เศรษฐีบ้าระห่ำ

บทที่ 11 โด่งดังไปทั้งเมือง



บทที่ 11 โด่งดังไปทั้งเมือง

“ขอโทษด้วย เมื่อกี้นี้เป็นความผิดพลาดของฉันเอง นางเอกได้ ตกลงกันไว้แล้ว ไม่ใช่หลินหวั่นนิ่งที่ทำตัวกระตุ้งกระติ้งก่อนหน้า นี้ เป็นน้องสาวไม่แท้ฝั่งพ่อของเธอ คุณหลินเสี่ยวเข่อที่มาจาก บริษัทรับเหมาก่อสร้างหลินซื้อนั่นเอง ได้ข่าวว่าเธอยังเป็นผู้รับ ผิดชอบโครงการอสังหาริมทรัพย์บริษัทอสังหาริมทรัพย์ทานชื่อ ในแถบฝั่งตะวันตกของเมือง เป็นผู้หญิงที่งามและฉลาดทีเดียว เลย!!

พิธีกรในรายการไห่เทียนถ่ายทอดสดถือไมโครโฟน ในมือ ใบหน้าเต็มไปด้วยความอิจฉาที่ซ่อนไม่อยู่

“นั้นเจ้าภาพที่จัดฉากโรแมนติกสุดยอดนี้เป็นใครกันแน่? เชื่อ

ว่าทุกคนล้วนตื่นเต้นเหมือนกันกับฉัน เรามาดูกัน…รีบดูสิ เขา

หันมาแล้ว หันมาแล้ว รีบมาถ่ายใกล้ชิดสิ……”

ท่ามกลางของเสียงกรีดร้อง คนที่บรรเลงเปียโนก็ค่อยๆหันตัว มา

คุณนายใหญ่หลิน หลินเฉิงเจี้ย สามีภรรยาคู่หลินเจี้ยนไห่และ คนอื่นๆล้วนต้องอยู่กับหน้าจอโทรทัศน์

และในเวลานี้ มีผ้ากอซสีชมพูโรยลงมาจากอากาศ คล้ายมุ้ง กลมขนาดใหญ่ ค่อยๆคลุมสนามอยู่ตรงกลาง กลายเป็นพื้นที่ สีชมพูครึ่งวงกลม มีลำแสงสปอร์ตไลท์ส่องเข้ามาพร้อมเสียง บรรเลงดนตรีที่ไพเราะดังขึ้นมา……
ผ้ากอซสีชมพูแม้ว่าจะเป็นแบบกึ่ง ใส แต่ยังมองใบหน้าของ พระเอกได้ไม่ชัด

“เอ๊ะ? อะไรเนี่ย?ถึงยามที่สำคัญที่สุด แต่กลับมีผ้ากอซ สีชมพูกึ่ง ใส่ปิดคลุมลงมา แม้สามารถเห็นได้ว่าพระเอกเป็น ผู้ชายที่ร่างสูงใหญ่และสง่า แต่ยังมองหน้าของเขาได้ไม่ชัด ตกลงเจ้าชายที่ลึกลับคนนี้เป็นใครล่ะ?อย่าเพิ่งรีบร้อน พวกเรา ไปถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกันเถอะ ไม่แน่ผู้ชายคนนี้ อาจยอมให้เราเข้าไปสัมภาษณ์ด้วยนะ……..

พิธีกรนำพาความคาดหวังของคนทั้งเมืองมาถึงหน้าประตูของ บริเวณที่ถูกกักกัน แต่ยังไม่ทันได้อ้าปากก็ถูกอัศวินสองคน ขัดจังหวะ

“ขออภัยด้วย ไม่รับการสัมภาษณ์ใดๆ เชิญออกไปครับ”

ทําอะไรเนี่ย? ทันใดนั้น ทุกคนล้วนถอนหายใจออกมาอย่าง เศร้าโศก ทุกคนต่างเบิกตากว้างอยากจะดูทะลุผ่านผ้ากอซ สีชมพูผืนนั้น แต่เสียดายที่ยังคงมองหน้าตาของผู้ชายได้ไม่ชัด เพียงสามารถเห็นแต่ร่างกายที่สูงใหญ่และสง่าของเขา กำลัง ค่อยๆเต้นรำไปกับหลินเสี่ยวเข่อในท่ามกลางของเพลง

ณ ห้องประชุมของบริษัทรับเหมาก่อสร้างหลินชื่อ

“พวกคุณดูสิ นั่นเป็นจูหมิงหรือเปล่า?ดูจากร่างแล้วมันคล้าย มากเลยนะ แต่เขามีเงินมากขนาดนั้นได้ยังไง?”สีหน้าของ คุณนายใหญ่หลินน่าเกลียดมาก

หลินเฉิงเจี้ยเอ่ยเสียงเย็นชาออกมาเสียงหนึ่ง”จะเป็นไอ้ขยะคนนั้นได้ยังไง?พวกคุณลองคิดดูสิ ถ้าหากเขารวยขนาดไหน จะ เป็นไปได้ยังไงที่กล้ำกลืนความอัปยศในครอบครัวของเรามา นานขนาดนี้ ฉันว่าต้องเป็นของหลินเสี่ยวเข่อแน่ๆ เธอกลัวว่า จะถูกเปิดเผย ดังนั้นจึงแสร้งทําเป็นเร้นลับ”

“ใช่แล้ว ถ้าหากเป็นไอ้ขยะคนนั้น เขาจะต้องเปิดเผยให้คนทั้ง เมืองมานานแล้ว เอ๊ะ พวกคุณเดาดูว่าของหลินเสี่ยวเขือเป็น ใคร ดูจากภาพพจน์ที่งดงามอลังการเช่นนี้ อย่างน้อยต้องมีฐานะ พอๆกับตระกูล หรือว่า……..หลินเฉินจังนึกถึงหานหญิงขึ้นมา

คุณนายใหญ่หลินและหลินเฉิงเจียก็เข้าใจขึ้นมาทันที หานห งให้ความสำคัญกับหลินเสี่ยวเขือมากขนาดนั้น เป็นเพราะที่ ลึกลับคนนั้นหรือเปล่า?

ภายในผ้าก๊อซสีชมพูที่โรแมนติก หลินเสี่ยวเชือกอดกับจูหมิง และเต้นลีลาศอยู่ เธอรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันที่สวยงาม

จูหมิงใส่ชุดสูทสีขาว ตัดเย็บได้อย่างเหมาะสม ผมของเขา เรียบร้อยและพิถีพิถัน ภายใต้แสงสวยเผยให้เห็นใบหน้าที่หล่อ เหลาของเขาซึ่งดูสูงส่งและลึกลับ เมื่อเทียบกับไอ้ขยะของวัง ปกติ มันช่างราวกับฟ้ากับดินหรือเกิน

“คุณสามีคะ ทำไมคุณถึงทำเช่นนี้ล่ะ?ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก เท่าไหร่?”หลินเสี่ยวเข่อรู้สึกเจ็บปวดปวดใจมาก

“ขอให้คุณดีใจจะจ่ายเงินขนาดไหนก็ล้วนคุ้มค่า คุณดีใจ ไหม?”สายตาของจูหมิงเต็มไปด้วยความอบอุ่น หลินเสี่ยวเขือพยักหน้า ขอบตาค่อนข้างจะเปียก
“คุณเอาเงินจากที่ไหนมา? แล้วคุณเล่นเปียโนเป็นมานั้นแต่ เมื่อไหร่?”

“เสี่ยวเขือ อย่าเพิ่งถามพวกนี้ ให้พวกเราสนุกกับฉากต่อหน้า นี้ก่อน ได้ไหม?”จูหมิงยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น “ความฝันนี้คือสิ่งที่คุณปู่สัญญากับคุณ ถ้าหากฉันทำไม่ได้ จะ

มีสิทธิ์อะไรที่จะอยู่กับคุณได้ล่ะ?เสี่ยวเข่อ คุณเดาดูสิ ตอนนี้คุณ

กำลังดูอยู่บนสวรรค์หรือเปล่า? เขาจะดีใจไหม?”

หลินเสี่ยวเขือพยักหน้า น้ำตาไหลลงมาอย่างบังคับไม่อยู่ มือ คู่หนึ่งกอดเขาไว้อย่างแน่น

“คุณสามี …..ฉันกลัวมาก?”

“คุณกลัวอะไร?”

“คุณเป็นคนรวยจริงๆหรือเปล่า หรือว่าแค่ไปยืมเงินมา มากมายเพื่อจัดฉากนี้ขึ้นมา?”

“คนร่ำรวยกับคนยากจนที่ไร้ประโยชน์ คุณอยากให้ฉันเป็น แบบไหน?”

“ฉันหวังว่า…….ฉันหวังว่าคุณยังเป็นคนยากจนที่ไร้ประโยชน์ เหมือนเดิม……”

“อ๊ะ?ทำไมล่ะ?จูหมิงมึนงง

“ถ้าเป็นเช่นนี้ก็จะไม่มีคนอื่นมาแย่งคุณกับฉันแล้ว … ฉันไม่ ต้องการคุณมีเงิน มีความสามารถ ฉันแค่หวังว่าคุณสามารถอยู่เคียงข้างฉันได้ ฉันหวังว่าจะสามารถเห็นคุณได้ทุกวัน….! หลิน เสี่ยวเยอร้องไห้ออกมาอย่างรุนแรง

ร่างกายของจูหมิงสั่นสะเทือนขึ้นมา และร้องไห้ออกมา มีคลื่น ยักษ์เกิดขึ้นในใจ นี่ก็เป็นสิ่งที่เขาอยากได้ แต่ว่า…..

“คุณสามีคะ ฉันกลัวมากๆ โลกนี้เหมือนเล่นเล่ห์เหลี่ยมกับฉัน อยู่ ตอนที่ฉันมีความสุขมากที่สุด ความสุขนั้นก็จะหายไปใน วินาทีต่อมาอย่างรวดเร็ว คุณปู่เสียชีวิต พ่อก็ถูกไล่ออกไปจาก กรรมการของบริษัท ตอนนี้ฉันรู้สึกว่ามีความสุขอยู่ แต่ก็หวาด กลัวมาก”

“ฉันกลัวว่าวินาทีต่อไปความฝันนี้ก็จะแตกสลาย คุณจะ หายตัวไป…….

จูหมิงอยากจะหัวเราะ แต่น้ำตากลับไหลลงมาอย่างบังคับไม่

ได้ เขากอดหลินเสี่ยวเข่อไว้อย่างแน่น อยากจะให้เธอรับความ

อบอุ่นจากร่างกายของตัวเอง

“เสี่ยวเข่อ คุณไม่ต้องห่วง………จะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป”

ทั้งสองคนกอดตัวกันไว้อย่างแน่น จนกว่าไฟทั้งหมดดับลง ภายใต้การปกป้องของอัศวิน ทั้งสองคนเดินเข้าไปในห้องพัก ผ่อนวีไอพีชั้นหนึ่งของวันเส็ง พลาซ่า หยวนเซอหวู่นั่งรออยู่ที่นั่น

มานานแล้ว

“เสี่ยวเข่อ วันนี้คุณสวยมาก”ดวงตาของหย่วนเซอหมู่ค่อนข้าง บวมแดง ไม่ทราบว่าเมื่อกี้เพิ่งร้องไห้ไปหรือเปล่า
“เสี่ยวเข่อ คุณเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน เดี๋ยว…..เดี๋ยวฉันมาหาคุณ

นะ”

” โอเค!”

จูหมิงยืนอยู่หน้าห้อง ใบหน้าเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์

“คุณสามี เป็นไรหรอคะ?ฉันจะเปลี่ยนเสื้อแล้วนะ?”หลินเสี่ยว เข่อรู้สึกแปลกใจ

“โอเค คุณจําไว้นะ เดี๋ยวฉันจะมาหาคุณหมิงยิ้ม

“โอเค คุณสามี ฉันจะรอคุณนะ!”

ประตูห้องค่อยๆปิดลง สายตาของจูหมิงค่อยๆพร่ามัวขึ้นมา ฉากของวันนั้นเผยมาอยู่ต่อหน้าอีก

ครั้ง

“ลูกชาย ฉันได้หาคนไปลบร่องรอยการจบทะเบียนสมรส ระหว่างคุณกับหลินเสี่ยวเข่อ ตั้งแต่บัดนี้ไปต้นไป คุณไม่มีความ สัมพันธ์กับเขาอีกแล้ว”

“แม่ คุณอยากจะให้ฉันไปตายเหรอ?”

“นี่เป็นคำสั่งของท่านปู่ ตอนนี้ตระกูลประสบกับวิกฤตอัน รุนแรงอยู่ คุณยังมีอารมณ์มาพลอดรักอีกเหรอ? นี่เป็นคำสั่ง…….

“ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ฉันไม่ใช่คนของตระกูลจูอีก คุณไม่มี สิทธิ์มายุ่งกับฉัน”

“โอเค ถ้าหากคุณไม่ยอมรับ ฉันจะสั่งให้หยุดโครงการของฝั่งตะวันตกของเมืองทันที สัญญาการยืมเงิน1000ล้านอยู่ที่นี่ คุณ ลองดูสิ คุณอยากจะหลินเสี่ยวเข่อได้เห็นตระกูลหลินล้มละลาย จากนั้นไปติดคุกอีก 30ปีหรอ?”

“แม่ คุณ โหดเหี้ยมหรือเกิน!!

“นี่เป็นคำสั่งของท่าน มีข้อสงสัยอะไร คุณกลับไปถามเขา เถอะ!แต่แม่สามารถให้เวลาคุณอีกหนึ่งวัน ให้คุณไปทำเรื่องที่ คุณอยากทำให้เสร็จ”

จูหมิงเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาในดวงตา จากนั้นเดินไปชั้นบนสุด โดยเดินไปด้วยพร้อมหันมาตลอด

“คุณชาย เรื่องของตระกูลสำคัญกว่าครับ”บอดี้การ์ดพูดโน้ม น้าวใจ

“ในสายตาของฉัน ตระกูลไม่เห็นจะสำคัญตอนไหนเลย แต่ก็

ถึงเวลาที่จะไปคุยกับท่านปู่สักหน่อยแล้ว”

จูหมิงหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์ที่จอดอยู่ ชั้นบนสุด

ภายในห้องพักของชั้นหนึ่ง สีหน้าของหย่วนเซอหวี่แย่มาก เหมือนมีคำพูดอะไรติดค้างในใจ แต่หลินเสี่ยวเข่อกลับดีใจมาก ร้องเพลงอยู่ข้างๆ และมองไปทางประตูอยู่เรื่อยๆ

“เสี่ยวเข่อ จูหมิงเขา……”

“คุณอย่าถามเลย ฉันก็ไม่รู้ รอให้เขากลับมาเขาจะมาบอกกับ ฉัน”หลินเสี่ยวเข่อยิ้มอย่างมีความสุขมาก
“เสี่ยวเข่อ เขาจะไม่กลับมาแล้ว นี่เป็นจดหมายที่เขาฝากฉัน เอาให้คุณ”หยวนเซอหยื่นจดหมายซองหนึ่งมาอย่างลังเล

อะไรนะ?

รอยยิ้มของหลินเสี่ยวเข่อแข็งตัวขึ้นมา ความหวาดกลัวแพร่ หลายไปทั่วร่างกาย มือที่จับแก้วน้ำอยู่นั่นสั่นไม่หยุด เหมือน กลีบดอกไม้ที่อยู่ท่ามกลางของลมพัด สูญเสียสิ่งพึ่งพาไปนิรัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ