บทที่ 12 การสอบ
เช้าวันรุ่งขึ้น มู่หยุนขับรถไปที่บ้านตระกูลหว่าง
ครอบครัวตระกูลหว่างทั้งสามคนกำลังทานอาหารเช้า “ไม่ได้เตรียมส่วนของนายไว้” ซุนจิ้งเหลือบมองไปที่หมุน
“ผมกินมาแล้ว”
หวางตงเหอวางขนมปังในมือลงและเอ่ยย้ำอีกครั้ง “มู่หยุน ฉันขอเตือนนาย ไม่กี่วันนี้นายควรรีบไปขอขมาตระกูลหลและแก้ ปัญหาที่แม่ของนายไปทำให้ตระกูลหลี่โกรธซะ ได้ยินไหม? อย่า มัวแต่ทำตัวไร้สาระไปวันๆ
เมื่อเอ่ยถึงแม่ของตน สีหน้าของมู่หยุนก็จมลงทันที แต่เมื่อเขา เห็นสายตาหวางเป็นหนที่คอยส่งสัญญาณให้ไม่หยุด จึงได้แต่ ตอบเสียงต่ำ “พ่อตา อีกไม่กี่วันจะเป็นวันครบรอบของแม่ผมแล้ว ผมเตรียมพร้อมที่จะชำระความแค้นกับตระกูลหลีในวันนั้น
“ทำไม ก้มขอขมายังต้องเลือกวันพิเศษด้วยหรือไง?” ซุนจิ้ง แค่นเสียง “ตอนแรกฉันก็คิดว่า แม่ของนายกล้าทำกล้ารับ อีก ฝ่ายไม่ยอมโผล่หัวออกมา เธอก็ยังจะเต้นไปมา
“เป็นไง สุดท้ายไม่เพียงแค่ไปทำให้ตระกูลหลี่โกรธ แต่กลับ ยังไม่ได้ผลลัพธ์อะไรกลับมา แถมยังทิ้งชีวิตเล็กๆ ไปอีก”
“คนเราน่ะ อย่าได้โลภ”
“พูดให้น้อยหน่อย รีบๆ กิน” หวางตงเหอไม่ชอบเรื่องราว เก่าๆ พวกนี้ เขากินต่อสองสามอย่างลวกๆ ก่อนจะเปลี่ยน เสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวออกไปข้างนอก
“ฉันก็อิ่มแล้ว” หวางเยนหวั่นเบื่ออาหาร เมื่อทานขนมปังเสร็จ เธอก็เดินออกจากบ้านด้วยสีหน้าตึงเครียด
“นี่รถคุณเหรอ?” หวางเยนหวั่นมองเห็นรถดัดแปลงพิเศษขอ งมู่หยุน ดวงตาปรากฏความอ่อนใจ เธอยกมือขึ้นและเคาะที่ กรอบโลหะด้านนอก “นี่มันยี่ห้ออะไรหรือ ทำไมฉันไม่เคยเห็นมา ก่อน?”
มู่หยุนยิ้มและไม่ตอบ
นี่คือรถที่ดัดแปลงมาพิเศษของเขา มีเพียงคันเดียวในโลก จะ มีแบรนด์ได้อย่างไร
ในตอนนั้นเองหวางตงเหอเพิ่งออกมาจากบ้าน เมื่อเห็นรถขอ งมู่หยุนก็หัวเราะเยาะ “ฉันควรให้คำแนะนำกับกระทรวงการ ขนส่งหน่อยว่ารถประกอบเองแบบนี้ไม่ควรอนุญาตให้ใช้งานบท ท้องถนน ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยออกจะมากเกินไป หน่อย” เขาเหลือบมองหวางเยนหวั่น “ระวังหน่อย ไม่งั้นก็เรียก แท็กซี่ไปเถอะ”
“พ่อของฉันก็แค่หวังดี” หวางเยนหวั่นกล่าวอย่างหมดหนทาง
“ไม่เป็นไร ฉันชินแล้ว” มู่หยุนยักไหล่
ไม่นาน ทั้งสองก็ขับรถไปถึงลานจอดรถชั้นใต้ดินของกรมประเมิน วันนี้เป็นวันสอบ สถานที่จอดรถเต็มไปด้วยรถหลาก หลายชนิดจนเกือบหมด
ไม่นาน มู่หยุนก็พบที่จอดรถ และเตรียมที่จะเข้าจอด
ใครจะรู้ว่าในตอนนั้นเอง จู่ๆ ผู้หญิงคนหนึ่งก็เข้ามายืนอยู่ที่ หน้าที่จอดรถ
เป็นพี่สาวของหวางเยนทรัน หวางทรง
“โอ๊ะ เยนหวั่นนี่เอง” หวางทรงยืนขวางอยู่หลังรถและมองไปที่ หวางเป็นหนที่อยู่ด้านในอย่างเย้ยหยัน
หยุนกวาดตามอง ก่อนจะกดแตร
“ถอยไป”
หวางทรงดูถูกรถของมู่หยุน “ถอยอะไร ที่จอดรถนี่เป็นของเล่อ เล่อ รถเส็งเคร็งของนายไปหาที่จอดมั่วๆ เอาสักที่ก็ได้แล้ว”
“พี่สาว เห็นชัดๆ ว่าพวกเรามาก่อน” หวางเยนหวั่นมุ่ยปาก สีหน้าไม่พอใจ
ในเวลานี้เองก็มีรถ BMW มาจากอีกด้านหนึ่ง ซึ่งก็คือรถของ เงินเล่อ
ในไม่ช้า BMWก็เข้าจอดรถทันทีโดยไม่สนใจการมีอยู่ของ หยุน จากนั้นประตูรถก็เปิดออก เสิ่นเล่อและ หวังเขากระโดดลง จากรถมา
“เล่อเล่อ” หวางทรงเข้าสู่อ้อมอกของชายหนุ่มอย่างออดอ้อน
เงินเล่อหัวเราะห์ และผลักหวางทรงออกอย่างเงียบๆ ก่อนจะ หยุดอยู่ที่ข้างรถของมู่หยุนและมองดูอย่างประเมิน ก่อนจะ หัวเราะ “หยุน ใครทำรถดัดแปลงให้นายกัน ขับรถแบบนี้ไม่ ต้องพูดถึงเรื่องน่าขายหน้า แถมยังอันตรายอีกต่างหาก”
มู่หยุนไม่ใส่ใจพวกเขา เขาเหยียบคันเร่ง ก่อนจะปิดท้ายด้วย เสียงหัวเราะของหวังเชา “ขับรถแบบนี้ คิดอยากจะไปเกิดใหม่ เร็วๆ หรือไง?”
หลังจากวนไปสองรอบถึงค่อยหาที่จอดรถได้ในที่สุด เมื่อมาถึงห้องสอบ หน้าประตูห้องก็เต็มไปด้วยผู้คน หวางเยนหวั่นเดินไปยังทิศทางของสนามสอบกรมทรัพยากร น้ำอย่างเงียบๆ
ใครจะรู้ว่า เธอเพิ่งจะเคลื่อนไหวก็ถูกหยุนตั้งไว้
“สนามสอบของกรมสรรพากรอยู่ที่นี่
หวางเขน รับส่ายหัว “ไม่ได้ ไม่มีรายชื่อ ฉันไม่มีทางเข้าได้ เลย”
รายชื่อผู้สอบติดราชการทุกคนล้วนมีสูงส่งอย่างยิ่ง หากไม่มี รายชื่อแม้กระทั่งประตูยังเข้าไปไม่ได้
มู่หยุนมองไปที่หวางเยนหวั่นและพูดอย่างจริงจัง “ไม่สอบแล้ว จะรู้ได้ยังไง? เชื่อฉัน มาเถอะ”
หวางเยนหรับถอนหายใจ “พี่มู่ อย่าก่อเรื่องเลย ที่นี่คือ ที่คือสนามสอบ
หยุนยิ้มน้อยๆ “ถ้าฉันทำให้เธอเข้าสอบไม่ได้ จากนี้ไปฉันจะ ใช้นามสกุลของเธอ
หวางเยนทรันตอบกลับอย่างหมดหนทาง “หรือว่าฉันจะต้อง เรียกพี่ว่าหวางหยุนให้ได้? ก็ได้ ฉันเข้าไปก็ได้
ในเวลานั้นเอง มู่หยุนยกมือขึ้นแตะศีรษะของหวางเป็นหน แต่เธอกลับหลบหน้าอย่างเย็นชา
เธอยิ้มอย่างหมดหนทาง ก่อนจะไปยังหน้าห้องสอบของกรม
สรรพากร
ในเวลานี้ หวางทรงและ หวังเขากำลังเดินมาอย่างสบาย ๆ “พี่หวาง พี่มาผิดตำแหน่งหรือเปล่า นี่คือห้องสอบของกรม สรรพากร กรมทรัพยากรน้ำน่าจะอยู่ตรงนั้นต่างหาก”
หวังเขามองไปที่พวกม่หยุนอย่างสะใจ
หวางทรงเองก็เอ่ยเสริม “ไม่มีรายชื่อ เธอจะเข้าไปก็ยังเข้าไม่ ได้”
มู่หยุนเอ่ย “ในเมื่อมาแล้ว ไม่ลองจะรู้ได้ยังไง
หวังเขาหัวเราะ “ไอ้หน้าโง่แซม ไม่ว่าจะบอกว่าแกไม่รู้ หรือแก ไร้สมองก็ดี แต่เรื่องคุณสมบัติแบบนี้สามารถลองได้หรือไง? โง่ หรือไงแกน่ะ”
หวางเขนหนก็หน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอเริ่มสงสัยว่าที่แท้แล้วหยุนเข้าใจหรือไม่กันแน่
“คุณสมบัติการสอบน่ะแกเข้าใจไหม? กฎของการสอบแก เปล่า ถ้าไม่รู้ก็หุบปากไปซะ ไม่มีใครหาว่าแกเป็นใบ้” หวางทรง กล่าว สายตามองมู่หยุนอย่างดูหมิ่น และแผ่นเสียงเย็นชา
ในเวลานั้นเอง เสียงนกหวีดของการสอบก็ดังขึ้น
“พี่จะมามัวเสียเวลาอธิบายให้ไอ้ขยะฟังทำไม พวกกบกัน บ่อ”
“อย่าไปสนใจเขา พวกเราไปสอบกันเถอะ” หวังเซากล่าวและ พาหวางตรงไปที่ทางเข้าห้องสอบ
“ฉันว่านะน้องสาว อย่าดื้อรั้นเลย รีบไปห้องสอบกรม ทรัพยากรน้ำซะเถอะ ถ้าไปช้าแม้แต่ประตูก็เข้าไม่ได้แล้ว หรือว่า ต่อไปอยากจะออกไปทำงานอยู่ข้างนอกกันล่ะ? คิคิ”
เมื่อเห็นพวกหวังเขาสองคนกำลังเดินไปที่ห้องสอบ หวางเขน หนก็หน้าด่าคล้ำ แค่ไปที่กรมทรัพยากรน้ำก็จบแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมต้องดึงดันมาเอะอะที่นี่ ให้ถูกคนเยาะเย้ย
ในตอนนั้นเอง มู่หยุนก็จับมือของหวางเยนหวั่นและเดินไปที่ ห้องสอบ
“คุณจะทำอะไรกันแน่?” หวางเขนหนโกรธขึ้นมาในที่สุด
“ฉันบอกคุณกี่ครั้ง ไม่มีคุณสมบัติเข้าไม่ได้ คุณช่วยรับความ จริงหน่อยได้ไหม?” พูดถึงตรงนี้เธอก็ทั้งกังวลและโกรธจนแทบ จะร้องไห้ออกมา
“เด็กดี พี่มู่เคยโกหกเธอตั้งแต่เมื่อไหร่?” หยุนกอดหวางเขน หวั่นไว้ในอ้อมแขนอย่างนุ่มนวล “เชื่อพี่ชาย เธอเข้าไปได้!
ความมั่นใจของมู่หมุนทำให้ความคิดของหวางเขนหนเริ่ม สั่นคลอน
“ก็ได้ ฉันจะเชื่อใจคุณสักครั้ง
หยุ่นยิ้มน้อยๆ และพาหวางเยนหวั่นไปที่ทางเข้าห้องสอบ เข้า
ขณะนี้มีชายหนุ่มสวมแว่นยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าห้องสอบ เป็นผู้คุมสอบหลี่ซือ
หลี่ซือถือรายชื่ออยู่ในมือ เมื่อมีคนมาเขาจะมองไปที่ป้าย ประจำตัวก่อน จากนั้นจึงดูรายชื่อ “เข้าไปเถอะ
หวังเขาและหวางทรงหันหน้าไปดูหวางเขนหวั่น ก่อนจะมีท่าที หัวเราะเยาะ “ไร้ประโยชน์”
ในไม่ช้าก็ถึงตาของหวังเชา
เขาชูป้ายที่หน้าอกขึ้นมาแล้วเขย่าต่อหน้าหลี่ซื้อและยังไม่วาย หันไปทําหน้าผีใส่หวางเยนหน
“คุณไม่มีคุณสมบัติ” หลี่ซือมองที่รายชื่อรอบหนึ่ง ก่อนจะตอบ กลับไป
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ