ตำนานฉือฮั่ว

ต่อไปข้าคือ ซ่งฉือชั่ว



ต่อไปข้าคือ ซ่งฉือชั่ว

หลังจากที่อนป่ายดูแลลูกสาวด้วยท่าทางที่อ่อนล้า เสี่ยวซุย สาวใช้ผู้ภักดีได้บอกให้นายตนเข้าไปพักผ่อน ทั้งกำชับนายหญิง ของตัวเองให้ห่วงตังเองและนายน้อยในครรภ์ด้วย และไม่ต้อง ห่วงคุณหนูหก นางจะดูแลคุณหนูเองอย่าได้ห่วง พานายของตน เข้าพักผ่อนจากนั้นเข้าห้องคุณหนูเพื่อดูแลต่อตามที่รับปากอนุ ป้ายไว้

สายตาของคุณหนูที่มองมาเหมือนมีอะไรจะถาม ท่าทางนั้น ชวนน่าเอ็นดูยิ่งนักร่องรอยของความคิดโรยจากนายตัวน้อยผู้นี้ ไม่มีให้เห็นอย่างมีนางป่วยอย่างแรกเริ่มนั้น ตอนนี้สินางช่าง สดใสสดชื่นเป็นอย่างมาก ยิ่งนางมองคุณหนูเพียงเท่านี้นางมี ความสุขมากแล้ว

“คุณหนูมีอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ เหตุใดมองบ่าวเยี่ยงนี้” นาง ถามคุณหนูของนางที่ทำท่าทางเหมือนจะกล่าวบางอย่าง นางถึง ได้ตัดสินใจเอ่ยถามทันที

“อืมพี่เชี่ยวชุ่ย ตอนนี้เราอยู่กันที่หางโจว แล้วคนที่เป็น จักรพรรดิเราคือใครเจ้าคะ”

ต้องหาทางที่จะรู้ให้ได้ นางจะได้ทำตัวให้ถูกกับยุคสมัยดัง คําคมที่ว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามอย่างไรเล่า

“คุณหนู..!! เหตุใดคุณหนูจู่ๆถึงได้เอ่ยถามถึงเรื่องนี้เจ้าคะ น้ำเสียงตกใจหันซ้ายแลขวากลัวผู้ใดได้ยินที่คุณหนูเอ่ย หากใครมาได้ยินเข้าคงได้มีปัญหาแน่นอน ยิ่งเรือนท้ายจวนแห่งนี้ ไม่มีความสำคัญอย่างนี้อยู่แล้ว อาจถูกขับออกจากจานก็เป็นได้ นางไม่อยากให้มีเรื่องใดๆเกิดขึ้นกับนายของตนเป็นแน่

“ทำไมหรือ? ไม่ควรถามหรือ? ถามไม่ได้หรือ?” หน้าตาที่ เอียงคอถาม กับสายตาคาดหวังอยากได้ค่าตอบ ชวนให้คู่ สนทนาถึงกลับต้องถอนหายใจ เงียบมาสักพักนางถึงเพิ่งได้ยิน เสียงของสาวใช้ตรงหน้า

“เอาล่ะเจ้าค่ะ บ่าวยอมแล้วบ่าวยินดีบอกแต่คุณหนูรับคำบ่าว ก่อนว่าจะไม่ถามคำถามพวกนี้กับใครอีก ได้ไหมเจ้าค่ะ” นางจะ ไม่ยอมเล่าก่อนที่จะได้คำมั่นสัญญาจากดรุณีน้อยตรงหน้าก่อน เมื่อคุณหนูของตนเองพยักหน้ารับปาก นางถึงกับต้องถอน หายใจอีกคราก่อนเอ่ยเรื่องราวทั้งหมดให้นายตัวน้อย ใช้สายตา และวาจาออดอ้อนนางจนต้องตัดสินใจเล่าเรื่องที่นางอยากรู้

“จักรพรรดิที่นั่งบัลลังก์มังกรคือ ฮ่องเต้นามว่าเจ้าเงิน รา ชวงศ์ซ่งเจ้าคะ”

“หืม…!!หวังข่ายหรอ แซ่ซ่งแซ่เดียวกับเราเลยนี่นา หรือเรา เป็นพระญาติ” แค่ได้ยินพระนาม ข้านึกถึงนามรองตอนพระองค์ เป็นเพียงองค์ชายเท่านั้น

“คุณหนู เหตุใด ไม่ได้นะเจ้าคะ ห้ามเลยเจ้าคะ บ่าวขอล่ะคุณ หนูห้ามไปถามอะไรแบบนี้กับนายท่านเด็จขาด ถ้าคุณหนูไม่ อยากถูกลงโทษนะเจ้าคะ” คนกลัวการถูกลงโทษเอ่ยเตือนเจ้า นายน้อยตรงหน้าทันทีเพราะหากมีใครไม่พอใจพวกนาง น่าเรื่องไปฟ้องหวัง…!

“เราแล้ว พี่เชี่ยวชุ่ยไปพักเถอะ ข้าอยากนอนพัก” กล่าวจบ ถอตัวเองนอนจากนั้นดึงผ้าห่มมาห่มตัวสนใจสาวใช้สาวใช้ออกได้ไม่นาน นางลืมตานึกคิดถึงเรื่องที่เกิดตอนสามารถทำใดได้บ้าง

เสี่ยวยเห็นคุณหนูตนพักผ่อนแล้วจัดอะไรเรียบร้อยค่อยถอยเท้าออกอย่างรู้เลยว่าคุณหนูแค่แกล้งทำเท่านั้น เมื่อเสียงประตูห้องปิดลง ซานซาน ลุกขึ้นมา

ถ้าตอนเราอยู่ราชวงศ์ฮ่องเต้คือหวังข่าย แล้วอยู่ช่วง ไหนของพระองค์ โอ้ยอยากจัง ตอนฉันอายุสิบปี แถมเป็นลูก เมียน้อยอีก เกิดใหม่ไหนเกิดเกิดเอาราชวงศ์พวกหัวโบารณทั้งนั้น เอาว่ะ ต้องได้ตัวรอดได้ ฉัน ซานซาน ข้าหนูซ่งฉือฮั่ว นับจากไปจะดูแลแม่ตัวเองให้ดีในชาติรู้เล่าครานี้ที่ได้เกิดใหม่อาจกว่าชาติแล้วเป็นไปใครเล่าจะจากนั้นลงนอนต่ออยากคิดอะไรแล้วพักก่อน

ปีกเสียงเก้าอี้ความจากบ่าวคนสนิท เรื่องของเรือนท้ายจวน

ทำไมมันตายไปซะ แล้วจะแม่กับเด็กในท้องมันถึงท่านโหวเอ็นดูแต่ก็ไปเรือนนั้นบ่อยเช่นกัน น่า เจ็บใจนัก” เสียงเล็กแหลมขึ้น บ่งบอกได้เกลียดแสนเกลียดที่นางเพิ่งเอ่ยไปเมื่อสักครู่

นายหญิงอย่าโมโหไปเลยเจ้าค่ะ ถึงอย่างไร นายท่านก็รัก และเอ็นดูนายหญิงมากกว่าท่านอย่าทำเช่นนี้เลย ถึงยังไงนาย หญิงคุณชายสามและคุณหนูนะเจ้าค่ะ ตอนคนดูแลจวนแห่ง ก็คือนายหญิงของบ่าวแม้แต่ฮูหยินใหญ่ยังไม่สามารถชิงความ โปรดปรานจากนายท่านได้เลย นายหญิงของบ่าวอย่ากังวลด้วย เรื่องเล็กน้อยเพียงนี้เลยนะเจ้าค่ะ” เสียงของแม่นมกุ้ยเอยเตือน สตินายหญิงของตน

จะว่าไปอนุหลีที่จริงนางควรจะได้แต่งเป็นฮูหยินของท่านโหว แต่ติดที่ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับตระกูลหลี ทำให้ต้องเป็นเพียงแต่งเข้า มาเป็นอนเท่านั้น แต่นายท่านยังคงรักและเอ็นดูนายของตน มากกว่าบรรดาเมียทั้งหลายเพราะรักกันตั้งแต่วัยเยาว์ น่า เจ็บใจนักที่นายหญิงผู้เฒ่า เมื่อเห็นว่าตระกูลหลีเกิดเรื่อง ไม่ช่วย แล้วยังคิดจัดหาฮูหยิน ให้นายท่านแต่งอีก เพราะเห็นแก่ความ ก้าวหน้าของตระกูล แต่ฮูหยินเงินเข้ามาช่วยทั้งเงินทอง และ ยก หน้าตา ให้ท่านโหวได้ แต่ใช่ว่านางจะได้ครองใจนายท่านอย่าง อนหลีขอตน

“แม่นมกุ้ย ท่านไปเบิกของบำรุงที่พ่อบ้านจางแล้วเอาไปให้ เรือนท้ายจวน หี บอกพ่อบ้านจางเอาของชั้นเลวพอ ไม่ต้องเลี้ยง พวกมันดีมากนัก เพียงแต่ข้าไม่อาจจะเสียหน้าที่ ดูแลจวนหลังนี้ ไม่ได้ถ้าท่านโหวกลับมาตรวจสอบภายหลัง เสียชื่อข้าหมด เจ้า เร่งสั่งการให้ดีเล่า ฮ่าๆ” กล่าวจบโบกมือให้แม่นมกุ้ยไปทำสิ่งที่ ตนสั่งได้เลย ไม่ต้องอยู่ช่วยนางทางนี้
[ ข้าจะไม่มีวันยอมให้นั่งเด็กนั่น ได้ดีไปกว่าลูกข้า) สายตาที่ มองออกมาถ้ามีใครอยู่ข้างๆรู้สึกเสียวสันหลังกันเลยทีเดียว สายตาที่มีความอาฆาต เจ้าเล่ห์ นางมีมารยาร้อยกระบวนท่า หรือนายท่านจะกล้าหมางเมินนางได้เล่า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ