บทที่ 11 องค์ชายสามตามที่เล่าลือ
แน่นอนว่าฝ่ามือยังไม่ทันจะได้ตบลงไป ซูล่อก็ยกมือขึ้น จับข้อมือของฮูหยินเล็กจ้าวเอาไว้
ความโกรธเกรี้ยวบนใบหน้าของฮูหยินเล็กจ้าวก็แข็งทื่อ ไปในทันที หลังจากนั้นความเจ็บปวดก็เข้ามาแทนที่
“อีกากีขั้นต่ำ ปล่อยนะ……โอ๊ย! เจ็บ! ”
ซูล่อสะบัดมือหล่อนออก หลังจากนั้นก็ปัดฝุ่นในมือที่ไม่ ได้มีจริงอยู่ออกด้วยท่าทีที่รังเกียจอย่างรุนแรง
“ฮูหยินเล็กจ้าว ข้าเองก็ไม่ได้อยากจะไปหาเรื่องน้าเร็ว ขนาดนี้หรอกนะ แต่ว่าน้ามาเล่นไม่ซื่อกับข้าก่อน พวกข้า ก็ต้องอาศัยโอกาสนี้เพื่อคิดบัญชีให้เรียบร้อย
ฮูหยินเล็กจ้าวหรี่ตา ถ้าไม่ใช่เพราะว่าผู้หญิงตรงหน้ายัง คงมีหน้าตาที่อัปลักษณ์แบบนี้อยู่ หล่อนคงจะนึกว่าได้มี การเปลี่ยนคนมาเป็นซูล่อแทนแล้ว
ในใจคิดว่า ยัยกากีขั้นต่ำเนี่ยพึ่งจะกลายเป็นชายาของ องค์ชายเจ็ดได้แค่ไม่กี่วันเท่านั้น ก็มาทำหน้าใหญ่ใจโต ต่อหน้าหล่อนซะแล้ว โง่เขลาจริงๆ!
“คิดบัญชีอะไรกัน? ” ฮูหยินเล็กจ้าวถามในสิ่งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
ซูล่อโยนสมุดบัญชีเล่มนั้นให้กับหล่อน “ดูให้ละเอียด แล้วกัน ในนี้งบมันเข้าที่กรมคลังทั้งหมด และก็เป็นของข้า ที่ชื่อซูล่ออีกด้วย แค่ไปสืบดู ก็จะรู้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง แล้ว”
มันเป็นการบอกกล่าวฮูหยินเล็กจ้าวอย่างชัดเจนว่า ถ้า เจ้าอยากจะเก็บทุกอย่างไว้คนเดียว ไม่มีทางซะหรอก!
ฮูหยินเล็กจ้าวจะไม่รู้เรื่องสินสอดทองหมั้นได้ยังไงกัน เพียงแต่ว่าเมื่อก่อนซูล่อไม่เคยมีการคิดคำนวณอย่าง ถี่ถ้วนอะไรแบบนี้ ก็จะโดนหล่อนเล่นจนหัวหมุนไปหมด
ฮูหยินเล็กจ้าวมองดูสมุดบัญชีในมือ ก็ตัดสินใจ แล้วก็ ฉีกมันทิ้งทันที!
“ฉีกไปเถอะ ข้ายังมีฉบับอื่นอีกมากมาย น้าฉีกเท่าไหร่ ข้าก็มีเท่านั้นแหละ” ซูล่อมองฮูหยินเล็กจ้าวแว็บหนึ่ง แล้ว ก็พูดอย่างนิ่งเรียบ
ฮูหยินเล็กจ้าวอึ้งไป หลังจากนั้นสีหน้าก็ดูมืดมนในทันที แม้แต่แป้งที่ปัดอยู่บนใบหน้าก็เหมือนจะแตกออก
เซียวซูไปที่ซ่อนอยู่ด้านหลังขอซูล่อก็ชี้หน้าของฮูหยิน เล็กจ้าว และเรียกออกมาเสียงดัง “แม่มดเฒ่า ผู้หญิงอัปลักษณ์! ”
ฮูหยินเล็กจ้าวโกรธจนเหลือแทน แต่ว่าก็กลับมาสงบได้ เหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว
“ทําไม พึ่งจะได้เป็นชายาขององค์ชายเจืดก็มาท่า โอ้อวดอยู่ที่นี่ จวนเจ้าพระยาหวู่อันว่ายังไงมันก็ต้องเป็น แบบไหน หรือว่าเจ้าไม่รู้หรือยังไงกัน? ขอแค่ข้าฮูหยิน เล็กจ้าวเอ่ยปากออกมา เรื่องวันนี้ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่ สามารถพูดขึ้นมาได้อีก! ”
แล้วอีกอย่าง ซูล่อรู้จักคนในกรมคลังรึยังไง ด้านหลัง ของหล่อนยังมีองค์ชายรัชทายาทคอยสนับสนุนอยู่ ขอ แค่องค์ชายรัชทายาทเอ่ยออกมา กรมคลังยังจะเอนไป หาซูล่อได้อีกเหรอ?
ยายหลินก็เอ่ยตาม
“ใช่ ใครเห็นงั้นเหรอ? วันนี้คุณหนูใหญ่ไม่เคยกลับมาสัก หน่อย! ”
“ข้าเห็น”
เสียงที่อ่อนโยนราวกับหยกดังขึ้นจากด้านนอกประตูวัง แล้วก็เห็นรถม้าของจวนเจ้าพระยาหวู่อันที่ไม่รู้ว่ามาจอด ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ มีคนเหยียดนิ้วที่ขาวเรียวและเปิดม่านออก
ตอนนั้นแสงอาทิตย์กำลังดี ตกลงมาตรงใบหน้าที่หล่อ เหลาของเขา วินาทีมันสามารถทำให้คนลืมที่จะหายใจ ไปเลย
“เอ้ะ องค์ชายสาม! ”
“ว่ากันว่าองค์ชายสามไปเที่ยวไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึง ได้กลับมาเร็วขนาดนี้
ได้ยินเสียงพูดคุยจากด้านนอก ซูล่อถึงได้รู้ว่าบุรุษท่าน นี้คือองค์ชายสาม
สำหรับข่าวลือเกี่ยวกับองค์ชายสามนั้น หล่อนก็มีอยู่ใน ความทรงจําไม่น้อยเลย องค์ชายสามเซียวฉี่ น ก็เหมือน กับเซียวชูไป์ ล้วนเป็น “สิ่งที่แตกต่าง”ของราชวงศ์ แต่ว่า คำว่าแตกต่างของเซียวฉี่หันนั้น กลับเป็นคำชมเชย
ตระกูลของพระมารดาที่เป็นชายาของเขาเป็นผู้บัญชา ทหารสูงสุด รวมถึงเซียวฉี่หันเองก็เป็นที่รักของจักรพรรดิ ด้วย แต่ว่าน่าเสียดาย ที่องค์ชายท่านนี้หัวใจไม่ได้อยู่ที่ ราชวงศ์ เอาแต่ชอบในแม่น้ำภูเขา ไม่เหมือนกับองค์ชาย รัชทายาทเลย
เขียวฉี่หันเงยหน้าขึ้น แล้วก็สังเกตเห็นซูล่อเป็นคนแรก
ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ สายตาที่เขามองมาที่ซูล่อนั้น ไม่ ได้มีความรังเกียจ ไม่ได้มีการดูถูกดูแคลน แต่ว่ามีรอยยิ้ม จางๆ ที่อ่อนโยน
ซูล่อหัวใจพองโต หลังจากนั้นก็ก้มหน้าลงทันที แต่ก็รู้สึก เหมือนกับว่าการที่ตนเองทำแบบนี้เหมือนว่ากำลังหลีก เลี่ยงอะไรอยู่ ก็เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
เหมือนกับว่ารู้สึกตลกเพราะการกระทำที่เล็กน้อยของซู ล่อ เซียวฉี่หันยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ ผู้คนสับสน
“ดูสิ แบบนี้ต่างหากที่เป็นองค์ชายที่สูงส่งและมีสมบัติ ผู้ดี องค์ชายเจ็ดนั่นเล่นอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ถึงแม้ว่าหน้าตาจะ ไม่ได้แย่ แต่ว่าคนโง่ก็คือคนโง่อยู่ดี”
ไม่รู้เหมือนกันว่าเสียงซุบซิบพวกนี้ที่ได้ยินคืออะไรกัน เซียวซูไป์ขยับอีกมือ ดวงตาดูโง่เขลามีประกายแสงที่ แปลกประหลาดขึ้นมาแว๊บหนึ่ง แต่ว่าก็เลือนหายไปอย่าง รวดเร็ว
เซียวฉี่หันมาถึงตรงด้านหน้า แล้วก็พูดกับฮูหยินเล็กจ้าว ที่ได้ช็อกไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว
“ฮูหยินเล็กจ้าวใช่ไหม ได้ยินมาว่าเจ้าหักค่าสินสอด ทองหมั้นของน้องชายและน้องสาวเจ็ดของข้า เรื่องนี้……. ควรจะต้องรายงานไปที่กรมคลัง แล้วก็ตรวจสอบทีละคน ไหม? ”
เสียงของเขาอ่อนโยนราวกับน้ำ แม้แต่คำพูดในการข่มขู่ ก็ยังคงนุ่มนวล แต่ว่าในคำพูดที่นุ่มนวลเหล่านี้ กลับมา ปลายมีดที่ซ่อนอยู่ ทำให้ผู้คนเสียวสันหลังวาบ
สีหน้าของฮูหยินเล็กจ้าวเปลี่ยนไป ถ้าเกิดว่าองค์ชาย สามเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยแล้วล่ะก็ ไม่แน่ว่าองค์ ชายรัชทายาทนั้นจะช่วยได้หรือไม่ หล่อนเองก็ไม่อยาก ให้เรื่องนี้ได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ยังงั้นเรื่องที่ลูกสาว ตนเองจะแต่งงานกับองค์ชายรัชทายาทก็ต้องล่าช้าไปอีก ด้านหนึ่งก็เป็นอนาคตที่สดใสของการที่ได้เป็นชายาของ องค์ชายรัชทายาท อีกด้านหนึ่งก็เป็นเพียงแค่ของนอก กาย อันไหนสำคัญกว่ากัน ฮูหยินเล็กจ้าวก็รู้ชัดอยู่แล้ว
หล่อนรีบคลี่ยิ้มและพูดออกมาว่า
“โถๆๆ องค์ชายสาม ท่านเข้าใจผิดแล้ว นี่พูดเล่นกับคุณ หนูใหญ่นั่นแหละ อย่าจริงจังเกินไปพะย่ะค่ะ นี่ข้าจะให้ คนไปจัดการเตรียมสินสอดทองหมั้นให้เรียบร้อย แล้วก็ ส่งไปที่จวนองค์ชายเจ็ดเนี่ยแหละเจ้าค่ะ”
หล่อที่กำลังตรวจนับสินสอดทองหมั่นอยู่นั้น ๆๆ ก็ยกมือ
ขึ้นมาตัดบท
“ช้าก่อน! “
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ