บทที่008 ตาพร่ามัว

บทที่008 ตาพร่ามัว

“เลี้ยงคุณไง นี่เป็นทรัพย์สินทั้งหมดของผม แน่นอนว่า

ต่อไปผมจะขยันทํางานให้มากขึ้น” สายตาของลิ่ถิงเซียวนั้นจริงใจมาก โดยเฉพาะตอนที่

บอกว่าจะเลี้ยงหล่อน ทำให้ติ่งหูของซูจิ๋นซีอุ่นๆขึ้นมา

หล่อนคิดว่าเขาก็แค่พูดๆไปงั้น คิดไม่ถึงว่าจะจริงจัง

“ความสัมพันธ์ของเราสองคนก็แค่คืนนั้น ฉันไม่อยากให้ ใครมารับเลี้ยงซะหน่อย”ซูจิ๋นซีพูดจบก็เตรียมออกไป

ลี่ถิงเซียวกลับไวกว่าหล่อน ขวางหน้าซูจิ๋นซีไว้ ตอนนี้เองเขาก็ยังกดซูจิ๋นซีไว้ที่กำแพง

โดนชายหนุ่มกระทำแบบนี้ซูจิ๋นซีก็โมโห

ใครจะรู้ว่าลี่ถิงเซียวกลับเอาบัตรธนาคารในมือยัดใส่มือ ซูจิ๋นซี แล้วใช้น้ำเสียงมั่นใจพูด“ถ้ากล้าปฏิเสธอีก ผมไม่ สนถ้าจะเริ่มคืนที่สองตอนนี้”
ซูจิ๋นซี ” .…

เห็นท่าทางซูจิ๋นซีดูตะลึง ลี่ถิงเซียวก็ลงบนหน้าผาก หล่อน”ตอนนี้ผมมีธุระ เดี๋ยวมาหา”

ชายหนุ่มพูดจบก็ออกไป ซูจิ๋นซีมองบัตรในมือแล้วก็มอง ด้านหลังลี่ถิงเซียวอีกที แล้วก็พูดไม่ออก

หล่อนเอาบัตรเก็บในกระเป๋าเงินตัวเอง ตอนนี้เองเบอร์ ของเสิ่นซือหมิงก็โทรเข้ามา

“จิ๋นซี คุณรีบมาบริษัทที

หลังจากเสิ่นซือหมิงออกคำสั่งก็ไม่เปิดโอกาสให้ซูจิ๋นซี พูด เสียง’ตึกตัก’หนึ่งทีจากนั้นก็ตัดสายทิ้ง

ถึงซูจิ๋นซีจะเดาออกว่าเสิ่นซือหมิงให้หล่อนไปบริษัทบัน เทิงเทียนหยูทำอะไร แต่ตอนนี้มีศัตรูอยู่ หล่อนต้องเล่น เกมส์ตามทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรเหมือนเมื่อก่อนถึงจะพลิก สถานการณ์ได้

ล้มเหลวก็จะไม่เหลืออะไรเลย

ส่วนเสิ่นซือหมิงกับซูฮวนหวั่นสองแพศยานี้ ก็บวกกับที่ ไม่กลัวเพราะมีคนหนุนหลัง มรดกของตระกูลซูทั้งสองพี่น้องก็จะถูกแบ่งด้วย

ในระหว่างที่ขับรถมายี่สิบกว่านาที ในที่สุดซูจิ๋นซีก็ถึง บริษัทบันเทิงเทียนหยูแล้ว

หล่อนเพิ่งถึงหน้าห้องของเสิ่นซือหมิง ก็ได้ยินเสียง ร้องไห้ของซูฮวนหวั่นกับเสียงบ่นด่าของเสิ่นซือหมิง

“เรื่องแค่นี้ก็ทำกันไม่ได้ ผมจะมีพวกคุณไว้ทำไม? ”

ภายนอกของเสิ่นซือหมิงที่อ่อนโยนเหมือนหยกกลับเป็น หัวใจดวงนึงที่ดุเดือดไม่เคารพคนอื่น

ลูกน้องสองสามคนโดนเสิ่นซือหมิงด่าซะเละ ซูจิ่น ซีผลักประตูออกมา สีหน้าเสิ่นซือหมิงก็ค่อยๆคลาย ลง”ไสหัวไปกันให้หมด”

“เป็นไรไป? “ซูจิ๋นซีถามเสิ่นซือหมิงที่เต็มไปด้วยความ โกรธอย่างงงๆ“ใครทำให้คุณเป็นแบบนี้? ”

เสิ่นซือหมิงพูดอย่างเซ็งๆ”ดูเอาเอง”

พูดจบก็เอาโทรศัพท์ให้ซูจิ๋นซี

พอซูจิ๋นซีเห็นข่าวเรื่องที่วันนี้ซูฮวนหวั่นใช้สแตนด์อินในโทรศัพท์ก็เข้าใจ

คิดไม่ถึงว่า kimiจะไวซะจริง อีกอย่างยังเอาเรื่องนี้ปัก หมุดที่ประเด็นฮอตอีก ซูจิ๋นซีแอบดีใจ

“ทําไมเรื่องกลายเป็นแบบนี้ได้? สรุปใครกลั่นแกล้งฮวน หวั่น? “ใบหน้าซูจิ๋นซีมีความโมโห ท่าทางนั้นดูโมโหยิ่ง กว่าตอนที่หล่อนโกรธ

เสิ่นซือหมิงกับซูฮวนหวั่นหลอกลวงซูจิ๋นซีแอบคบกันมา นาน ทั้งสองต่างรู้ความโง่ของซูจิ๋นซียัยผู้หญิงคนนี้

ถูกขายแล้วยังต้องช่วยคนนับเงินอีกซูจิ๋นซีกล้าเรียกที่ สอง ก็ไม่มีคนกล้าเรียกที่หนึ่ง

ดังนั้นเห็นซูจิ๋นซีโกรธก็เลยไม่แปลกใจ

แต่ใครจะรู้ คนบงการที่อยู่เบื้องหลังเรื่องวันนี้ทั้งหมดก็ คือซูจิ๋นซีคนที่พวกเขาคิดว่าโง่

“ถ้าผมรู้ก็ดีสิ”พูดถึงคนที่อัพคลิปเสิ่นซือหมิงก็กัดฟัน อย่างโกรธแค้น”จิ๋นซี เรื่องวันนี้เป็นเพราะความผิดพลาด ของคุณใช่ไหม? บริษัทได้จัดการเรื่องความเสี่ยงเอาไว้ แล้ว เดี๋ยวคุณรอแปปแล้วค่อยไปบอกพวกนักข่าวว่าเป็น เพราะคุณอยากถ่ายละครขึ้นมาก็เลยขอร้องฮวนหวั่น เพื่อนรัก ฮวนหวั่นไม่กล้าปฏิเสธก็เลยยอมให้คุณไปถ่ายฉากนึง

ตอนมาซูจิ๋นซีก็คิดไว้แล้วว่าเสิ่นซือหมิงจะต้องให้หล่อน ไปช่วยเป็นแพะรับบาปแทนซูฮวนหวั่นแน่ๆ

แค่ตอนนี้คำพูดอย่างเย็นชาแบบนั้นออกมาจากปากเขา ซูจิ๋นซีรู้สึกว่าหัวใจโดนฉีกขาดจนเลือดไหล

เป็นแพะรับบาปแล้วหล่อนก็จะถูกคนเป็นร้อยเป็นพันด่า กราด ส่วนซูฮวนหวั่นกลับกลายเป็นเพื่อนรักที่สามารถ ยอมเสียสละทุกสิ่งอย่างได้

นี่คือผู้ชายที่หล่อนรักมาสามปี ผู้ชายที่หล่อนยอมทิ้งทุก

อย่าง

ตาพร่ามัวเสียจริง

“ซือหมิง ทําไมเพื่อให้ฮวนหรั่นพ้นผิด คนที่เป็นแพะ รับบาปกลับต้องเป็นฉันเสมอล่ะ? ศิลปินในบริษัทคุณ สำคัญกว่าฉันที่จะกลายเป็นภรรยาของคุณเหรอ? หรือ ว่า….ฮวนหรั่นสําคัญกว่าฉันอยู่แล้ว? ”

ดวงตาคู่นั้นของซูจิ๋นซีมีน้ำตาไหลออกมา ความโกรธ กลายเป็นความน้อยเนื้อต่ำใจ ตอนนี้หล่อนแยกไม่ออก แล้วว่าตัวเองแกล้งร้องไห้หรือว่าร้องจริงๆ
“ฮวนหวั่นเป็นศิลปินที่เจ๋งที่สุดของบริษัทบันเทิงเทียนห ยู ถ้ามีมลทินล่ะก็บริษัทบันเทิงเทียนหยูจะต้องแย่แน่นอน จิ๋นซียังไงคุณก็ไม่อยู่วงการบันเทิงแล้ว เป็นแพะรับบาป แทนเพื่อนจะเป็นไรไป? ยังไงก็ไม่กระทบอะไรคุณมาก”