บรรเลงรักอสูรสวาท

4/1



4/1

ร่างบางสะท้านเมื่อถูกรุกรานหนักหน่วง ลมหายใจแทบจะ ปลิดปลิว โบยบินจางหาย หากไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูจากใคร บางคนที่เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน สติถูกดึงกลับคืนแล้วมือน้อย ก็ผลักร่างหนาออกหากแต่ร่างของเธอกลับเข่าอ่อนฮวบลงบน โซฟา

“หวานใช้ได้ ฉันจะรอเธอแค่ 3 วัน อย่าลืมซะล่ะ”

ญารินดาตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าเมื่อหันไปมองประตูที่ปิดสนิท เธอมองเงินปีกหนึ่งที่อยู่ตรงหน้า โดยไม่รู้ว่ามันวางอยู่ตรงนี้เมื่อ ไหร่ แบงก์สีเทาหลายสิบใบคงมากกว่าเงินเดือนนักร้องในผับทั้ง เดือน นี่คงเป็นทิปส่วนนั่น…แบงก์สีเทาอีกจำนวนหนึ่งวางอยู่บน โต๊ะคงเป็นค่าเครื่องดื่มและกับแกล้ม สาวน้อยยกมือขึ้นแตะปาก เจ่อๆ ของตนอย่างมึนๆ มันไม่ใช่ความฝันแต่มันคือความจริง ผู้ชายรูปงามผู้กุมบังเหียนบลูมเมอร์มิวสิคปล้นจูบแรกไปจากเธอ และเขาก็ยื่นข้อเสนอแลกความสาวกับทุกสิ่งที่เธอต้องการ ทำไม เพราะอะไรผู้ชายคนนั้นถึงต้องการเธอ เพราะเสียงและหน้าตารูป ร่างของเธองั้นเหรอ บางสิ่งบอกว่าไม่ใช่ มันต้องมีอะไรมากกว่า นั้น

“ญาญ่า ได้เวลาเธอขึ้นร้องเพลงแล้วนะ”

มนตรีพนักงานเสิร์ฟเข้ามาเตือน หลังจากที่ยังไม่เห็นสาวน้อย ออกไปจากห้องวีไอพี ทั้งที่แขกเงินถุงเงินถังออกไปตั้งนานแล้ว
กฎของผับมีอยู่ว่า ถ้านักร้องถูกเชิญไปนั่งเป็นเพื่อนแขกก็ได้ สิทธิ์ไม่ต้องขึ้นร้องเพลง แต่เมื่อใดที่แขกกลับแล้วก็ถึงเวลาที่ ต้องกลับสู่หน้าที่เดิม

หญิงสาวหลุบตามองเงินตรงหน้าด้วยความจำเป็นและจําใจ เธอจึงคว้าเงินปีกนั้นยัดใส่หน้าอกในซอกแน่นๆ ของชั้นในไร้ สาย ญารินดาหยิบเงินบนโต๊ะส่งให้พนักงานแคชเชียร์และเดิน ขึ้นเวทีตามปกติ แต่เธอหารู้ไม่ว่าค่ำคืนนี้เธอดูสวยกว่าทุกวัน ตัวยริมฝีปากบวมเจ่อและแดงเหมือนกลีบปากของตุ๊กตาน่า รักมีเสน่ห์กว่าทุกวัน เสน่ห์ของเธอที่ถูกดึงออกมามากกว่าเดิม ด้วยน้ำมือของเสือร้ายสุดหล่อ ทำให้ได้ทิปงามๆ จากแขกไป มากโข

หรือแม็คควีน เบอร์นัลโด้ มาเวลล์ จะเป็นอัศวินขี่ม้าขาวมา ช่วยเธอให้หลุดพ้นจากขุมนรก…

ญารินดาเดินคอตกออกมาจากห้องพักฟื้นในโรงพยาบาล หมอบอกว่าอาการของแม่ไม่ดีขึ้นการขยายหลอดเลือดด้วย บอลลูนทําให้เกิดภาวะแทรกซ้อนมีเลือดเซาะออกมาตามผนัง ต้องได้รับการผ่าตัดต่อเส้นเลือดหัวใจโดยด่วน ได้ฟังก็ทำให้ หัวใจของคนเป็นลูกห่อเหี่ยว จะย้ายแม่ออกจากโรงพยาบาลนี้ก็ กังวลว่าแม่จะไม่ปลอดภัย แต่เธอต้องตัดสินใจภายใน 24 ชั่วโมงนี้

สาวน้อยตัดสินใจไปหาเสียทรงพลและขอเพิ่มวงเงินจำนอง บ้าน แต่ถูกปฏิเสธกลับมาอย่างไม่มีเยื่อใย
“สื้อทํางานเป็นนักร้องในผับ จะหาเงินจากไหนมาไถ่ถอน จํานอง บ้านอยังไงก็ต้องเป็นของวะอยู่ดี แล้วนี่จะมาเอาเงิน เพิ่มไม่มากไปหน่อยเหรอ ลื้อรู้รึเปล่าว่าที่ดินและบ้านเก่าๆ หลัง นั้นจะมีราคามากแค่ไหนเชียว วะให้ไม่จ่ายหรอก”

“แต่ในราคาประเมินจากกรมที่ดิน บอกว่ามีราคาตร.วาละ 20,000 บาท 50 ตร.วา ก็เท่ากับ 1 ล้านบาท แต่ฉันเพิ่งจะ จํานองไว้กับเสี่ย 5 แสนบาท เองนะคะ ยังเหลืออีกตั้ง 5 แสน

“โอ๊ยๆ ถ้าดื้อไม่พอใจก็หาเงินมาใช้หนี้วะ แล้วจะเอาไป จํานองกับใครอื่นก็ง่าย แต่วะคงไม่ให้เงินเพิ่มมากกว่านี้แล้ว สื้อรู้มั้ย กว่าจะขายออกค่ายต้องใช้เวลาเท่าไหร่ กว่าจะหาคนซื้อ ล่าย วะไม่คิดจะเก็บไว้หรอกนะ อื้อต้องเข้าใจว่ายิ่งแพงยิ่งขาย ยาก” เสี่ยไร้น้ำใจแถมยังหน้าเลือดเรียกดอกเบี้ยแสนโหดบอก เสียงเย็นชา

“แต่ว่าฉันต้องการเงินไปให้ค่าผ่าตัดของแม่ ฉันขอเพิ่มอีก สัก 2 แสน ไม่ได้เหรอเสีย” ญารินดาวิงวอนขอความเห็นใจเสียง สั่น

“ไม่จ่าย ก็อวะบอกอยู่นี่ไง ว่ายิ่งแพงยิ่งขายยาก ที่สำคัญอื้อ หาเงินมาไถ่ถอนไม่ง่ายอยู่แล้ว ถ้างั้วะให้เพิ่มไปอีก อวะก็แย่ แหงแก๋เลย ไปซะ ลื้อไปหาที่อื่น ไม่งั้นก็หาเงินมาไถ่ถอนทั้งต้นทั้ง ดอกซะ แล้วจะเอาไปจำนองกับใครที่ไหนก็ไป

ญารินดาต้องเดินคอตกไหล่ห่อหน้าซีดเผือดออกมาจาก บ้านเสียทรงพล ฝนตกลงมาห่าใหญ่แต่สาวน้อยกลับไม่สะทกสะท้าน เธอเดินตากฝนออกไปจนถึงหน้าปากซอยแล้วหยุดนิ่งอยู่ ที่ป้ายรถเมล์ ความเย็นจากเม็ดฝนทำให้ร่างบางสั่นระริกน้ำตา หลั่งรินไม่ขาดสาย ทำไมเธอต้องเจอเรื่องเลวร้ายไม่จบไม่สิ้น ทำไมเธอต้องเจ็บปวดอยู่เพียงลำพังแบบนี้ ไม่สิ…แม่ของเธอก็ กำลังเจ็บปวด และถ้าเธอไม่มีเงินไปจ่ายค่าผ่าตัดล่ะก็ เธออาจ ต้องสูญเสียแม่ไปเลยก็ได้

เป็นๆ” เสียงแตรรถกดเรียกเสียงดังแข่งกับเสียงฝนที่เท กระหน่ำ เรียกให้สาวน้อยซึ่งยืนตัวสั่นไม่ต่างกับลูกหมาตกน้ำ หันไปมอง

รถลีมูซีนสีดำคันใหญ่กะพริบไฟหน้าเรียกเธอ สาวน้อยหัน ซ้ายหันขวาท่ามกลางสายฝนกระหน่ำแบบนี้ไม่มีใครอยู่ที่ป้าย รถเมล์เลยนอกจากเธอ ร่างบางก้าวเข้าไปใกล้อย่างไม่แน่ใจ จน กระทั่งกระจกด้านหลังซ้ายมือเลื่อนลงเห็นคนที่สวมแว่นตาสีชาม องมาทางเธอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ