เยี่ยมเยือน
ร่างของคุณหนูใหญ่เดินผ่านเรือนของคุณหนูห้า สาวใช้แจ้ง ให้คุณหนูของตัวเองรู้ทันที เจ้าตัวที่กำลังคุยอยู่กับพี่สี่ที่เรือนของ นาง หลังจากรู้ว่าพี่สาวของตัวเองเดินผ่านเรือนของตนถึงได้บอก กล่าวว่า ต้องการไปหาพี่สาวของตัวเองที่เพิ่งเดินผ่านเมื่อสัก ครูมิรู้ว่านางนั้นจะไปที่ใด
“พี่เจ้าคะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วน้องขอตัวไปหาพี่ใหญ่ก่อน และ คงไม่สะดวกต้อนรับ ตอนนี้” คุณหนูห้าทำท่าทางเคารพ และ ผละตัวออกมาเพื่อความมีมารยาทสำหรับพี่น้องของทั้งสองคน แต่ทว่าคำตอบของนางนั้นช่างน่าหมั่นไส้เสียเหลือเกิน
“พี่ใหญ่หรอ ! เช่นนั้นพี่ไปพบพี่ใหญ่พร้อมกับน้องห้าด้วยนะ! หวังว่าน้องห้าไม่รังเกียจ”ท่าทางไม่ปล่อยให้น้องห้าไปพบพี่ใหญ่ ล่าพัง
“ถ้าพี่อยากไปด้วย น้องไม่ห้าม ถ้าเช่นนั้นไปด้วยกันเถอะคะ เฮอะ! นางช่างกล้าพูดกล้าถามมาได้ว่าไม่รังเกียจ นางไม่ อยากจะทนเสวนากับผู้พี่คนนี้นักหากแต่นางไม่สามารถกวนพี่ ใหญ่ที่กำลังเตรียมตัวสำหรับเจ้าสาวที่จะถึงในไม่ช้านี้ นางเอง ไม่อยากอยู่พูดคุยกับพี่สาวนางเช่นนี้หรอก
และสองพี่น้องเดินมาพร้อมกัน พร้อมด้วยบรรดาสาวใช้เดิน ตามมา !
“น้องคารวะพี่ใหญ่เจ้าคะ น้องคารวะพี่ใหญ่เจ้าคะ”สองพี่น้องเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
“พวกเจ้าเองหรือ แล้วมากันทำไม” คุณหนูใหญ่เลิกคิ้วถาม ขึ้น พลางพยักหน้ารับขาน
“คือข้า! เมื่อสักครู่ข้าเห็นพี่ใหญ่กำลังเดินผ่านเรือนข้า และ ตอนนั้นขาคุยกับพี่อยู่ ข้าเลยเอ่ยขอตัวออกมาจากพี่ที่อยู่คุย เล่นกับข้าเพื่อที่จะพบพี่ใหญ่ และพี่สี่ขอมาด้วย! แล้วนี่พี่ใหญ่ กำลังจะไปที่ใด เจ้าคะ ถึงได้เดินผ่านมาทางนี้ได้” มีเถาบอก เล่าต้นเหตุ แกมเหน็บแนมคนที่อยากตามมาด้วยแต่ด้วยความ สุภาพไม่อาจหักหน้านางมากได้ ถึงแม้จะไม่ชอบใจก็ตาม
“เป็นเช่นนั้นที่น้องห้ากล่าวมาเจ้าคะ” ท่าทางอ่อนช้อยตอบผู้ เป็นพี่สาว อีกทั้งปรับสีหน้าของตัวนางเองที่เผลอแสดงสีหน้าไม่ พอใจต่อคำพูดของน้องห้าเมื่อสักครู่ที่กล่าวถึงนาง
คุณหนูใหญ่พยักหน้ารับรู้ แต่ก็ไม่เอ่ยสิ่งใดเพิ่มเติม
“แล้วนี่พี่ใหญ่จะไปที่ใดเจ้าค่ะ! ปกติเวลานี้พี่ใหญ่ไม่ใช่ เตรียมสินเดิมอยู่หรือ” คุณหนูสี่ (จิ๋วหลิว) จีบปากจีบคอเอ่ยถาม พี่สาวคนล่ะแม่ทันที เพราะรู้ว่าพี่ใหญ่ของนางนั้นมิได้ว่างมาเดิน เล่นแบบนี้ได้ คงต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างนางถึงได้ละมือจาก งานที่นางกำลังเตรียมอยู่
“อ้อ ! พี่นั้นกำลังจะไปเยี่ยมน้องหก เมื่อสักครู่มีสาวใช้เข้ามา เรียนท่านแม่ว่าน้องหกฟื้นแล้ว และท่านกำลังเตรียมของมา เยี่ยมเยียน และเผอิญว่าพี่อยู่กับท่านย่าด้วย ! “ฮวาออกเดิน ต่อไม่สนใจว่าน้องสาวทั้งสองจะตามมาไหม แต่ที่แน่ๆนั้นเจ้าห้าตามมาอย่างแน่นอน เพราะเป็นพี่น้องที่เกิดจากมารดาเดียวกัน ซึ่งแตกต่างจากน้องสี่ ที่แม่เป็นอนุหลี ที่ท่านพอรับมา นางเพิ่งมา รู้ในภายหลังว่าอนุหลีผู้นี้เดิมที่เป็นอดีตคนรักของท่านพ่อ แต่ เผอิญว่านางพื้นที่บ้านเกิดปัญหาบางอย่างอยู่ เรื่องนี้นางเองเป็น เพียงบุตรสาวเท่านั้นไหนเลยจะเข้าใจเรื่องของผู้ใหญ่ แต่ที่แน่ๆ ท่านแม่ มารดาของนางถูกทำร้ายจิตใจจากท่านพ่อที่รับอนุ เข้าเรือนทั้งยังให้ความรักและโปรดปรานยิ่งนัก ในเมื่อมารดา เจ็บปวดใจมีหรือ บุตรสาวอย่างนางไม่คิดแค้นเคืองผู้เป็นบิดา และอนุหลีผู้นี้ด้วยเล่า
คุณหนูสี่ “..
“ท่านย่า ให้สาวใช้เตรียมของบำรุงต่างๆ และยังฝากพี่ส่งให้ น้องหกได้ฟื้นฟู เมื่อเจ้ารู้เยี่ยงนี้แล้ว น้องสี่เจ้ายังจะไปด้วยหรือ ไม่ ! ” คุณหนูใหญ่กล่าวต่อ แต่ก็หยุดถามน้องสาวต่างมารดาอีก เช่นกัน ส่วนน้องห้านั้นยืนข้างๆหัวเราะอยู่ ชอบใจในคําตอบ ของพี่สาวร่วมอุทร สะใจเป็นอย่างมากเป็นเพราะบางครั้งคำพูด ของนางมักชอบพูดจาข่มนางอยู่เป็นประจำ ทำให้นางนั้นไม่ อยากที่จะร่วมสนทนาหรือเล่นด้วย แต่เพราะพี่สี่นั้นนางชอบ เข้าหา จะอย่างไรตัวนางเองเป็นน้องสาวจะปฏิเสธผู้เป็นพี่สาวได้ เยี่ยงไร และเพราะคำพูดของพี่ใหญ่ที่ฟังดูแล้วพี่นั้นน่าจะสะอึก ไปไม่น้อย เพราะมารดานางตอนนี้เป็นผู้ดูแลจวนแทนท่านแม่ แต่กลับทําตัวพองขนคิดว่านางแน่มาจากไหน
พี่น้องจากฮูหยินใหญ่ไม่ได้มีใครสักคนที่รังเกียจคนจากเรือน อนุบาย เพราะอนุป๋ายวางตัวดี ไม่เยอหยิ่ง และรู้สถานะของตัวเอง ไม่เคยเรียกร้องท่านพ่อหาเรือนไม่จิตใจริษยา ท่านพ่อนางก็ต้อนรับในฐานะนางแต่งเข้าเป็นอนุ แต่ อย่างอนุหลี แม่ของคุณหนูผู้ที่ชอบวางตัวข่มมารดาของตน และป่าน เหนียง ซ้ำร้ายคิดนางนั้นเป็นอนุคนโปรดของ ท่านพ่อได้เบ่งอวดบารมีอย่างท่านพ่อคิดเช่นไรให้ นางทำหน้าที่ควรจะเป็นท่านแม่กลับยกหน้าที่นั้นให้อนุ คนโปรดอย่างนี้ แล้วท่านแม่ความเหมือนถูกตบหน้าใครสามารถช่วยไม่เลยมีผู้ที่จะท่านแม่ออกจากความทุกข์ใจเศร้าใจ นั้นเป็นใคร
“จริงรึนี่ ที่น้องหกฟื้นแล้วข้านึกนางจะตายแล้วเสียอีก!ห้าข้าเองนั้น เพิ่งพูดคุยเรื่องนี้กับน้องห้าเมื่อครู่ คิกคิดว่า จะรอดท่าทางหัวเราะเยาะคนป่วยทำให้สองพี่น้องไม่พอใจการกระทำความคิดของน้องสาวต่างมารดา เดียวนิยามให้กับนางได้คือคำว่า ความช่าง เสียจริง” คนอะไรพูดออกมาหน้าตาเฉยแบบนั้นรู้ผิดชอบชั่วดี เหมือนมารดาของนางมีผิด
ใหญ่ “…
น้องห้า “.….”
พูดบ่าวไพร่มาได้ยินเอาไปพูดได้ว่า อนุหลีมารดาเจ้ามสั่งสอนให้ เจ้าเชิงน้องกำลังป่วยเห็นแก่เจ้าที่อายุยังน้อยอย่าทำให้ตระกูลของเราเสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะไม่รู้ความของ เจ้าเลย เจ้าลองดูพวกสาวใช้ที่พากันมองหน้าเจ้าสิ อย่าให้ข้า ต้องเตือนเจ้าบ่อยๆเยี่ยงนี้ อายคน” คำสอนแกมดูถูกของพี่สาว ทำให้หน้าของน้องสาวไม่พอใจลึกๆ เพราะตนเป็นลูกที่ท่านพ่อ รักที่สุด ในหมู่พี่น้อง ทำไมนางจะต้องสนใจพวกบ่าวไพร่ นางได้ แต่กลืนความไม่พอใจลงคอไปข่มความโกรธนี้ไว้เพื่อจดจำว่า อย่าให้ถึงทีของนางบ้างเท่านั้น ไม่แน่พวกนางพี่น้องต้องเสียใจ เป็นแน่ที่กล้ากล่าววาจาเยี่ยงนี้กับนางเช่นนี้
“พี่ใหญ่เจ้าคะ ท่านกล่าวเกินเหตุไปหรือไม่ ถ้าพวกบ่าวไพร่ เอาข้าและแม่ไปพูดเสียหาย ข้าแค่บอกท่านพ่อ ให้โบยพวกนั้น แล้วขายออกไปสิ้นเรื่อง ” นางตอบกลับไปทันที เพราะนางมี ท่านพ่ออยู่แล้วนางไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้นมาเข้ามาพูดให้ นางได้ยินนางจะจัดการพวกนั้นให้ล่าถอยไปเองด้วยมือของนาง นางหมายมาดไว้ในใจมิได้เอ่ยออกมาส่งสายตาอย่างผู้ชนะ
คุณหนูใหญ่ และ คุณหนูห้าต่างลอบมองหน้ากัน และสาย ศีรษะ กับความหลงตัวเองและไม่ได้เรื่องของน้องต่างมารดาผู้นี้ เอาเถอะท่านพ่อยังคงหลงในตัวมารดาของนางเช่นนี้ ถึงพูดไป สอนไปเปล่าประโยชน์ นี่คิดไม่ถึงเลยว่าอดีตคุณหนูในห้องหอ เช่นอนุหลีจะกล้าสอนบุตรสาวให้ทำตัวเยี่ยงนี้ ว่าไปสงสารท่าน พ่อเช่นกัน ที่เลือกรับคนเช่นอนผู้นี้เข้าเรือนมา
จากนั้นทั้งสามหยุดพูดเรื่องเมื่อครู่ทันทีเพราะคิดแล้วว่าไม่คุ้ม กัน ต่างตรงไปยังเรือนท้ายจวนของอนุปาย และเยี่ยมน้องหก ตามที่ทั้งสามตั้งใจ แต่ให้ความรู้สึกต่างเห็นใจผู้เป็นน้องสาวสุดท้องต่างมารดาที่เพิ่งหายจากเจ็บป่วย เยี่ยงนี้ แต่กลับอีกผู้หนึ่งหวังเพียงอยากเห็นหน้าเพื่อเติม ความเจ็บป่วยนี้เท่านั้น แต่ใครไหนเลยจะรู้เล่า ว่าคนที่ฟื้นขึ้นมา นี้มิใช่น้องสาวของพวกนาง แต่กลับเป็นคนผู้หนึ่งที่ตายอล้วเกิด ใหม่ในร่างที่เจ็บป่วยเช่นนี้ และนางผู้นั้นกำลังจะทวงทุกอย่างให้ กับฉือฮั่วเจ้าของร่างเดิมที่บัดนี้ไม่อยู่แล้ว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ