เยียนยับยู่ยี่เช่นนี้แล้ว เธอจึง รีบผลักประตูเข้าไปดู

เห็นเขียวหวานนอนคว่ำหน้าลงอยู่บนโซฟา ปากก็ยังคงด่า

ว่า : พวกผู้หญิงน่ารังเกียจ

“ยี่หราน คุณเป็นอะไรคะ?”

ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เขาตกอยู่ในสภาพที่จนมุมที่สุด เขาจึง หันกลับมาจ้องเธอ พลางตวาดใส่ด้วยความโมโห : “ใครให้คุณ เข้ามา? ไสหัวออกไปซะ!!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ