คุณภรรบยา อย่าดื้อรั้นสิ

บทที่6 ถูกบีบให้ถลำลึก



บทที่6 ถูกบีบให้ถลำลึก

“หน้าไม่อาย! ใครอ่อยคุณ……” หลินหยู่เขียนดึงเสื้อเชิ้ตขึ้นมาไม่ อยากให้ตัวเองต้องโชว์อะไรออกมาอีก

ดวงตาของเหลิ่งเจเซียวปรากฏรอยยิ้ม มาในห้อง พลางปิดประตูลง

“ที่นี่คือที่ไหน?”

“บริษัทผมเอง”

หลินหยู่เยียนตกใจ มาอยู่ที่เขาทำงานได้อย่างไร……

“คุณหมายถึงว่าที่นี่คือสถานที่ทำงานของคุณ?” เธอไม่อยาก จะเชื่อ แล้วก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที

เห็นเธออาการที่แสดงออกถึงความดูถูกออกมา เหลิงเจาเซียว

มองแวบหนึ่งก็รู้ว่าเธอเข้าใจผิด แต่ก็ไม่อยากจะอธิบาย

ขายาวๆ ก้าวเข้ามาแล้วนั่งลง มุมปากปรากฏรอยยิ้มร้ายๆ ออกมา : “ทำไม ผมจะทำงานที่ถูกต้องไม่ได้เลยหรือ?”

เขามองเธอด้วยท่าทางที่เย็นชา หลินหยู่เขียนถึงได้รู้สึกตัวว่า ตัวเองยังคงนั่งโง่ๆ อยู่บนพื้น จึงรีบลุกขึ้นมา แล้วตั้งใจอยู่ให้ ห่างจากเขาถึงสามเมตร

“คุณก็มีงานที่ถูกต้องด้วยหรือ?” เธอรู้สึกสงสัยจริงๆ ว่าผู้ชาย คนนี้ยังควบหลายตำแหน่งด้วยอย่างนั้นหรือ?
สองนิ้วของเหลิ่งเจเซียวลูบอยู่ตรงคาง ดวงตาหลบต่ำลง แล้วคิดอยู่สองวินาที “ผมเป็นประธาน…เลขาของประธาน บริษัท”

หลินหยู่เยียนพยักหน้าลง : “อ๋อ ฉันเข้าใจแล้ว….อย่าเพิ่งพูด เรื่องนี้เลย เสื้อผ้าฉันอยู่ที่ไหน?

“เสื้อผ้าของคุณอยู่ที่โรงแรมเมื่อคืนนี้

“หะ? ทำไมคุณไม่เอามาด้วยล่ะ? แล้วนี่ฉันจะออกไปได้ยัง ง…… ใบหน้าเล็กๆ ของหลินหยู่เยียนคว่ำลงทันที

เหลิ่งเจวเซียวที่อารมณ์ดีอย่างหาดูได้ยากเช่นนี้ เขายืนขึ้น “พอดีเลยผมยังไม่ได้ทานอาหารเช้า ผมไปส่งคุณกลับไปเอา เสื้อผ้าที่โรงแรมแล้วกัน”

“ให้ฉันใส่แบบนี้ออกไปเนี่ยนะ?”

“คุณรู้สึกอาย?”

หลินหยู่เยียนเอ่ยขึ้นอย่างโมโห : “เพ้อเจ้อ! ให้คุณใส่เสื้อเชิ้ต ตัวเดียวออกไป คุณเองก็คงไม่ยอมหรอกใช่ไหม?”

เหลิงเจาเซียวเอ่ยขึ้นมาเพียงว่า : “ให้ผมลองคิดดูก่อนนะ” “ถ้าไม่อย่างนั้นคุณช่วยไปซื้อเสื้อผ้าให้ฉันชุดหนึ่งสิ? เดี๋ยวฉัน ให้เงินคูณ” เธอเสนอ

“ผมไม่ใช่คนที่คุณจะใช้ให้ไปทำอะไรให้ได้เสียหน่อย” เขา ปฏิเสธ
เธอจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง : “ถ้าอย่างนั้นฉันจะโทรหาเพื่อนให้เธอ เอาเสื้อผ้ามาให้ฉันที่นี่แล้วกัน”

เขาเอ่ยขึ้นด้วยแววตาที่ไม่ชอบใจนัก : “คุณคิดว่าที่นี่ใครๆ ก็ จะสามารถขึ้นมาได้อย่างนั้นรึไง?”

“แล้วถ้าอย่างนั้นจะให้ทำยังไงล่ะ?” หลินหยู่เยียนร้อนใจ

หลังจากนั้นไม่นาน ดวงตาของเหลิงเจาเซียวก็ปรากฏรอยยิ้ม บางๆ ออกมา แต่น้ำเสียงเอ่ยพูดขึ้นอย่างเย็นชา : “ผมมีข้อ เสนอ….

และจากนั้นอีกสองนาทีต่อมา หลินหยู่เขียนก็ถูกเหลิ่งเจาเซียว อุ้มเดินออกไปจากออฟฟิศ

มู่เทียนที่กำลังจะเดินผ่านไปนั้นรู้สึกตกใจมาก และหลังจากที่ ดึงสติกลับมาได้แล้วกำลังจะเอ่ยพูดขึ้น “เหง…..

ถูกสายตาที่เตือนออกมาของเหลิงเอเซียวห้ามเอาไว้

รอจนเขาอุ้มเธอเข้าไปในลิฟต์ที่ใช้เฉพาะสำหรับตัวเองแล้ว หลินหยู่เยียนจึงเอ่ยถามขึ้นมาเบาๆ : “คุณแน่ใจนะว่าไม่มีใคร เห็นฉัน?”

เธอในเวลานี้ บนศีรษะนั้นมีเสื้อสูทของเหลิ่งเจเซียวคลุมเอา ไว้ และยังสวมใส่กางเกงชุดสูทขายาวของเขาอีกด้วย ขากางเกง ที่ยาวออกมานั้นลากไปกับพื้นทางด้านนอก ราวกับเด็กที่แอบ ขโมยเอาเสื้อผ้าของพ่อแม่มาใส่อย่างไรอย่างนั้น

เขาหัวเราะเยาะเธอพลางเอ่ยขึ้น :”ท่าทางของคุณในตอนนี้พ่อแม่คุณก็คงจะจำคุณไม่ได้หรอก”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดี…” บนแขนของเธอนั้นสะพายกระเป๋าของตัว เธอเองเอาไว้ แล้วสองมือก็กอดคอเขาเอาไว้แน่น กลัวว่าตัวเอง จะตกลงมา

หลังจากที่ออกมาจากลิฟต์ก็เป็นที่จอดรถส่วนตัวของเขา

เปิดประตูรถ แล้ววางตัวเธอลงตรงตำแหน่งข้างๆ คนขับ ตอนที่เหลิ่งเจาเซียวขับไม่บัคออกไปจากที่จอดรถชั้นใต้ดินนั้น เขาเอ่ยขึ้นมา : “คุณไม่ต้องบังแล้ว”

เมื่อหลินหยู่เยียนได้ยินแล้วจึงเอาชุดสูทที่คลุมอยู่นั้นลงมา ทันที อุดอู้อยู่ในนั้นเป็นเวลาพักหนึ่ง ใบหน้าเล็กๆ นั่นแดงระเรื่อ ดูแล้วน่ารักเป็นอย่างยิ่ง เหมือนกับผลแอปเปิ้ลสีแดงที่ทำให้ อยากจะกัดซักคำเสียอย่างนั้น

สายตาที่เหลิ่งเจเซียวเหลือบมองไปที่เธอนั้นช่างดูมืดครึ้มยิ่ง นัก

และขณะนี้เองที่มีเสียงสั่นดังขึ้นมาจากในกระเป๋าของหลินหยู่ เขียน

เธอเปิดกระเป๋าออกดู ข้อความเป็นสิบฉบับ และสายที่ไม่ได้ รับหลายสาย ตอนนี้คนที่กำลังโทรมานั้นก็คือเซียวหรานสามี ของเธอนั่นเอง

พอเลื่อนหน้าจอแล้วนั้น ก็ได้ยินเสียงเสียงชั่วร้ายของเซียว หรานดังขึ้นมา : “ตอนนี้คุณอยู่ไหน?”
หลินหยู่เยียนเหลือบมองผู้ชายคนข้างๆ แวบหนึ่ง เห็นว่าเหลิง เจเชียวมีท่าทางที่ไม่ได้สนใจ เธอจึงรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง

“คุณมีธุระอะไร?” น้ำเสียงของเธอเองก็ไม่ดีด้วยเช่นกัน

“แม่คุณมา! ท่านหาคุณไม่เจอก็เลยมาที่บริษัทผม รีบมารับ แม่คุณกลับไปด้วย!”

‘พริบ’ สายถูกตัดไปแล้ว

หลินหยู่เยียนก้มหน้าลงแล้วด่าว่าออกมา น่ารังเกียจ “สามีของคุณหรือ?” น้ำเสียงเย็นชา ฟังไม่ออกถึงความเดียว ดีเดี๋ยวร้าย

ในใจของหลินหยู่เยียนนั้นซะงักไป มองเขาแวบหนึ่ง แต่ก็ไม่ ได้เอ่ยพูดอะไรออกมา

เห็นว่าเธอไม่ตอบ เหลิ่งเจาเซียวเองก็ไม่ได้เอ่ยถามอีกเช่นกัน

หลังจากที่ขับรถมาถึงที่จอดรถชั้นใต้ดินของโรงแรมแล้ว เขา

ก็อุ้มเธอขึ้นไปยังห้องชุดอีกครั้ง

เข้าไปในห้อง หลินหยู่เขียนรีบกระโดดลงออกจากอ้อมแขน ของเขา และกำลังจะไปหาเสื้อผ้าของตัวเธอเองนั้น

ก็ถูกมือใหญ่ของเหลิ่งเจาเซียวกอดเอาไว้ แล้วแบกตัวเธอ พาดลงบนบ่าพาเดินเข้าไปในห้องนอน

เมื่อเข้าไปในห้องนอนแล้ว เธอก็เหมือนกับเส้นพาราโบลาที่ ถูกโยนลงไปกระแทกลงจนรู้สึกมึนศีรษะไปหมด และยังไม่ต้องรอให้เธอได้ลุกขึ้นมานั่ง เธอก็ถูกเหลิงเอเซียวกอดเอาไว้เสีย แล้ว

“คุณปล่อยฉันนะ!”

เขายกริมฝีปากขึ้น : “มาเป็นคนขับรถให้คุณฟรีๆ ผมก็ ต้องการทิปบ้างสิ…..

“ทิปอะไร? ฉันไม่มีเงิน!” หลินหยู่เยียนโมโห ตอนนั้นเธอหน้า มืดตามัวโยนเงินจํานวนมากให้เขานับว่าเป็นความโชคดีของ เขาแล้ว เขาจะยังมีหน้ามาถามหาเธอถึงเรื่องทิปอีกอย่างนั้น หรือ?

เหล่งเจาเซียวไม่ต้องออกแรงเลย เพียงมือเดียวก็สามารถจับ มือทั้งสองข้างของเธอไว้ตรงเหนือศีรษะได้

ผ่านไปไม่กี่วินาที เมื่อผิวของเธอได้สัมผัสกับอากาศ ก็รู้สึก เย็นจนทำให้เธออดที่จะสั่นไม่ได้

“คุณกล้าแตะต้องตัวฉันก็ลองดูสิ!” ความเย็นชาปรากฏขึ้นมา ในดวงตาสีดาของเธอ

“ทำไมผมจะไม่กล้าแตะต้องตัวคุณ?” ความไม่เกรงกลัวของ

เขานั้นทำให้เธอรู้สึกเดือด!

ผู้ชายคนหนึ่งที่ขายตัวเอง มีสิทธิ์อะไรที่จะมาพูดเอาเปรียบ เธอได้แบบนี้?

มีอย่างนี้ที่ไหนกัน!
“ฉันจะบอกคุณให้นะ ฉันไม่มีเงินมาเหมาตัวคุณแล้ว คุณอย่า มาเสียเวลากับฉันอีกเลย……..

เหลิงเจาเซียวก้มหน้าลงเข้ามาใกล้ๆ ข้างหูเธอ “เงินของคุณ ให้มาเยอะแล้ว เหมาเป็นเดือนก็ได้…”

เหมาเป็นเดือน?

หลินหยู่เยียนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก : “ให้เยอะก็คือให้ เยอะ! ฉันไม่ได้ต้องการมาเหมาเป็นเดือนอะไรแบบนั้น! คุณรีบ ปล่อยฉันเร็วๆ ………ถ้าไม่ยอมปล่อยฉันจะแจ้งตำรวจนะ!”

ถ้าเขากล้าบังคับ ฉันก็จะแจ้งตำรวจ

เหลิงเจาเซียวหัวเราะออกมาเบาๆ พลางเอ่ยขึ้น นอกจาก จะแจ้งตำรวจแล้ว คุณยังสามารถพูดอะไรออกมาได้อีกบ้าง?”

“นี่ฉันไม่ได้ล้อคุณเล่นนะ! ฉันไม่มีเวลามาเล่นอะไรกับคุณ

แล้ว! รีบให้ฉันลุกขึ้นได้แล้ว!” เธอตะโกนเสียงต่ำออกมา

เขายกริมฝีปากขึ้นพลางว่า : “ขอเพียงแค่คุณผ่อนคลาย ผม รับประกันว่าคุณจะได้รับความพึงพอใจในนั้น…….

“คุณอย่ามาพูดมั่วๆ! ให้ฉันออกไปจากที่นี่เร็วๆ เข้า!” เธอดิ้น อยู่นานแต่ก็ไม่สามารถขยับได้เลย เหมือนกับปลาที่กำลังอยู่บน เพียงเพื่อรอคนมาเชือดอย่างไรอย่างนั้น

แสงสวยนั้นปรากฏแวบเข้ามาในดวงตา : “ไม่เชื่อ? ถ้าอย่าง นั้นก็ลองดู..……..
นึกถึงประสบการณ์ที่เจ็บปวดในคืนนั้นแล้ว เธอก็ตกใจเสียจน รู้สึกชาวาบไปหมด

เขามองไปยังน้ำตาที่ตื้นขึ้นมาของเธอ แล้วเอานิ้วชี้วางลงบน ริมฝีปากของเธอ “ว อย่าร้อง ครั้งนี้ผมจะทำอ่อนโยน ทำให้ คุณหลงรักความรู้สึกแบบนี้

“คิดว่าฉันขอร้องได้ไหม! ปล่อยฉัน…..” เธอตกใจเสียจน

น้ำตาไหลออกมา

ริมฝีปากบางสีแดงของเขายกขึ้นอย่างไร้ความปรานี : “ขอร้องผม….ก็ไม่มีประโยชน์

และไม่กี่วินาที หลินหยู่เยียนรู้สึกเจ็บจนสูดหายใจเข้า กัดริม ฝีปากตัวเองเอาไว้เพื่อทนรับทั้งหมดนี้เอาไว้ สองมือถูกเขากดเอาไว้ทั้งสองข้าง มองดวงตาสีดำของเธอที่

ค่อยๆ ปรากฎหมอกที่หนาทึบขึ้นมา มุมปากของเขามีรอยยิ้ม

ออกมา

“มองผม..

น้ำเสียงของเขานั้นเหมือนกับมีเวทมนตร์ เธอมองเขา ใน ดวงตานั้นมีใบหน้าที่หล่อเหลาสมบูรณ์แบบของเขา

เป็นครั้งแรกที่เธอถูกครอบครอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ