ภริยายอดหมอยุควันวาน

บทที่ 11 ไม่เชื่อฟังคำพูดผู้ใหญ่ มหันตภัยอยู่ ตรงหน้า



บทที่ 11 ไม่เชื่อฟังคำพูดผู้ใหญ่ มหันตภัยอยู่ ตรงหน้า

ดูเหมือนจะไม่ใช่คนในหมู่บ้านเว่ย หรือว่าจะเป็นญาติพี่ น้องจากหมู่บ้านอื่นมาเยี่ยม?

มีบางคนตาไวจําหลินฟางหัวได้ “ฉันนึกออกแล้ว เธอ คือญาติของลุงหวัง!

เดิมทีหมู่บ้านเว่ยก็ไม่ได้ใหญ่อะไร นามสกุลนี้มีอยู่แค่ ครอบครัวเดียว

เมื่อได้ยินแบบนี้ทุกคนก็เข้าใจในทันที โฮโมนวัยรุ่นใน ตัวของพวกเขาพลันพลุ่งพล่าน

มีหนุ่มใจกล้าคนหนึ่งเดินเข้ามาหา แต่ก็ยังไม่กล้าพูดกับ นางฟ้าที่ตัวเองชอบตรงๆ จึงทําได้แค่เปลี่ยนเป้าหมายมา ที่หลินหยวนหัว “พวกเธอมาส่องจักจั่นเหรอ?

หลินหยวนหัวควงนิ้วเล่นพร้อมกับหัวเราะคิกคักออกมา “ใช่แล้ว พี่ฉันบอกว่าอยากหาไปขายน่ะ

“ฉันรู้ว่าแถวไหนมีจักจั่นเยอะ พวกเธอตามฉันมาสิ!” เด็กหนุ่มพยายามเอ่ยชวนพร้อมกับข่มความดีใจเอาไว้

“จริงเหรอ?” หลินหยวนหัวรีบก้าวพรวดๆตามเขาไป
หลินฟางหัวไร้ทางเลือก จึงทำได้แค่เดินตามไปเช่น เดียวกัน

แน่นอนว่าคนที่เหลือไม่พอใจที่เด็กหนุ่มคนนี้ทำตัวเด่น เกินหน้าเกินตา จึงตะโกนไล่หลังเขาไปว่า “เว่ยจั่นเจ๋นาย โกหก เมื่อกี้นายเพิ่งไปส่องตรงนั้นมายังไม่ถึงห้านาที ด้วยซ้ำ จักจั่นจะโผล่มาแต่ไหนเร็วขนาดนั้น?”

เด็กหนุ่มที่มีนามว่าเว่ยจูนเจ่พลันหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที

เมื่อสักครู่เขาคิดแต่เรื่องเข้าหาผู้หญิง จนลืมไปว่า บริเวณดังกล่าวถูกตัวเองส่องหามาหมดแล้ว

ถ้าไปแล้วหาไม่เจอสักตัว ต้องเสียหน้ามากแน่ๆ

“ถ้าพวกเธออยากส่องจักจั่นมากับฉันดีกว่า ฉันรู้จักอยู่ ที่หนึ่งแถมยังไม่มีใครเคยไปมาก่อนด้วย

“ฉันก็รู้เหมือนกันๆ! ”

“จะไปให้เสียเวลาทำไม มาเอาจักจั่นที่ฉันหามาได้นี่ มา!

“ฉันก็มี เยอะกว่านายด้วย!”
“ฉันเยอะกว่า!

“ของฉันเยอะกว่าเห็นๆ! ”

เมื่อเห็นแววตาร้อนแรงของพวกหนุ่มๆ หลินฟางหัวก็ รู้สึกเอือมระอาในทันที

ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้ายังดูไม่ออกว่าพวกเขากำลัง หาวิธีเข้าหาเธอก็คงเสียชาติเกิดเกินไปแล้ว

เธอไม่เคยคิดว่าหน้าตาของตัวเองจะมีพลังทำลายล้าง สูงขนาดนี้ แค่ออกมาส่องจักจั่นแค่นี้ก็สร้างแรงสะเทือน ได้ถึงขนาดนี้เลย

แต่ว่า ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์คบหาดูใจกับใครจริงๆ

เธอกระแอมไอออกมา แล้วขึ้นเสียงเล็กน้อย “ทุกคนไม่ ต้องเถียงกันแล้ว เอาอย่างนี้แล้วกัน อีกสองชั่วโมงเรา กลับมาเจอกันที่นี่ จากนั้นทุกคนก็เอาจักจั่นที่หามาได้มา ให้ฉันทั้งหมด แล้วฉันจะให้เงินพวกนายคนละสามเหมา ดีไหม?”

นอกจากเด็กหนุ่มพวกนี้แล้วที่นี่ยังมีเด็กสิบกว่าขวบอยู่ด้วยสองสามคน เธอนับดูแล้วทั้งหมดมีอยู่สิบสองคน

เมื่อตอนกลางวันคุณน้าชายแอบยัดเงินใส่มือให้เธอ สามหยวน เมื่อบวกกับเงินส่วนตัวของเธอจึงพอมีอยู่บ้าง

สามเหมา?

ดวงตาของเด็กตัวเล็กๆต่างเป็นประกาย

ช่วงนี้พวกเขากินจักจั่นจนเบื่อแล้ว

แต่เงินสามเหมาพวกเขาสามารถเอาไปซื้อผลไม้แช่แข็ง ได้หลายถุง แถมยังเอาไปซื้อผงบ๊วยเปรี้ยวๆหวานๆได้ อีกด้วย แค่คิดน้ำลายก็ไหลแล้ว

ในที่สุด ก็มีเด็กต้านทานสิ่งหลอกล่อแสนหอมหวานไม่ ได้ จึงเอ่ยถามเสียงอ่อนว่า “จริงเหรอ?”

“แน่นอนอยู่แล้ว แต่มีข้อแม้ว่าพวกนายห้ามอู้ ห้ามเก็บ เอาไว้เองเด็ดขาด!

เมื่อเธอพูดจบ เด็กพวกนั้นก็แยกย้ายกันออกล่าอย่าง ฮึกเหิม
ส่วนพวกเด็กหนุ่มที่เถียงกันอยู่ ก็จำเป็นต้องสลายตัว ออกไปคนละทิศละทางอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

พวกเขาพอจะเข้าใจอยู่ว่า ถ้าอยากตีสนิทกับนางฟ้าก็ ต้องหาจักจั่นมาให้ได้

แล้วมาคอยดูกันว่าใครจะหามาได้เยอะที่สุด!

เมื่อคิดได้ดังนี้ พวกเด็กหนุ่มก็ออกล่าจักจั่นทันที ต้นไม้ ทุกต้นภายในพื้นที่สามลี้ของหมู่บ้านเว่ยล้วนแล้วแต่ถูก พวกเขาส่องหามาหมดแล้ว ไม่ให้หลอดพ้นสายตาแม้แต่ ตัวเดียว จนบางทีพรุ่งนี้บนต้นไม้อาจไม่มีเสียงจักจั่นร้อง ก็เป็นได้

จักจั่นถูกจับไปหมดแบบนี้ แล้วจะไปมีโอกาสลอกคราบ ได้อย่างไร?

สองชั่วโมงต่อมาหลินฟางหัวหิ้วถุงใส่จักจั่นหนักหลาย กิโลด้วยความดีอกดีใจ

สิ่งที่เธอเห็นผ่านจักจั่นเหล่านี้ คือจำนวนเงินมากมาย กําลังกวักมือเรียกเธอ

ตอนนี้เธอต้องรีบกลับไปล้างทำความสะอาดจักจั่น พร้อมกับนำไปดองให้เรียบร้อย ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้คงไม่ทันการแน่
เมื่อเห็นเธอหิ้วถุงกลับมา แม้แต่หวังต้าถึงก็ยังต้องตกใจ “เยี่ยมมาก! ทำไมได้มาเยอะขนาดนี้! ”

หลินหยวนหัวหัวเราะเร่อร่าออกมา “พวกพี่ชายน้องชาย

ให้พี่มาน่ะ หนูชอบพวกเขา พวกเขาไม่ตีแล้วก็ไม่ด่าหนู ด้วย…….

หวังต้าถิ่งเข้าใจเรื่องราวอย่างรวดเร็ว เมื่อได้รู้ว่าหลิน ฟางหัวใช้เงินซื้อมาก็วางใจในที่สุด

กลับเป็นหวังซูอิงซะเองที่กังวล “เยอะขนาดนี้ จะขาย หมดไหม?”

“พี่ไม่ต้องกังวลไปหรอกน่า ฟางหัวต้องมีวิธีแน่ๆ! ”

ถึงจะพูดออกไปแบบนี้ แต่หวังต้าถึงกลับแอบคิดในใจ ว่า ถ้าหากขายไม่ได้จริงๆเขาก็จะจ้างให้คนมาซื้อ

ในเมื่อเด็กๆรู้จักหาเงินเลี้ยงครอบครัวเป็นแล้ว พวกเขา ก็ไม่ควรทำลายความตั้งใจของเด็กๆไม่ใช่เหรอ?

หลินฟางหัวเพียงแค่ยิ้มแต่ไม่พูดอะไรออกมา

จักจั่นมีอยู่ทุกที่ในชนบท แต่ถ้าในเมืองก็คือของหายาก ดีๆนี่เอง
เธอหาความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นไปของอำเภอมา ตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว

อำเภอซีมีโรงงานอยู่สามแห่ง คือโรงงานผลิตอาหาร โรงงานผลิตเหล้า และโรงงานผลิตเครื่องจักร

โรงงานทั้งสามแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศใต้สุดของอำเภอซี ตามที่ได้ยินมาเห็นว่ามีพนักงานเกือบๆหมื่นคน

เอาแค่จํานวนพนักงาน เธอก็ไม่เชื่อหรอกว่าจะขายไม่

หมด!

เช้าวันรุ่งขึ้นเวลาตีห้า หวังต้าถึงพาเมิ่งเยว่เอ๋อแล้วก็ หลินฟางหัวกับหวังซูอิงออกเดินทางด้วยรถม้า

พวกเขามาถึงอำเภอซีในเวลาประมาณหกโมงครึ่ง

ท้องฟ้าในยามนี้เริ่มสว่างขึ้นมาแล้ว

เมื่อมาถึงเขตเฉิงหนาน หลินฟางหัวก็เลือกบริเวณทาง สามแยก จากนั้นก็ให้หวังต้าถึงขนจักจั่นที่ดองไว้แล้วรวม ไปถึงเตาไฟและกระทะลงมา

เพราะต้องรีบไปเข้าแถวหาหมอที่โรงพยาบาล ดังนั้น เมื่อขนของเสร็จหวังต้าถึงก็พาเมิ่งเยว่เอ๋อจากไปทันที
เมื่อได้ตำแหน่งแล้ว หลินฟางหัวก็เริ่มก่อไฟอย่างเก๋ๆ ก่งๆ

ในช่วงเวลาที่คําขวัญการปฏิวัติเพิ่งถูกกล่าวออกมา คน ที่กล้าออกมาค้าขายจึงมีอยู่ค่อนข้างน้อย ทั้งหมดมารวม ตัวกันอยู่ที่นี่

เมื่อเห็นสาวสวยออกมาขายของ ก็มีคนอดเอ่ยถาม อย่างสงสัยไม่ได้ว่า “สาวน้อย กำลังขายอะไรอยู่น่ะ?”

“จ๊กจั่นทอดจ้ะ”

หลินฟางหัวไม่ได้ปิดบังอะไรพวกเขา ถึงยังไงอีก ประเดี๋ยวก็ต้องทำออกมาให้พวกเขาเห็นอยู่แล้ว

จักจั่น?

ผู้คนโดยรอบพลันนิ่งอึ้งในทันที

คนในเมืองส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มีงานประจำทำ ส่วน คนที่มาตั้งแผงขายของอยู่ที่นี่ล้วนแล้วแต่เป็นคนชนบท ทั้งนั้น เมื่อได้ยินว่าหลินฟางหัวมาขายจักจั่น ทุกคนก็พา กันยิ้มเยาะออกมา “จักจั่นเหรอ เธอแน่ใจได้อย่างไรว่า จะมีคนมาซื้อ?”
ต่อให้พวกเขาจะเห็นจักจั่นบนต้นไม้บ่อยๆ แต่บางครั้งก็ ขี้คร้านจะไปจับ

แถมยังต้องเอามาทอดน้ำมันก่อนถึงจะนำมากินได้ แบบนั้นมันเปลืองน้ำมันชะมัดยาด!

หลินฟางหัวไม่ตอบกลับสิ่งใด เพียงแค่ก้มหน้าก่อไฟต่อ ไป

หญิงแก่คนหนึ่งที่กำลังขายเต้าฮวยอยู่ทนมองต่อไปไม่ ได้ จึงมองมาทางหวังซูอิงพร้อมกับพูดแนะนำว่า “น้อง สาว เด็กมันไม่รู้อะไรเธอยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? จักจั่นน่ะ มีอยู่ทั่วทุกที่ในชนบท แล้วเธอว่าคนเมืองเขาจะกินของ แบบนี้ไปทำไมเหรอ เธอไม่ห้ามลูกไม่ว่า แต่ปล่อยให้เด็ก มันเล่นซนแบบนี้ได้อย่างไรกัน?”

เดิมทีหวังซูอิงก็เป็นคนหน้าบางอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำพูด เหล่านี้ก็ก้มหน้างุดลงทันที พร้อมกับเอ่ยพูดกับหลินฟาง หัวเสียงเบา “ฟางหัว หรือเราควรหยุดแค่นี้?”

หลินฟางหัวส่ายหน้า “แม่ จะหยุดได้ยังไงกัน จักจั่น พวกนี้ฉันเสียเงินซื้อมานะ ถ้าไม่ขายก็ขาดทุนน่ะสิ! }}

เมื่อหญิงแก่เห็นว่าโน้มน้าวอีกฝ่ายยังไงก็ไม่ได้ผล จึง ทำได้แค่ส่ายหน้าแล้วเดินจากไป
พร้อมกับทอดถอนหายใจออกมา “เฮ้อ ไม่เชื่อฟังคำพูด ผู้ใหญ่ มหันตภัย อยู่ตรงหน้านั่นแหละ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ