Beautiful leader 18+

บทที่21 ดีสุดๆไปเลย



บทที่21 ดีสุดๆไปเลย

เมื่อมาถึงประตูโรงงานแล้วลงจากรถ เป็นเหม่ยจึงบิดขี้เกียจแล้ว พูดขึ้น “ฉันเผลอหลับไปซะงั้น…….. ขอบคุณที่นำทางนะ เพื่อที่ แสดงความขอบคุณ ฉันขอเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทน

“ไม่ต้องหรอกมั้ง”

“คุณมีนักเหรอ”เธอเขยิบหน้าใกล้เข้ามา

“ไม่มี”

“ไปสิ น่าจะอยู่ที่นั่นล่ะมั้ง”เธอไปที่ร้านอาหารร้านหนึ่งที่อยู่ ภายในบริเวณโรงงาน

หลังจากที่ไปกินข้าวที่อาหารร้านนั้นแล้ว ผมจึงส่งเธอกลับไป

ยังใต้

หอพักของเธอ ตึกหอพักภายในโรงงานมีมากมาย และก็แบ่ง อาคาร

เป็นสามหกเก้าอาคารเป็นต้น พนักงานพาร์ทไทม์จะพักอยู่ใน ห้องแบบห้องละแปดคน พนักงานธรรมดาจะพักห้องละสามถึงสี่ คน พนักงาน

ระดับผู้บริหารที่สูงขึ้นมาหน่อยจะพักห้องละสองถึงสามคน ผู้ บริหาร

ระดับสูงขึ้นไปอีกจะได้ห้องพักเดี่ยว ส่วนผู้บริหารระดับสูงจะได้พักห้องชุดที่เหนือระดับกว่าห้องเดี่ยวขึ้นไปอีก อาคารหอพัก แต่ละแห่งจะมี

พนักงานพักอยู่ไม่เหมือนกัน ผมดูออกว่าอาคารหอพักที่เธอ

พักเป็น

อาคารหอพักแบบห้องพักเดี่ยว นอกจากนี้ตำแหน่งของเธอก็

อาจจะ

เป็นระดับหัวหน้า

ผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจการแบ่งสัดส่วนที่พักของระดับพนักงาน

สักเท่า

ไหร่นัก บางที ต่อให้เป็นพนักงานเล็กๆ ก็อาจจะได้รับแบ่งห้อง พักเดี่ยว

แหละมั้ง

ผมยื่นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คของเธอส่งให้เธอ”งั้นเราค่อยเจอ กันนะครับ”

“คุณไม่ขึ้นไปนั่งหน่อยหรือคะ” เธอก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองพูด แปลกๆ จึงพูดใหม่ “คุณจะขึ้นไปดื่มน้ำหน่อยไหมคะ”

ลมพัดโชย กลิ่นหอมจากกายปะทะจมูก ผมมองดูขนตาที่พริ้ว ไหวของ

เธอ ทำให้ใจผมสั่นไหว ผมพยักหน้า

ในตอนที่กำลังเดินขึ้นบันได ในใจผมเหมือนมีลูกกระต่ายกระโดดโลดเต้นอยู่ หญิงสาวเชิญเข้าไปในห้องส่วนตัว ช่าง ทำให้คนเคลิบเคลิ้ม

เสียเหลือเกิน

แต่ตึกนี้ช่างไม่มีบรรยากาศโรแมนติกเอาเสียเลย กลิ่นสีใหม่

กับกลิ่น

เฟอร์นิเจอร์

หลังจากเอามือปิดจมูกแล้วเดินขึ้นไปสองชั้น ผมถาม “เซินเหม่ ย ทำไมหอพักของคุณกลิ่นแรงขนาดนี้”

เซินเหม่ยพูด”อาคารนี้กำลังซ่อมแซมอยู่……

พอเข้าไปในอาคารชุดของเธอ เดิมทีคิดว่าในอาคารชุดจะ ไม่มีกลิ่น แต่ใครจะไปคิดว่ากลิ่นมันจะฉุนขนาดนี้ กลิ่นมิ้นต์ อ่อนๆ โชยเข้ามาแตะ

จมูก ห้องของเธอกลิ่นสะอาดสะอ้าน ประดับด้วยม่านสีชมพู

“เชิญเข้ามา เธอผายมือแสดงความเชื้อเชิญ

เมื่อมองไปยังขวดมนต์ที่วางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปที่หน้าต่าง แล้วพูดขึ้น”ทำไมในห้องถึงยังมีกลิ่นฉุนของสีใหม่ล่ะครับ”

“ไม่กี่วันนี้อาคารนี้กำลังทาสีกำแพงและเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ฉันก็ กำลังคิดจะย้ายหอพักค่ะ แต่หัวหน้าบอกว่าอีกสองวันกลิ่นก็จะดี ขึ้น…. เป็นเหม่ยพูดอย่างอดรนทนไม่ได้

ผมผลักบานหน้าต่างออก เธอพูดอย่างรีบร้อน“อย่าเปิดหน้าต่างค่ะ!”

พอเปิดหน้าต่าง กลิ่นที่ฉุนหนักขึ้นก็โชยเข้ามา ปะทะกับจมูก พุ่งขึ้นมายังสมอง ทำให้น้ำตาไหลไม่หยุด ผมรีบปิดหน้าต่าง พูด ว่า“อีกสองวันก็ดีเหรอ เมื่อกี้แค่เข้ามาผมก็จะตายอยู่แล้ว จะทน อยู่อีกสองวันได้ยังไง!

เซินเหม่ยพูดว่า”แต่แถวนี้ก็ไม่มีโรงแรมนี่คะ กลางคืนตอน

นอนฉันก็สวมสิ่งนี้” เธอไปที่หน้ากากอนามัยแบบที่ทางการแพทย์ใช้กันที่วางอยู่

บนโต๊ะ

ช่างน่าเห็นใจ…….

เมื่อมองออกไปจากหน้าต่างห้องนี้ โรงงานของเราก็สวยงามดี นะ ไฟ

ระยิบระยับ ไฟตามทางส่องสว่าง กลิ่นสีนี้ช่างสุดทนเหลือเกิน

เป็นเหม่ยหยิบถุงชาออกมาจากกล่องใส่ลงไปในแก้ว แล้วกด น้ำร้อน

เพื่อชงชา ผมบอกว่า “คิดไม่ถึงเลยว่ามองจากตรงนี้ โรงงาน ยามค่ำคืนก็สวยดีนะครับ”

“แล้วหอพักของพวกคุณมองเห็นอะไรคะ”

“หอพักของพวกเราอยู่ตรงมุมไม่มีอะไรให้ดูหรอกครับ”

“หอพักคุณมีคนพักกี่คนคะ”เธอวางน้ำชาลงบนโต๊ะสีขาวเล็กๆตัวหนึ่งข้างตัวผม

ผมดึงกระดาษทิชชู่ออกมาจากกล่องที่วางอยู่บนโต๊ะสีขาว ข้างๆผม ผมอยู่คนเดียว! ตอนผมมาใหม่ๆเป็นพนักงาน พาร์ทไทม์ อยู่หอพักแปดคน จากนั้นก็เปลี่ยนมาหอพักหกคน หลังจากที่เป็นพนักงานเต็มตัวแล้ว ผมก็ย้ายมาอยู่ห้องสี่คน จาก นั้นจึงย้ายมาออฟฟิศผู้บริหาร เดิมทีได้ห้องพักแบบสองคน ผม จึงยอมออกเงินเองเดือนละหนึ่งร้อยหยวน ห้องมันอาจจะเล็กไป บ้าง แต่ผมไม่ชอบพักกับคนอื่น อยู่คนเดียวสบายกว่า เฮ้อ ออ….ผมทนไม่ไหวแล้วครับ กลิ่นสีนี้มันทิ่มแทงจมูกเหลือเกิน คุณไปพักที่หอพักผมก่อนก็ได้นะ! ถ้าคมต่อไปคงได้เป็นมะเร็ง แน่! ”

“เอาสิคะ!”

ผมตกตะลึง……

เดิมทีผมก็แค่พูดไปอย่างนั้น ตอนพูดก็ไม่ได้จริงจังอะไร แต่จู่ๆ เธอก็

ตอบตกลง

ผมหัวเราะแหะๆ จ้องมองเธอแล้วถามแต่ว่า……..ของผมเล็ก มากเลย พวกเราสองคนชายโสดหญิงสาว แบบนี้ไม่ดีหรอ กมั้ง”

“ตอนนี้ได้กลิ่นนี้แล้วรู้สึกคลื่นไส้มาก กลางคืนฝันร้ายตลอด ฉันก็รับไม่ได้เหมือนกัน มีอยู่คืนหนึ่งฉันยอมที่จะนั่งหลับอยู่ใน ออฟฟิศ ก็ไม่ยอมกลับมานอนที่นี่ หลังจากคืนนั้นก็รู้สึกเป็นหวัดนิดหน่อย เซินเหม่ยกระทืบเท้า พูดอย่างโกรธเคือง

เป็นหวัดนิดหน่อย มิน่าล่ะตอนพูด น้ำเสียงถึงได้เซ็กซี่ขนาดนี้

กลิ่นสี นฉุนมาก แสบจมูกแสบตาเหลือเกิน ทำให้รู้สึกแย่ หงุดหงิดรำคาญใจ หญิงสาวที่สวยขนาดนี้ ต้องมาทนดมกลิ่นสีที่ ฉุนขนาดนี้ คิดจะนอนที่ออฟฟิศ ไม่น่าจะสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ รอบๆ โรงงานมีป่าไผ่

และต้นไม้เต็มไปหมด จะไปมีโรงแรมได้ไง และก็คงจะไม่ สามารถนั่งรถเมล์ไปในเมืองด้วยเช่นกัน ตอนเช้าจะมาทำงาน ทันได้ยังไง

เมื่อเห็นแววตาเศร้าโศกของเธอ ผมสงสารจับใจ จึงพูด ขึ้น”งั้นก็ได้ เก็บของแล้วไปหอพักผมเถอะ

“สะดวกเหรอคะ หลังจากที่เป็นเหม่ยยิ้มขึ้นอย่างดีใจ จึงถาม

“มีผมอยู่แค่คนเดียว ผมเองก็ไม่มีแฟนสาว จะไม่สะดวกได้ยัง ไง ผมต่างหากที่กลัวว่าคุณจะไม่สะดวก!

เธอลุกขึ้นยืน เก็บของเข้ากระเป๋าเดินทาง ยัดเข้าเต็มกระเป๋า จากนั้นจึงเข้าห้องน้ำเก็บแชมพู และพวกยาสีฟัน และเครื่องอาบ น้ำต่างๆลงถัง

ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย ของเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ….เหมือน จะย้ายบ้านเลยนะ”

เซินเหม่ยพูด”ฉันเคยถามช่างตกแต่ง ว่าทำไมกลิ่นสีมันถึงฉันขนาดนี้ เขาบอกว่าเป็นการจัดการของโรงงาน เพราะว่าสีชนิดนี้ ติดทนนาน คุณภาพดี กลิ่นก็เลยแรงไปหน่อย ฉันกลัว……….น ไปหนึ่งอาทิตย์ กลิ่นสียังไม่จาง

“……….หนึ่งอาทิตย์เลยเหรอ”

“มันรบกวนคุณมากเกินไปใช่ไหม ฉันไม่สนล่ะ! ต่อให้ รบกวน ฉันก็ต้องไป! คืนอยู่ต่อไปก็ตายพอดี! “เธอพูดขึ้น อย่างเอาแต่ใจ

ผมปัดมือพูดขึ้น ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ผมหมายความ ว่าถ้าหนึ่งอาทิตย์แล้วกลิ่นสีไม่จางไป คนอื่นๆ ในตึกนี้จะอยู่กัน ยังไง”

“ไปเถอะ”

ผมยกกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่กับถังขึ้น แล้วพูดว่า “ไปเถอะ” เธอถามแยกไหวไหม

“เรื่องเล็กน้อย”

มือซ้ายของเธอถือคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค มือขวาถือถุงใบใหญ่ เฮ้อ……ผู้หญิงหนอ……..

พอถึงหอพักของผม เราทั้งคู่หอบสัมภาระรุงรังขึ้นไปยังชั้นเจ็ด เหนื่อย

จนผมเหงื่อท่วมตัว ผมทรุดลงไปกองกับพื้น หายใจหอบ เหมือนหมา
เซินเหม่ยเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าผมเท่าไหร่ เหงื่อเปียกซุ่มเรือนผม ที่ปะบ่า

ของเธอไปหมด

เธอใช้มือพัดป่าขาวนวลเนียนของเธอ

เป็นเหมียพัดพลางถามพลาง ทำไม……………..ถึงอยู่ชั้นเจ็ด ล่ะ”

ผมตบกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่นี้เบาๆ ความหนักของมันทำ ผมเกือบตาย ผมพูดพลางหายใจหอบใหญ่หอพักนี้….สภาพ แวดล้อมค่อนข้าง………………ราคาจะถูกหน่อย นอกจาก

จะนั่ง……..บนพื้นแบบนี้เหรอ

“เอาเป็นว่า…….ชุดทำงาน ช่างมันเถอะ……. ผมค่อยๆลุกขึ้นยืน เปิดประตูหอพัก ยื่นมือเข้าไปเปิดไฟ ผมขนสัมภาระทั้งหมดของเธอเข้าไป เปิดแอร์”หอพักนี้มีแอร์

ด้วย

เหรอ……..ทางนั้นไม่มีแอร์เลย

เซินเหม่ยไปยืนเป่าแอร์ เธอเปิดคอเสื้อนิดหน่อยเพื่อระบาย เผยให้เห็นลำคอขาวดุจหิมะ กำลังเชิดระหง หน้าอกตั้งตรง ขา ยื่นยาว ก้นงอนนิดหน่อย ลำตัวท่อนบนตั้งตรง เธอยืนแบบนี้ ช่างดูเหมือนตัวรที่ได้
มาตรฐานจริงๆ!

เธอหันหน้ากลับมามองผม ผมรีบพูดกลบเกลื่อนที่เสีย มารยาทว่า คือ…อะไร ท่าที่คุณแบบนี้…

เธอแก้สําเนียงที่ผิดแปร่งของผมเป็นเหม่ย ไม่ใช่อะไรๆ

“อ่อ เซินเหม่ย คุณยืนเป่าแอร์แบบนี้ จะเป็นหวัดได้ง่ายๆนะ

“ร้อนมาก…..เธอมองไปรอบๆแล้วถามขึ้น “หอพักคุณไม่ เหมือนหอพักผู้ชายเลย

“คุณหมายความว่ามันสะอาดเกินไปจนไม่เหมือนหอพักผู้ชาย อย่างนั้นเหรอ”

“ไม่ใช่ฉันหมายถึงคุณตกแต่งหอพักได้ดีมากเลย คลาสสิก และMANมาก คุณแต่งมันเองเหรอ”

“ตอนที่เพิ่งเข้ามา ก็เหมือนกับหอพักของคุณนั่นแหละ นอกจากพื้นกระดานสีเขียว กำแพง ตู้โต๊ะเก้าอี้ที่เป็นสีขาวล้วน ผมก็ไปซื้อวัสดุที่แปะได้ กำแพงติดกระเบื้องสีดำ ส่วนพวก เฟอร์นิเจอร์ก็ติดวัสดุไม้ให้ดูมีราคาขึ้นมาอีกหน่อย เป็นไงบ้าง รู้สึกดีใช่ไหมล่ะ! “ผมพูดอย่างภาคภูมิใจ

“ก็ไม่เลว”เธอเดินวนรอบหนึ่ง จากนั้นก็เดินไปที่ระเบียง

ตรงระเบียงผมใช้เงินหนึ่งร้อยยี่สิบหยวนซื้อโต๊ะกระจกตัว กลมกับเก้าอี้พลาสติกสีแดงกับสีฟ้าอย่างละตัว ตอนกลางวันผม มักจะนั่งตากลมอยู่ตรงนั้น กลางคืนก็นั่งดูพระจันทร์กับดวงดาว และก็ดื่มเหล้าบ้างนิด
หน่อย ช่างมีความสุขเหลือเกิน “ดื่มน้ำไหม ผมถาม

เธอระบายยิ้ม ส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นไม่ต้องหรอก

เป็นเหม่ยค่อยๆหยิบของออกมาจากกระเป๋าเล็ก กลาง ใหญ่ แล้วจัด

วางไว้ที่มุมห้องอย่างเรียบร้อย เธอแขวนเสื้อขึ้น และนำ ของใช้ส่วนตัวสําหรับอาบน้ำไปวางไว้ในห้องน้ำ ส่วนที่เหลือ อื่นๆก็วางไว้บนโต๊ะ

เธอหยิบรองเท้าแตะออกมาเปลี่ยน หยิบผ้าขนหนูและ กระโปรงตัวหนึ่งออกมาพร้อมพูดกับผม”ฉันอาบน้ำก่อนนะคะ เหนียวไปหมดทั้งตัว อึดอัดจะแย่

“ไปเถอะ”

ผมนั่งสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียง พอเซินเหม่ยอาบน้ำเสร็จก็เดินออก

มาจาก

ห้องน้ำ บนตัวสวมเพียงชุดกระโปรงสีชมพูบางเบา เธอชอบ

สีชมพู

จริงๆ แสงไฟส่องลอดกระโปรงสีชมพูบางเบาตัวนั้น เรือนร่าง ภายใต้

เห็นดุจเงาสลัว ผมรู้สึกร้อนผ่าวไปหมดทั้งตัว เป็นความรู้สึก เหมือนไฟ
ราคะที่ไม่ได้ทุกรุ่นมานาน

เซินเหม่ย ใช้ผ้าเช็ดผมหมาดๆ แล้วถามชื้น เครื่องซักผ้าเล็กๆ นั้น ใช้ได้ไหมคะ”

“ได้สิ ซื้อมาสามร้อยหยวน ซักผ้าได้ดีทีเดียวล่ะ น้ำยาซักผ้า

วางอยู่ตรงนั้นนะ”

เธอก้มตัวไปทางมุมเพื่อหยิบน้ำยาซักผ้า กระโปรงบางๆห่อ หุ้มบั้นท้ายอันกลมกลึงที่กระดูกงอนเอาไว้ ผมกลืน น้ำลาย…….ผมหันหน้าตรงกลับมา มองดูพระจันทร์ที่เพิ่งลอยเด่น

ขึ้นบนฟ้า เพื่อระงับอารมณ์ที่กำลัง

กระเพื่อมไหวของตนเอง

หลังจากที่เป็นเหม่ยหย่อนเสื้อลงเครื่องซักผ้า แล้วเดินออกมา

จาก

ระเบียง เธอนั่งลงบนเก้าอี้พลาสติกสีแดง กลิ่นหอมละมุนจาก เรือนร่าง

เธอ ช่างไม่มีที่ติ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ