เสือกองถ่าย 18+

บทที่ 20 ต้องการกลืนกินกันเห็นๆ



บทที่ 20 ต้องการกลืนกินกันเห็นๆ

ผมนิ่งแข็งกับคำถามของเธอ คิดไม่ตกผมจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์

ของตัวเองยังไงดี ผมครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนเอ่ยเสียงแผ่วเบาข้างหูเธอ “คุณกลับ ไปกับผม ผมจะพิสูจน์ให้คุณดูบนเตียง”

เสี่ยวเฟยหันมาถลึงตาใส่ผม ด้วยใบหน้าตึงตั้งท่าทางฟืดฟัด เอ่ย “คุณปล่อยฉันก่อน

แม้เสี่ยวเฟยโมโหอยู่ แต่ท่าทางเกรี้ยวกราดของเสี่ยวเฟียนั้น ดูน่ารักเสมอเลย แก้มตุ๊บป่องแดงละเลื่อรับกับริมฝีปากสี แดงสดได้รูปเป็นอย่างดี ลมหายใจถี่รัวส่งผลให้อูมอกเนียนใส ราวอัญมณีหยกขาวกระพือขึ้นลง เข้ากันได้ดีกับดวงตาคู่โตใสมี ชีวิตชีวา บรรยากาศรอบตัวเธอปกคลุมไปด้วยเสน่ห์ที่ชายหนุ่ม น้อยใหญ่เห็นแล้วเป็นต้องตกหลุมรักเอ็นดู

ไม่เพียงแต่ไม่คลายอ้อมกอดออกจากเสี่ยวเฟย แถมยังรัดตัว เธอแน่นยิ่งขึ้นไปอีก ผมแนบอยู่ข้างหูแดงละเลื่อพรางตะขบ แผ่วๆบริเวณใบหูของเธอ เอ่ยด้วยลมหายใจร้อนผ่าว “ที่รัก ให้ โอกาสผมหน่อยได้ไหม เห็นแก่ที่ผมอวยเชียร์คุณมากมายกับ หัวหน้าผมให้คุณผ่านการคัดเลือกเถอะนะ”

อันที่จริงสาเหตุที่ผมพูดเรื่องนี้เพื่อทดสอบเสี่ยวเฟยเข้าใจ ผิดๆต่อผมตรงไหนกันแน่
เป็นไปตามคาด เสี่ยวเฟยตอบกลับทันที “คุณแน่ใจหรอว่า คุณได้รับความช่วยเหลือจากหัวหน้า

“ก็ต้องความช่วยเหลือจากหัวหน้าอยู่แล้ว ไม่งั้นผมจะขอให้

ใครช่วยได้อีกละ” ผมทดสอบเธอต่อ

“หากเธอหา…..หาผู้ผลิตคนนั้นละ” ท้ายที่สุดเสียวเฟยก็เอ่ย ปากพูดสิ่งที่คาอยู่ในใจออกมา

“อะไรนะ? ผมแสร้งตกใจ ไล่บี้เธอต่อ “เสี่ยวเฟย คุณพูดอะไร อยู่? ผู้ผลิตคนไหนกัน?”

ขณะเดียวกัน ผมคลายอ้อมกอดปล่อยเสี่ยวเฟยเป็นอิสระ แบบนี้คนตรงหน้าถึงสังเกตเห็นกิริยาความตระหนกของผมมาก

เป็นไปตามคาด นัยน์ตาเสี่ยวเฟยเผยให้เห็นความตกตะลึง ข้อสงสัยในใจเธอเริ่มสั่นคลอน

ส่วนผมเอ่ยถามไล่ต้อนอย่างผู้กุมชัยชนะ “เสี่ยวเฟยคุณบอก ผมมา เกิดอะไรขึ้นกันแน่ มีใครแต่งเรื่องใส่ร้ายผมใช่ไหม? ผู้ชายคนเมื่อกี้ป่าว? เป็นผู้ชายคนนั้นแน่ๆ ดูยังไงมันก็…..

“ที่รัก” คนถูกจี้จุดอ่อนโผเข้าโอบกอดผมทันที เอ่ยด้วยความ กังวล “คุณห้ามเดามั่ว ไม่…ไม่มีใครใส่ร้ายอะไรคุณทั้งนั้น

ผมแสร้งตระหนกต่อพลางเอ่ย “ไม่มีคนใส่ร้ายผม แล้วทำไม คุณถึงสงสัยในตัวผม?”

“ฉัน…….” เสี่ยวเฟยลังเลไม่รู้จะแก้ตัวต่อผมยังไง
เป็นไปตามคาด เสี่ยวเฟยตอบกลับทันที “คุณแน่ใจหรอว่า คุณได้รับความช่วยเหลือจากหัวหน้า

“ก็ต้องความช่วยเหลือจากหัวหน้าอยู่แล้ว ไม่งั้นผมจะขอให้

ใครช่วยได้อีกละ” ผมทดสอบเธอต่อ

“หากเธอหา…..หาผู้ผลิตคนนั้นละ” ท้ายที่สุดเสียวเฟยก็เอ่ย ปากพูดสิ่งที่คาอยู่ในใจออกมา

“อะไรนะ? ผมแสร้งตกใจ ไล่บี้เธอต่อ “เสี่ยวเฟย คุณพูดอะไร อยู่? ผู้ผลิตคนไหนกัน?”

ขณะเดียวกัน ผมคลายอ้อมกอดปล่อยเสี่ยวเฟยเป็นอิสระ แบบนี้คนตรงหน้าถึงสังเกตเห็นกิริยาความตระหนกของผมมาก

เป็นไปตามคาด นัยน์ตาเสี่ยวเฟยเผยให้เห็นความตกตะลึง ข้อสงสัยในใจเธอเริ่มสั่นคลอน

ส่วนผมเอ่ยถามไล่ต้อนอย่างผู้กุมชัยชนะ “เสี่ยวเฟยคุณบอก ผมมา เกิดอะไรขึ้นกันแน่ มีใครแต่งเรื่องใส่ร้ายผมใช่ไหม? ผู้ชายคนเมื่อกี้ป่าว? เป็นผู้ชายคนนั้นแน่ๆ ดูยังไงมันก็…..

“ที่รัก” คนถูกจี้จุดอ่อนโผเข้าโอบกอดผมทันที เอ่ยด้วยความ กังวล “คุณห้ามเดามั่ว ไม่…ไม่มีใครใส่ร้ายอะไรคุณทั้งนั้น

ผมแสร้งตระหนกต่อพลางเอ่ย “ไม่มีคนใส่ร้ายผม แล้วทำไม คุณถึงสงสัยในตัวผม?”

“ฉัน…….” เสี่ยวเฟยลังเลไม่รู้จะแก้ตัวต่อผมยังไงทันใดนั้น ผมแสร้งโกรธถึงปังสีหน้าดำทะมึนหันขวับไปอีก ทาง การแสดงของผมนี้ไร้เทียมทานจริงๆเลย

เป็นไปตามคาด เสี่ยวเฟยเผยอาการหวาดหวั่น เธอเอื้อมแขน โอบผมจากทางด้านหลัง ด้วยความรู้สึกผิด “ที่รัก ฉัน ฉันผิดแล้ว ได้ไหม?”

เวลาพอสมควรแล้ว ผมแสร้งต่อคงเกินไปนัก ไม่อย่างนั้น

ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรกเป็นแน่

“งั้นคุณกลับไปกับผม” ผมลดสีหน้าคร่ำเครียดลงจ้องไปยัง เสี่ยวเฟย

เสี่ยวเฟยลังเล สีหน้าหนักใจ ” แต่ แต่วันนี้ฉันยังมีถ่ายอีกฉาก นึง”

เมื่อฟังเสี่ยวเฟยพูดขนาดนี้แล้ว ดึงแขนเสี่ยวเฟยเข้ามากุม

ผ่อนคลายอารมณ์กลับเป็นปกติเอ่ย

“งั้นคุณทำงานเสร็จเมื่อไหร่รีบกลับเลย ผมจะรอ

“คุณจะรอฉัน แต่ว่าที่รัก นี่เพิ่งเที่ยงเองนะ ฉันเกรงว่าต้องตอน ค่ำๆนั้นกว่าจะเสร็จงาน” ประโยคเสี่ยวเฟยแสดงออกชัดเจนไม่ ต้องการให้ผมรอเธอนานเกินไป เธอกำลังเป็นห่วงผมอยู่

หัวใจพองโตด้วยความปิติผมโพล่งออกไปโดยไม่ผ่านการ ไตร่ตรองใดๆ “ไม่เป็นไร ที่รักรอได้

เสี่ยวเฟยซาบซึ้งจับใจ เธอประทับรอยจูบบนแก้มผมหนึ่งที่ “ขอบคุณนะที่รัก”
จากนั้นเสี่ยวเฟยสาวเท้าฉับๆเข้ากองละคร ส่วนผมหาร้าน กาแฟใกล้ๆแถวนั้นนั่งรอเธอ

อย่างที่เสี่ยวเฟยว่านั่นแหละ นี่เพิ่งเที่ยง อย่างน้อยผมต้องรอ สัก4ถึง5ชั่วโมงกว่าที่เสี่ยวเฟยเลิกงาน แต่ผมมีเหตุผลในการรอ เสี่ยวเฟย

ก่อนอื่น ผมไม่อยากให้เสี่ยวเฟยเลิกงานถูกนายหยางกวาง

เกาะแกะ

ยังไงผมก็ต้องการหาที่ดีๆเงียบๆนั่งไตร่ตรองอะไรบางอย่าง จึงรอเสี่ยวเฟยซะเลย

และเรื่องแรกที่ผมต้องไตร่ตรองคือ ทำยังไงถึงจะขจัดข้อสงสัย ของเสี่ยวเฟยไปได้ถาวร

จากที่ผมลองเชิงเมื่อครู่ ผมรู้แล้วเสี่ยวเฟยต้องได้ยินอะไรมา แน่ถึงได้สงสัยในตัวผม หากผมยังไม่สามารถหาพยานพิสูจน์ว่า ผมขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าเธอถึงได้บทนางเอกแล้วละก็ แม้เสี่ยวเฟยไม่พูด ในใจต้องมีเมล็ดพันธุ์ก่อตัวอีกครั้งเป็นแน่

ยังมีอีกเรื่อง คือนายหยางกว้าง

จากการกระทำเมื่อครู่ของไอ้หยางกวางกระทั่งปฏิกิริยาแตะ อังเอื้อมแขนลากเสี่ยวเฟยเข้าไปกอด ผมเดาได้ในทันทีหยาง กวางต้องการอะไรจากเสี่ยวเฟย

ส่วนผมขึ้นชื่อเป็นผู้ชายของเสี่ยวเฟยมีหน้าที่สกัดกั้นนาย หยางกวางออกจากชีวิตเธอ
วิธีที่ดีที่สุดคือ เตะนายหยางกว้างออกจากกองละคร

แน่นอนนี่เป็นเรื่องยาก ไม่ว่ายังไงต้องลองถึงจะรู้ ไม่อย่างนั้น ต้องรอให้นายหยางกวางหลอกล่อเสี่ยวเฟยอันเป็นที่รักของผม ขึ้นเตียงต่อหน้าต่อตาหรือยังไงกัน

ความรู้สึกผู้หญิงของตัวเองถูกคนอื่นหลอกล่อขึ้นเตียง ผมว่า

ความรู้สึกนี้ผู้ชายทุกคนต้องรับรู้รสชาตินั้นได้ดี

ฉะนั้น ผมต้องป้องกันดีกว่าแก้ไข

ขณะที่ผมกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

เย่จินส่งข้อความมา

“ตาบ้า ทําอะไรอยู่เหมือนว่าเฉันต้องการผมเป็นที่เพิ่งพา หวังว่าผมคิดมากไปเอง

“ป่าว” ผมตอบกลับด้วยข้อความผิดแผกแตกต่างไปจากเดิม

เย่นตอบกลับด้วยเครื่องหมายคำถาม ผมระเบิดเสียง หัวเราะ ไม่สนใจเธอ

ผ่านไปสามวินาที เฉินส่งข้อความเสริม “ตาบ้า เธอใจร้าย เกินไปรึป่าว เชอะ!”

“ไม่ร้ายหรือจะกินสาวสวยอย่างพี่ได้?” ผมกดตอบกลับไป ทันที ต้องมีตัวตนเป็นมารร้ายอันทรงพลังในใจเฉินถึงสยบดับ

ไฟความต้องการของเธอได้ จากนั้น ผมถึงมีโอกาสเหมาะสมขอ ให้เธอช่วยจัดการเรื่องที่ใหญ่กว่านี้
ก่อนหน้าหลอกใช้เฉินเพื่อให้เสี่ยวเฟยได้รับบทนางเอก และ ตอนนี้ ผมหลอกใช้เฉินจัดการกับนายหยางกวาง

ยังไงซะนายหยางกวางมีศักเป็นถึงไอดอลนักแสดงหนุ่มชื่อดัง

มีเพียงแค่เฉินผู้ผลิตสามารถต่อกรกับเขาได้ “ตาบ้ารอดูแล้วกัน คอยดูพี่กลับไปเมื่อไหร่จะสับซอยให้เละ เลย อย่าบ่นเหนื่อยแล้วกัน” เฉินเอ่ยพร้อมสติ๊กเกอร์รูปหน้าเจ้า

เล่ห์

เห็นประโยคนี้ของเธอผมฉีกยิ้มโดยไม่รู้ตัว อันที่จริงตอนนี้ก็ เหนื่อยมากแล้ว แต่ทําเพื่อเสี่ยวเฟย ผมต้องทนเหนื่อยต่อไป

“พี่ แล้วคืนนี้หละ? ปลดปล่อยยังไง?” ผมทำตัวร้ายขึ้นเรื่อยๆ ต่อหน้าเฉิน อนาคตขอให้เธอช่วยยิ่งง่ายขึ้นเท่านั้น

จุดนี้ผมมีความมั่นใจสูงลิ่วเลยหละ

ผ่านไปหลายนาที เฉินส่งรูปมารูปหนึ่ง

ในรูปเยฉันถอดชุดสูทออก ครึ่งหนึ่งของเสื้อเชิ้ตกระดุมถูก ปลดออก ดึงลงเผยให้เห็นช่วงไหล่ กับใบหน้ายยยวนของเฉิน ที่ชายหนุ่มได้เห็นต่างต้องเกิดอาการใจสั่นหวั่นไหวแถมยัง หน้าอกกลมโตราวลูกบอลที่ห่อหุ้มด้วยผ้าลูกไม้สีดำนั่น นี่มัน ภาพสยิวเรียกทําเคาชัดๆ

ท่าทางเฉันไร้การป้องกันใดๆกับผมแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ ส่งรูปภาพเช่นนี้ให้ผม ยังไงซะ ผมสามารถใช้ภาพนี้เธอได้เลย แต่ผมไม่ทําเช่นนั้นหลอก ผมหลี่เจิ้งต่อให้ไม่ดียังไง ก็ไม่มีวันใช้วิธีเลวทรามแบบนี้เป็นอันขาด

“ตาบ้า แบบนี้พอไหม?” เย่นตอบกลับข้อความ ผมครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนได้คืบเอาสอกตอบ “ยังไม่พอ “ยังไม่พอ? งั้นเธอยังอยากได้อะไรอีก?” เฉินตอบกลับทันที

“ยังอยากได้พี่” ผมตั้งใจกดส่งข้อความหลังผ่านไป30วินาที ต้องทำให้เธอเกิดความอดใจรอ เช่นนี้ถึงน่าตื่นเต้นสำหรับเธอ

เย่นตอบกลับด้วยเว้นวรรคจุดมหัพภาคแสดงความไร้คำ บรรยาย คงรู้สึกหวาดเสียวอะไรบางอย่างขึ้นมา ผมไม่ทันตอบ ข้อความเธอกลับ เธอส่งกลับอีกประโยค “ตาบ้า เลิกเล่นได้แล้ว อย่างน้อยต้องสามวันให้หลังกว่าพี่จะกลับไป

สามวัน? ผมยังคิดแผนจัดการเตะนายหยางกว้างออกจาก กอง ดูแล้ว อย่างน้อยต้องรอถึงสามวันด้วยกัน

ผมคงคิดมากไปเอง เร่งด่วนตอนนี้ต้องจัดนายหยางกวางให้ ได้ซะก่อน

คืนนี้เอง ผมลงมือทําอาหารอร่อยเต็มโต๊ะให้เสี่ยวเฟยกับมือ ฉลองที่เธอได้รับคัดเลือกเป็นนางเอก แต่ว่า……

“ที่รัก ฉันกินไม่ลง”เสี่ยวเฟยกล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรงพรางลุก เดินกลับเข้าห้องนอนไป คนกำลังคืบอาหารให้กับเสี่ยวเฟยอ ย่างผมค้างกลางอากาศสามวินาที ผมรู้สึกตัวได้สติ ท้ายที่สุด เสี่ยวเฟยยังสงสัย เธอได้รับคัดเลือกเป็นนางเอกเรื่องนี้ต้องมี เบื้องลึกเบื้องหลัก
ยิ่งเสี่ยวเฟยเป็นแบบนี้มากเท่าไหร่แสดงว่าเธอรักผมมาก เท่านั้น เพราะเหตุนี้ ผมต้องรีบหาพยานปลอมพิสูจน์ความ บริสุทธิ์ของตัวเองอย่างเร่งด่วน

เพราะงั้นผมครุ่นคิดไม่ตกทั้งคืนอีกคืน เผลอหลับไปเมื่อฟ้า เริ่มรุ่งสาง

เช้าวันที่สองเป็นวันจันทร์ ผมตื่นแต่เช้าเพราะเสียงนาฬิกา

ปลุก ตื่นมาพบว่า เสี่ยวเฟยออกจากบ้านไปอีกแล้ว แต่ก่อนเสี่ยวเฟยออกจากบ้านตอนเช้าต้องปลุกผมตื่นจูบลา

ทุกครั้ง แต่ตอนนี้ โถ่

ไร้อารมณ์ทานอาหาร ผมคว้าเสื้อผ้าชุดใกล้มือที่สุดพลันสวม เสร็จสรรพ เข้าตำแหน่งงาน

มาถึงที่ทำงานผมนั่งนิ่งงันอย่างร่างไร้วิญญาณตลอดวัน คิด ไม่ตกทำอย่างไรดีเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองกับเสี่ยว เฟย ท้ายที่สุดกลับไม่ตกตะกอนฉะนั้นจึงใดๆ กระทั่ง

เวลาหยุดพักเที่ยงวัน ผู้ช่วยฝีมือดีเบอร์สองเฉินหลานเดินเข้า

มา

เฉินหลานยังคงเหมือนแต่ก่อนเก่า ท่าทางไร้อารมณ์เช่นเดิม หากแต่เธอมีอาการหลบหลีกเล็กน้อยเมื่อกวาดตามองมายังผม ค่อนข้างเย็นชา

เธอเป็นถึงบุคคลฝีมือดีเบอร์สองที่ขาดไปไม่ได้เลย อยู่บนแท่นบัลลังก์อันสูงส่ง ผมเคยชินแล้วหละ

เพียงแต่ ประโยคแรกที่หลุดออกจากปากเฉินหลานทำเอา หัวใจผมหยุดเต้น “เสี่ยวหลี่ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เธอไปเดทกับ ผู้ผลิตคนนั้นที่ผับบาร์หรือ?”

หัวใจผมตกไปอยู่ตาตุ่มกับคำถามของเธอ เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว เหมือนว่าผมเห็นเฉินหลานจริงๆนั่นแหละ ตอนนั้นเพียงแค่ สายตาวาดผ่าน ผมคิดว่าตัวเองตาฝาดลืมเรื่องนี้ไปสนิท แต่ ตอนนี้ดูเหมือนว่า……


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ