ขังหัวใจประธานซาตาน

ตอนที่10 เป็นลมล้มลงตรงหน้ารถของเขา



ตอนที่10 เป็นลมล้มลงตรงหน้ารถของเขา

คิดถึงสมัยเด็กกับดนุนัย เพราะว่าไม่มีเงิน จึงไม่ สามารถรับช่วยชีวิตได้ ทำอะไรไม่ถูก ฉันทำได้เพียงแค่ นั่งไปกับรถพยาบาล

รอจนถึงโรงพยาบาล ฉันจ่ายค่ายาให้จิณณาเสร็จ แล้ว คิดอยากจะไปเสียที

มาถึงปากประตู กลับถูกนายตำรวจคนหนึ่งขวางฉัน ไว้ ที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขาก็คือ คู่สามีภรรยาชั้น 3

คุณนายชี้มือมาที่ฉัน พูดอย่างมุ่งมั่นว่า “เป็นหล่อนนี่ แหละค่ะ หล่อนผลักผู้หญิงคนนั้นตกลงมา

นายตำรวจพยักหน้า ใช้น้ำเสียงที่เป็นสูตรตายตัวกับ ฉันว่า“สวัสดีครับ กรุณาเดินไปกับเราด้วยครับ”

ถึงแม้ว่าฉันจะลังเล แต่ฉันก็เข้าใจ ถึงวันนี้ไม่ไปสถานี ตำรวจ พรุ่งนี้ก็ต้องไปอยู่ดี

คู่สามีภรรยาชั้น3 ไปด้วยกันพร้อมกับฉัน ระหว่างทาง คุณนายคนนั้นพูดกับตำรวจว่า“ฉันได้ยินเสียงพวกเขา ทะเลาะกันค่ะ เสียงดังรุนแรงมาก ต่อมาได้ยินเสียงคน ตะโกนขอให้ช่วย ตอนหลังผู้หญิงก็ตกลงมา

ติณณาพักอยู่ชั้น4 ตอนฉันไปอยู่เธอเคยเล่าให้ฉัน ฟังว่า คุณนายที่อยู่ชั้น3 คนนี้เป็นคนชอบยุ่งเรื่องคนอื่น เวลาปกติก็ชอบหา เรื่องเธอ
ฉันได้ยินหล่อนพูดเช่นนี้ รีบอธิบายกับคุณตำรวจ ทันที“ฉันกับหล่อนไม่ได้ทะเลาะกันค่ะ!”

คุณนายเห็นฉันออกมา ก็มองดูฉันอย่างเหยียด หยาม”เธอพูดว่าไม่ได้ทะเลาะ ก็คือไม่ได้ทะเลาะเหรอ? ถ้าอย่างนั้นเธอก็จะ บอกอีกว่า คนที่ผลักไม่ใช่เธอสินะ?”

“เพราะฉันไม่ได้ผลัก”

คุณนายหัวเราะเยาะขึ้นมา “ฆาตกร พูดว่าตัวเองไม่ใช่ ฆาตกรทุกคนน่ะแหละ”

“ฉันไม่ได้ผลักตั้งแต่แรกแล้ว”ฉันเน้นย้ำอีกครั้ง

แม้ว่าฉันจะรู้ว่า ปัจจัยทุกอย่างไม่เอื้อสำหรับฉัน เป็น ไปไม่ได้ที่จะมีคนเชื่อฉัน

มาถึงสถานีตำรวจ ฉันให้ปากคำลงบันทึกประจำวัน แล้ว ตำรวจก็ติดต่อไปที่บ้านจันทร์แล้ว ฉันคิดว่าถ้าปณัย กับชวลัยรู้เรื่องนี้ ต้องแจ้งจับฉันแน่ๆ

คาดไม่ถึงเลยว่า พวกเขาให้ตำรวจปล่อยตัวฉัน

ฉันออกมาจากสถานีตำรวจ หิวจนแทบจะเป็นลม จึง หาร้านอาหารเพื่อทานข้าว เพิ่งจะกินไปได้แค่2คำ ก็ได้ รับสายจากดนนัย

ฉันรู้ว่า ดนุนัยจะต้องการคุยเรื่องจิณณา และฉัน แน่ใจว่า ในใจของเขา จะต้องตัดสินแล้วว่าฉันเป็นคนทำ
โทรศัพท์ดังอยู่นาน ฉันถึงจะรับสาย

ไม่รอให้เขาพูด ฉันก็พูดก่อนเลยว่า”คุณดนุนัยคะ จิณณาผลักตัวเองตกลงมาเอง ฉันไม่ได้เป็นคนผลักนะ คะ”

ฉันพูดจบ ที่ปลายสายเงียบงัน นานมาก ถึงจะได้ยิน เสียงหัวเราะเยาะของดนนัย เธอคิดว่าฉันจะเชื่อเธอเห รอ?”

ไม่เชื่อน่ะสิ

ในใจของฉันมีคำตอบเรียบร้อยแล้ว

ไม่รอให้ฉันได้โต้แย้ง ดนุนัยเอ่ยปากว่า”ฉันแค่อยาก บอกเธอไว้นะ ณิชา ถ้าหากมีภัยพิบัติอะไรก็ตามอย่าง ไม่คาดคิดโดยเฉพาะความตายเกิดขึ้นกับจิณณา ไม่ใช่ แค่เธอเอง แต่ฉันจะแยกบ้านเด็กกำพร้าที่เธอโตมาอออก เป็นชิ้นๆเลย!”

พูดจบ ก็ตัดสายโทรศัพท์ทันที

ฉันสูดหายใจอากาศเย็นเยียบ

ดนุนัยเป็นนักธุรกิจมืออาชีพที่แท้จริง รู้ดีที่สุดว่าจะ สร้างความยากลำบากให้กับจุดอ่อนของศัตรูได้อย่างไร

ตอนนี้ฉันกับบ้านจันทร์ขัดแย้งกันแล้ว เมื่อตัวคนเดียว ธรรมดาแล้วฉันไม่กลัวหรอกถ้าเขาจะพุ่งเป้ามาที่ฉัน แต่ เขากลับคิดพุ่งเป้าไปที่บ้านเด็กกำพร้า!
เมื่อโทรกลับไปก็โทรไม่ติดเสียแล้ว

เขาดึงฉันสู่ความมืดมนแล้ว

ภายในใจของฉันตื่นตระหนก กินของตรงหน้าไม่ลง แล้ว ตรงไปที่โรงพยาบาล!

เมื่อไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอบอกฉันว่า ดนุนัยได้ ย้ายจิณณาไปที่โรงพยาบาลทนุธรรมแล้ว

โรงพยาบาลทนุธรรม เป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียง ที่สุดในย่านหยานเฉิง และเป็นระบบสมาชิก ไม่ใช่ทุกคน จะสามารถเข้าไปได้ รวมถึงการเข้าเยี่ยมคนไข้ ต้องให้ คนไข้เป็นผู้แจ้งก่อน

ฉันรู้ว่า ฉันไม่สามารถเข้าไปได้แน่ๆ

แต่ดนุนัยต้องทำงาน พรุ่งนี้เขาต้องทำงานแต่เช้า

ตอนนี้เป็นเวลาบ่าย2 โมงกว่า เพื่อเป็นการรับประกัน ว่าจะเจอ ฉันจึงเฝ้าอยู่ที่ปากประตูโรงพยาบาลทนุธรรม ย่อตัวนั่งลงตรงกลางกำแพงอย่างสับสนอยู่ชั่วครู่ ใกล้ หมดวัน ฉันยังคงเฝ้ารอต่อไป

ในที่สุด ฉันเห็นรถดนุนัยขับออกมา ฉันไม่สนใจเรื่อง อื่น รีบตรงเข้าไปหา

ความเร็วรถไม่มาก เพียงแค่ฉันแตะเบาๆรถก็หยุดแล้ว

ดนุนัยลงมาจากรถ ฉันคิดจะอธิบายเรื่องเมื่อวานกับเขา ให้เขาไม่ทําอะไรบ้านเด็กกำพร้า แต่ว่าหัวสมองไม่ สามารถคิดค่าบรรยายได้ นิ่งสนิทไปฉับพลัน รู้สึกหน้า มืด แล้วก็เป็นลม!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ