ตำนานฉือฮั่ว

คุณหนูหก ซ่งฉือว



คุณหนูหก ซ่งฉือว

“อี๋เหนียง นั่นคุณหนู อี้เหนียงเจ้าคะ คุณหนูมีสติแล้วเจ้าคะ” อายจับมือเขย่าป้ายเหนียง

“ท่านหมอ ท่านหมอเจ้าค่ะ ช่วยตรวจคุณหนูใหม่ด้วยเจ้าค่ะ บ่าวได้ยินเสียงคุณหนูเจ้าค่ะ” น้ำเสียงสั่นเครือแกมดีใจเมื่อสัก ครูนางมิได้ตาฝาดหูฝาดเป็นแน่ นางขอร้องและเอ่ยเรียกให้หมอ ช่วยตรวจคุณหนูหกของนางใหม่อีกครั้ง

หมอเจ้าถอนหายใจแรง แต่จํายอมช่วยตามที่ร้องขอ เดินกลับไปตรวจเด็กน้อยตรงหน้าอีกครั้ง ใช้สายสังเกตสีหน้าดู ดีกว่าเมื่อสักครู่เลิกคิ้วขึ้นสงสัยเป็นอย่างมากเป็นไปไม่ได้ จาก นั้นหมอเจ้าจับข้อมือเล็กๆนั้นเพื่อตรวจชีพจร ทำให้ต้องฉงนใจ อีกครั้ง เมื่อสักครู่ชีพจรคุณหนูหก ไม่ได้เป็นเช่นนี้นี่ ครานี้เลย ตั้งใจจับใหม่อีกครั้ง รวบรวมสมาธิหลับตา ใช้ปลายนิ้วมือจับอีก หลังจากนั้นสีหน้าพร้อมรอยยิ้มมุมปากยกขึ้น บ่งบอกถึงอาการ สาวคุณหนูผู้นิ่ม

“โย่ว…!! ผิดไปจากเมื่อครู่มาก ไอหยา อืม” เมื่อตรวจเสร็จ หันไปเขียนเทียบยา แล้วส่งให้สาวใช้ไปเอาเทียบยานี้มา
“เจ้าเอาเทียบยานี้ไปที่ร้ายข้า หลงจะจัดตามเทียบนี้ให้ แล้ว น้ำไปต้มน้ำสามถ้วยตุ๋นจนเหลือเพียงน้ำถ้วยเดียวให้คุณหนูห ของเจ้าดื่ม หลังจากนี้ อีกสามวัน ข้าจะกลับมาตรวจคุณหนูใหม่ เหนียงท่านไม่ต้องกังวล คุณหนูหกดีขึ้นแน่นอน เชื่อคำข้าเถอะ ท่านควรห่วงตัวเองและลูกในครรภ์ด้วยนะขอรับ ข้าตรวจเสร็จ แล้ว ขอตัวลาก่อน อ้อ ใช้น้ำสามถ้วยต้มให้เหลือเพียงถ้วยเดียว นะขอรับ” หมอเจ้าสาวใช้ผู้นี้อีกครั้ง

“เป็นเช่นนั้นหรือเจ้าค่ะ คือฮั่นของข้ากำลังจะหายดีใช่ไหม เจ้าค่ะท่านหมอเจ้า ท่านมิได้ปิดข้าใช่หรือไม่” ด้วยความดีใจป่า ยอเหนียงกำชับสอบถามท่านหมออีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเอง ได้ยินไม่ผิด

“ไม่ผิดขอรับ ที่ท่านได้ยินถูกต้องแล้ว ตอนนี้คุณหนูห อ่อนเพลียนักให้กินยาตามเทียบที่ข้าเขียนไว้ แล้วอีกสามวันข้า มาตรวจใหม่เพื่อเปลี่ยนตัวยา รับรองไม่กี่วันเท่านั้นคุณหนูออก วิ่งเล่นได้แล้วขอรับ ข้ารักษาผู้อื่นนานสิบปีมิกล้าปดท่านแต่อย่าง ใด” จากนั้นหมอเจ้าขอตัวกลับก่อน
ป่ายอีเหนียงค่อยนั่งลงตรงเตียง มองหน้าลูกสาว เอื้อมมือลูบศีรษะเด็กน้อยตรงหน้าที่เพิ่งหลับไปรอยยิ้มของผู้เป็น แม่ส่งให้ลูกสาว เรื่องที่ทุกข์ใจห่วงอาการคือชั่วค่อยๆหายไป และดีใจที่สามารถยื้อชีวิตลูกน้อยจากความตายมาได้ ตนเอง ชีวิตที่เหลืออยู่ตอนนี้มีไว้ให้ลูกหก ฉือฮั่ว และเด็กที่กำลังจะเกิด มาเท่านั้น

วันเวลาผ่านไปเข้าวันที่สาม ตรงกับวันที่ท่านหมอนัด เข้ามาดูอาการ เด็กน้อยจากป่วยไม่ได้สติ ตอนนี้กลับดูดีขึ้นแต่ ท่าทางเปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะซานซาน จากอีกภพหนึ่งตายไป ได้เข้ามาเกิดใหม่ในร่างนี้ ความทรงจำบางส่วนของฉือวยังคง อยู่ ทำให้ซานซานรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น เธออาการดีขึ้นมากแต่ ร่างกายไม่ค่อยมีแรงเท่าไหร่

(ตอนนี้ฉันเข้ามาอยู่ที่นี่ได้สามวันแล้วหรอ เห้อเกิด ใหม่ในร่างเด็กทำอะไรไม่สะดวกจริงๆ ทำอะไรโดนห้ามปราม เสียทุกอย่าง น่าเบื่อมากมาก) เธอเพียงคิดในใจสักพักมีเสียง เข้าห้องมา ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่เชี่ยวชุ่ยเดินนำหมอเจ้ามาตรวจ อาการของเธอ

“โย่ว…คุณหนูหกท่านดูสีหน้ามีเลือดฝาดขึ้นขอรับ หมายถึงดี ขึ้น (หมอเจ้าลูบเคราตัวเอง) เจ้าให้คุณหนูทานยาตามที่ข้าสั่งใช้ไหมดีแล้ว คุณหนูข้าขออภัย จับข้อมือท่านให้ข้าด้วยขอตรวจ ชีพจรท่านอีกครั้ง เสียมารยาทแล้ว” ถามอายบ่าวของเรือนนี้ เรื่องยาเมื่อได้รับคําตอบแล้วถึงขอตรวจดูอาการของเธอ

“ป๋ายเหนียงท่านไม่ต้องกังวลแล้วขอรับคุณหนูอาการดีขึ้น มาก” จากนั้นหมอเจ้าหันไปนำกระดาษเขียนเทียบยาแล้วยื่นส่ง ให้บ่าวของเรือนนี้ พร้อมกำชับอีกที “ให้คุณหนูทานยาตาม เทียบนี้เช้าเย็นเพื่อบำรุงร่างกายอาการป่วยของคุณหนูดีขึ้นมาก ไม่มีอาการแทรกซ้อน อาหารช่วงนี้จัดให้ทานพวกซุปปลา หรือ ซุปเห็ดสามอย่าง บำรุงอาจจะให้ทานหน่อยสักสองวันค่อยๆ เริ่มข้าวต้มต่างๆ ตอนคุณหนูนอนป่วยไม่ได้ทานอะไร กระเพาะ อาหารถึงไม่ดีต้องค่อยๆบำรุงกันไป ข้าตรวจเรียบร้อยขอกลับ ก่อนแล้วกัน ข้าขอตัวไม่ต้องส่ง” ท่านหมอเจ้าเอ่ยคำลา

“ขอบคุณท่านหมอเจ้ามากเจ้าคะ” อนุบายขอบคุณท่านหมอ และส่งสายตาเสี่ยวยให้นำเงินค่ารักษาส่งให้ท่านหมอรับแต่ โดยดี

“หมดทุกข์หมดโศกแล้วนะ แม่ขอให้เจ้าอย่าได้ป่วยไข้ อีกเลย” รอยยิ้มที่ส่งให้มาพร้อมน้ำตา เป็นภาพที่ฉันไม่เคยเห็น มาก่อนในชีวิตของฉัน เพราะตั้งแต่เกิดมา ฉันอยู่แต่บ้านเด็ก กําพร้า หาเงินส่งเสียตัวเองจนทำงานได้เป็นเจ้าของบริษัทของตัวเองและแต่งงาน สายตานี้แม้แต่คู่ชีวิตอย่างสามีชาติที่แล้วยัง ไม่เคยมี ต่อจากนี้ ฉันคือฉือนบุตรสาวคนที่หกของตระกูลซึ่ง ซึ่งเฟยหมา ผู้พิพากษาแห่งหางโจว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ