บทที่1คนนําไม่ดี คนตามก็คงจะดีไม่ได้
“ฟางหัว……..ฟางที่น่าสงสารของฉัน……….ไมเธอโง่ แบบ”
เสียงร้องไห้เบาๆ ที่ดังขึ้นเป็นระยะๆ ลอยมา ทำให้เด็กผู้ หญิงที่นอนอยู่ลืมตา
ลืมตามาสิ่งแรกที่เห็นก็คือตะเกียงน้ำมันหนึ่งดวง และ เตียงสีดำที่ไม่สามารถมองดูออกมีลายสลักอะไร เพียง แค่ขยับตัวนิดหน่อยเตียงก็เกิดเสียงอี๊ดแอ๊ด และกำแพง สี่ด้าน ใช้ดินเหนียวในการทำเป็นอิฐ และกำแพงมีใย แมงมุมอยู่เต็มไปหมด
นี่คือที่ไหน?
เธอจําได้ว่าเธอไปรับรางวัลโนเบลรางวัลแรกด้านการ แพทย์แผนจีนโบราณ หลังจากที่เธอเข้ารับรางวัลใน ฐานะอาจารย์หมอระดับชาติของประเทศหัว และเตรียม ขับรถกลับบ้าน แต่เธอกลับถูกรถสิบล้อที่โผล่ออกมาจาก ไหนไม่รู้ชนเข้าไป
ต่อมา เธอก็จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นอีกแล้ว
“ฟางหัวลูกตื่นแล้วหรือ? ลูกทำให้แม่ตกใจมากเลยนะจะอยู่อย่างไง? ฮือฮือ…..
บนหัวนอนมีเสียงที่ลุกลี้ลุกลนลอยมา ยังไม่ทันที่จะรู้ตัว วินาทีต่อมามีอ้อมกอดที่อบอุ่นมากอดเธอไว้
ทันใดนั้นเธอปวดหัว และสมองเธอปรากฏความจําที่ ไม่ใช่ของเธอขึ้นมา
ไม่นาน หลินฟางหัวถึงรู้ตัวว่าตัวเองได้เดินทางย้อนเวลา มา
เดินทางข้ามเวลามาที่หมู่บ้านต้าหวังในยุคแปดศูนย์ ของอำเภอซีมณฑลยู่ และกลายมาเป็นเด็กผู้หญิงที่ฆ่าตัว ตายไม่สําเร็จแถมมีชื่อเดียวนามสกุลเดียวกับเธอด้วย
คนที่กอดเธออยู่ก็คือหวังซูอิงแม่ของเธอเอง
กลิ่นที่วนเวียนอยู่ตรงจมูกไม่น่าดมเลย เป็นกลิ่นน้ำมัน และกลิ่นเหงื่อปนกัน แต่หลินฟางหัวกลับรู้สึกปลอดภัย อย่างบอกไม่ถูก
ชาติก่อนเธอไม่เคยเห็นแม่ของตัวเองเลย เธอถูก อาจารย์หมอเซียนรับเลี้ยง ส่งเสียให้เธอเรียนและสอน วิชาทางการแพทย์และการอยู่ในสังคมให้เธอ
เมื่ออาจารย์ตายแล้ว เธอก็เลยโดดเดี่ยว
เธอไม่คิดเลยว่า ตัวเองจะรู้ถึงความอบอุ่นของครอบครัว อีกครั้ง
“ฟางหัวลูกเป็นอะไร? ลูกอย่าทำให้แม่ตกใจนะ ลูกปวด
หัว
อยู่อีกใช่มั้ย?”
ลูกที่ตื่นมาในอ้อมกอดแม่และไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว หวังซูอิงเริ่มใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว เธอถามด้วยสีหน้า ที่ร้อนรน
“แม่หนูไม่เป็นอะไร ก็แค่หิวน้ำนิดหน่อย………
หลินฟางหัวถึงได้เงยหน้าและพูดด้วยเสียงที่แหบแห้ง สิ่งที่เธอเห็นก็คือผู้หญิงที่มีใบหน้าที่ผอมแห้งและมีความ ทุกข์
โดยความที่เธอทำงานใช่แรงงานมานานมือของเธอเลย แห่งและหยาบกระด้าง มือของเธอยังมีรอยแตกที่ดำอีก
ด้วย
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว……..ไม่เป็นไรก็ดี…….. รีบกินน้ำคอจะได้ชุ่มชื่นนะ”
ทันใดนั้นหวังซูอิงดีใจจนร้องไห้ เช็ดน้ำตาไป และเอา ขวดเครื่องปั้นดินเผาที่สีลอกไปป้อนน้ำหลินฟางหัว
“ถ้าไม่เป็นอะไรแล้ว งั้นก็เก็บข้าวเก็บของไปตระกูล หลี่ได้เลย ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้ แม่ก็กลัวขายหน้า เหมือนกันนะ!”
เสียงผู้ชายที่รำคาญดังขึ้นในห้อง เมื่อหลินฟางหัวเงย หน้า เธอก็ได้สบตากับดวงตาที่เลือดเย็นคู่หนึ่ง
ตอนที่หวังซูอิงท้องหลินฟางหัวอยู่ หลินเจี้ยนจุนก็ไปมี อะไรกับเย้ายู่หลานที่เป็นเพื่อนบ้านแถมยังเป็นหญิงม่าย อีกด้วย ต่อมาก็มีลูกชายและลูกสาวคือหลินหยางเหว่ย หลินเจียฉี
ตอนแรกยังปิดบังเรื่องนี้กับหวังซูอิงอยู่ ต่อมา หลังจาก ที่หวังซูอิงคลอดลูกที่มีปัญหาด้านสมองแล้ว เขาก็เปลี่ยน เป็นคนละคนเขาก็เริ่มทําอะไรตามใจชอบและไม่คำนึงถึง ความรู้สึกของคนรอบข้าง และไปรับเย้ายู่หลานและลูก อีกสองคนเข้ามาที่ตระกูลหลิน
หลายปีที่ผ่านมาหวังซูอิงอดทนความลำบากและ เหน็ดเหนื่อยมาตลอด ถึงขั้นที่คำพูดที่ไม่พอใจก็ยังไม่ เคยพูดออกมา
หลินฟางหัวคิดว่าครั้งนี้เธอจะยอมเหมือนครั้งก่อนๆ แต่ เธอกลับลุกขึ้น มาพร้อมท่าทางที่เหมือนป้องกันตัว และ เอ่ยปากปฏิเสธ “ไม่! ไม่ได้! นายไม่รู้เลยว่า หลี่ต้าเกนเป็น คนแบบไหน? อายุเยอะกว่าฟางหัวยี่สิบกว่าปีไม่พอนะ ยัง ไม่มีมนุษยธรรมอีก เขาทรมานภรรยาของเขาจนตายทั้ง เป็นเลยนะ ฟางหัวจะแต่งงานกับคนแบบนั้นได้อย่างไร?”
“ฟางหัวเป็นคนของตระกูลหลิน เรื่องงานแต่งงานของ เธอ เธออย่ามายุ่ง!”
หลินเจี้ยนจุนพูดออกมาเบาๆ แววตาที่มองหวังซูอิงเป็น แววตาที่เหมือนมองคนแปลกหน้า “ที่สำคัญเจียฉีสอบ ติดมหาวิทยาลัยที่เยนจิง แม่ที่รับสินสอดของตระกูลหลี่ ก็เพราะจะนำไปจ่ายค่าเทอมให้เจียฉี ถ้าเธอไม่อยาก ให้ฟางหัวแต่งงานกับหลีต้าเกน เธอก็ต้องนำสินสอดมา คืนให้ตระกูลหลี่ ไม่งั้นละก็ตระกูลหลี่ไม่ปล่อยพวกเราไป แน่ๆ!”
“ค่า……ค่าสินสอดเท่าไหร่?”
หวังซูอิงถามด้วยเสียงที่เบา
“ห้าร้อย”
หลังจากที่หลินเจี้ยนจุนพูดออกมา หวังซูอิงสิ้นหวังทันที และปรากฏสีหน้าขาว ค
ห้าร้อย เป็นตัวเลขที่มหาศาลสำหรับเธอ
ค่าใช้จ่ายของเธอเดือนละแค่หนึ่งถึงสองหยวน เธอจะ ไปหาห้าร้อยมาจากไหน?
เธอที่หมดหนทาง เธอได้คุกเข่าลงไปกอดขาของหลิน เจี้ยนจุนไว้ “เจี้ยนจุน ฉันขอร้อง อย่าให้ฟางหัวแต่งงาน กับหลี่ต้าเกนเลยนะ เจียฉีเป็นลูกสาวนาย ฟางหัวก็เป็น ลูกสาวนายเหมือนกัน ฉันรู้ว่าเธอเรียนไม่ค่อยเก่ง และ ยังดื้อจนทำให้นายอารมณ์เสียเกือบทุกวัน ฉันจะให้ลูก แก้ไขปรับปรุงไม่ได้หรือ? ฉันขอร้องเถอะนะเจี้ยนจุน….……….
เห็นหวังซูอิงใช้วิธีที่ถ่อมตัวและนอบน้อมแบบนี้ไป ขอร้องหลินเจี้ยนจุน แววตาของหลินฟางหัวเริ่มมีน้ำตา ออกมา
เธอเป็นคนสืบทอดความทรงจำจากเด็กผู้หญิงคนนี้ เธอ เลยรู้ว่าหลังจากที่เย้ายู่หลานเข้ามาที่ตระกูลหลินหวังซู อิงได้ใช้ชีวิตอย่างไง
เธอต้องปรนนิบัติยายให้ดีๆ แถมยังต้องดูแลหลินเจี้ยน จุนด้วย ยังถูกเย้ายู่หลานกดขี่เสมอด้วย ถึงขั้นที่ลูกสอง คนของเย้ายู่หลานยังไม่เห็นเธออยู่ในสายตาเลย พวกเขามองเธอเหมือนคนรับใช้เท่านั้น
ถ้าหลินฟางหัวดื้อไม่เชื่อฟังแค่นิดเดียว ความลำบากก็ จะตกอยู่ที่หวังซูอิง
พวกเธอสามคนอยู่ในบ้านที่ผุพังในชุมชนที่ห่างไกล ก็ เพราะว่าครั้งก่อนที่หลินฟางหัวและหลินเจียฉีเกิดทะเลาะ กัน และหลินฟางหัวผลักหลินเจียฉีลงไปในคลอง ทำให้ หลินเจียฉีเป็นไข้อยู่สามวันสามคืน หลินเจี้ยนจุนเลยไล่ พวกเขาสามคนมาอยู่ที่นี้
แต่หลินฟางหัวรู้ว่าหลินเจียฉีเป็นคนกระโดดลงไปเอง
หลังจากที่หลินเจียฉีหายป่วยแล้ว ไม่เพียงไปแย่งแฟน แล้วหลินฟางหัวเท่านั้น ยังสอบติดมหาวิทยาลัยเยนจิงอ ย่างน่ายกย่องอีกด้วย
ในที่สุดชื่อเสียงของหลินฟางหัวก็ถูกเหยียบหย่ำ และ เธอก็ได้ไปชนกำแพงเพื่อที่จะฆ่าตัวตาย
เธอถูกตระกูลหลินบีบให้ฆ่าตัวตาย แต่สุดท้ายแม่ของ เธอกลับไปขอให้คนตระกูลหลินให้อภัยเธอ
ถึงจะรู้ว่าหวังซูอิงทำไปเพราะหวังดีกับเธอ แต่เธอทนดู อีกต่อไปไม่ได้แล้ว
“แม่ แม่รีบลุกขึ้นมาเร็ว”
เธอรีบลงจากเตียงและอยากที่จะไปดึกหวังซูอิงที่คุกเข่า อยู่ขึ้นมา
“ฟางหัวเธอรีบคุกเข่า และขอโทษพ่อซะ เร็ว!” หวังซูอิง รีบดึกมือของเธอ อยากให้เธอมาคุกเข่าด้วย
หลินเจี้ยนจุนกลับถอยหลังไปหนึ่งก้าว เหมือนกลัวอะไร ที่สกปรกจะกระเด็นไปโดนตัว และใช้สายตาที่รังเกียจ มองไปที่หลินฟางหัว “อย่าเรียกฉันว่าพ่อ ฉันไม่มีลูกที่ หน้าไม่อายแบบเธอ!”
“แหะ……”
หลินฟางหัวหัวเราะออกมาทันทีและค่อยๆพูดออกมาว่า “ฉันก็ไม่ได้อยากเกิดมาเป็นลูกของนายหรอกนะ พ่อพูด ว่าตอนแรกถ้าแตกน้ำอสุจิไปบนกำแพงจะดีไม่น้อยและ ฉันจะได้ไม่ต้องเกิดมาใช่มั้ย โบราณได้กล่าวไว้ว่าคนนำ ไม่ดี คนตามก็คงจะดีไม่ได้ที่ฉันมีนิสัยแบบนี้ไม่เพราะ ท่านหรือ?”
เธอเกิดมาพร้อมใบหน้าที่สวย ดวงตาที่เรียวยาว ริม ฝีปากที่เล็ก ใบหน้ารูปไข่ เมื่อเธอยิ้มออกมามีรอยยิ้มเธอ มีเสน่ห์และสง่างาม
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ