ตอนที่14 เสแสร้งทำเป็นใสซื่อทำไม?
เห็นฉันไม่พูดอะไร ดนุนัยเพิ่มแรงกดลงไปที่มืออีก ราวกับจะบดคางของฉันให้แตกยังไงยังงั้น ฉันเจ็บมาก แต่ก็กัดริมฝีปากแน่น ไม่ยอมให้ตัวเองส่งเสียงร้อง
ดนุนัยเห็นว่าฉันไม่พูดอะไร จึงเอ่ยว่า“ณิชา บอก ฉันมาเธอหลอกลวงเจ้าของบ้านจันทร์ว่ายังไง ถึงทำให้ หล่อนเชื่อเธอได้ไ
แรงบีบที่มือชายหนุ่มเพิ่มมากขึ้น คางของฉันเริ่มเจ็บ ปวดจนแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ และเปลี่ยนเป็นเจ็บจนชา หน็บ
ในที่สุด เขาก็ปล่อยคางของฉัน ฝ่ามือใหญ่รวบยึดเอว ของฉันไว้และตรงเข้ามาฉีกกระชากเสื้อผ้าบนตัวฉัน!
ฉันดิ้นรนขัดขืน ท้ายที่สุดก็ตะโกนออกมาว่า “อย่า
นะ…”
ดนุนัยเห็นฉันเปล่งเสียงแล้ว คล้ายกับว่ายิ่งสบ อารมณ์ เขายกมือขึ้นแล้วกดปุ่มที่กั้นสีดำส่วนตรงกลาง ระหว่างที่นั่งด้านหน้าและด้านหลังค่อยๆยกขึ้นมา…
เมื่อที่กั้นยกขึ้นจนเสร็จ ที่นั่งด้านหลังกลายเป็นพื้นที่
จำกัด
ดนุนัยไม่สนใจการขัดขืนของฉัน ไม่มีการเล้าโลมใดๆ ตรงเข้าสู่ตัวฉันโดยตรง
ในที่สุดฉันเจ็บจนทนไม่ไหวร้องออกมา
แต่ชายหนุ่มไม่ได้หยุดการเคลื่อนไหวเลย
เพราะพื้นที่เบาะด้านหลังคับแคบเขานั่งชันเข่าบน เก้าอี้ มองมาที่ฉันอย่างตั้งใจและพูดว่า”เธอพยายาม อย่างที่สุดเพื่อทำให้ซยานีเปลี่ยนสัญญาการแต่งงานเพื่อ เธอ ไม่ใช่เพื่อสิ่งนี้ ไง?!”
เพียงสูดอากาศเย็นก็รู้สึกเจ็บ ฉันไม่สนใจจะตอบ อะไรเขา
คิดเพียงอยากให้เขารีบออกไปซะ
แต่ว่าชายหนุ่มไม่สนใจเลยสักนิด ใช้มือข้างหนึ่งจับ ผมของฉันแล้วด่าทอว่า“เสแสร้งทำเป็นใส่ซื่อทำไม? แล้ว ตอนนี้เสียใจซะแล้ว? ฉันจะบอกเธอไว้นะ เธอวางแผนใส่ ฉัน ทำร้ายจิณณา ก็ควรจะรู้ไว้ว่ามีวันที่ต้องเสียใจรอเธอ อยู่ข้างหลัง!”
ขณะที่รถแล่นไป เขาทำมันตลอดทาง
เมื่อรถหยุดลง ชายหนุ่มถึงระบายออกมาหมด
เขาแยกเสื้อผ้าออกและเปิดประตู หันมาพูดกับฉัน ว่า“รีบใส่กางเกงแล้วออกมา”
ฉันทรุดตัวลงเอนหลังไปยังเบาะหลัง หันหน้าไป ได้รับ รู้ว่าด้านนอกประตูคือ…
สำนักกิจการพลเรือน
เขาต้องการจะจดทะเบียนสมรสกับฉันจริงๆเหรอ?
แต่ว่าฉันกลัวแล้ว ฉันโบกมือ ไม่ ไม่เอา ฉันไม่จด ทะเบียนแล้ว ฉันจะไปคุยกับคุณยาย
ฉันกลัวแล้วจริงๆ ฉันกลัวว่าจะต้องตายด้วยน้ำมือเขา ตอนนี้พวกเรากำลังจะทําเรื่องที่สามีภรรยาควรทํา แต่
สายตาที่มองดูฉันกลับมีแต่ความเกลียดชัง
ความเกลียดชังนี้มันมากกว่าในคืนแต่งงานเสียอีก!
ทว่า เขาไม่ให้ทางหนีทีไล่อะไรกับฉันเลย ตรงเข้ามา ดึงฉันออกนอกรถ ถากถางว่า“เธอเห็นบ้านสุทรรศน์รังส เป็นอะไร? พวกเธอถึงจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้?”
ฉันสวมเสื้อผ้าไม่เหมาะสม หากฉันอกไปตอนนี้ คน ต้องพากันหัวเราะเยาะเป็นแน่
ฉันทําได้แค่ประณีประณอม ร้องขอ“ฉันยอม ฉันยอม ล่ะ คุณต้องให้ฉันแต่งตัวก่อน!”
ดนุนัยได้ยินแล้วจึงคลายมืออก
ฉันสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว จัดทรงผม แล้วจึงลงจาก
รถ
แล้วตามเขาเข้าไปในสำนักกิจการพลเรือน
ภายในห้องโถงของสำนักงานว่างเปล่า คนสักคน เดียวก็ไม่มี
บนโต๊ะทำงานตรงปากประตู ดนุนัยหยิบเอกสารออก มาแล้วพูดว่า”เซ็นชื่อซะ
น้ำเสียงของเขาเป็นคำสั่ง ไม่ใช่การสนทนากับฉัน
ฉันต้องการเปิดดูเนื้อหาด้านใน แต่กลับถูกเขาหยุด ไว้”ณิชา เธอเข้าใจด้วยนะ ไม่ใช่ฉันที่อยากแต่งงานกับ เธอ เป็นเธอที่รีบร้อนอยากแต่งงานกับฉันเอง เธอทำได้ แค่ยอมรับมัน”
“ดนุนัย คุณควรตรวจสอบจิณณานะคะ เดิมทีหล่อน…..
ทีแรกฉันคิดจะพูดเรื่องจิณณา แต่พูดออกไปได้เพียง คำ ดนุนัยทุบกำปั้นลงบนโต๊ะดังปัง!
เสียงดังมาก จนฉันสะดุ้งด้วยความกลัว
เขามองมาที่ฉันและเตือนว่า “หรือเธอต้องการให้เด็กๆ ที่บ้านเด็กกำพร้าไร้ที่อยู่จริงๆ อย่าพูดเรื่องไร้สาระ
บ้านเด็กกำพร้าอีกแล้ว
สิ่งนี้คือจุดอ่อนของฉันจริงๆ
ฉันไม่มีทางเลือก นอกจากเซ็นชื่อของฉัน แม้ว่าฉันพอจะเข้าใจดีว่า ในข้อตกลงเลี้ยงดูก่อนหน้านี้เกี่ยวกับเพศตรงข้าม จะต้องระบุในนี้อย่างแน่นอน
แต่ฉันรู้ดีว่า ถ้าดนุนัยจะทำอะไรบ้านเด็กกำพร้า เขา ทําได้แน่นอน
ฉันเซ็นชื่อเสร็จ ดนุนัยก็ดึงมือฉันไปรับทะเบียนสมรส
หลังจากที่พวกเราทำการตรวจสอบภาพถ่ายเสร็จ แล้ว สุดท้ายคือนั่งอยู่ที่สถานที่ออกเล่มทะเบียน
เจ้าหน้าที่เอ่ยถามอย่างใจดีว่า “พวกคุณแน่ใจที่จะจด ทะเบียนวันนี้ใช่ไหมครับ?”
“วันนี้จดทะเบียนไม่ได้เหรอคะ?”ฉันเอ่ยถาม
เจ้าหน้าที่ส่ายหัว”ก็ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก เพราะวันนี้ เป็นวันไม่ดีน่ะครับ”เขาพูดแล้วมองไปรอบๆคุณดูสิครับ วันนี้แม้แต่มาทำเรื่องหย่ายังไม่มีเลย”
ทันใดนั้นฉันเกิดความกังวลใจ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ