บทที่ 16 ไปโรงพยาบาล
ตอนนั้นเธอจะคอยเล่าเรื่องที่เกี่ยววิ่งเหลียนตามจีบเธอยังไง เรื่องโง่ๆ ที่เคยเกิดขึ้น ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มความสุข ตอนนั้น ใบหน้าของเธอยังเต็มไปด้วยความสุข แต่จนกระทั่งบริษัทของ คุณตาล้มละลาย ไม่มีแบรนด์เสื้อผ้าGY อีกต่อไป จนกระทั่งคุณ ตาช่วยดันจนเฉียวปิ้งเหลียนได้ขึ้นเป็นนายกประจำจังหวัด
ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ผู้หญิงคนนี้ชินกับการที่อยู่บ้านเชื่อฟังพ่อ พอแต่งงานก็เชื่อฟังสามี ชินกับการต้องทนเก็บทุกอย่างไว้ เพื่อ จะได้เป็นลูกรักและภรรยาที่ดี ตอนแรกฉันเกลียดผู้หญิงแบบนี้ มากที่สุด แต่เธอต่างจากคนอื่น ฉันต้องช่วยและคอยอยู่ข้างเธอ
เครื่องลงตอนตีสอง ฉันเดินออกมาข้างนอก ท้องถนนยังมีเต็ม ไปด้วยแสงสว่างของไฟ โบกรถแล้วตรงกลับไปที่บ้าน
ในบ้านยังคงเงียบสนิทเหมือนเดิม ตอนเวลานี้ป่าวางคงยังไม่ ตื่นมาทําอาหารเช้า ฉันจึงลากกระเป๋าเดินเข้าห้องนอนของฉันไป ทุกอย่างในห้องยังเหมือนเดิมเหมือนตอนที่ฉันย้ายออก แค่เพียง แต่บนโต๊ะสะอาดมาก น่าจะมีคนมาทำความสะอาดตลอด
ฉันกำลังจะเปิดกระเป๋าเดินทางออก แต่ก็ได้ยินเสียงเปิดประตู จากห้องตรงข้าม
“ซีซี ทำไมลูกกลับมาเวลานี้ล่ะ
คุณหยาวใส่ชุดนอนกระโปรง และเอ่ยถามฉันด้วยน้ำเสียงงัวเงียอ่อนล้า น่าจะเป็นเพราะยังไม่ตื่นเต็มที่ ฉันเดินเข้าไปหา เธอได้เพียงก้าวเดียว และกลับต้องยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ฉันเอ่ยเรียก เธอ “แม่”
“หนูกลับมาหาแม่ เห็นหยวนหลิงหวนบอกว่าแม่ไม่สบาย เป็น มะเร็งกระเพาะ ทำไมแม่ไม่บอกหนู หรือต้องรอให้ไปนอนอยู่โรง พยาบาล นอนนิ่งอยู่ที่เตียงขยับไม่ได้ถึงคิดจะบอกหนู” ตอนอยู่ บนเครื่องฉันตั้งใจจะใช้คำพูดที่ดีๆ แต่พออ้าปากพูดทุกอย่างก็ เปลี่ยนไป
และฉันรู้ตัวดีคนที่ไม่มีสิทธิ์ต่อว่าเธอมากที่สุดก็คือฉัน เพราะ ตอนนั้นฉันไม่ฟังคำเตือนของเธอ ตัดสินใจทิ้งทุกอย่างออกไป แบบนั้น ตอนนี้ยังมีหน้ามาโทษเธอแบบนี้
“เห้อ ลูกอย่าไปฟังที่หยวนหลิงหวนพูด แม่สบายดี หมอเองก็ บอกว่าแม่ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว ลูกไม่ต้องร้อง มันไม่ใช่เรื่อง ใหญ่อะไร บอกลูกไปก็ทำให้ลูกเสียงานเปล่าๆ ” เธอเดินเข้ามา ลูบหัวฉัน เหมือนเคย ฉันเริ่มรู้สึกคันจมูก ฉันจึงยกมือไปกอดเธอ
“เดี๋ยวหนูจะพาแม่ไปโรงพยาบาลอีกรอบ หนูจะไปฟังจากปาก หมอเอง”
“ได้ๆ ลูกเดินทางมาเหนื่อย รับไปพักก่อนเถอะ รอให้ป้าว่า งมา เดี๋ยวแม่จะให้เธอเตรียมโจ๊ก ให้
พอได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ทำให้ฉันรู้สึกดีมากขึ้น ฉันเดินเข้าไป คล้องแขนเธอแล้วเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ้อน “หนูจะนอนกับแม่”
เช้าวันต่อมา ฉันก็พาคุณหยาวไปโรงพยาบาล พอได้ยินจากปากหมอว่าอาการของแม่ไม่ได้หนัก กินยาก็สามารถหยุดอาการ ได้ ไม่น่ามีปัญหาอะไรเพิ่มขึ้น ฉันก็รู้สึกโล่งใจขึ้น
ตอนกลับบ้าน คุณหยาวก็เอ่ยบอกฉันเรื่องนัดบอด
“ซีซี ก็แค่ไปกินข้าว เหมือนเขาจะอยากพบหนูมากเลยนะ ถึง หนูจะไม่ชอบเขาแต่ก็ควรให้เกียรติไป ไม่งั้นพ่อคงไปเจอหน้า ใครไม่ได้ถ้าหนูทำแบบนี้”
ฉันไม่สนใจเรื่องที่เธอพูด แต่เปลี่ยนเรื่องคุย “เขารู้มั้ยว่าแม่ ไม่สบาย
แม่รู้ว่าเขาที่ฉันหมายถึงคือใคร เธอส่ายหน้า “แม่ไม่ได้บอก เขา แต่แม่ว่าเขาคงรู้อยู่แล้ว”
ฉันเอ่ยถามต่อ “แล้วเขาเคยกลับมาเยี่ยมแม่บ้างมั้ย
“ซีซี แม่รู้ว่าหนูต้องการอะไร แต่….” เธอหลบหน้าไปทางอื่น แล้วเอ่ยพูดต่อ “อันที่จริงแม่ชินกับการที่ไม่มีเขาตั้งนานแล้ว แต่ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ อย่างน้อยเขาก็ยังเลี้ยงดูเราสองแม่ลูกอยู่
“หนูไม่ต้องการ” และนี่เป็นสิ่งที่ฉันไม่พอใจมากที่สุด ฉันเป็น เหมือนตัวอะไรไม่รู้ ทั้งชีวิตต้องคอยอ้อนวอนขอเขากินไปตลอด
“คุณหยาว ตั้งสติได้แล้ว ที่ผ่านมาถ้าไม่ได้เป็นเพราะเงินเดือน ของหนูและเงินสินสอดที่แม่ได้ แม่คิดว่าแม่เงินที่เขาให้แม่ยัง พอที่จะให้แม่จ้างแม่บ้าน หรือไปซื้อของตามห้างได้หรอ”
ฉันบอกออกไปตามตรง จนเธอเงียบไป เธอทำได้แค่พาฉัน เดินต่อเงียบๆ จนถึงกลางคืน กลับบ้านไปก็เจอแขกที่ไม่รับเชิญนั่งอยู่ในบ้าน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ