ภริยายอดหมอยุควันวาน

บทที่ 15 ต่อไปนี้ให้เรียกว่าพี่สะใภ้



บทที่ 15 ต่อไปนี้ให้เรียกว่าพี่สะใภ้

โตมาขนาดนี้ เส้าเฉินที่ยังไม่เคยมีความรักเลยสักครั้ง จึงยังไม่รู้ว่าเขาถูกหลินฟางหัวนิยามให้เป็นชายเจ้าชู้ไป เสียแล้ว ในขณะนี้เขากำลังขับรถไปพร้อมๆกับหวนนึก ถึงทุกๆสีหน้าท่าทางของหลินฟางหัว ริมฝีปากกระตุกยิ้ม ขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามได้

หลินฟางหัว หัวไวขนาดนั้น ในตอนนี้คงรู้แล้วล่ะเขาเป็น คนจ่ายเงินค่าก๋วยเตี๋ยวให้พวกเธอ

วิธีนี้เขาเห็นมาจากละครโทรทัศน์ของพวกฝรั่ง พระเอก ทําอย่างนี้เพื่อเอาใจนางเอก นางเอกจึงประทับใจเป็น อย่างมากเลยยอมคบหาดูใจกับพระเอก

แล้วฟางหัวล่ะ เธอจะประทับใจหรือเปล่านะ?

เจียงเห้าหรานที่โตมากับเขายังไม่เคยเห็นเขาเป็นอย่าง นี้มาก่อน จึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ว่า “พี่เฉิน คงไม่ใช่ว่าพี่ ต้องตาต้องใจสาวน้อยสยองขวัญคนนั้นหรอกใช่ไหม!

เริ่มแรกเขาคิดว่าเส้าเฉินเพียงแค่หยอกเล่นเท่านั้น คง ไม่ได้ชอบจริงๆหรอก!

“สาวน้อยสยองขวัญอะไร! ”
เส้าเฉินตวัดตามองเขาอย่างเย็นชา “ต่อไปนี้ให้เรียกว่า พี่สะใภ้”

“อ๋อ อย่าบอกนะว่าพี่ต้องตาต้องใจพี่สะใภ้จริงๆ! ” เวลา นี้ เจียงเห้าหรานก็ยังไม่รู้เรื่อง

“ให้นายเรียกว่าพี่สะใภ้ขนาดนี้ นายคิดว่าไงล่ะ?”

เส้าเฉินยื่นมือออกไปตบกบาลของเขาด้วยสีหน้าไม่ได้ ดั่งใจ “ต่อไปเวลาอยู่ข้างนอกห้ามบอกใครนะว่ารู้จักฉัน ฉันไม่มีน้องชายโง่ๆอย่างนาย! ”

“ต่อให้ไม่โง่แต่โดนพี่ตบหัวขนาดนี้ใครๆก็โง่สมองกลับ ทั้งนั้นแหละ”

เจียงเห้าหรานลูบหัวตัวเองน้อยๆ พึมพำเสียงเบาว่า “ผู้ หญิงในเมืองเยนจิงชอบพี่ตั้งหลายคนแต่พี่ก็ไม่ชายตา มองเลยสักคน ใครจะไปคิดว่าพี่จะมาชอบเธอล่ะ….….……

“ฮัดเช้ย——”

หลินฟางหัวที่นั่งอยู่บนรถม้าคันจมูกยิบๆ จึงจามออกมา ยกใหญ่
“ใครกำลังแอบนินทาเนี่ย..……….

หลินฟางหัวขยี้จมูกพร้อมกับเอ่ยพูดออกมาอย่างไม่ จริงจังนัก

“ต้องเป็นไอ้หนุ่มคนไหนสักคนแน่ๆ พอเห็นหน้าตาสวยๆ ของฟางหัวเข้า เลยเอาแต่พร่ำเพ้อหาฟางหัวของเรายังไง ล่ะ!”

หวังต้าถิ่งที่กำลังควบรถม้าอยู่อารมณ์ดีเป็นพิเศษจึงเอ่ย แซวขึ้นมา

“คุณน้าชายพูดอะไรเลอะเทอะ!

หลินฟางหัวแสดงท่าทางโกรธแกมเขินอายออกมาอย่าง เหมาะสมตามวัย

หวังต้าถึงหัวเราะออกมาเสียงดัง แม้แต่เมิ่งเยว่เอ๋อยัง เป็นไปกับเขาด้วย บนรถม้าจึงเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศ ครึกครื้น

กลับเป็นหวังซูอิงที่ค่อนข้างซึม เมื่อนึกถึงชื่อเสียงของ หลินฟางหัวที่ดังกระฉ่อนไปทั่วทุกสารทิศในหมู่บ้าน ทำ อย่างไรก็หัวเราะไม่ออก
หาเงินเป็นแล้วอย่างไร ใช่ว่าจะมีชายหนุ่มบ้านไหน ยินยอมตั้งงานกับผู้หญิงที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่เสียหน่อย?

เธอเชื่องซึมตลอดทางจนมาถึงหมู่บ้าน เมื่อเห็นหลิน หยวนหัวกับเจ้าอู่ซุ่ยมายืนรอพวกเธอตรงทางเข้า อาการ เซื่องซึมถึงได้หดหายไปในที่สุด

อย่างไรเสียตอนนี้ฟางหัวก็คิดอะไรเป็นแล้ว ชีวิตของ พวกเธอต้องดีขึ้นเรื่อยๆอย่างแน่นอน

ในอนาคตมันต้องดีขึ้นกว่าเดิมไม่ใช่หรือ?

ณ ตอนนี้ หวังซูอิงเชื่อมั่นในอนาคตอย่างเปี่ยมล้น

อาหารเย็นในวันนี้คือหมูพะโล้ตุ๋นผักกาด

น้ำซุปหอมกรุ่น หมูสามชั้นเนื้อมันวาว ตักออกมาจาก หม้อร้อนๆพร้อมควันลอยฉุย แค่ได้มองน้ำลายก็ไหลแล้ว

ในยุคนี้ถ้าซื้อเนื้อต้องมีตั๋วเนื้อ ถ้าไม่มีก็ต้องซื้อในราคา ที่สูง

ตลอดทั้งปีแทบจะไม่มีไขมันลงกระเพาะเลย สำหรับ พวกเขาแล้วเนื้อมีมันจึงคุ้มค่ากว่าเนื้อไร้มันเยอะ
“เนื้อที่แม่ซื้อมาวันนี้ไม่เลวเลย!

หวังต้าถึงเอ่ยปากชมพร้อมกับยกอาหารถาดใหญ่มาวาง ไว้บนโต๊ะ

“คือแบบนี้ ฉันจองเอาไว้ตั้งนานแล้ว ว่าตอนล้มหมูให้ เหลือส่วนที่ดีที่สุดไว้ให้

เมื่อลูกชายเอ่ยชม เจ้ายู่ซุ่ยก็ไม่สามารถปกปิดรอยยิ้ม บนหน้าเอาไว้ได้ “หยวนหัวฟางหัวรีบๆกินซะนะ ครั้งนี้ ยายซื้อเนื้อมาเยอะ อีกครึ่งหนึ่งยายว่าจะเหลือเอาไว้ ทำเนื้อหมัก อีกสองสามวันเอาไปตากแดดก็กินได้แล้ว ล่ะ! ”

“เนื้อหมักฝีมือคุณยายอร่อยที่สุดเลย! ” ”

หลินหยวนหัวร้องออกมาอย่างดีอกดีใจ นัยน์ตาเปี่ยม ล้นไปด้วยความคาดหวัง

“รีบกินเถอะ เดี๋ยวก็หมดก่อนเสียหรอก!” เจ้ายู่ชุ่ยออก คำสั่ง ทุกคนจึงหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหาร

“อร่อยมาก!

หวังต้าถิ่งบิหมั่นโถวออก จากนั้นก็จิ้มลงในน้ำซุปแล้วเอาเข้าปาก เขาหลับตาพริ้มลงอย่างเคลิบเคลิ้ม ชั่ว ขณะนั้นทุกคนภายในบ้านก็เอ่ยชื่นชมออกมาเป็นเสียง เดียวกัน

ข้าวมื้อนี้ ทุกคนกินกันเยอะมาก ขนาดหลินฟางหัวยัง กินหมั่นโถวเพิ่มอีกตั้งครึ่งลูก

ก็ตั้งแต่เกิดใหม่จนถึงตอนนี้ เธอยังไม่เคยกินเนื้อจริงๆ

สักครั้งเลยนี่นา

ถ้าคนที่รู้จักเธอในชาติก่อนมารู้ว่าตอนนี้หมอหลวงหลิน ตกอับขนาดไหน คงไม่หัวเราะจนฟันร่วงเลยเหรอ?

แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

เธอไม่สามารถแสดงวิชาการแพทย์ออกมาได้ในทันที ไม่อย่างนั้นคนอื่นต้องหาว่าเธอโดนผีเข้าแน่ๆ!

ณ ขณะนี้จึงทำได้แค่หาเงินมาแก้ปัญหาเรื่องปากท้อง ไปก่อน เรื่องอื่นๆค่อยว่ากันทีหลัง

หลังจากกินอิ่มหลินฟางหัวก็ลูบพุงยื่นๆของตัวเอง จาก นั้นเธอก็ตัดสินใจถือโอกาสในตอนที่ยังไม่ทันค่ำออกไป หาคราบจักจั่นตามต้นไม้
คราบจักจั่นเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง มีสรรพคุณช่วยใน เรื่องผายลมขับถ่ายของเสีย ลดผื่นแถมยังช่วยให้ลื่นคอ น่าจะมีร้านยาจีนรับซื้ออยู่

สภาพอากาศไม่ค่อยเป็นใจ สองเดือนมานี้ไม่มีฝนเลย แม้แต่เม็ดเดียว ทุกวันนี้หมู่บ้านเว่ยจึงทำได้แค่รวมกลุ่ม กันรดน้ำให้ข้าวโพด

เพียงชั่วข้ามคืน ชาวบ้านในหมู่บ้านก็ยุ่งกันเป็นพัลวัน

หวังต้าถึงกับเมิ่งเยว่เอ๋อต่างก็ต้องไปที่ไร่นา แม้แต่เจ้า ยเองก็ยุ่งตัวเป็นเกลียว

ต้องเหลือคนใดคนหนึ่งคอยดูแลหลินหยวนหัวและทํา อาหารอยู่ที่บ้าน หลินฟางหัวรีบรับปากอย่างมั่นเหมาะ ว่า “แม่ไม่ต้องห่วง นอกหมู่บ้านมีรถม้าตรงเข้าเมืองโดย เฉพาะอยู่ ฉันไปเองคนเดียวได้!”

ช่วงนี้ไม่มีรถสาธารณะวิ่งเข้าเมือง เลยมีคนหัวหมอเห็น โอกาสทำเงิน ด้วยการรับจ้างขับรถม้าไปส่งชาวบ้านที่มี ความจำเป็นต้องเข้าเมือง เที่ยวหนึ่งเสียแปดเหมา

“แต่ว่า……..
เมื่อมองใบหน้า สวยเกินเหตุของหลินฟางหัว หวังซูอิง ก็อยากพูดอะไรบางอย่างออกมาแต่สุดท้ายก็เลือกที่จะ เงียบ

หลินฟางหัวรู้ว่ามารดากำลังกังวลเรื่องอะไร เธอจึงหยิบ กรรไกรออกมาจากตะกร้าแล้วพูดยิ้มๆว่า “ไม่เป็นไรน่า ถ้ามีคนคิดจะรังแกฉัน ฉันจะใช้กรรไกรแทงเข้าให้! ”

พูดจบก็เรียกหลินหยวนหัวเข้ามาช่วย ทั้งสองยกเตาไฟ เดินออกไปนอกหมู่บ้าน เป็นไปดังคาดว่ามีรถม้ามาจอด รออยู่ตรงนั้นนานแล้ว

บนรถม้านั่งได้หนึ่งคนพอดี หลังจากที่หลินฟางหัวขึ้นรถ และจ่ายเงิน รถม้าก็ออกตัวทันที

“มันเผามาแล้วจ้า ขุดจากดินมาสดๆร้อนๆ ทั้งใหญ่ทั้ง

หวาน”

“ไข่ไก่จ้า ไข่ไก่”

“นมแกะสดๆทางนี้จ้า”
เมื่อมาถึงทางสามแยกในเขตเฉิงหนาน หลินฟางหัวลง จากรถได้ไม่ทันไร ก็ได้ยินเสียงเรียกลูกค้าเป็นระลอก จากบริเวณโดยรอบ

เธองุนงง นี่มันค่อนข้างแตกต่างจากเมื่อวานเลยนี่นา!

เมื่อวานคนพวกนั้นยังขายของแบบลับๆล่อๆราวกับกลัว ว่าจะมีคนรู้อยู่เลย

เพียงชั่วข้ามคืน เปลี่ยนไปไวถึงเพียงนี้เลยหรือ?

คุณตาที่ขายมันเผาเหมือนจะจำเธอได้ เมื่อเห็นความ งุนงงบนใบหน้าของเธอก็เอ่ยอธิบายขึ้นมาว่า “พวกเขา เห็นว่าเมื่อวานเธอขายดีก็เลยลองทำตามน่ะ ฉันเองก็ ลองด้วย ฮิๆ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนซื้อมันเผามากกว่า แต่ก่อนเสียอีก เธอนี่เก่งจริงๆเลยนะ!

พูดจบ คุณตาก็ชูนิ้วโป้งให้เธอ

หลินฟางหัวไม่กล้ารับคำชมเท่าไหร่

การเรียกลูกค้าเป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไปในตลาดมาตั้งแต่ สมัยโบราณ เพียงแต่ว่าพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้ไม่เคยค้าขาย จริงๆจังๆสักครั้งจึงไม่รู้ก็เท่านั้น มันใช่ความดีความชอบ ของเธอเสียที่ไหน?
หลินฟางหัวยิ้มให้คุณตาไปทีหนึ่ง จากนั้นก็ยกเตาไปยัง ตำแหน่งเดิมที่เธอเคยขายเมื่อวาน

เพียงแต่เมื่อไปถึง เธอกลับนิ่งอึ้ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ