บทที่ 15 ความตื่นตกใจของเปียซิงเหยา
หลินหมิงไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้ พยักหน้าโดยทันที ตอนนี้ภายในบ้านหลังนี้ คนที่เป็นคนมีอำนาจตัดสินใจก็ยัง คงเป็นเปียซึ่งเหยา เขา ยังไม่ได้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในบ้านเลย
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กก็มา หลังจากเปียซินเหยา สั่งงานกับอีกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว ก็พาหลินหมิงออกจากหมู่บ้าน ไปยังบริษัท
“คุณจะไปไหน หลินหมิง รถอยู่ที่นี่!”
แต่ว่า หลังจากลงมาจากห้องพักแล้ว ตอนที่เปียซึ่งเหยาขี่รถ มอเตอร์ไซค์คันเล็ก กลับพบว่าหลินหมิงยังคงเดินออกไปด้าน นอกที่พักต่อไป
ได้ยินเสียงเรียกของเปียซิงเหยา หลินหมิงก็หันกลับมายิ้ม พูด ว่า“คุณเป็นทนายใหญ่โต ขี่มอเตอร์ไซค์คันเล็กๆแบบนี้ไป ทํางานคุณไม่กลัวคนอื่นหัวเราะเยาะเอาเหรอ”
“กลัวอะไร ก็ไม่มีเงิน จะให้ทำเป็นหน้าใหญ่รวยเหมือนคนอื่น เหรอ”
ได้ยินคำพูดของหลินหมิง คิ้วเรียวสวยของเป้ยชิงเหยาค่อยๆ ขมวดมุ่น แสดงความหมายที่ไม่พอใจในคำพูดเขาอย่างมาก
ชีวิตความเป็นอยู่ของเธอตอนนี้ต้องประหยัดเป็นหลัก สามารถประหยัดได้ก็ไม่มีทางใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ในบ้านยังมีเด็กน้อยอีกเจ็ดคนที่ยังต้องเลี้ยงดู
“ผมให้รถยนต์คุณหนึ่งคัน
พอหลินหมิงยิ้ม ตอนที่พูด ก็หยิบกุญแจรถยนต์ออกมา สัญลักษณ์ของรถเมอซิเดสเบนซ์สะท้อนแสงวาววับจนทำให้เปีย ชิงเหยาตาลาย
เธอถลึงตาโต มองหลินหมิง ถามว่า “หลินหมิง คุณเอาเงิน
ที่ไหนมาซื้อรถยนต์ ไม่ถูก นี่คุณไปยืมหรือไปเช่ามา ไม่ว่าอย่างไร เปียซิงเหยาก็ไม่เชื่อว่าหลินหมิงจะซื้อรถยนต์ได้ ด้วยตนเอง
“วางใจเถอะ รถคันนี้เป็นของผมเอง ตอนนี้ มอบให้คุณ ไม่ว่า อย่างไร คุณก็เป็นทนายที่มีชื่อเสียง ที่สำคัญที่สุดก็คือ คุณเป็น แม่ของดวงใจดวงน้อยๆทั้งเจ็ดดวงนั้น ยานพาหนะที่ใช้เดินทาง แน่นอนว่าก็ต้องไม่ย่ำแย่ ไม่เช่นนั้น ต่อไปผมจะเอาหน้าไปมอง ลูกทั้งเจ็ดคนได้อย่างไร”
หลินหมิงหัวเราะร่า ไม่ได้เก็บเอาไปใส่ใจ
สําหรับเขาแล้ว ไม่ใช่แค่รถราคาล้านสองล้านหรือไง สำหรับ เขาที่เป็นพ่อผู้มีระบบนี้ ถือว่าเล็กน้อยมาก
“ไปเถอะ แม่ของลูก”
หลินหมิงกวักมือเรียกเปียซึ่งเหยา
เปียซิงเหยาเดินตามมาอย่างยิ่งเชื่อกึ่งสงสัย จากนั้นก็มอง เห็นรถเบนซ์คันนั้นที่จอดอยู่ข้างทาง ใบหน้าสวยก็เต็มไปด้วย ความประหลาดใจ
ขึ้นรถแล้ว หลินหมิงยังตั้งใจส่งเล่มทะเบียนรถยนต์ให้เธอ บน นั้นเขียนชื่อของหลินหมิง
“รถคันนี้ต่อไปก็ยกให้คุณเลย ถ้าคุณไม่เชื่อผม ถึงเวลาที่มี เวลาว่าง พวกเราไปโอนรถเป็นชื่อคุณ”
“ไม่ใช่!”
พอเปียซึ่งเหยาได้ยิน ในหัวสมองก็สั่นรัวเหมือนกับป๋องแป้ง อันหนึ่ง รีบพูดขึ้นว่า “หลินหมิง คุณร่ำรวยจริงๆ หรือว่าก่อนหน้านี้ แกล้งทำเป็นจนกับฉันทำไมเมื่อก่อนคุณ เหมือนกับพวกขี้แพ้ จะ เอาอะไรก็ไม่มี แต่ตอนนี้ ต้องการอะไรคุณก็เหมือนจะมีหมด
เป้ยซึ่งเหยาพูดความสงสัยในใจของตนเองออกมา ในเมื่อ สิ่งที่หลินหมิงทํากับเธอก่อนและหลังช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับ เหว
พอหลินหมิงได้ฟัง ก็พูดอะไรไม่ออก
เขาคงจะไม่อาจบอกกับเธอว่าตอนที่รู้จักเธอเขาแกล้งทำเป็น จนจริงๆ จากนั้นตนเองก็มีเงินมากมายขนาดนั้นหรอก หลินหมิง รู้ ตนเองตอนนี้ก็มีเงินในกระเป๋าอยู่แค่แสนกว่าเท่านั้น อีกทั้งยัง มีรางวัลทีระบบส่งมอบให้
ถ้าจะบอกว่าตนเองรวยจริงๆ อย่างนั้นก็คงเป็นการทำหน้า ใหญ่ให้ดูเหมือนคนรวยแล้ว
คิดไปคิดมา หลินหมิงยิ้มแล้วพูดว่า”ก็ไม่ถือว่าร่ำรวยเป็น พิเศษ สองปีที่ผ่านมานี้ ได้โอกาสสร้างตัว ทํากำไรได้นิดหน่อย ไม่อย่างนั้น ถ้าผมรวยจริงๆก็คงไม่ต้องไปทำงานที่สำนัก กฎหมายกับคุณ
“ที่คุณพูดก็ถูก”
พอเป้ยชิงเหยาได้ยิน ก็รู้สึกว่านี่ก็มีเหตุผล จึงไม่ได้ซักไซ้ ปัญหานี้ต่อไปอีก
พูดให้ถึงที่สุดแล้ว ระหว่างเธอกับหลินหมิง นอกจากความ สัมพันธ์ที่มีลูกด้วยกันแล้ว ก็ไม่มีอะไรอื่น ถ้าก้าวก่ายมากไป ก็จะ ดูน่าเกลียดเกินไป
รถยนต์ขับมาตลอดทาง ไม่นานก็มาถึงสำนักงานกฎหมาย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ