บทที่2 เจอจินหาน โดยบังเอิญ
ฉันนึกมาตลอดว่าคนที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทเหล่นซี กรุ๊ปจะเป็นลุงที่อายุ50 60 ผมขาวๆ แก่ๆ ไม่ว่ายังไงก็คาดไม่ ถึงว่าจะวัยรุ่นขนาดนี้
เมื่อก่อนตอนเธอเป็นผู้ช่วยของสถาปนิก เธอก็เคยได้ยินคน อื่นเอ่ยชมแบรนด์เสื้อของเขา จนฉันต้องตามไปดูที่ห้องเสื้อ แต่ ตอนนั้นฉันรู้สึกว่ามันแพงมากจนไม่สมเหตุสมผล แต่พอฉันเริ่ม ได้เข้าไปทำงานที่เหล่นซีถึงรู้ว่า เหตุผลของมันทำไมมันถึงแพง และแพงเพราะอะไร
เหล่นไม่ได้เป็นแบรนด์เสื้อที่เก่าแก่นับร้อยปี มันเป็นแค่ แบรนด์ที่ใช้เวลาสร้างเพียงไม่กี่10ปี และมาดังได้ขนาดนี้ ฉันเอง ก็ชื่นชมจากใจจริงเหมือนกัน และแล้วฉันก็อดใจไม่ได้ก็เลยเหล่ มองเขาอีกครั้ง
เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาทำแค่ดึงเด็กผู้หญิงเดินออกไปทาง ประตู สีหน้าเย็นชาของเขา ฉันเห็นหน้าของเขาก็รู้สึกตกใจ จน กลืนน้ำลายลงคอ และเอื้อมมือไปหยิบบัตรพนักงานที่อยู่ตรง หน้าอกออกแล้วยัดใส่ในกระเป๋า
และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือเด็กผู้หญิงที่ชื่อจินเสี่ยวหวานที่เดินมา อยู่ตรงหน้าฉันกลับสะบัดมือเขาออกด้วยความแรง จนเธอล้ม เข้ามาทางฉัน
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนฉันตั้งตัวไม่ได้ จนหลังฉันชนเข้ากับเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ
ปัง
และจินเสี่ยวหวานที่ล้มอยู่บนตัวฉัน เธอเองก็ตกใจกับสิ่งที่ เกิดขึ้นเหมือนกัน สุดท้ายเป็นจินหานเองที่เดินเข้ามาดึงเธอขึ้น
“คุณไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ” เขาเอ่ยถามอย่างมีมารยาท
ฉันเอามือยันมือช่วยดันตัวเองให้ลุกขึ้น ฉันอึ้งไปสักพักแล้ว ตอบกลับ “ไม่ ไม่เป็นไรค่ะ คุณไปดูเด็กคนนั้นก่อน เธอบาดเจ็บ ตรงไหนรึเปล่า”
เหมือนเธอรู้ตัวว่าตัวเองทำผิด เธอจึงก้าวถอยหลัง น้ำตาคลอ แล้วส่ายหัว ให้ฉัน
เขาเอ่ยถามฉันด้วยสายตางุนงง “เธอ….เธอเป็นพนักงานของ
เหจ๋นซีหรอ”
“ห้ะ” ฉันตกใจ สักพักเพิ่งจะรู้ตัวว่าฉันใส่ชุดพนักงานอยู่ ฉัน จึงรีบตอบกลับ “ใช่ ใช่ค่ะ สวัสดียามดึกนะคะเจ้านาย เหอะ…..เหอะๆ ”
เขามองหน้าฉันพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ แล้วหันไปดึงแขน เธอแล้วเดินจากไป
หลังจากที่ลงประจำวัน จ่ายค่ารักษาทุกอย่างเสร็จ ฉันถึงถูก ปล่อยกลับบ้าน
ไฟตรงทางเดินบันไดเสีย ฉันจึงจับราวบันไดเดินขึ้นช้าๆ ไปที ละขั้น พอถึงหน้าประตูฉันจับกระเป๋าเสื้อดูก็พบว่าตัวเองลืม กุญแจบ้าน
ป้งๆ
“หมิงเฉิง เปิดประตู” ฉันรู้สึกหนาวเย็น แต่เพราะเคาะประตู อยู่นานแต่กลับไม่มีคนเปิด ฉันจึงเปลี่ยนเป็นที่ประตู ตีจนเริ่มเจ็บ มือ
“เคาะบ้าอะไรนักหนา เมื่อวานแฟนแกพาผู้หญิงมานอน ถูกแก จับได้ขนาดนั้น ตอนนี้คงไม่มีใครกล้ามาเปิดประตูให้แกหรอก บ้ารึเปล่า”
ฉันไม่สนใจเธอ แล้วหันกลับมาเคาะประตูต่อ ตะโกนด่าเขาไป ด้วยเหมือนคนบ้า สักพักฉันก็ล้มตัวลงไปนั่งที่พื้น
หยิบไฟแช็ก ในกระเป๋าออกมา บุหรี่ขึ้นเพราะอากาศ ฉันจุดไป
สักพักกว่ามันจุติด พอติดฉันก็ดูดมันเข้าไปลึกๆ หนึ่งครั้ง
เมื่อวานเป็นวันเกิดของฉัน ฉันรีบกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม มีความสุขพร้อมกับเค้ก ในมือ แต่พอเปิดประตูออก ฉันก็ได้เห็น ภาพไม่ดี จนฉันต้องวิ่งเข้าไปอ้วกในห้องน้ำ
ส่งหมิงเฉิง ผู้ชายที่คบกับฉันมา1ปี ตอนนี้เขากลับมามีอะไร
กับผู้หญิงอื่นบนโต๊ะอาหารกลางห้องรับแขก
พอเห็นฉันเดินออกมา เขาก็เอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่รู้สึกผิด ใดๆ “เราเลิกกันเถอะ” แล้วเอื้อมมือไปถึงผู้หญิงคนนั้นจะออกจากบ้านไป
ผู้หญิงคนนั้นฉันรู้จัก เธอชื่อทานซิน เป็นหัวหน้าของเขา
เขาบอกว่าเขาไม่อยากใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ ตั้งแต่คบกับฉันเขาก็ ไม่เคยได้เลื่อนขั้นหรือได้เพิ่มเงินเดือนเลย และหานซินเป็นคนที่ จะช่วยเขาได้มากกว่า
ที่จริงมันเป็นเรื่องปกติ ทุกคนต่างก็รักเงิน มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ อะไร แต่ตอนนั้นฉันไม่ควรไปตีเขา และไม่ควรไปร้องไห้โวยวาย แบบนั้นให้เขาเห็น
แต่เพราะฉันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ สั่งหมิงเฉิง เป็นรอง ผู้จัดการของโรงแรม หนึ่งปีที่แล้วฉันทำเรื่องจองโรงแรมให้เจ้า นายเลยได้รู้จักกับเขา เราคบกันมาหนึ่งปี ก็ต้องมีความผูกพัน กันเป็นธรรมดา
มันคงถึงทางตันแล้ว ฉันจึงโยนบุหรี่ทิ้ง ลุกขึ้นยืนแล้วเดินลง บันไดไป
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ