บทที่ 17 ระวังตัวไว้ให้ดี
ไม่เปิดดูยังพอว่า ดูจบโทสะผมปะทุขึ้นเรื่อยๆปานต้องการคิด บัญชีกับนายหยางกวางเดี๋ยวนี้เลย
แน่นอนอยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ผมจะไปเคลียร์กับนายหยาง กวาง เมืด กลิ่นปานนี้ อีกอย่างผมใจร้อนไม่ได้เด็ดขาด
เหมือนที่ผมไปหาเฉินเพื่อให้เสี่ยวเฟยฟื้นกลับเข้าวงการอีก ครั้ง ทุกสิ่งต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ ไปทีละขั้นตอน
หยางกวาง ระวังตัวไว้ให้ดี
วันนี้วันเสาร์ ไม่ต้องทำงาน ผมจึงนอนหลับยาวน11 โมง เหมือนผมจำได้รางๆเมื่อเช้านี้เสี่ยวเฟยปลุกผมตื่น กระซิบข้างหู ผมกล่าวบอกเธอไปกองละคร
ภายในกองละคร ตอนนี้ผมรู้สึกเสียใจเล็กน้อยอุตส่าห์ วางแผนช่วยให้เธอได้รับบทนางเอก
เมื่อนึกถึงบทสนทนาของเสี่ยวเฟยกับนายหยางกวางไฟในใจ ผมพลอยปะทุขึ้นเป็นละลอกราวคลื่นโหม นี่เป็นสาเหตุหลักที่ผม ไม่อยากตื่นนอนในเช้าวันนี้ อีกสาเหตุผมเหนื่อยล้าจนไม่อยาก ขยับเลยจริงๆ
เรื่องถึงขนาดนี้ ผมทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ยังไงจะให้เสี่ยวเฟยอ อกจากกองละครเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ออกจากกองละคร? ผมนึกขึ้นได้กะทันหัน แม้ให้เสี่ยวเฟยอ อกจากกองไม่ได้ อย่างนั้นผมคงต้องหาทางทำให้หยางกวางเด้ง ออกจากกอง
อันดับแรก ต้องสืบประวัติของหยางกวางให้รู้แน่ชัดก่อน
ผมเปิดอินเทอร์เน็ตสืบค้นประวัตินายหยางกวาง เป็นอย่างเ ฉันบอกไม่ผิดเพี้ยน นายหยางกวางคนนี้เป็นไอดอลดาราที่มีชื่อ เสียงโด่งดัง ข่าวเชิงชู้สาวมากมายก่อนไปทั่วเน็ต มิน่าเยฉันถึง ได้เตือนผมให้เสี่ยวเฟยระวังนายคนนี้เอาไว้
ผมใช้เวลาค่อนวันกับการคิดแผนการหาทางเตะนายหยาง กวางออกจากกองละคร โดยทั่วไปผมคิดทบทวนอย่างรอบคอบ
ทุกแผนการที่เป็นไปได้ ยังไงซะนายหยางกวางเป็นถึงไอดอล ที่มีชื่อเสียงดังระเบิด ไม่ใช่ตัวละครไก่กาเล็กๆอย่างผมสามารถ ต่อกรด้วยได้ หากแต่สิ่งไม่คาดคิด วิกฤติตอนนี้ไม่ใช่หยางกวาง
ในคืนวันนี้เอง หลังเสี่ยวเฟยกลับถึงบ้านประโยคแรกที่เธอ เอ่ยถามผม “ที่รัก ฉันมีเรื่องอยากถามคุณ
ในตอนนั้นผมไม่นึกเอะใจใดๆ พลางตอบรับกลับ “ที่รัก มี เรื่องอะไรหรือ
“คุณ ใช้วิธีไหนถึงช่วยให้ฉันถูกรับเลือกเป็นนักแสดงนำได้” คําถามของเสี่ยวเฟยทำให้ผมนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ถามผมตรงๆแบบนี้ เสี่ยวเฟยต้องรู้อะไรมาแน่
ผมลุกขึ้นเดินไปยังเสี่ยวเฟยโอบเธอไว้ในอ้อมแขน เพื่อให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง มือทั้งสองข้างของผมค่อยๆวางต่ำลงสอด เข้าไปใต้กระโปรงของเสี่ยวเฟยอย่างซุกซน พลางยิ้มอย่างเจ้า เลห์กระซิบข้างหูเธออย่างแผ่วเบา “ผมบอกคุณแล้วนี่ เป็นความ ช่วยเหลือของหัวหน้าในกองผม”
เสี่ยวเฟยเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยดึงมือผมออก พลางเอ่ยถาม ด้วยน้ำเสียงสับสน “แล้วทำไมเมื่อวันผู้กำกับถึงได้เรียกฉัน เข้าไปลองกล้องโดยตรง? ก่อนหน้านี้คุณไม่เคยบอกฉันเรื่องลอง กล้อง”
ได้ยินแบบนั้น ผมรนเล็กน้อย แต่ยังคงเก็บอาการเอ่ยด้วยรอย ยิ้มพราวเสน่ห์เช่นเดิม “ผมผิดเองที่รัก หลายวันมานี้ผมต้องดูแล ลูกค้า เพราะงั้น…..”
ถึงตรงนี้ ผมตั้งใจหยุดชะงักลง พลางขยับแขนสอดเข้าไปใต้ กระโปรงของเสี่ยวเฟยดั้งเดิม เวลาคับขันเช่นนี้จำเป็นต้องเบี่ยง เบนความสนใจของเธอ
“ที่รัก” เหมือนว่าเสี่ยวเฟยเริ่มมีน้ำโห เธอหันมาพร้อมสีหน้า คร่ำเครียดพลางเอ่ย “ฉันกำลังคุยเรื่องซีเรียสกับคุณ คุณช่วย จริงจังหน่อยจะได้ไหม?”
“ผะ….. ผมจริงจังอยู่นี่ไง” ผมยังคงยิ้มด้วยความเจ้าเลห์เช่น เดิม ยังไงต้องไม่ให้เสี่ยวเฟยดูออกว่าผมกำลังคนเป็นอันขาด
“เหมือนคุณร้อนตัวนะ” เสี่ยวเฟย กลับเอ่ยประโยคนี้ออกมา
“ผมดูร้อนตัวหรือ? เสี่ยวเฟย ผม…..
“คุณร้อนตัวเมื่อไหร่เป็นแบบนี้ตลอดนั่นแหละ เหอะ” เสี่ยว เฟยทิ้งท้ายประโยคจากนั้นผลักผมออกเดินกลับเข้าห้องพร้อม ใส่กลอนประตู
ได้ยินเสียงล็อคกลอนประตูดังตามหลัง ผมนิ่งอึ้งราวถูกแช่ แข็ง
เสี่ยวเฟยไปรู้อะไรมากันนะ?
ตกดึก ผมเข้าครัวลงมือทำอาหารเย็นกับมือ แต่เสี่ยวเฟยไม่ ยอมออกจากห้อง เธอไม่สนใจผมเลย
ผมรู้สึกเสี่ยวเฟยต้องรู้แล้วแน่ๆ ผมวางแผนทำเรื่องไม่ดีเธอถึง ได้รับเลือกเป็นนางเอกละคร
ในเวลานี้ ผมนึกขึ้นได้โดยอัตโนมัติ ต้องหาใครสักคนเป็น พยานให้กับผม
ว่าแต่ ใครกันนะ?
ผมยังคิดไม่ตก เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เยฉันนี่เอง
ผมเงยหน้ามองดูประตูที่ล็อคอย่างแน่นหนา ผมลังเลชั่วครู่ ก่อนหันหลังเดินออกไปรับโทรศัพท์ด้านนอก
“ตาบ้า อยู่ไหนกัน?” น้ำเสียงของเย่นนุ่มนวลเย้ายวนใจยิ่ง นัก ในเวลาคับขันเช่นนี้เธอให้ความรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก
บางทีอาจเพราะได้รับความสะเทือนจิตใจจากเสี่ยวเฟย ผมถึง ได้มีความรู้สึกเช่นนี้ ถึงยังไง ในเวลาแบบนี้ผู้ชายมักบอบบางเป็นพิเศษ โดยจะเพราะผู้ชายที่รักเดียวใจเดียวอย่างผม
“พี่สาว ผมอยู่บ้าน” ผมพยายามทำน้ำเสียง ให้เป็นปกติ เพื่อ ไม่ให้เย่ฉันจับได้
“อยู่บ้านไม่เบื่อหรือไง? ออกมาดื่มเป็นเพื่อนพี่หน่อยเป็นไง? เยฉิน เอ่ยถามต่อ
ผมนึกสักครู่ ก่อนหันหลังกวาดสายตามองประตูที่ล็อคอย่าง หนาแน่น “อยู่ไหน?”
“ผับHeartbeat พี่จะรอนะ
ผับHeartbeat เป็นสถานที่แรกที่ผมได้พบกับเธอ ใช่แล้ว เธอ ปรากฏตัวที่ผับนี้ทุกวันเสาร์ 20นาทีให้หลัง ผมเดินเข้าผับ กวาดสายตามองหาร่างเดิน
ไม่นานนัก ผมเห็นร่างของเยฉันนั่งอยู่ที่โต๊ะติดผนังด้านหลัง แสง
ไฟจึงค่อนข้างมืดสลัว
ภาพของเธอชัดเจนขึ้นหลังเดินเข้าไปใกล้ เยฉันไม่เหมือน เมื่อครั้งก่อนที่เธอแต่งกายด้วยชุดสูทมิดชิด เธอแต่งกายด้วย กระโปรงสั้นถุงน่องรองเท้าส้นสูง ท่อนบนสวมเสื้อเปิดไหล่กึ่ง โปร่งใสเข้ากันได้ดี ส่งให้เธอดูเย้ายวนมีเสน่ห์ชวนหลงใหล กระตุ้นฮอร์โมนเพศชายทุกคนให้พลุ่งพล่านได้อยู่หมัด
ขณะนั้นเอง เย่ฉิน สังเกตเห็นผม เธอฉีกยิ้มเล็กน้อยก่อนเอ่ย “ตาบ้า ทางนี้”
ผมเดินตรงหย่อนก้นลงบนที่นั่งตรงข้ามเย่ฉิน กวาดตามองเครื่องดีมสีหม่น ยกขึ้นกระดกแก้วแล้วแก้วเล่า
“อืม?” เย่ฉันลุกขึ้นเดินมานั่งข้างผมด้วยความฉงน “ตาบ้า เป็นอะไร อารมณ์ไม่ดีหรอ?” ผมอารมณ์ไม่ดีขีดสุด แน่นอนบอกความจริงกับเธอไม่ได้อยู่
แล้ว
“เรื่องไร้สาระ ช่างมันเถอะ” ผมเอ่ยพร้อมยกแก้วเหล้าขึ้น กระดกต่อ ครั้งนี้ผมกรอกเหล้าทั้งหมดที่เหลือใส่ปากจนหมด ผมทําเพื่อเสี่ยวเฟยขนาดนี้ แต่เสี่ยวเฟยกลับสงสัยในตัวผม
เหอะ
เฉินเอื้อมมือเทเหล้าตรงหน้า พร้อมรินให้กับผมเต็มแก้ว “ตาบ้าเป็นอะไรกันแน่ เล่าให้ฟังได้รึเปล่า?”
“ไม่มีอะไรหลอก” ผมยกแก้วขึ้นกระทบชนกับแก้วของเธอ
ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกจากปากผมอีก
เยฉินจับจ้องมองผมอยู่อย่างนั้นสักพัก ก่อนยกแก้วขึ้น เท เหล้าเข้าปากด้วยสีหน้าครุ่นคิด
ผมเข้าใจดี หากผมยังเป็นแบบนี้ต่อไป เฉินต้องสงสัยในตัว ผมเป็นแน่
ฉะนั้น ผมจึงทำตัวราวหนุ่มคาสโนว่า ยื่นแขนโอบเอวเธอไว้ อุ้มยกเธอขึ้น จากนั้นเข้าหยอกเธอด้วยวิธีที่เธอชอบ
ตรงนี้เป็นมุมอับ แสงไฟค่อนข้างมืด โดยปกติไม่มีคนพลุกพล่านผ่านมาแถวนี้ เฉินเอื้อมมือหยุดการกระทําของผม
หากแต่ผมไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ประกบริมฝีปากลงประทับบน ริมฝีปากสีแดงชมสวยสดนุ่มนวลของเธอ บางทีอาจเป็นเพราะ ฤทธิ์แอลกอฮอล์ หรือบางทีอาจเป็นเพราะใจจากเสี่ยวเฟย ตอนนี้ผมไม่ต่างอะไรกับไอ้โรคจิตที่ชอบใช้ท่อนล่างในการแก้ ปัญหา
ไม่นานนัก ผมทำโทษเฉินจนเธอครางกระเส่าต่อเนื่องด้วย ความทรมานไม่เป็นจังหวะ เฉินที่ถูกกระตุ้นอย่างรุนแรงไม่ สามารถอดกลั้นความต้องการได้อีกต่อไป น้ำเสียงเซ็กซี่แตก ซ่านเอ่ยข้างหูผม “ตาบ้า ที่นี่มีห้องว่างนะ”
“อยู่ไหน?” ผมเอ่ยถาม
เฉันยกยิ้มเล็กน้อย พลางผลักผมออก จัดกระโปรงที่ยับยู่ให้ เข้าที่ มองผมด้วยสายตายั่วยวน ตะโกนเอ่ยเรียกพนักงาน “น้อง มานี่หน่อยสิ”
สักครู่ พนักงานเดินตรงเข้ามา โน้มตัวลงด้วยความสุภาพเอ่ย “ไม่ทราบว่ามีอะไรให้รับใช้หรือคะ?”
พนักงานเป็นหญิงสาว อายุราว17-18ปี ยูนิฟอร์มพนักงานชุด เกาะอกกระโปรงสั้น ผมจับจ้องไปยังเธอโดยอัตโนมัติ
บางที เหล่าชายหนุ่มน้อยใหญ่ทั้งหลายที่ถูกทำร้ายจิตใจจาก หญิงสาวอันเป็นที่รักมักเป็นแบบนี้กันทั้งนั้น มักลืมตัวนอกลู่นอก ทางบ้าง
เย่นเปิดกระเป๋าหยิบบัตรสมาชิกสีทองหรูอร่ามตายื่นให้กับ พนักงาน”เปิดห้องให้หน่อยค่ะ ขอบคุณนะคะ
ผมกวาดสายตามองบัตรสมาชิกสีทอง ที่แท้เธอเป็นลูกค้าที่นี่
มานานแล้ว คงมาเล่นเกมส์หวาดเสียวที่นี่กับผู้ชายบ่อย แต่คงเป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้ว ไม่อย่างนั้น ในครั้งที่เราพบกัน
ครั้งแรกเธอคงไม่ดูหิวกระหายขนาดนั้น
เสียง เพิง เย่ฉันปิดประตูลง
“ตาบ้า ทนไม่ไหวแล้วใช่ไหม?” ราวกับต้องมนต์ชั่วร้ายบาง อย่างเกิดไฟฟ้าสถิตช็อตไปทั่วร่าง
ผมเอื้อมมือหยิบรีโมทบนโซฟาขึ้นจิ้มนิ้วลงยังปุ่มเปิดเครื่อง เล่นเสียง เสียงเพลงดังขึ้น เป็นเพลงของเซ่น ชื่อเพลง อีก คืน)
เฉันเดินตรงเข้ามา โอบผมไว้จากด้านหลัง ประทับริมฝีปาก ขบลงที่ใบหูผมอย่างแผ่วเบา เหมือนเธอจะรับรู้บริเวณนั้นเป็นจุด ไวต่อความรู้สึกของผม ความเสียวซ่านแล่นไปทั่วร่างกาย
“ตาบ้า สายตาที่เธอมองพนักงานสาวคนนั้นผิดปกตินะ” เย่ ฉินหึงอยู่ ผมรับรู้ได้
“ผิดปกติแล้วยังไง ผมทรมานแค่พี่สาวคนเดียวเท่านั้น ผม เอ่ยเช่นนั้น การแสดงของผมเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
ผมกระชากเสื้อผ้าฉีกออกกระดุมที่ปกเสื้อกระเด็นตกหล่นลง บนโซฟา คืนนี้ ชะตาลิขิตให้ผมต้องขยันทำศึกอีกครั้ง
เยฉินชายตามองกระดุมเสื้อที่กระเด็นหล่นลง เธอค่อยๆขยับ มุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้มหวานราวดอกไม้แรกแย้มพลอยทำให้ ใจสั่นหวั่นไหว
รอยยิ้มของเธอ ชั่วครู่ที่หัวใจอันบอบช้ำของผมละลาย
ถึงแม้เยฉันไม่ใช่เสี่ยวเฟย แต่ตอนนี้ เฉินยอมมอบสิ่งล้ำค่า ที่เธอมีช่วยเยียวยาให้ความอ่อนโยนอย่างที่ผมต้องการ
หญิงสาวต้องการใครสักคนที่รักเธอ ส่วนชายหนุ่มต้องการ ความอ่อนโยนจากหญิงสาว นี่เป็นพื้นฐานที่ธรรมชาติสร้างขึ้น
“ตาบ้า” เฉินพ่นลมหายใจร้อนระอุข้างหูผม เปร่งน้ำเสียง แตกซ่านจากส่วนที่ลึกที่สุด “ทำโทษพี่เร็วเข้า คืนนี้พี่เป็นของเธอ ไม่… ไม่เพียงแค่คืนนี้ ต่อแต่นี้พี่เป็นของเธอ คนเดียวตลอดไป
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ