อาจารย์ผู้ทรงอ่านาจเข้าเมือง

บทที่ 7 ความร้ายกาจของ เสียวหม



บทที่ 7 ความร้ายกาจของ เสียวหม

คลับหวางเจียคือสถานบันเทิงที่โอ่อ่าหรูหราที่สุดในเจียงเฉิง ไม่มีที่ใดเทียบได้

ตอนนี้คือเวลาที่พวกของเย่ชิวกำลังเล่นเกมส์อย่างสนุกสนาน หล่งกำลังพาบริษัทซานเฟิงกรุ๊ปแห่งประเทศญี่ปุ่นมาที่นี่ วันนี้ เขารู้สึกว่าตนเองพกพาความบริสุทธิ์ใจมาเต็มร้อย

ที่เจียงเฉิงบริษัทซานเฟิงกรุ๊ปและบริษัทเพิ่งถังกรุ๊ปเป็นคู่แข่ง กันแล้วสองบริษัทมักจะมีความก้าวหน้าเหนือกว่าอีกฝั่งอยู่เสมอ พูดถึงบริษัทซานเฟิงกรุ๊ปและมู่หรงหว่านเยวก็รู้สึกปวดหัวไม่ น้อยมีหลายครั้งที่นึกอยากจะฉวยโอกาสแต่ก็ต้องกลับมามือ เปล่า แต่ว่าครั้งนี้ในที่สุด

หลงก็สามารถเอาเอกสารและข้อมูลต่างๆ ของบริษัทเพิ่งถัง กรุ๊ปมาขอที่พึ่งที่นี่ได้แล้ว

หลงเชื่อว่าทางออกหนึ่งเดียวในเมืองเจียงเฉิงของเขานี้คือ การต้องมาพึ่งพาบริษัทซานเฟิงกรุ๊ป

“หลี่ซัง ครั้งนี้คุณต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจให้ผมเพียงพอ ม เช่นนั้นแล้วต่อไปพวกเราคงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก” ถึงเป็น ซานหลางผู้จัดการใหญ่ของบริษัทซานเฟิงกรุ๊ปที่นั่งอยู่บน รถBMW X5พูดขึ้นมา

“วางใจได้เลยครับท่านถึงเป็นรับรองว่าจะทำให้ท่านพอใจแน่นอน พวกเราไปหาอะไรทำฆ่าเวลาก่อนเถอะครับ BMW X5มาจอดอยู่หน้าประตูทางเข้าหวางเจียคลับ ซึ่งเป็นชานหลาง ลงรถมาตามด้วยหญิงสาวรูปร่างเซ็กซี่คนหนึ่งจากนั้นหลีกังถึงจะ ลงจากรถมา

ภายในคลับหวางเจียมีพนักงานรีบออกมาต้อนรับอย่างใกล้

“นำท่านถึงเป็นไปยังห้องที่ดีที่สุดของที่นี่ ห้องฉันจองไว้แล้ว หลีกังหันไปบอกพนักงานต้อนรับ

รอจนถึงเป็นซานหลวงกับพนักงานต้อนรับเดินเข้าไป หลีกังจึง หันไปพูดกับผู้หญิงที่เซ็กซี่คนนั้น “เซวียนเซวียนครั้งนี้จะพูดคุย สําเร็จหรือไม่ก็อยู่ที่เธอแล้ว นี่เงินแสนนึง สำเร็จแล้วค่อยมาเอา ส่วนที่เหลือที่ฉัน”

ผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าเซวียนเซวียนนั้นรับเงินมาอย่างหยิ่งๆ พูด ตามตรงรอบนอกของเจียงเฉิงนั้นเธอมีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัวที่ร่ำรวยแค่ไหนเธอก็ไปคบค้าสมาคมด้วย รู้จักคนมี ฐานะและอำนาจก็ไม่น้อยและหลีกังเองก็เป็นแค่คนมีเงินไม่กี่คน เท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเงินที่จ้างเธอนั้นไม่น้อย เธอก็ไม่อยาก ยอมรับงานนี้หรอก

“วางใจเถอะ ยังไม่เคยมีผู้ชายคนไหนประเมินฉันไปหรอก นะ” เซวียนเซวียนรับเงินไปใส่ในกระเป๋าถือ แล้วหมุนเอวบางๆ นั้นเดินเข้าไป

หลี่กังรีบเดินตามหลังไปติดๆ การพบกันในวันนี้นั้นไม่ต้องบอกก็เข้าใจ ถึงเป็นซานหลางไม่เพียงแต่เป็นผู้จัดการใหญ่ของ บริษัทซานเฟิงกรุ๊ปเท่านั้น พี่ชายของเขาคนหนึ่งที่ทำงานเป็นทูต ญี่ปุ่นประจำอยู่สถานทูตที่จีน แค่เข้าไปพัวพันกับตระกูลนี้อย่าง น้อยหลีกังก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการแก้แค้นของตระกูลมู่หรง

“ร้าวพี่ชาย พี่เก่งสุดยอดจริงๆเลย ถ้าพี่ทำให้พี่ซินเยวถอด เสื้อผ้าได้ ประเมินได้เลยว่าตอนนี้เธอคงไม่เหลือขนสักเส้นบนตัว แน่” หลินซินเยวราวกับถูกเจ้าสิงโตน้อยยั่วโมโห ครั้งแล้วครั้ง เล่าที่ล้มลงหลังจากนั้นจึงลุกยืนขึ้นมาใหม่

“พี่ซินเยว่ พี่ชอบผมหรือเปล่า?” เชิวชนะอีกแล้วและถาม

อย่างจริงจัง

หลินซินเยวมองพินิจเยซิว ที่จริงแล้วเด็กหนุ่มนี่ก็รูปร่างหน้าไม่ เลวแลดูสะอาดและเรียบง่าย การพูดจาก็น่าสนใจ สำคัญสุดคือ ฝีมือการเขย่าลูกเต๋าที่สุดยอด ดูๆแล้วก็ไม่มีตรงไหนที่ไม่ชอบ

“ชอบ” หลินซินเยวตอบเสียงเบา

“ไม่ได้นะ พี่ชายอะเป็นของหนูพี่ซินเยวอย่ามาแย่งหนูนะ พี่ ชายแม้ว่าหนูจะยังไม่ได้เป็นที่รู้จักแบบพี่ซินเยว่ ร่างกายก็ยังไม่ ได้โตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ แต่หนูก็ชอบพี่จริงๆนะคะ” อู๋เสียวหมี่พูด อย่างจริงจังแล้วทำปากจู๋

ในตอนที่อู๋เสียวหมี่กำลังเผยความในอยู่นั้น โทรศัพท์ของเธอ จู่ๆก็ดังขึ้นมา

“พวกพี่รอเดี๋ยวนะ แม่ผู้น่ารำคาญของหนูโทรมาอีกแล้ว” อู๋ เสียวหมีพูดไปพลางถือโทรศัพท์แล้วผลักประตูเดินออกไปพลาง
“เสียวหมี่ ตึกขนาดนี้แล้วทำไมลูกยังไม่กลับบ้านอีกเสียง ปลายสายพูดอย่างร้อนรนและเป็นกังวล

“คุณแม่หนูรู้แล้วหล่ะ หนูบอกแล้วไงว่าหนูอยู่กับเพื่อนๆ แม่ อย่ามายุ่งกับหนูได้มั้ย?” เสียวหมี่รู้สึกโมโหขึ้นมานิดหน่อย ตอนนี้ตัวเองก็อายุสิบหกแล้ว ทุกครั้งกว่าจะออกมาข้างนอกไม่ ง่ายเลยอีกทั้งกลับดึกนิดๆหน่อยๆก็จะมีโทรศัพท์โทรมาเร่งอีก

“เสียวหมี่ ลูกก็รู้ว่าลูกยังไม่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ทำไมถึงได้ออก ไปเที่ยวเล่นกลางคืนบ่อยขนาดนี้หล่ะ

“คุณแม่คะขอร้องหล่ะ หนูรู้แล้วไม่ต้องมาสอนหนูอีกหรอก เดี๋ยวพวกเราก็จะแยกย้ายกันแล้วค่ะ” เสียวหมีพูดเสียงดังขึ้น มาหน่อย เพราะในคลับนี้เดิมเสียงก็ดังอยู่แล้วอีกทั้งในใจก็ยัง รู้สึกโมโหขึ้นมาอีก

ตอนนี้เองพอดีกับที่เซวียนเซวียนเพิ่งจะเดินออกมาจาก ห้องน้ำ หมุนสะโพกงอนงามเซ็กซี่นั่นเดินผ่านหน้าเสียวหมี่ไป พอได้ยิน เสียวหมีพูดเสียงดังขนาดนั้น ก็รู้สึกไม่พอใจ

“เด็กน้อยเอ่ย ยังเด็กขนาดนี้ก็ออกมาเที่ยวเล่นซะแล้วจะทำตัว ให้มันดีกว่านี้ไม่ได้เหรอ? ที่นี่ค่ะมีแต่แขกวีไอพีทั้งนั้น เธออย่า มากวนคนอื่นเลยกลับไปกินนมนอนซะไป

อู๋เสียวหมี่ที่เห็นเซวียนเซวียนซึ่งแต่งหน้าแต่งตัวจัดเต็มมานั้น ท่าทางการพูดจาก็ยังรนหาที่ตาย ในเจียงเฉิงตระกูลก็ถือได้ ว่าเป็นตระกูลที่มีหน้ามีตาตระกูลหนึ่ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เสียวหมี่ ที่ถูกคนแบบนี้สั่งสอนเลยต่อให้เป็นพ่อของตัวเองก็แทบจะไม่ก้าวก่ายเรื่องของเธอเลย พอได้ยินคำพูดเหล่านั้นก็โมโหขึ้นมา ทันใด

“ดูตัวเองก่อนเถอะ รูปร่างก็ดูไม่ได้ ใบหน้าเหรอก็ไม่ได้รูปไข่ ดูๆไปหน้าที่แหลมอย่างกับงู หมดเงินศัลยกรรมไปเท่าไหร่ เนี่ย?ได้มาแค่นี้เองเหรอ” เสียวหมี่เปลี่ยนจากคนที่ดูใสชื่อน่า รักก่อนหน้า คาดไม่ถึงว่าคำที่เธอพูดจะโหดเหี้ยมขนาดนี้

เซวียนเซวียนที่ได้ยินอย่างนั้นก็โมโหจนจะบ้าตาย เดิมทีรูป ร่างของอู๋เสียวหมี่ก็ดูดีกว่าเธออยู่แล้ว อีกทั้งหน้าตาก็สวยงาม มาก ความอิจฉาที่อยู่ในใจก็เริ่มปะทุขึ้นมา พอได้ฟังเสียวหม พูดจาร้ายกาจขนาดนั้นอีกทั้งทุกคำที่พูดก็เป็นความจริง ตัวเธอ เองได้เสียเงินไปศัลยกรรมทั้งตัวจริงๆ พอคิดถึงตรงนี้ ชั่วขณะนั้น เองก็เดินไปหาเสียวหม่อย่างเดือดดาลแล้วหน้าเสียวหว่า เด็กเอ๋ย เธอพูดถึงใครเหรอ? พ่อแม่สอนเธอมายังไงเนี่ย เด็ก ขนาดนี้ก็ออกมารับแขกซะแล้ว ถ้าพ่อแม่เธอรู้คงจะโกรธตายแน่ เลย”

เซวียนเซวียนพูดอย่างได้ใจ ในใจคิดว่าผู้หญิงที่อยู่ที่นี่และรูป ร่างหน้าตาไม่เลวโตไปคงเป็นแบบเธอแน่ หลังจากคิดได้ว่ามี แขกที่เธอต้องต้อนรับอยู่ ความมั่นใจก็เต็มตื้นขึ้นมา

อู๋เสียวหมี่พอเห็นท่าทางได้ใจของเซวียนเซวียนก็รู้สึกโมโห ขึ้นมา ยกฝ่ามือขึ้นมาตบลงไป

“ฉันจะบอกเธอให้ไม่ใช่ทุกคนเค้าจะทำตัวแบบเธอ ยัยผู้ หญิงชายขอบเอ้ย”
เวียนเวียนคาดไม่ถึงเลยว่าเด็กนักเรียนที่จะกล้าลงมือกับ เธอ พอมองกระจกก็เห็นรอยนิ้วมือทั้งห้าประทับลงไปเป็นรอย แดงบนหน้าเธอ ฉับพลันก็โมโหขึ้นมายกใหญ่ “แกกล้าตบฉันเห รอ วันนี้ฉันจะไม่ให้แกได้ออกไปแน่” เซวียนเซวียนพูดจบก็ทำท่า จะตบกลับ

ตอนนั้นเองที่ถูกเย่ชิวที่เพิ่งเดินออกมาเจอเข้ามาขวางตรง หน้าเสียวหมีไว้ “คุณผู้หญิงท่านนี้มีอะไรให้ผมรับใช้มั้ยครับ?”

ไปให้พ้น ฉันยังไม่ต้องการการรับใช้จากไอ้หนุ่มหน้าจืด อย่างแก” เซวียนเซวียนพอได้เห็นรอยยิ้มบางๆของเชีวก็ยิ่ง รู้สึกโมโหมากขึ้นไปเอง

ตอนนี้เองถึงเป็นซานหลางก็เดินออกมามองเห็นฉากที่เกิดขึ้น บนระเบียงทางเดิน ทำท่าจะเข้าไปสั่งสอนเยซิวสักหน่อย

“เกิดอะไรขึ้นอีก? เมื่อไหร่กันที่พวกเราตระกูลมู่หรงไม่มี ตำแหน่งอะไรเลยในเมืองเจียงเฉิง ถึงปล่อยให้ผู้หญิงคนหนึ่งมา หยามหน้าพวกเราได้ มู่หรงหว่านเยวไม่ได้มีน้ำเสียงข่มขู่ในคำ พูด คล้ายกับกําลังพูดคุยทั่วไป แต่กลับทำให้ผู้หญิงคนนั้นชะงัก อยู่หมัด แม้แต่เย่ชิวเองก็ถึงกับต้องกลั้นหายใจ

ตระกูลมู่หรง?

ท่าทางอวดเก่งของเซวียนเซวียนเมื่อครู่ได้ถูกทำลายลงทันใด

ความทระนง ความหยิ่งในศักดิ์ศรีและความขรึม เมื่อทรง หว่านเยว์พูดขึ้นมาชั่วพริบตาก็สลายหายไปในอากาศ
เธอรู้สึกว่าตัวเองในตอนนี้เมื่อถูกคนตระกูลมู่ทรงมองอยู่ ก็ รู้สึกตัวเองกลายเป็นแมลงไม่ควรค่าคู่ควรแม้แต่น้อย

“พวกเราเข้าไปกันเถอะเสียวหมี่” มู่หรงหว่านเยวเดินไปข้าง หน้าเสียวหมี่แล้วโอบไหล่เธอเดินเข้าห้อง ตอนที่เดินเข้าห้อง นั้นก็ลากสายตาไปมองหลีทั้งที่ยืนซ่อนอยู่ตรงประตู

เวลานี้ถึงเป็นซานหลางไม่รู้ว่าถูกออร่าที่เจิดจ้าของโรง หว่านเยวหรือว่าความสวยงามของเธอที่ทำให้ช็อคค้างอยู่ คาด ไม่ถึงว่าจะไม่มีคำพูดสักคำออกมา

แต่ว่าเมื่อทรงหว่านเยวค่อยๆเดินหายไปนั้น ขาทั้งสองของ หลีกังก็ยันไม่อยู่ ผู้หญิงที่ฉลาดเป็นกรดขนาดนั้น ต้องรู้เรื่อง ทั้งหมดแล้วแน่นอน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ