ขังหัวใจประธานซาตาน

ตอนที่ 17 เสื้อผ้าราคาแพงเช่นนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ลองได้



ตอนที่ 17 เสื้อผ้าราคาแพงเช่นนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ลองได้

หลังจากวันนั้น ฉันไม่ได้พบดนนัยมาเกือบเดือนแล้ว

ชีวิตค่อยๆฟื้นตัวสู่ความสงบสุข ฉันจัดการตัวเองให้ ทำงานยุ่งมากๆเข้าไว้ เพื่อให้ตัวเองด้านชา เพื่อให้ตัวเอง ลืมว่ามีการแต่งงาน

วันนี้ เป็นวันรับเงินเดือนของฉัน ติณณาวุ่นวายแต่เช้า เลยหยิบเงินมาอยากจะชวนหล่อนไปกินข้าวด้วยกัน

เพราะว่าไม่อยากให้เธอต้องคอย ฉันเลิกงานเร็วกว่า ปกติเป็นประวัติการณ์

แต่สุดท้าย ในตอนที่ฉันเพิ่งจะเดินออกจากสำนักงาน ผู้ชายใส่สูทสีดำาคนหนึ่งเดินเข้ามาหา พูดกับฉันอย่าง สุภาพว่า“สวัสดีครับคุณณิชา ผมเป็นคนขับรถของท่าน ประธาน เขาให้ผมมารับคุณครับ”

ที่จุดเลิกงาน ผู้คนที่เดินไปมาบริเวณโดยรอบ ต่าง มองฉันด้วยสายตาแปลกๆ

ขณะนี้ฉันรู้สึกได้ยินไม่ชัด“ท่านประธาน? ดนุนัย?”

เขาจะมารับฉันได้อย่างไร?

คนขับรถอธิบายว่า“ท่านประธานใหญ่ต้องการพบคุณ ครับ ซึ่งหมายถึงคุณปู่ของหัวหน้านัย”

คิดถึงโทรศัพท์1 เดือนก่อนหน้านี้ ในใจของฉันขัดแย้งร้อยแปดพันเก้า ฉันกลัวว่าตนนัยจะดูถูกฉันต่อหน้าปู่ของ เขา

แต่ว่า ไม่ไปก็ไม่ได้

ไม่มีทางเลือก ฉันทำได้แค่ตามเขาขึ้นรถไป

เขาพาฉันไปที่ห้างสรรพสินค้าดาวรุ่งก่อน และยัง มอบบัตรเครดิตซิลเวอร์การ์ดให้ฉัน เพื่อให้ฉันซื้อเสื้อผ้า ที่เหมาะสม

ถึงแม้ว่าฉันไม่อยากจะรับก็ตาม แต่ว่าห้างสรรพสินค้า ดาวรุ่งคือห้างระดับสูงของเมืองดรัล เกือบทุกยี่ห้อที่มีชื่อ เสียงระดับโลกล้วนหาซื้อได้ที่นี่

ดังนั้นราคาของเสื้อผ้าด้านใน ต่อให้ฉันรูดจนบัตรเต็ม วงเงิน ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถซื้อได้

และเหล่าบรรดาผู้หญิงที่มาซื้อของที่นี่ล้วนแต่เป็น คุณสุภาพสตรีคนดัง รวมถึงดาราด้วย

บนตัวฉันใส่ชุดทำงานที่แสนทรุดโทรม เมื่อเดินเข้าไป พนักงานแนะนำสินค้าทุกคนเหลือบมองฉันแว้บเดียว และไม่มีใครสนใจฉัน

ฉันเองก็ไม่ได้สนใจ เพราะโดยเนื้อแท้แล้วฉันไม่ใช่ คนที่สามารถจ่ายเงินซื้อของที่นี่ไหวอยู่แล้ว

ฉันเดินวนอยู่ในห้าง ท้ายที่สุดฉันหยุดอยู่ปากประตู ของร้านค้าแบรนด์เนมร้านหนึ่งตรงหัวมุม เพราะว่านอกจากร้านนี้แล้ว ยี่ห้ออื่นๆฉันเคยได้ยินมาหมดแล้ว

ดังนั้น ฉันคิดว่าเสื้อผ้าในร้านนี้ราคาน่าจะถูก

ฉันมองเห็นนางแบบสวมชุดเดรสสีเบจ การออกแบบ นั้นให้บรรยากาศเรียบง่าย

ยิ่งมองยิ่งพึงพอใจ อดใจไม่ไหวหยิบมาลองใส่ดู

สิ่งที่ทําให้ฉันประหลาดใจคือ พนักงานของร้านนี้มีทัศ คติที่ดีอย่างมาก หลังจากรู้ว่าฉันต้องการจะลองสวม ก็ หยิบชุดที่มีขนาดตามที่ฉันร้องขอมาให้อย่างรวดเร็ว และ เชิญฉันเข้าไปในห้องลอง

ฉันเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว ออกมายืนตรงหน้ากระจก

ต้องบอกว่า ชุดนี้เหมาะกับฉันจริงๆตามที่คาดไว้

ฉันตัดสินใจต้องการซื้อชุดนี้ จึงถามพนักงานของ ร้าน ราคาเท่าไหร่คะ?”

พนักงานตอบอย่างเคารพนอบน้อมว่า“สองแสนหนึ่ง หมื่นเหรียญค่ะ”

ตัวเลขนี้ ทำให้ฉันอดไม่ได้ที่สูดหายใจ

สองแสนหนึ่งหมื่น…

เดิมทีฉันคิดไว้ว่าเดรสชุดนี้น่าจะราคาไม่กี่หมื่น เหรียญ ราคานี้เกินกว่าที่ฉันวางแผนไปเยอะมาก ฉันกังวลว่าดนุนัยมาเห็นราคา จะคิดว่าฉันเป็นพวกวัตถุนิยม

ตอนที่ฉันเตรียมตัวเข้าไปเปลี่ยนชุด ก็มองเห็น จิณณาจากกระจก

ในมือของเธอมีกระเป๋า2ใบ พนักงานเห็นเธอ รีบขึ้นไป ทักทาย

ตอนที่ทักทายนั้น ยังหันกลับมามองฉัน และพูดกับ หล่อนว่า“คุณกับลูกค้าท่านั้นคล้ายกันมากค่ะ…

จิณณาถึงจะหันมาเห็นฉัน จ้องมองที่ชุดของฉันอีก ครั้ง แล้วพูดตักเตือนพนักงานด้วยใจที่กรุณาว่า “เสื้อผ้า ร้านพวกคุณราคาแพงขนาดนี้ ทำไมถึงให้ใครที่ไหนมา ลองก็ได้? ถ้าหล่อนทำเสื้อผ้าสกปรกขึ้นมา แม้แต่จ่าย ชดเชยยังจ่ายไม่ไหวแล้วจะทำอย่างไร?”

พนักงานมองมาที่ฉัน แววตามีความลำบากใจ

ฉันไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงพูดว่า”ฉันซื้อค่ะ”

ได้ยินฉันพูดว่าซื้อ สายตาของจิณณาเกิดความ ประหลาดใจ แต่ปากปิดสนิท ไม่พูดอะไร

ฉันหยิบบัตรเครดิตซิลเวอร์ออกมาจากกระเป๋าแล้วส่ง ให้กับพนักงาน จากนั้นเข้าไปในข้างในและเปลี่ยนเสื้อผ้า

เมื่อฉันออกมา จิณณายืนอยู่ด้านข้าง หัวเราะเยาะ เย้ยว่า”คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะมีเงินซื้อเสื้อได้จริงๆ
ฉันยื่นเสื้อผ้าให้กับพนักงานเพื่อนำไปห่อ พลางพูดกับ จิณณาว่า”ใช่แล้วล่ะ วันนี้ฉันจะต้องไปเยี่ยมคุณปู่บ้านสุ ทรรศน์รังสสี ดังนั้นสามีของฉันถึงให้ฉันมาซื้อเสื้อผ้ายัง ไงล่ะ”

พูดจบ ฉันก็ยิ้มหวานให้เธออีกครั้ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ