บทที่ 12 ถูกกําจัด
วันถัดมา หลังจากไปทำงาน หลินหยู่เยียนก็ยุ่งจนหัวไม่วางหาง ไม่เว้น
เธอกลายเป็นคนที่ถูกนักออกแบบทุกคนคอยเรียกใช้
เธอและเซียดานดาน พวกเธอทั้งคู่ถูกดึงตัวมาจากที่อื่นให้ ย้ายเข้ามาทำงานในแผนกออกแบบ แต่กลับถูกคนในแผนกมอง ข้ามและคิดกําจัด
แต่เซียดานดานและตู้เสี่ยวเหมย รวมถึงไปเสบู่นั้นต่างก็โชคดี กันมาก พวกเธอถูกจัดให้เป็นผู้ช่วยประจำตัวของหัวหน้า ดีไซเนอร์ ดังนั้นถึงแม้คนอื่นจะมีอคติกับพวกเธอ แต่ก็ไม่มีใคร กล้าใช้งานพวกเธอ
ต่างกับหลินหยู่เยียน
ไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะมีเวลาว่างสักนิดสำหรับพักผ่อน เมื่อเธอ เดินเข้าไปในห้องชงชากาแฟเพื่อจะกดน้ำดื่ม
เซียดานดานก็เดินออกมาพอดี แล้วลากเธอไปที่บันไดหนีไฟ จากนั้นก็ปิดประตูแล้วถามขึ้นมาว่า : “หมู่เขียน เมื่อวานตอนเลิก งาน สามีเธอมารับเธอใช่ไหม?
หลินหยู่เยียนตัวแข็งทื่อ เรื่องที่เธอหย่านั้นยังไม่ได้บอกพวก เธอเลย และยังไม่อยากพูดอะไรตอนนี้ ยังไงเรื่องที่สามีแอบ นอกใจก็เป็นเรื่องที่น่าอายนัก
“ไม่ใช่ เพื่อนสนิทของฉันมารับฉันต่างหาก
เซียดานดานพยักหน้า : “งั้นก็ดี เธอรู้หรือเปล่า? เมื่อฉันไปที่ ห้องชงชากาแฟเพื่อจะชงกาแฟ มีคนแอบนินทาเธอลับหลัง พูด ว่าเธอเกาะผู้ชายรวยๆ นั่งรถสปอร์ต แล้วที่ถูกดึงตัวมาทำงาน ในแผนกออกแบบนี้ ก็เป็นเพราะเธอรู้จักกับพวกระดับสูงอะไร ทำนองนั้น………..คำพูดน่าเกลียดๆ ที่เหลือฉันไม่อยากพูดถึง มันแล้ว”
“เหอะ ปล่อยให้พวกนั้นพูดไปเถอะ มือสะอาดไม่จำเป็นต้อง ล้าง! ตามความสามารถและประสบการณ์การออกแบบของพวก เรา ที่จริงไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเข้ามาทำงานในบริษัทบริษัทเห ลิ่งชื่อด้วยซ้ำ ไม่รู้ไอสมองกลวงคนไหนที่ให้พวกเราเข้ามา ทำงาน นักออกแบบของที่นี่มีอคติกับพวกเราก็เป็นเรื่องที่หลีก เลี่ยงไม่ได้…….……….
จากความคิดที่เจียมเนื้อเจียมตัวของหลินหยู่เขียน เซียดาน ดานกลับไม่คิดอย่างนั้น เธอเลยรู้สึกไม่ค่อยพอใจขึ้นมาทันที “หญ่เยียน ทำไมเธอถึงได้เยินยอสรรเสริญคนอื่น แล้วดูถูก ดูแคลนตัวเองอย่างนี้! พวกเราทั้งสี่คนไม่มีใครใช้เส้นสายทั้งนั้น ก็แสดงว่าเป็นเพราะความสามารถของพวกเราเอง! ทำไมเธอถึง ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเอาซะเลย!”
เมื่อเห็นน้ำเสียงของเซียดานดานฟังดูไม่ค่อยพอใจ หลินหยู่ เยียนเลยไม่พูดอะไรมาก ได้แต่ยิ้มกลับไป : “อืม พวกเรากลับไป ทำงานกันเถอะ จะได้ไม่ถูกพวกเขากล่าวหาว่าพวกเราแอบอู้งาน
เซียดานดานเพิ่งเดินไปได้เพียงหนึ่งก้าว ก็หยุดเดินกะทันหัน : “หญ่เยียน ฉันรู้นะ ว่าเรื่องที่แบ่งตำแหน่งงานน่ะ เธอรู้สึกอึดอัด ใจมากแค่ไหน ที่จริงเมื่อคืนพวกฉันสามคนคิดไว้ว่าจะอบรมสั่ง สอนเธอสักหน่อย แต่เมื่อคืนเธอดันกลับไปก่อน เจ้านายของ พวกเราค่อนข้างใจกว้างนะ ก่อนจะไปยังแจกนั่งเปาให้พวกเรา ทุกคนคนละซองด้วย เพื่อนเธอเอาสั่งเปาให้เธอหรือยัง?”
“อืม ให้แล้ว”
“งั้นก็ดี พวกเรากลับไปเถอะ คืนนี้หลังเลิกงาน พวกเราสี่คนไป ทานข้าวด้วยกันสักมื้อเป็นไง?” เซียดานดานเสนอแนะ
หลินหยู่เยียนส่ายหน้า : “ดานดาน เอาไว้วันหลังแล้วกันนะ คืนนี้ฉันมีธุระน่ะ”
หลังจากที่ทั้งสองคนกลับไปยังที่นั่งของตัวเอง หลินหยู่เยียนที่ เพิ่งได้นั่งลงเพียงหนึ่งนาที ก็มีงานมากมายก่ายกองโยนมาให้ ทําอีกแล้ว
เธอสูดลมหายใจเข้าอย่างลึก ๆ แล้วก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ
ไป
ทันใดนั้นเอง ผู้ช่วยเชียวผู้ช่วยของผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ ได้เดินเข้ามา แล้วพูดกับหลินหยู่เขียนว่า : “หลินหยู่เยียน เธอไป ที่ห้องทำงานของผู้อำนวยการหน่อยตอนนี้เลย
เมื่อเธอเดินไป นักออกแบบหลายคนก็เริ่มซุบซิบกันทันที
“ผู้อำนวยการกลับมาจากทำงานที่ต่างประเทศแล้วเหรอ?ทําไมกลับมาถึงก็เรียกเธอไปพบเลยล่ะ?”
“หรือว่าผู้บริหารระดับสูงที่เธอรู้จักก็คือผู้อำนวยการ “พูดอะไรเหลวไหล ผู้อำนวยการของพวกเราจะไปสนใจยัยนั่น ได้ยังไงกัน!”
“ก็จริง……..ทั้งบริษัทเหล่งชื่อ นอกจากท่านประธานของพวก เราที่เจอตัวได้ยากแล้ว ก็มีผู้อำนวยการคนนี้แหละที่พบเจอได้
ยากที่สุด”
ในตอนนี้หลินหยู่เยียนได้เดินมาถึงหน้าประตูห้องทำงานของ ผู้อำนวยการ เธอเคาะประตูเบา ๆ
“เข้ามาได้”
เธอผลักประตูแล้วเดินเข้าไป เห็นด้านหน้าโต๊ะทำงานที่อยู่ไม่ ไกลนัก มีชายหนุ่มใบหน้างดงามไร้ที่ติดั่งหยกประดับกวนนั่งอยู่
คิ้วของเขาโค้งเรียวเหมือนดาบ ดวงตาเปล่งประกายดุจ ดวงดาว สันจมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากชุ่มชื่นนั้นช่างดูเย็นชาห่าง เหิน
“นั่งสิ” กู้ฝันเงยหน้าปรายตามองเธอแวบหนึ่ง
ผู้หญิงคนนี้ที่มีเทียนหัวหน้าเลขาของประธานคอยดูแลเอาใจ ใส่ด้วยตัวเองนั้น ตกลงมีความสัมพันธ์กับเทียนยังไงกันแน่?
หลินหยู่เยียนเอ่ยพูด : “ขอบคุณค่ะ”
ฝันเอ่ย : “ฉันเห็นเรซูเม่ของเธอแล้ว และของเพื่อนร่วมงาน ก่อนหน้านี้อีกสามคนของเธอด้วย จากความสามารถและ ประสบการณ์แบบนี้ของพวกเธอ ทำให้บริษัทเหล่งชื่อรับเข้ามา ทํางานได้นั้น คงเป็นเพราะเส้นสายสินะ! ฉันไม่สนว่าพวกเธอเข้า มาทำงานที่นี่ได้ยังไง ในเมื่อเข้ามาทำงานในแผนกออกแบบของ ฉันแล้ว ที่นี่ไม่เก็บคนว่างงานเอาไว้หรอกนะ ถ้าหากไม่มีความ สามารถในการทำงาน ฉันก็จะเชิญออกทันทีอย่างที่ควรจะเป็น เธอได้ยินชัดแล้วใช่ไหม?”
ถูกหมายหัวอย่างไม่ไว้หน้ากันอย่างนี้ หลินหยู่เยียนก็หน้าร้อน วูบวาบขึ้นมา เธอได้เข้ามาทำงานในบริษัทบริษัทเหล่งชื่อ ตัวเธอ เองก็คาดคิดไม่ถึงเหมือนกัน วันนี้กลับถูกผู้อำนวยการคนนี้มอง ว่าเข้ามาได้เพราะใช้เส้นสาย เธอรู้สึกเหมือนโดนกล่าวหาจริง ๆ
แต่เธอก็ไม่กล้าฟังธงว่าอีกสามคนนั้นได้ใช้เส้นสายเข้ามา ทำงานในนี้จริงหรือไม่ จึงตกกระไดพลอยโจนกลายเป็นคนเล่น พรรคเล่นพวกไปด้วย ดังนั้นเธอเลยต้องยอมรับข้อกล่าวหานี้ไป อย่างเลี่ยงไม่ได้ : “ผู้อำนวยการ ฉันจะตั้งใจทำงานให้ดีค่ะ”
การที่เธอไม่โต้แย้งอะไร ทำให้ฝันจงใจจ้องมองเธออีกครั้ง
นัยน์ตาแฝงไปด้วยการดูถูก คิดว่าที่ไม่มีอะไรโต้แย้งก็เพราะ กลัวความผิดล่ะสิ!
“งานที่อยู่ในมือจำเป็นต้องทำเสร็จภายในวันนั้น ๆ ฉันไม่ อยากได้ยินข้ออ้างใด ๆ ตอนนี้เธอออกไปได้แล้ว” ความเย็นชา หมางเมินของกู้ฝัน ทำให้หลินหยู่เยียนรู้สึกขึ้นมาทันทีว่าผู้อำนวยการคนนี้ทำตัวสูงส่งเหนือคนอื่นจริง ๆ
หลังจากที่เธอกลับไปยังที่นั่งของตัวเอง ผู้คนรอบตัวต่างพา กันมองไปที่เธอ แล้วรู้สึกดีใจสะใจ เพราะสีหน้าของหลินหย เยียนนั้นดูแย่ถึงที่สุด
ตอนที่ถึงเวลาทานมื้อเที่ยง เดิมทีหลินหยู่เยียนตั้งใจจะไปทาน ข้าวที่ห้องอาหารของพนักงาน แต่เมื่อคิดว่าคืนนี้ต้องไปเอา กระเป๋าเดินทาง ก็เลยโทรหาเซียวหรานก่อน
เมื่อเธอเดินไปถึงหน้าบันได อีกฝ่ายก็รับสายพอดี
“คิดไม่ถึงว่าจะโทรหาฉัน อยากขอโทษฉันเหรอ?” เซียวยี่หรา นตอนนี้กำลังนั่งอยู่ในห้องทำงาน
หลินหยู่เยียนทำเสียง “เหอะ” ออกไปอย่างเย็นชาแล้วเอ่ย พูด : “ทำไมฉันต้องขอโทษนายด้วย? ที่ฉันโทรมาก็แค่อยาก บอกนายสักคำ คืนนี้ฉันจะกลับไปย้ายของของฉันออกมา รบกวนนายกับลู่เสี่ยวเถากลับบ้านหลังสามทุ่มแล้วกัน จะได้ไม่ ต้องเจอหน้ากัน ให้อึดอัดใจกันเปล่า ๆ”
เซียวหวานเมื่อได้ยินว่าเธอจะย้ายออกไป ในใจก็รู้สึกขัด แย้ง ใจหนึ่งก็อยากให้เธอรีบ ๆ ย้ายออกไปใจจะขาด แต่อีกใจก็ ไม่พอใจนักที่เธอจะย้ายออกไป
กถึงวันนั้นที่บริษัทที่ไม่ได้มีอะไรกับเธอ เซียวหรานก็แสยะ ยิ้มออกมา : “ก็ดี ให้โอกาสครั้งนี้ครั้งเดียว ของที่เธอย้ายออก ไปไม่หมด ฉันจะให้คนเอาไปทิ้งให้หมด!
“ตุ๊ด” เสียงตัดสายจากฝ่ายนั้น หลินหยู่เยียนจึงได้สบถออก มา : “ไอระยำ!”
จากนั้น เธอได้โทรหาเล่อโยวโยวเพื่อนัดเวลา
หลังจากเพิ่งเก็บโทรศัพท์ เพื่อจะไปที่ห้องอาหาร เสียง ข้อความเข้าที่เป็นเสียงพิเศษก็ดังขึ้น
เมื่อเช้าขณะที่กำลังนั่งอยู่ในรถไฟใต้ดิน เธอได้ตั้งค่าเสียง เรียกเข้าเบอร์โทรศัพท์ของเหลิงเจาเซียวเป็นเสียงที่แตกต่าง ออกไป และได้ตั้งค่าเป็นเบอร์โทรด่วนอีกด้วย
เรื่องรูปถ่าย ก็เหมือนระเบิดลูกหนึ่ง เธอจำเป็นต้องป้องกันไว้
ก่อน
กดดูข้อความ : มาหาฉันที่ห้องทำงานของท่านประธาน
หลินหยูเยียนสับสนงุนงงทันที ห้องทำงานของท่านประธานนั้น เหรอ?
เธอรีบพิมพ์ข้อความกลับไปอย่างรวดเร็ว : ห้องทํางานของ ท่านประธานบริษัทเหลิ่งชื่อ?
ผ่านไปห้าวินาที เขาก็ตอบกลับมาคำหนึ่ง : อืม หลินหยู่เขียนหน้านิ่วคิ้วขมวดเดินกลับไปยังห้องทำงาน นั่ง เหม่ออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินเข้าลิฟต์ไป
ทำไมเธอคิดไม่ถึงนะ ที่เขาบอกว่าเป็นเลขาประธานบริษัท ก็ คือเลขาท่านประธานบริษัทบริษัทเหล่งซื้อ
ทำไมเขาถึงได้เป็นถึงเลขาท่านประธานล่ะ?
หรือว่าท่านประธานของบริษัทบริษัทเหล่งซื้อที่จริงแล้วชอบ ผู้ชาย?
ใช้ทางลัดไต่เต้าขึ้นตำแหน่งนั้นเหรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลินหยู่เยียนก็ตัวสั่น ขนลุกซู่ขึ้นมาทันที
ขณะนั้นเอง ประตูลิฟต์ก็เปิดออก ที่นี่ยังไม่ใช่ชั้นของห้อง ทํางานท่านประธาน
เป็นชั้นของหัวหน้าเลขามเทียน ทุกคนจำเป็นต้องผ่านเข้าไป
ก่อน ถึงเข้าไปพบท่านประธานได้
มู่เทียนกำลังรอเธออยู่ที่หน้าประตูลิฟต์ : “คุณหลิน คุณไม่ต้อง ออกมาจากลิฟต์หรอก”
เธออึ้งไปชั่วขณะ มู่เทียนได้รูดบัตรพิเศษ แล้วไฟสีเขียวก็สว่าง
ขึ้น จากนั้นลิฟต์ก็ปิดลงอีกครั้ง แล้วขึ้นไปยังชั้นบนสุด
เมื่อออกจากลิฟต์ หลินหยู่เยียนก็ได้เดินตรงไปยังห้องทำงาน ของท่านประธาน
เมื่อเดินไปถึง เธอก็ค่อย ๆ เคาะประตู
“เข้ามาได้”
เสียงนั้นฟังดูเหมือนอยู่ใกล้กับเธอมาก ราวกับอยู่ตรงหน้าเธอ เมื่อหลินหยู่เยียนผลักประตูเข้าไป ชั่วพริบตาเดียวก็ถูกร่างสูง ใหญ่โอบกอดเข้าที่เอว
แล้วดันตัวไปด้านหน้า เหวี่ยงเธอลงบนโซฟาหนังแท้ที่ใหญ่ โตและหรูหรา
เหลิ่งเจาเซียวได้จับตัวเธอไว้แน่น หลินหยู่เขียนพูดเสียงต่ำ : “นายบ้าไปแล้วรึไง! นี่ห้องทำงานของท่านประธานนะ! ถ้าเกิด ท่านประธานเข้ามาจะทำยังไง?
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ