บทที่ 8 ข่าวใหญ่
เมืองไห่เทียนมีข่าวใหญ่มาอีกแล้ว ว่ากันว่า ในวันที่19เดือน พฤษภาคม วันเส็ง พลาซ่าถูกคนปิดไว้ห้ามไม่มีใครเข้าไป แถม ว่ากันว่า อัญมณีสีน้ำเงินหัวใจแห่งท้องทะเลที่เจ้าหญิงไดอาน่า เคยใส่ถูกมหาเศรษฐีสักคนของประเทศเข้ามาด้วย ข่าวนี้แพร่ ออกไป ทั้งเมืองต่างก็พากันออกไปตามๆกัน
ภายในบ้านของหลินเสี่ยวเข่อ
หลิวหลานกำลังเลื่อนดูข่าวในมือถือ จู่ๆก็ตกใจร้องเสียงหลง ออกมา
“ลูก รีบมาดูนี่เร็วเข้า วั่นเส็ง พลาซ่าถูกคนปิดไว้ล่ะ อัญมณี สีน้ำเงินหัวใจแห่งท้องทะเลของลูกก็ถูกคนเช่ามาด้วย เกิดอะไร ขึ้น? หรือว่ามีคนเลียนแบบการขอแต่งงานของลูกงั้นเหรอ?”
“อย่าเรียกซะเสียงดังขนาดนั้น ดูก็รู้แล้วว่าเป็นยัยหลินหวั่น ฉิง ต้องจงใจยั่วยุเสี่ยวเข่อของพวกเราแน่นอน ไม่อย่างนั้นเธอจะ จิตใจชั่วร้ายเลือกวันนี้ได้ยังไงกันล่ะ”หลินเจี้ยนไหโกรธจนสาย หัว
หลินเสี่ยวเข่อพาจูหมิงเข้ามาอยู่ในห้องนอน ตากลมโตเต็มไป ด้วยความสงสัย
“ว้าว คุณคงจะไม่คิดว่าเป็นฝีมือของผมหรอกใช่ไหม? จริงๆ ผมก็อยากนะ แต่สามีของคุณมีเงินมากมายขนาดนี้ที่ไหนกันล่ะ?” หมิงยกไหล่
หลินเสี่ยวเข่อคิดดูแล้วก็ใช่ เข้าไปจูบที่ปากของจูหมิ่งหนึ่งที ก่อนจะจัดของแต่งตัวเตรียมไปทำงาน
เพิ่งมาจะถึงบริษัท เสียงมือถือก็ดังขึ้น เป็นข้อความวีแชทจาก หย่วนเซอหวู่และซูหมี่เพื่อนสนิททั้งสองคน
“เสี่ยวเข่อได้ยินมาบ้างแล้วยัง วันครบรอบการแต่งงานของ เธอ มีคนปิดวันเส็ง พลาซ่าด้วยล่ะ นี่มันยั่วโมโหเธอชัดๆเลย ไม่ใช่เหรอ? ใช่นั่งหลินหวั่นฉิงนั่นหรือเปล่า?”
“ใช่ๆ จงใจเลือกวันนี้ ไร้ศีลธรรมจริงๆเสี่ยวเข่อ เธออย่าเพิ่ง โกรธไปเลย! สู้เธอสลัดจูหมิงนั่นทิ้งไปซะ แล้วเธอจะต้องได้ แต่งงานกับตระกูลร่ำรวยที่ดีกว่าของหลินหวั่นนิ่งแน่นอน”
หลินเสี่ยวเข่อสายหัว เดินเข้าไปในห้องทำงาน
พวกของหลินเฉิงเจียสีหน้าอารมณ์เยาะเย้ย เห็นได้ชัดว่ารู้ข่าว นั่นกันหมดแล้ว โดยเฉพาะหลินหวั่นฉิง สีหน้าสะใจ ถึงขั้นมอง ด้วยสายตาเหยียดหยามราวกับเห็นคนอื่นเป็นมดเป็นปลวก สายตานั้น
“วันที่19พฤษภาคม มีคนปิดวันเส็ง พลาซ่า ต้องใช้เงินเท่าไร ถึงปิดได้กันนะ อย่างน้อยก็ประมาณสองแสนนะ”พวกหลินเฉิง เจี่ยหัวเราะเยาะ
“คิดมากไปแล้ว ปิดวั่นเส็ง พลาซ่าหนึ่งชั่วโมง ก็สามแสน แล้ว”หลินหวั่นฉิงภูมิอกภูมิใจสุดๆ
“เธอรู้ได้ยังไง? หรือว่าคือคุณชาย? โอ้หลินหวั่นฉิง ตอนนี้ มันแทบจะทำให้ทั้งเมืองช็อกแล้วนะ เธอนี่มันเป็นหน้าเป็นตา ของตระกูลเราจริงๆ! ไม่เหมือนกับคนบางคน ที่ทำให้คนต่าง พากันหัวเราะเยาะ
หลินเสี่ยวเข่อ ในใจรู้โกรธสุดๆ แต่สีหน้ากลับทําเป็นไม่ได้ รู้สึกอะไร
“หลินเสี่ยวเข่อ เธออิจฉาไหม? ในใจลุกเป็นไฟแล้วใช่ไหม ล่ะ?”หลินเฉิงเจี่ยตั้งใจเยาะเย้ย
“เกี่ยวอะไรกับฉัน? ฉันมีความสุขดี ขอบใจ” หลินเสี่ยวเข่อ
สีหน้าไร้อารมณ์
ฮ่าๆ ! พวกหลินเฉิงเจี๊ยหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
พอคุณนายใหญ่หลินเดินเข้ามา ทุกคนจึงได้เงียบลง เริ่มเปิด พิธีอย่างเป็นทางการ
“ไม่ตรวจไม่พบ! ที่แท้เงินของบริษัทถูกคนทำขาดทุนไปเยอะ ขนาดนั้น เหอะ! พวกแกฟังฉันนะ ฉันจะไม่คิดบัญชีก่อน ในทันที แต่เรื่องของโปรเจกต์ฝั่งตะวันตก ห้ามไม่ให้ใครทำพังเป็นอัน ขาด”
พอพูดจบ พวกหลินเฉิงเจียสีหน้าก็บิดเบี้ยวทันที พวกเขามี ส่วนเอี่ยวด้วยเหมือนกัน
คุณนายใหญ่หลินโกรธจนหน้าเริ่มแดง ถ้าไม่ใช่เพราะว่าโปร เจกต์ฝั่งตะวันตกต้องใช้เงินในการจัดซื้อวัสดุก่อสร้าง เธอก็ยังคงไม่รู้ว่าจริงๆแล้วบริษัทกลวงเหลือแต่เปลือก ตอนนี้ก็เซ็น สัญญาการร่วมมือแล้ว เหลือแค่รอวัสดุก่อสร้างเข้ามาถึง นี่เป็น เงินจํานวนมาก
“ใช่แล้ว เรื่องการชำระเงินพันล้านเป็นยังไงบ้าง? “คุณนาย
ใหญ่หลินมองผู้คนในงาน
“ย่า ธนาคารแค่ได้ฟังว่าตระกูลหลินของพวกเราต้องการจะกู้ เงิน แม้แต่จะพูดยังไม่ให้โอกาสผมได้พูดเลยหลินเฉิงเจี๋ยหน้า
แดง
“ผมก็เหมือนกับเฉิงเจีย ท่านประธานของธนาคารเฮติสนิทกับ ผมมาก เขาเผยข้อมูลออกมานิดหน่อย บอกว่าบริษัท อสังหาริมทรัพย์หานซื่อจงใจไม่ให้พวกเขาปล่อยให้เรากู้เงิน อยากจะทดสอบความสามารถของพวกเราตระกูลหลิน ก็
คุณนายใหญ่หลินพยักหน้า ถ้าเกิดเป็นแบบนี้ก็ลำบากซะแล้ว สิ ถ้าไม่เอาความสามารถออกมาสักนิดล่ะก็ เกรงว่าบริษัท อสังหาริมทรัพย์ทานชื่อจะกลับใจแน่นอน พอคิดถึงตระกูล ก็ หันหน้าไปยังหลินหวั่นฉิง
“ย่า อย่ามองหนู แม้ว่าหนูจะเป็นคนของตระกูล แต่ตอนนี้ก็ ยังไม่ได้เข้าไปเลย ท่านจะให้หนูไปยืมหน้าด้านๆไม่ได้นะ ถ้าเกิด ไปยุให้เหวินโกรธแล้วไม่เอาหนูขึ้นมาจะทำยังไง?”หลินหวั่นนิ่ง ถอยไปข้างหลังเล็กน้อย
“ใช่ๆ ตระกูลฉี่กำลังเตรียมให้การขอแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ให้กับหวั่นนิ่งอยู่ ย่า เรื่องนี้อย่าให้กระทบเธอจะดีกว่านะครับ ใช่แล้ว ท่านลืมไปแล้วเหรอว่าในตระกูลพวกเรามีคนเก่งอยู่คนหนึ่ง หลินเฉิงเจียสีหน้ายิ้มอย่างชั่วร้าย
“ใช่ๆ หานหยุงคนที่รับมือยากขนาดนี้ถูกหลินเสี่ยวเขือเจรจา จนสําเร็จไปได้ด้วยดี เรื่องเงินพันล้านมันจิ๊บจ๊อยมาก สําหรับ ตระกูลหานแล้วขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก ให้หลินเสี่ยวเพื่อไป เจรจาดูสิครับ ให้หานหยุงจ่ายเงินในส่วนของวิศวกรรมให้กับ พวกเราล่วงหน้าก่อน แต่ก็เรียบร้อยแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ถูก ใช่ๆ! ให้หลินเสี่ยวเข่อไปแทน
ผู้คนต่างพากันพูดออกมา
“ย่า ต่อให้หน้าหนูจะใหญ่กว่านี้ มันคุ้มกับพันล้านเหรอ?” หลินเสี่ยวเขือไม่เต็มใจ ต่อให้ความสัมพันธ์ของหานหญิงกับห มิงจะดีกว่านี้ แต่เรื่องใหญ่ขนาดนี้ก็ทำให้รู้สึกลำบากใจมากอยู่ เหมืนกัน
“หลินเสี่ยวเข่อ แกต้องไป นี่เป็นคำสั่ง ถ้าแกทำไม่สำเร็จ ตระกูลหานจะต้องเปลี่ยนคนร่วมมือแน่นอน ถึงตอนนั้นโปรเจกต์ ก็จะไม่มีแล้ว ตำแหน่งผู้รับผิดชอบของแกก็เป็นไม่ได้แล้วเหมือน กัน”คุณนายใหญ่หลินฉลาดหลักแหลม
หลินเฉิงเจียพอเห็นแบบนี้แล้วก็กระตุ้นคนอื่นๆทันที” ใช่ๆ นี่ เป็นโปรเจกต์ที่เธอเอามา เธอต้องรับผิดชอบให้ถึงที่สุด ถ้าเกิด เธอยืมเงินพันล้านมาไม่ได้ ก็ใสหัวออกไปจากตระกูลหลินซะ”
“ความสัมพันธ์กับหานหยิ่งดีขนาดนั้น ถ้าเกิดจัดการไม่ได้ ก็แสดงว่าไม่ใส่ใจ ยังจะมีหน้าอยู่ที่ตระกูลหลินต่ออีกเหรอ?”หลิน หวั่นฉ่งเสริม
หลินเสี่ยวเข่อทั้งโกรธทั้งทำอะไรไม่ได้ แต่พอคิดถึงจูหมิง เธอ ก็มีความมั่นใจขึ้นมาไม่น้อย หรือบางทีอาจจะลองดู
“ถ้าอย่างนั้นฉันโทรไปถามตอนนี้เลยแล้วกัน”
พอพูดจบ เหล่าบรรดาผู้คนก็ระเบิดหัวเราะออกมา
“หลินเสี่ยวเข่อ เธอไม่สนใจอนาคตของตระกูลหลินแล้วใช่ ไหม? แค่โทรศัพท์สายเดียวจะจัดการได้อย่างนั้นเหรอ?”หลิน เฉิงเจี๊ยข่ายกใหญ่
“ใช่ หลินเสี่ยวเข่อ เธอยิ่งอยู่ยิ่งทำตามอำเภอใจแล้วนะ จงใจ ทําให้ไม่สําเร็จใช่ไหม?”
หลินเสี่ยวเข่อรู้สึกโกรธแล้ว คนพวกนี้ ตัวเองไม่ยอมทำแล้ว
ยังจะมาหัวเราะเยาะเธออีก
“ได้ ถ้าหนูกู้เงินพันล้านมาได้ ขอให้ยาช่วยสัญญาเรื่องเรื่อง หนึ่งด้วยแล้วกัน ให้สิทธิ์หนูในการบริหารงบของฝั่งตะวันตก ทั้งหมด”
“ไม่ได้! เธอ โลภเงินจนบ้าไปแล้วเหรอ?”หลินเฉิงเจี่ยตื่น ตกใจ
ถ้าเกิดให้หลินเสี่ยวเข่อเป็นคนรับผิดชอบงบประมาณล่ะก็ พวกเขาจะแอบยักยอกเงินได้ยังไง? นั่นมันตั้งพันล้านนะ แอบ ยักยอกไปสักนิดก็ทำให้พวกเขาใช้จ่ายฟุ่มเฟือยไปได้อีกตั้งหลายปี
“ได้ ถ้าแกกู้เงินพันล้านมาได้ ก็จะให้ตามที่แกขอ”คุณนาย ใหญ่หลินเด็ดขาดสุดๆ
ทุกคนเงียบสนิทลงทันที ต่างกลั้นลมหายใจ มองหลินเสี่ยว เขือที่กำลังโทรศัพท์ออกไป
“เปิดลำโพง! ”
หลินเสี่ยวเยอทําอะไรไม่ได้ จึงต้องเปิดลำโพง
“ฮาโหลประธานหาน ฉันหลินเสี่ยวเข่อค่ะ เอ่อ เนื่องจาก กองทุนของเราขัดสน……
“ต้องการเท่าไร?”
“เอ่อ? พันล้านค่ะ”
“ได้ คุณมาที่ห้องทำงานผมก่อน ผมจะจ่ายให้คุณ แต่คุณต้อง มาเซ็นด้วยตัวเอง แล้วต้องเป็นคุณที่เป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด ด้วย”
อะไรกัน?
คุณนายใหญ่หลินก็ตกตะลึง นี่มันตั้งพันล้านนะ ทำไมทางฝั่ง ของหานหยั่งถึงดูเหมือนจะขอร้องให้หลินเสี่ยวเข่อกู้ยืมอย่างไร อย่างนั้นล่ะ? นี่มันเกิดอะไรขึ้น? หลินเสี่ยวเข่อสำคัญขนาดนี้เลย เหรอ? ต่อให้เธอหน้าหนา ก็เกรงว่าจะเป็นไปไม่ได้อยู่ดี
“หลินเสี่ยวเข่อ เธอไปทำเรื่องอะไรที่มันไร้ศักดิ์ศรีหรือเปล่า?ไม่อย่างนั้นหานหญิงจะเต็มอกเต็มใจให้กู้ขนาดนั้นอย่างได้ยัง ไง? “ความคิดแรกของหลินหวั่นฉิงก็คือเธอจะต้องไปร่วมหลับ นอนกับหานหยุงแล้วแน่ๆ
“ใช่หลินเสี่ยวเข่อ เธอทำแบบนี้เท่ากับกำลังบ่อนทําลายชื่อ
เสียงของตระกูลหลินอยู่นะ”
“หุบปาก จะเป็นไปได้ยังไง? ฉันกับจูหมิงรักกันมาก จะไปทำ เรื่องที่ไม่ให้เกียรติเขาได้ยังไง! “หลินเสี่ยวเขือโมโหแล้ว
“พอได้แล้ว พวกแกหุบปากเดี๋ยวนี้ ตัวเองทำไม่ได้แล้วยังจะ บังคับให้เสี่ยวเข่ออีก ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเสี่ยวเข่อบริษัทก็จบ สิ้นไปนานแล้ว ถึงตอนนั้นพวกแกก็ไม่มีอันจะกินแน่นอน” คุณนายใหญ่หลิน โมโหสุดๆ
เนื่องจากเรื่องมันเร่งด่วนมาก หลินเสี่ยวเข่อจึงนั่งรถของ บริษัทไปยังสำนักงานโปรเจกต์ฝั่งตะวันตกของบริษัท อสังหาริมทรัพย์หานซื่อ หานหญิงมีมารยาทมาก เชิญให้หลิน เสี่ยวเข่อนั่งลงด้วยตัวเอง ให้เลขานำข้อตกลงการกู้ยืมเงินมา
“คุณเสี่ยวเขือแม้ว่าผมจะยินยอมให้เงินคุณล่วงหน้า แต่นี่มันก็ ถือว่าฝ่าฝืนกฎของตระกูลหาน ดังนั้นบนเอกสารจึงเขียนอย่าง ชัดเจนว่าคุณค้ำประกันเงินกู้พันล้าน จากนี้ไปก็จะหักเงินจากค่า ใช้จ่ายในส่วนของวิศวกรรมก็แล้วกัน คุณดูหน่อยว่าโอเคหรือ เปล่า?”
ค้ำประกันคนเดียว? หนึ่งพันล้าน หลินเสี่ยวเข่ออึ้งตะลึง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ